ค้นหาบทความการศึกษา

เริ่มจากศูนย์! แผนเตรียมสอบ IELTS สำหรับมือใหม่และคนไม่มีพื้นฐาน

คุณเป็นมือใหม่ที่อยากเริ่มเรียน IELTS แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดีใช่ไหม หรือคุณอาจเป็นคนที่พื้นฐานภาษาอังกฤษอ่อนและอยากเริ่มต้นเรียนใหม่ ไม่ต้องกังวลแล้ว เพราะในบทความนี้ PREP ได้จัดทำแผนเตรียมสอบ IELTS สำหรับคนไม่มีพื้นฐานออนไลน์ ตั้งแต่ 0 จนถึง Band 7.0+ โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ที่ไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ แค่คุณตั้งใจเรียน ให้ถูกวิธี และ ครบทุกขั้นตอน ตามแผนการเรียนที่ PREP แนะนำ คุณก็สามารถพิชิต IELTS ตรงเป้าหมาย  ที่ตั้งไว้ได้แน่นอน มาดูกันเลยว่าควรเริ่มจากตรงไหน!

แผนเตรียมสอบ IELTS สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน เริ่มจาก 0 ก็ทำได้
แผนเตรียมสอบ IELTS สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน เริ่มจาก 0 ก็ทำได้

I. สำรวจตัวเอง: ระดับภาษา เป้าหมาย และการจัดการเวลา

ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นเรียนไอเอลกับ PREP ลองถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้:

  1. ตอนนี้ระดับภาษาอังกฤษและ IELTS ของคุณอยู่ที่ระดับไหน

  2. ทำไมคุณถึงอยากเรียน IELTS เช่น เพื่อเรียนต่อ ทำงาน หรือพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ

  3. เป้าหมายคะแนน IELTS ของคุณคืออะไร

  4. คุณมีเวลาเรียนมากน้อยแค่ไหนในแต่ละวันหรือแต่ละสัปดาห์

เมื่อคุณตอบคำถามเหล่านี้ได้แล้ว คุณจะสามารถมองเห็นภาพรวมของเป้าหมายและการเรียนรู้ของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น หรือถ้าคุณอยากได้คำแนะนำที่พร้อมใช้งานทันที คุณสามารถใช้ แผนเตรียมสอบ IELTS ออนไลน์ ที่ PREP ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นโดยเฉพาะ  คลิกที่นี่ เพื่อเริ่มเรียนได้เลย!

แผนเตรียมสอบ IELTS สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน เริ่มจาก 0 ก็ทำได้
แผนเตรียมสอบ IELTS ของ PREP

1. การประเมินระดับภาษาอังกฤษและ IELTS ปัจจุบัน

ก่อนที่จะเริ่มแผนเตรียมสอบ IELTS คุณจำเป็นต้องเข้าใจว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในระดับไหน การประเมินนี้จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ SWOT ของตัวเอง (จุดแข็ง - จุดอ่อน - โอกาส - อุปสรรค) ได้อย่างชัดเจน

โดยทั่วไป ผู้เรียนสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักดังนี้:

  • กลุ่มที่ 1: ไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ
    กลุ่มนี้คือผู้ที่มีความรู้ภาษาอังกฤษเพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่มีเลย มักจะมีจุดอ่อนในทุกทักษะ ไม่ว่าจะเป็นการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ทั้งในภาษาอังกฤษทั่วไปและไอเอล

  • กลุ่มที่ 2: มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ
    กลุ่มนี้มีความเข้าใจพื้นฐานที่ดีเกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษ  ไวยากรณ์ และการออกเสียงภาษาอังกฤษ แต่ยังไม่ได้ฝึกฝนทักษะเฉพาะที่จำเป็นสำหรับการสอบ IELTS

แผนเตรียมสอบ IELTS สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน เริ่มจาก 0 ก็ทำได้
ทำแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ/IELTS ได้ฟรีกับ PREP

เพื่อดูว่าคุณอยู่ในกลุ่มไหน สามารถทำแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ/IELTS ได้ฟรีกับ PREP เพียงคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้:

วัดระดับ IELTS ของคุณได้ที่นี่!

2. การกำหนดเป้าหมายหลักของการเรียน IELTS

การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณเรียนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเป้าหมายการเรียน IELTS มีดังนี้:

  • ใช้คะแนน IELTS เพื่อยกเว้นการสอบวิชาภาษาอังกฤษ ในการสอบปลายภาคระดับมัธยมปลาย

  • ใช้คะแนน IELTS ในการสมัครมหาวิทยาลัย เช่น ใช้คะแนนสำหรับการพิจารณารับตรง หรือใช้แทนหน่วยกิตวิชาภาษาอังกฤษในระดับมหาวิทยาลัย

  • สมัครทุนการศึกษา เรียนต่อ หรือทำงานในต่างประเทศ โดยใช้คะแนน IELTS เป็นส่วนหนึ่งของใบสมัคร

  • เตรียมคะแนน IELTS สำหรับการย้ายถิ่นฐานหรือการทำงาน ในประเทศที่ต้องการ

3. กำหนดเป้าหมายคะแนนการเรียน IELTS

เมื่อคุณได้วางเป้าหมายหลักของการเรียน IELTS แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการกำหนด เป้าหมายคะแนน และแผนการสอบอย่างชัดเจน

ขั้นตอนที่ 1: เลือกประเภทการสอบ IELTS: ก่อนจะตั้งเป้าคะแนน คุณต้องเลือกประเภทการสอบที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ คือ IELTS Academic หรือ IELTS General Training:

  • IELTS Academic: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมัครเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ

  • IELTS General Training: เหมาะสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายในการทำงานหรือย้ายถิ่นฐานไปยังต่างประเทศ

ขั้นตอนที่ 2: กำหนดคะแนนที่ต้องการ

คะแนน IELTS ปัจจุบัน


Listening

Reading

Speaking

Writing

2.5

2.0

1.5

2.0

➡ Overall: 2.0

คะแนน IELTS เป้าหมาย


Listening

Reading

Speaking

Writing

8.0

8.0

7.0

7.0

➡ Overall: 7.5

4. จัดสรรเวลาเรียน IELTS

การวางแผนเวลาเรียนที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณต้องเริ่มต้นด้วยการระบุ วันที่จะสอบ เพื่อกำหนดกรอบเวลาการเตรียมตัวสอบ IELTS ตัวอย่างเช่น: หากคุณต้องการยื่นสมัครทุนการศึกษาในเดือน ธันวาคม 2025 คุณควรเริ่มเรียนไอเอลตั้งแต่ เดือนธันวาคม 2024 หรืออย่างน้อยที่สุดคือ 9-12 เดือนก่อนกำหนดส่งใบสมัคร เช่นช่วง มกราคม-มีนาคม 2025

คำถามที่ควรตอบก่อนจัดสรรเวลาเรียนตามวัน สัปดาห์

  1. คุณมีเวลาว่างเรียนในแต่ละวันหรือสัปดาห์เท่าไหร่ เวลานั้นต่อเนื่องหรือไม่

  2. ว่างช่วงไหน ช่วงเช้า-บ่าย หรือเย็น

  3. ต้องไปเรียนที่ศูนย์หรือเรียนออนไลน์ได้สะดวกกว่ากัน

  4. ปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจมีผลต่อการเรียน เช่น งานหรือกิจกรรมส่วนตัว

5. เลือกรูปแบบการเรียน IELTS

หลังจากที่คุณได้กำหนดระดับพื้นฐาน เป้าหมาย และเวลาที่จะใช้ในการเรียน IELTS แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกวิธีการเรียนที่เหมาะกับคุณที่สุด ระหว่าง เรียนออนไลน์ หรือ เรียนออฟไลน์

 

เรียน IELTS ออนไลน์

เรียน IELTS ออฟไลน์

ข้อดี

  • ประหยัดเวลาและค่าเดินทาง

  • เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา

  • ปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงกับปัญหาสุขภาพ

  • ค่าใช้จ่ายไม่สูง

  • เข้าถึงแหล่งข้อมูลการเรียนรู้มากมาย

  • เสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ด้วยตัวเอง

  • แผนเตรียมตัวสอบ IELTS ที่ชัดเจนจากเริ่มต้น 

  • วิธีเรียนที่มีประสิทธิภาพ

  • มีบรรยากาศการเรียนที่ส่งเสริมสมาธิ

  • ได้ปฏิสัมพันธ์กับครูและเพื่อนร่วมชั้นโดยตรง

  • มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

  • มีโอกาสฝึกพูดและสื่อสารมากขึ้น

ข้อเสีย

  • ขาดการปฏิสัมพันธ์แบบเรียลไทม์

  • อินเทอร์เน็ตไม่เสถียรอาจส่งผลต่อการเรียน

  • อาจถูกรบกวนหรือเสียสมาธิได้ง่าย

  • ค่าเรียนสูงกว่าเรียนออนไลน์

  • ต้องจัดเวลาและเดินทางไปเรียน

  • อาจหาที่เรียนที่มีคุณภาพสูงได้ยาก

เลือกเรียนออนไลน์หรือออฟไลน์ขึ้นอยู่กับความต้องการและเป้าหมายของคุณ คิดให้รอบคอบเพื่อเลือกรูปแบบที่เหมาะสมที่สุด!

II. แผนเตรียมสอบ IELTS จาก 0 ถึง Band 6.5+ กับ PREP

ถ้าคุณยังไม่รู้จะเริ่มเรียน IELTS ยังไง PREP พร้อมช่วยคุณวางแผนเตรียมสอบ IELTS อย่างละเอียด ด้วยเส้นทางการเรียนแบ่งออกเป็น 4 ระยะ เพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้อย่างมั่นใจ:

แผนเตรียมสอบ IELTS สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน เริ่มจาก 0 ก็ทำได้
แผนเตรียมสอบ IELTS จาก 0 ถึง Band 6.5+ กับ PREP
  • ระยะที่ 1 - ปูพื้นฐาน: ในระยะแรก คุณจะได้เรียน คำศัพท์ ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ และการออกเสียงพื้นฐาน เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงก่อนเข้าสู่การเตรียมสอบ IELTS

  • ระยะที่ 2 - เริ่มต้นทำความเข้าใจ: เมื่อเข้าสู่ระยะนี้ คุณจะเริ่ม ทำความรู้จักกับข้อสอบ IELTS และฝึกฝนทั้ง 4 ทักษะ ได้แก่ Listening, Speaking, Reading และ Writing จุดสำคัญคือการพัฒนาทักษะการคิดเชิงตรรกะ วิธีทำข้อสอบ และฝึกเขียนประโยค รวมถึงการขยายคำตอบให้ครอบคลุมหลากหลายหัวข้อ

  • ระยะที่ 3 - ยกระดับ: ในระยะนี้ คุณจะได้เรียนรู้ กลยุทธ์ที่ช่วยให้จัดการข้อสอบในแต่ละทักษะได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พร้อมพัฒนาทักษะการทำข้อสอบในระดับสูง

  • ระยะที่ 4 - พิชิตเป้าหมาย: นี่คือระยะสำคัญที่สุด! คุณจะได้เรียนรู้ วิธีจัดการกับคำถามที่ยากและซับซ้อนในข้อสอบ IELTS และมั่นใจได้ว่าจะสามารถพิชิตคะแนนที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้อย่างแน่นอน

1. ระยะที่ 1: ปูพื้นฐาน (Band 0-4.0)

หากคุณกำลังเริ่มเตรียมสอบ IELTS จาก 0 ระยะนี้ถือเป็นระยะที่ต้องทุ่มเทและท้าทายมากที่สุด แต่ไม่ต้องกังวล! PREP พร้อมช่วยคุณ “วอร์มอัพ” ด้วยแผนเตรียมสอบ IELTS จาก 0 ไปสู่ Band 3.0-4.0 ได้อย่างมั่นใจ

ในระยะเริ่มต้นนี้ PREP แนะนำให้คุณใช้เวลา 2-4 เดือน ในการเสริมสร้างพื้นฐานความรู้ เพื่อให้คุณพร้อมก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้นได้อย่างมั่นคง

แผนเตรียมสอบ IELTS สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน เริ่มจาก 0 ก็ทำได้
ระยะที่ 1: ปูพื้นฐาน

1.1. พื้นฐานคำศัพท์ 

ในระยะปูพื้นฐาน คุณจะได้เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษกว่า 400 คำ ครอบคลุม 25 หัวข้อสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันและใช้บ่อยในข้อสอบ เช่น:

  • โลกธรรมชาติ (The Natural World)

  • กิจวัตรประจำวัน (Daily Activities)

  • ครอบครัว (Family)

  • สถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายใน (Architecture and Interior Design)

  • สุขภาพ (Health)

  • ชีวิตนักศึกษา (Student Life)

  • เวลาว่าง (Leisure Time)

  • งานและเพื่อนร่วมงาน (Work and Colleagues)

  • เทคโนโลยี (Technology)

รายละเอียดคอร์สเรียน IELTS:

  • 10 บทเรียน ครอบคลุม 25 หัวข้อ

  • 4 IELTS Test ย่อย เพื่อทบทวนคำศัพท์ในแต่ละระยะ

  • 1 IELTS Test สรุป เพื่อประเมินความเข้าใจภาพรวมของคำศัพท์ภาษาอังกฤษทั้งหมด

1.2. พื้นฐานไวยากรณ์

ในระยะแรกของการเตรียมสอบ IELTS "ช้าแต่มั่นคง" ควรเป็นหลักการสำคัญที่คุณใช้เป็นแนวทางการเรียน PREP แนะนำให้คุณเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้พื้นฐานไวยากรณ์ที่จำเป็น เพื่อวางรากฐานที่มั่นคงก่อนก้าวไปยังระดับที่สูงขึ้น หัวข้อไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่ควรเรียนในระยะนี้:

  • 12 Tenses ในภาษาอังกฤษ

  • โครงสร้างประโยคในภาษาอังกฤษ: Simple Sentences, Compound Sentences, Complex Sentences ฯลฯ

  • การใช้งานประเภทของคำในภาษาอังกฤษ: Nouns, Verbs, Adjectives ฯลฯ

เพื่อเรียนรู้ไวยากรณ์ในแผนเตรียมสอบ IELTS จาก 0 ถึง Band 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถใช้ IELTS Book เรียนที่มีชื่อเสียง เช่น English Grammar in Use โดย Raymond Murphy. IELTS Book เหล่านี้ให้ข้อมูลที่สำคัญและตรงประเด็น ช่วยให้คุณสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าใจได้ง่าย

อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองหรืออยากประหยัดเวลา คุณสามารถเลือกใช้แผนเตรียมสอบ IELTS จาก 0 ถึง Band 4.0 ของ PREP ได้ สำหรับเนื้อหาไวยากรณ์พื้นฐาน คอร์สของ PREP จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจและใช้งานพื้นฐานไวยากรณ์ของประเภทคำต่าง ๆ (คำนาม - คำคุณศัพท์ - คำกริยา - คำวิเศษณ์ - คำบุพบท - คำสรรพนาม) เพื่อสร้างประโยคและเข้าใจโครงสร้างประโยคพื้นฐานในภาษาอังกฤษ

รายละเอียดเนื้อหา:

  • คำนาม (Nouns): 4 บทเรียนเกี่ยวกับประเภทของคำนาม การจำแนกคำนาม เช่น คำนามนับได้/นับไม่ได้ คำนามเอกพจน์/พหูพจน์ การแสดงความเป็นเจ้าของ และคำจำกัดความ (Determiners)

  • คำกริยา (Verbs): 6 บทเรียนเกี่ยวกับ Tenses พื้นฐาน ได้แก่ Present Simple, Present Continuous, Past Simple, Future Simple, Near Future, และการใช้ Gerunds กับ Infinitives

  • คำสรรพนาม (Pronouns): 3 บทเรียนเกี่ยวกับคำสรรพนามส่วนตัว (Personal Pronouns), คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Adjectives), คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Pronouns), และคำสรรพนามสะท้อน (Reflexive Pronouns)

  • คำคุณศัพท์และคำวิเศษณ์ (Adjectives and Adverbs): 5 บทเรียนเกี่ยวกับคำคุณศัพท์ การเรียงลำดับคำคุณศัพท์ คำวิเศษณ์ การวางตำแหน่งคำวิเศษณ์ และการเปรียบเทียบคำคุณศัพท์กับคำวิเศษณ์

  • คำบุพบท (Prepositions): 2 บทเรียนเกี่ยวกับคำบุพบทที่แสดงสถานที่และเวลา

  • โครงสร้างประโยค (Sentence Structures): 2 บทเรียนเกี่ยวกับประเภทของประโยคในภาษาอังกฤษ

นอกจากนี้ คอร์สเรียน IELTS ออนไลน์พื้นฐานของ PREP ยังมี 5 MINDMAP ที่ช่วยสรุปความรู้ในรูปแบบที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถทบทวนและค้นหาข้อมูลได้สะดวกยิ่งขึ้น

แบบทดสอบ:

  • 4 Mini Tests เพื่อช่วยทบทวนความรู้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่เรียน

  • 1 Final Test เพื่อประเมินความเข้าใจเนื้อหาในคอร์สทั้งหมด

1.3. พื้นฐานการออกเสียง 

รายละเอียดคอร์สเรียน IELTS:

  • ประกอบด้วย 12 บทเรียน (26 ส่วนย่อย)

  • มี 5 แบบทดสอบย่อย (Mini Tests) และ 1 แบบทดสอบสรุป (Final Test)

คอร์สเรียน IELTS นี้ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจและฝึกฝนกฎการออกเสียงในภาษาอังกฤษอย่างละเอียด ครอบคลุมเนื้อหาดังนี้: ภาพรวมการออกเสียง (Overview of Pronunciation), ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการออกเสียง (Common Pronunciation Errors), สระเดี่ยว (Monophthongs), สระคู่ (Diphthongs), พยัญชนะ (Consonants), เสียงตัวท้าย (Ending Sounds), การลงเสียงหนัก (Word Stress)

แบบทดสอบในคอร์ส: มี 4 Mini Tests และ 1 Final Test เพื่อช่วยให้ผู้เรียนทบทวนและประเมินความเข้าใจเนื้อหาอย่างครบถ้วน

2. ระยะที่ 2: เริ่มต้น (Band 4.0 - 5.0)

หลังจากผ่านระยะ "ปูพื้นฐาน" ของแผนเตรียมสอบ IELTS มาแล้ว คุณจะเข้าสู่ระยะ เริ่มต้น ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาไปสู่เป้าหมายที่สูงขึ้น ในระยะนี้ PREP จะแนะนำให้คุณฝึกฝนทักษะต่าง ๆ อย่างเข้มข้น เพื่อยกระดับคะแนน IELTS Overall

แผนเตรียมสอบ IELTS สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน เริ่มจาก 0 ก็ทำได้
 ระยะที่ 2: เริ่มต้น 

หัวข้อสำคัญในระยะนี้:

1. ไวยากรณ์ขั้นสูง:

  • ฝึกการใช้ Passive Voice

  • เรียนรู้ Conditional Sentences ประเภท 2 และ 3

  • การใช้ Complex Conjunctions เช่น however, although, despite, whereas เป็นต้น

2. คำศัพท์เชิงวิชาการ:

  • ศึกษาคำศัพท์ภาษาอังกฤษตามหัวข้อที่พบบ่อยในไอเอล เช่น Education, Environment, Technology, Health เป็นต้น

  • เรียนรู้ Collocations (วลีที่มักใช้ร่วมกัน) เพื่อเพิ่มความหลากหลายของคำศัพท์

3. ทักษะ Listening และ Reading:

  • ทำความคุ้นเคยกับรูปแบบคำถามใน IELTS เช่น True/False/Not Given และ Multiple Choice

  • ฝึกฟัง Podcast สั้น ๆ หรืออ่านบทความง่าย ๆ จากเว็บไซต์เช่น Breaking News English

4. ทักษะ Writing และ Speaking:

  • ฝึก Writing Task 1: การบรรยายแผนภูมิหรือกราฟแบบง่าย

  • ฝึกพูดตามหัวข้อที่คุ้นเคยใน Speaking Part 1

เพื่อทำให้การเรียนในระยะนี้ง่ายขึ้น การมี หนังสืออ้างอิง เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม! ด้านล่างนี้คือคำแนะนำจาก PREP ที่ช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น

  • ไวยากรณ์: IELTS Book เล่มนี้ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้เรียน IELTS เพื่อช่วยเสริมสร้างและพัฒนาความรู้ด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่จำเป็นสำหรับการทำคะแนนสูงขึ้นใน IELTS Writing และ Speaking เนื้อหาประกอบด้วย 25 บทเรียน โดยแต่ละบทมุ่งเน้นหัวข้อไวยากรณ์สำคัญ เช่น Conditional Sentences, Relative Clauses, Present Perfect Tense เป็นต้น

  • คำศัพท์: English Vocabulary in Use Pre-Intermediate & Intermediate. หนังสือคำศัพท์สำหรับระดับ Pre-Intermediate และ Intermediate ที่ช่วยขยายคลังคำศัพท์เชิงวิชาการและคำศัพท์ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วย 100 บทเรียน ครอบคลุมหัวข้อสำคัญ เช่น Education, Work, Environment

  • ทักษะ Listening & Reading : IELTS Listening Practice Tests (Collins), Reading Practice for IELTS (Cambridge) - IELTS Book สำหรับฝึกทักษะการฟังตามรูปแบบข้อสอบ IELTS Listening มีทั้งหมด 6 บททดสอบการฟัง แต่ละบทแบ่งเป็น 4 ส่วนเหมือนข้อสอบจริง

  • Writing & Speaking: Barron’s Writing for IELTS, Speaking for IELTS" (Collins). หนังสือที่ช่วยพัฒนาทักษะ Writing และ Speaking โดยเฉพาะ IELTS Book สำหรับ Reading ยังมีโครงสร้างที่ช่วยฝึกตอบคำถาม เช่น

  • True/False/Not Given

  • Matching Headings

  • Summary Completion

  • Multiple Choice

ถ้าคุณยังรู้สึกเหมือนกำลัง “ลองสนาม” และยังไม่รู้ว่าจะเริ่มเรียนอะไรดี PREP แนะนำให้ใช้เวลา 3 เดือน โดยจัดสรรเวลาประมาณ 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อสร้างพื้นฐานที่มั่นคงและเตรียมพร้อมสำหรับ Band 4.0 - 5.0 ได้อย่างมั่นใจ!

2.1. IELTS Reading พื้นฐาน

  • คอร์สประกอบด้วยทั้งหมด 8 บทเรียน (52 ส่วนย่อย) พร้อมด้วย 1 IELTS Test ความก้าวหน้า (Progress Test) และ 1 IELTS Test สรุป (Final Test)

  • ผู้เรียนจะได้ฝึกฝน 4 วิธีการทำข้อสอบพื้นฐานที่สำคัญที่สุด ได้แก่ การระบุคีย์เวิร์ด (Keyword Identification), การอ่านแบบกวาดสายตา (Skimming), การอ่านแบบสแกน (Scanning), และ การใช้คำพูดใหม่ (Paraphrasing)

  • ผู้เรียนจะได้รับความรู้เกี่ยวกับวิธีคิดและกลยุทธ์ในการตอบคำถามเพื่อเพิ่มความแม่นยำสำหรับรูปแบบคำถามต่าง ๆ ที่พบได้ในข้อสอบ IELTS Reading เช่น การเติมคำในช่องว่าง (Gap Filling), คำถามแบบปรนัย (Multiple Choice), การจับคู่ข้อมูล (Matching)

2.2. IELTS Writing พื้นฐาน Plus 2

คอร์สเรียน IELTS นี้ประกอบด้วยทั้งหมด 9 บทเรียน (36 ส่วนย่อย), 1 แบบทดสอบความก้าวหน้า (Progress Test), และ 8 แบบตรวจงานเขียนออนไลน์ (VWR)
คอร์สนี้มีเป้าหมายเพื่อวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับพัฒนาทักษะการเขียน (Writing Skills) และช่วยผู้เรียนเตรียมตัวสอบ IELTS เพื่อบรรลุคะแนนสูง โดยรายละเอียดคือ:

  • ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ 4 เกณฑ์การให้คะแนนใน IELTS Writing

  • ผู้เรียนจะเข้าใจโครงสร้างของย่อหน้า (Paragraph Structure) และบทความ (Essay) อย่างครบถ้วน รวมถึงการพัฒนาทักษะการเขียนประโยคและการเชื่อมโยงแนวคิดให้สอดคล้องกัน

  • ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ 4 ประเภทของกราฟที่พบได้บ่อยใน IELTS Writing Task 1 ได้แก่ กราฟแสดงแนวโน้ม (Charts with trends), กราฟเปรียบเทียบ (Charts of comparison), แผนที่ (Maps), และ ไดอะแกรม (Diagrams) พร้อมทั้งเรียนรู้วิธีการวิเคราะห์คำถาม การวางโครงร่าง การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ และโครงสร้างไวยากรณ์เฉพาะสำหรับแต่ละประเภท

  • ผู้เรียนจะสามารถแยกแยะและเข้าใจวิธีเขียนเรียงความหลากหลายประเภท เช่น ข้อดีและข้อเสีย (Advantages - Disadvantages), บทความอภิปราย (Discussion Essays), และ บทความสาเหตุ - ผลกระทบ - วิธีแก้ไข (Cause - Effect - Solution Essays)

  • ห้องเขียนออนไลน์ - VWR: ในห้องฝึก Writing แบบออนไลน์ ผู้เรียนจะได้ฝึกเขียนบทความทั้ง Task 1 และ Task 2 จาก 8 หัวข้อที่หลากหลาย ระบบจะช่วยเสนอโครงร่าง (Outline) และตัวอย่างงานเขียนระดับ Band 8.0+ พร้อมทั้งคำศัพท์ที่น่าสนใจสำหรับแต่ละหัวข้อ นอกจากนี้ ระบบยังให้คำแนะนำและแก้ไขบทความตามคำตอบที่ผู้เรียนส่งมา เพื่อช่วยพัฒนาทักษะการเขียนอย่างตรงจุด

2.3. IELTS Listening พื้นฐาน

คอร์สนี้ประกอบด้วยทั้งหมด 7 บทเรียน (10 ส่วนย่อย), 1 IELTS Test ความก้าวหน้า (Progress Test), และ 1 IELTS Test สรุป (Final Test)

  • ผู้เรียนจะได้ฝึกฝน 4 ทักษะพื้นฐาน เพื่อวิเคราะห์คำถามในการฟัง ได้แก่: การระบุคีย์เวิร์ด การคาดเดาคำตอบจากมุมมองไวยากรณ์และคำชี้นำทางภาษา ทักษะการจดบันทึก การฟังจับใจความโดยอาศัยการระบุเสียงเน้น (Stress) และการใช้ Prefix/Suffix

  • ผู้เรียนจะได้พัฒนากลยุทธ์และวิธีคิดเพื่อจัดการกับคำถามในรูปแบบต่าง ๆ ที่พบในข้อสอบ IELTS Listening เช่น: Gap-filling (การเติมคำในช่องว่าง), Multiple-choice questions (คำถามแบบตัวเลือกหลายข้อ), Matching (การจับคู่ข้อมูล)

2.4. IELTS Speaking พื้นฐาน Plus 

คอร์สเรียน IELTS นี้ประกอบด้วยทั้งหมด 6 บทเรียน (9 ส่วนย่อย), 1 IELTS Test ความก้าวหน้า (Progress Test), 8 แบบตรวจการพูดออนไลน์ (VSR), และ 1 IELTS Test สรุป (Final Test)

  • 6 บทเรียนในคอร์สนี้ครอบคลุมเนื้อหาสำคัญ ได้แก่: เกณฑ์การให้คะแนนและการประเมินผลใน IELTS Speaking วิธีการขยายคำตอบ หัวข้อแนะนำตัวเอง หัวข้อเกี่ยวกับสิ่งของและสิ่งต่าง ๆ รอบตัว หัวข้อเล่าเรื่องในอดีต หัวข้อเกี่ยวกับแผนการและการคาดการณ์ในอนาคต

  • ห้องฝึก Speaking ออนไลน์ - VSR: ผู้เรียนจะได้ฝึกฝนจาก 8 หัวข้อที่หลากหลายใน IELTS Speaking Part 1 ระบบการให้คะแนนจะแสดง จุดเด่น และ จุดที่ควรปรับปรุง โดยอิงจาก 4 เกณฑ์การให้คะแนน ของ IELTS Speaking ระบบยังมีการเสนอแนะการพัฒนาคำตอบของผู้เรียน พร้อมตัวอย่างคำตอบ (Model Answers) สำหรับอ้างอิง

จุดเด่นของคอร์ส

  • ผู้เรียนจะได้เรียนรู้วิธีการขยายคำตอบในหลากหลายหัวข้อที่พบได้บ่อย

  • ฝึกตอบคำถามใน IELTS Speaking Part 1 และพัฒนาทักษะการพูดให้สอดคล้องกับ 4 เกณฑ์การให้คะแนนของ IELTS Speaking

  • ได้เรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับระดับ Band 5.0+

3. ระยะที่ 3: ทะลุ IELTS (Band 5.0 - 6.0)

หลังจากที่คุณได้ “วอร์มอัพ” พื้นฐานของแผนเตรียมสอบ IELTS สำเร็จแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่คุณจะเข้าสู่ระยะ ทะลุ IELTS เพื่อยกระดับคะแนนของคุณไปที่ Band 5.0 - 6.0 ระยะนี้ถือเป็นระยะ “เร่งสปีด” ที่คุณจะได้ทำความคุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบ IELTS มาตรฐาน และเพิ่มทักษะการจัดการข้อสอบในเวลาที่จำกัด
มาร่วมกับ PREP เพื่อ “เร่งสปีด” อย่างมั่นใจ พัฒนาทักษะ Listening, Speaking, Reading และ Writing ให้ก้าวไปถึง Band ที่คุณใฝ่ฝันกันเถอะ!

แผนเตรียมสอบ IELTS สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน เริ่มจาก 0 ก็ทำได้
ระยะที่ 3: ทะลุ IELTS (Band 5.0 - 6.0)
  • พัฒนาทักษะ Listening และ Reading ขั้นสูง:

    • เพิ่มความเร็วในการอ่านและฝึกทักษะ Scanning และ Skimming

    • ฟังเนื้อหาที่มีความยาวและซับซ้อนมากขึ้นจากแหล่งต่าง ๆ เช่น TED Talks

  • พัฒนา Writing และ Speaking ในเชิงวิชาการ:

    • ฝึกการเขียน Task 2: จัดเรียงโครงสร้างบทความ (Introduction, Body, Conclusion)

    • ฝึกพูด Speaking Part 2: การอธิบายสถานการณ์ บุคคล หรือสถานที่ (Describe a situation/person/place)

  • เพิ่มพูนคำศัพท์ขั้นสูง:

    • เรียนรู้คำศัพท์จากตัวอย่างการเขียนใน Writing Task 2

    • มุ่งเน้นการเรียนรู้ Phrasal Verbs และ Idioms

แหล่งข้อมูลแนะนำโดย PREP สำหรับการพิชิต Band 6.0

  • Listening - Reading: IELTS Trainer (Cambridge), Listening for IELTS (Collins): IELTS Book ทั้งสองเล่มนี้ช่วยฝึกทักษะการฟังและการอ่านในรูปแบบข้อสอบ IELTS โดยเฉพาะ โครงสร้างประกอบด้วย 6 แบบทดสอบเต็มรูปแบบ (Full Tests) ที่จำลองข้อสอบ IELTS จริง

  • Writing - Speaking: Ideas for IELTS Essay Topics (Simon), Cambridge IELTS Speaking Tests: IELTS Book เหล่านี้เน้นการพัฒนาทักษะการเขียนและการพูด พร้อมรูปแบบคำถามที่พบบ่อยในไอเอล โครงสร้างแบ่งเป็น 12 บทเรียน ที่ครอบคลุมหัวข้อยอดนิยม เช่น Education, Health, Technology

  • คำศัพท์: Vocabulary for IELTS Advanced (Collins): หนังสือรวบรวมคำศัพท์และแนวคิดสำหรับการเขียนใน Writing Task 2 ครอบคลุมมากกว่า 50 หัวข้อยอดนิยมใน IELTS เช่น Education, Environment, Technology, Health

ในแผนการเรียนไอเอลของ PREP คุณจะได้เรียนรู้และเข้าใจ กลยุทธ์ที่สำคัญ เพื่อจัดการกับคำถามใน 4 ทักษะของข้อสอบ IELTS อย่างรวดเร็วและแม่นยำ 

3.1. IELTS Listening ระดับกลาง

เนื้อหาหลัก

คอร์สนี้ประกอบด้วย 9 บทเรียน (11 ส่วนย่อย) และ 1 IELTS Test สรุป (Final Test) โดยเนื้อหาหลักของ 9 บทเรียนครอบคลุม 9 ประเภทคำถามในข้อสอบ IELTS Listening พร้อมวิธีทำข้อสอบที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่: Overview of the test, Completion, Flowchart, Short-answer questions, Multiple choice questions, Pick from a list, Matching, Labelling a map, Labelling a diagram

จุดเด่นของคอร์ส: แบบทดสอบสรุป (Final Test) ช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกทำข้อสอบจริงและนำเทคนิคต่าง ๆ ที่เรียนไปปรับใช้

3.2. IELTS Reading ระดับกลาง

คอร์สเรียน IELTS นี้ประกอบด้วย 7 บทเรียน (27 ส่วนย่อย), 5 IELTS Test (2 Progress Test, 2 Practice Test, และ 1 Final Test)

เนื้อหาหลัก

  • ทบทวนและพัฒนาทักษะสำคัญในการทำข้อสอบ IELTS Reading เช่น:

    • Skimming และ Scanning

    • Reading in details

    • Paraphrasing

    • การเดาความหมายคำศัพท์จากบริบท (Guessing unknown words)

    • การเรียนรู้คำพ้องความหมาย (Synonyms) และคำตรงข้าม (Antonyms)

  • เทคนิคการทำข้อสอบในรูปแบบต่าง ๆ เช่น: Matching headings, Summary completion, Short answer questions, Gap-filling questions, True/False/Not Given, Yes/No/Not Given, Multiple choice questions, Picking from a list, Matching information, Matching sentence endings, Matching names to opinions

3.3. IELTS Speaking ระดับกลาง

คอร์สนี้ประกอบด้วย 11 บทเรียน (42 ส่วนย่อย), 8 แบบตรวจการพูด (VSR), และ 1 IELTS Test สรุป (Final Test)

เนื้อหาหลัก

  • 9 บทเรียนแบ่งออกเป็นหัวข้อที่ช่วยพัฒนาทักษะการพูด เช่น: การขยายขอบเขตและความถูกต้องของไวยากรณ์ การเพิ่มความคล่องแคล่วและความลื่นไหลในการพูด การปรับปรุงการออกเสียง กลุ่มหัวข้อ: การบรรยายบุคคล, สถานที่, สิ่งของ, เหตุการณ์ และประสบการณ์ กลุ่มหัวข้อ: สื่อและเทคโนโลยี, งานอดิเรก, และหัวข้อทั่วไปอื่น ๆ

  • หลังจากเรียนจบแต่ละหัวข้อ ผู้เรียนจะได้รับการตรวจประเมินและข้อแนะนำจากผู้สอนโดยตรง เพื่อช่วยพัฒนาทักษะอย่างรวดเร็ว

  • ห้องฝึก Speaking ออนไลน์ (VSR): ฝึกทำข้อสอบ Speaking Part 2 กับ 8 หัวข้อที่หลากหลาย ระบบจะประเมินผลโดยใช้ 4 เกณฑ์การให้คะแนนของ IELTS Band Descriptors และให้คำแนะนำเกี่ยวกับจุดที่ต้องพัฒนา มีการให้ตัวอย่างคำตอบ (Model Answers), Outline, และคำศัพท์สำคัญสำหรับแต่ละหัวข้อ

3.4. IELTS Writing ระดับกลาง

คอร์สนี้ประกอบด้วย 14 บทเรียน (98 ส่วนย่อย), 3 Progress Test, 8 แบบตรวจการเขียน (VWR), และ 1 Final Test

เนื้อหาหลัก

  • 14 บทเรียนประกอบด้วยเนื้อหาดังนี้: การแนะนำคอร์ส, การแนะนำเกี่ยวกับ Writing Task แต่ละประเภท, และการแชร์ทักษะสำหรับการทำข้อสอบ Writing Task 1 (Charts with trends, Charts of comparison, Mixed charts, Maps, Diagrams) และ Writing Task 2 (Argumentative essay with and without opinion, Discussion, Problem/Cause - Solution essays)

  • เนื้อหาแต่ละประเภทจะมีการตรวจคะแนนแบบ VSR รวมทั้งหมด 8 บท

  • พร้อมด้วย 3 แบบทดสอบ Progress Test เพื่อช่วยให้นักเรียนจดจำและนำความรู้ไปใช้ในการสอบจริง

  • ห้องฝึกเขียนเสมือนจริง (Virtual Writing Room - VWR): ประกอบด้วย 8 หัวข้อสำหรับฝึกทำข้อสอบ IELTS Writing Task 1 และ Task 2 โดยนักเรียนจะได้รับ Outline ตัวอย่างการเขียนสำหรับคะแนน Band 8.0+ ระบบคำศัพท์ที่เหมาะสมกับแต่ละหัวข้อ นอกจากนี้ ระบบยังจะให้คำแนะนำในการปรับปรุงคำตอบจากการเขียนที่นักเรียนส่งเข้ามาอีกด้วย

4.  ระยะที่ 4: พิชิตเป้าหมาย (Band 6.5+)

ขอแสดงความยินดีที่คุณได้ผ่านระยะ "ยกระดับ" ของแผนเตรียมสอบ IELTS มาแล้ว! ตอนนี้คุณมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งพร้อมที่จะเข้าสู่ระยะ "พิชิตเป้าหมาย" เพื่อพิชิต IELTS Band 6.5+ ระยะนี้เปรียบเสมือนการเข้าเส้นชัย คุณต้องฝึกฝนการประยุกต์ใช้ทักษะและกลยุทธ์การทำข้อสอบ IELTS ในระดับที่สูงขึ้น มาร่วมกับ PREP "เร่งสปีด" เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจในวันสอบจริงกันเถอะ!

แผนเตรียมสอบ IELTS สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน เริ่มจาก 0 ก็ทำได้
 ระยะที่ 4: พิชิตเป้าหมาย 

แล้วในระยะนี้คุณควรเรียนและฝึกอะไรบ้าง สิ่งที่คุณควรทำในระยะนี้คือ เข้าใจแนวข้อสอบทุกประเภท ครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ ได้แก่ Listening, Reading, Speaking และ Writing และฝึกทำข้อสอบจริง นี่คือระยะที่ต้องนำความรู้ทั้งหมดที่สะสมมาใช้ในการเร่งเครื่องแบบเต็มที่

  • ฝึกทำข้อสอบ (Practice Tests): Cambridge IELTS (เล่ม 10-18): ชุดหนังสือสอบที่จัดทำโดย Cambridge ซึ่งเป็นรูปแบบข้อสอบที่ใกล้เคียงกับของจริงที่สุด แต่ละเล่มประกอบด้วยข้อสอบ Listening, Reading, Writing, และ Speaking พร้อมคำตอบและคำอธิบายอย่างละเอียดในตอนท้าย

  • พัฒนาทักษะ Writing และ Speaking: High Scoring IELTS Writing Model Answers (Rachel Mitchell) The Complete Guide to IELTS Speaking (Mark Allen): สองเล่มนี้มีตัวอย่างคำตอบ Writing Task 1 และ Task 2 Band 8.0+ รวมถึงเทคนิค Speaking ที่จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะในสองส่วนที่ยากที่สุดได้

  • เสริมคลังคำศัพท์: IELTS Vocabulary Booster: หนังสือที่มุ่งเน้นการเพิ่มพูนคำศัพท์ขั้นสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งเป้าหมาย Band 7.0+

4.1. IELTS Listening ขั้นสูง

คอร์ส Listening ขั้นสูง นี้ประกอบด้วย 10 บทเรียน (23 sections), 2 แบบทดสอบ Progress Test, 1 แบบทดสอบ Final Test

เนื้อหาหลัก

  • 10 บทเรียนที่ครอบคลุมเทคนิคการทำข้อสอบ Listening ทุกรูปแบบ พร้อมแบ่งปันประสบการณ์และวิธีฝึกฝน

  • 3 IELTS Test เพื่อสรุปความรู้และช่วยให้นักเรียนสามารถจดจำและนำไปใช้ได้จริงในข้อสอบ

4.2. IELTS Listening ขั้นสูง

คอร์ส Listening ขั้นสูง นี้ประกอบด้วย: 10 บทเรียน (23 sections), 2 แบบทดสอบ Progress Test, 1 แบบทดสอบ Final Test

เนื้อหาหลัก

  • 10 บทเรียนที่ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการทำข้อสอบ Reading พร้อมแบบฝึกหัดและการประยุกต์ใช้เทคนิคกับประเภทคำถามใน IELTS Reading เช่น True/False/Not Given, Yes/No/Not Given, Short answer, Table/Note/Summary/Sentence completion, Matching information, Matching features, Matching headings, Multiple choice questions

  • 3 แบบทดสอบเพื่อสรุปและช่วยให้นักเรียนจดจำและนำความรู้ไปใช้ในข้อสอบจริง

4.3. IELTS Speaking ขั้นสูง Plus

คอร์ส Speaking ขั้นสูงประกอบด้วย 11 บทเรียน (34 sections), 8 การตรวจคะแนน VSR, 2 แบบทดสอบ (Progress Test และ Final Test)

เนื้อหาหลัก

  • 11 บทเรียนที่ครอบคลุมคำศัพท์ในหัวข้อที่พบบ่อยใน IELTS Speaking เช่น Work & Study, People, Places, Events, Media & Hobbies, Objects ฯลฯ เทคนิคและเคล็ดลับเพิ่มคะแนน Speaking และวิธีหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบบ่อย

  • ห้องฝึก Speaking เสมือนจริง (Virtual Speaking Room - VSR): ฝึกทำข้อสอบ Speaking ทั้ง 3 Part กับ 8 หัวข้อที่หลากหลาย ระบบจะประเมินตาม 4 เกณฑ์จาก IELTS Band Descriptors เพื่อให้คำแนะนำที่ใกล้เคียงที่สุด มี Outline แนะนำ, ตัวอย่างคำตอบ Band 8.0+, และคลังคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง

  • แบบทดสอบ 2 ชุด (Progress และ Final Test): ตรวจโดย AI เพื่อสรุปและประเมินผลการเรียนรู้ของทั้งคอร์ส

4.4. IELTS Writing ขั้นสูง Plus 

คอร์ส Writing ขั้นสูงประกอบด้วย 19 บทเรียน (93 sections), 9 แบบทดสอบ Revision Test, 8 การตรวจคะแนน VWR

เนื้อหาหลัก

  • 19 บทเรียนที่ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการทำข้อสอบ Writing ในแต่ละประเภท โดยยึดเกณฑ์การประเมินคะแนนของกรรมการ เทคนิคและประสบการณ์เพื่อเพิ่ม Band คะแนน Writing

  • ห้องฝึก Writing เสมือนจริง (Virtual Writing Room - VWR): ฝึกเขียน Task 1 และ Task 2 กับ 8 หัวข้อ มี Outline แนะนำ ตัวอย่างคำตอบ Band 8.0+ และคลังคำศัพท์เฉพาะหัวข้อ ระบบจะให้คำแนะนำในการปรับปรุงคำตอบจากการเขียนของนักเรียน

  • แบบทดสอบ Revision Test: ตรวจโดย AI เพื่อช่วยนักเรียนเรียนรู้วิธีการประยุกต์ใช้ทักษะและเทคนิคในการทำข้อสอบ Writing

หวังว่าบทความเกี่ยวกับแผนเตรียมสอบ IELTS นี้จะเป็นเข็มทิศนำทางให้คุณวางแผนการเรียน IELTS ได้อย่างเหมาะสมกับตัวเอง จำไว้ว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" อย่าปล่อยให้อุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ มาทำให้คุณหยุดเดิน เพราะความสำเร็จจะมาหาคนที่ไม่ยอมแพ้และมีวิธีการที่ชาญฉลาดเสมอ ขอให้คุณก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ และ PREP จะอยู่เคียงข้างคุณในทุกก้าว!

คอร์ส IELTS ออนไลน์ที่ PREP ช่วยให้คุณเรียนรู้ได้ง่ายขึ้นด้วยการสนับสนุนจากปัญญาประดิษฐ์ นอกจากนี้ Teacher Bee AI ยังจะคอยช่วยแนะนำและตอบคำถามทุกข้อสงสัยของคุณ หากโทร HOTLINE +6624606789 หรือคลิกที่นี่ คุณจะได้รับแผนการเรียน IELTS ที่เหมาะสมที่สุด พร้อมสิทธิพิเศษจาก PREP
ดาวน์โหลดแอป PREP วันนี้ เพื่อเริ่มเรียน IELTS ที่บ้าน พร้อมประสบการณ์ฝึกสอบออนไลน์คุณภาพสูงที่จะช่วยให้คุณพัฒนาอย่างรวดเร็ว

ความคิดเห็น

0/300 อักขระ