ค้นหาบทความการศึกษา

เข้าใจประโยคความซ้อน ภาษาอังกฤษ (Complex Sentence) พร้อมตัวอย่างใช้งานจริง

ประโยคความซ้อน ภาษาอังกฤษเป็นโครงสร้างประโยคที่ประกอบด้วยหนึ่งอนุประโยคหลัก (Independent Clause) และหนึ่งหรือมากกว่าอนุประโยคย่อย (Dependent Clause) โดยเชื่อมต่อกันด้วยคำสันธานรอง (Subordinate Conjunction) หรือคำสรรพนามสัมพัทธ์ (Relative Pronoun) ด้านล่างนี้คือคำอธิบายและตัวอย่างประโยคความซ้อน

ประโยคความซ้อน ภาษาอังกฤษ (Complex Sentence) - โครงสร้างและตัวอย่าง
ประโยคความซ้อน ภาษาอังกฤษ (Complex Sentence) - โครงสร้างและตัวอย่าง

I. ความหมายของประโยคความซ้อน ภาษาอังกฤษ

ในภาษาอังกฤษ ประโยคความซ้อนคือโครงสร้างที่มีอนุประโยคหลักซึ่งสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง และอนุประโยคย่อยซึ่งไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง จำเป็นต้องเชื่อมกับอนุประโยคหลักเพื่อให้ประโยคสมบูรณ์

ตัวอย่าง:

  • Because the test was too difficult, I got a bad grade.
    ➡ อนุประโยคย่อยคือ Because the test was too difficult, ส่วนอนุประโยคหลักคือ I got a bad grade.

  • Because it rained a lot, the tree was waterlogged.
    ➡ อนุประโยคย่อยคือ Because it rained a lot, ส่วนอนุประโยคหลักคือ the tree was waterlogged.

การทำความเข้าใจประโยคความซ้อนจะช่วยให้คุณสามารถใช้โครงสร้างประโยคได้หลากหลายยิ่งขึ้นและสื่อสารได้อย่างแม่นยำและชัดเจน

ประโยคความซ้อน ภาษาอังกฤษ (Complex Sentence) - โครงสร้างและตัวอย่าง
ประโยคความซ้อนที่แสดงเวลา

II. ประเภทของประโยคความซ้อน ภาษาอังกฤษ

มีประเภทของประโยคความซ้อน ภาษาอังกฤษกี่ประเภท ด้านล่างนี้คือประเภทที่พบบ่อยของประโยคความซ้อน ภาษาอังกฤษ มาดูรายละเอียดกันเลย!

1. ประโยคความซ้อนที่ใช้คำสันธานรอง (Subordinating Conjunctions)

ประโยคความซ้อน ภาษาอังกฤษที่ใช้คำสันธานรองมักมีรูปแบบหลักดังนี้:

1.1 ความสัมพันธ์แบบเหตุและผล (Cause and Effect)

ประโยคความซ้อนที่แสดงความสัมพันธ์แบบเหตุและผลในภาษาอังกฤษมีโครงสร้างดังนี้:

As/since/because + ประโยค, ประโยค

หรือ

ประโยค + because of/due to + คำนาม/กริยาเติม -ing

ตัวอย่าง:

  • As social networks are developed, we can connect with each other more easily (เนื่องจากโซเชียลเน็ตเวิร์กพัฒนา เราสามารถเชื่อมต่อกันได้ง่ายขึ้น)

  • A lot of animals have died because of forest fires. (สัตว์หลายตัวเสียชีวิตเพราะไฟป่า)

ในกรณีที่แสดงเหตุและผลโดยตามด้วยคำนามหรือวลีคำนาม ใช้โครงสร้าง:

Because of/ Due to/ Owing to + คำนาม/กริยาเติม -ing, ประโยค

หรือ

ประโยค + because of/ due to/ owing to/ thanks to + คำนาม/กริยาเติม -ing

ตัวอย่าง:

  • Because of the rain, the trees have grown faster. (เนื่องจากฝนตก ต้นไม้จึงเติบโตได้เร็วขึ้น)

  • I have successfully started my business thanks to the support of my family. (ฉันเริ่มธุรกิจได้สำเร็จเพราะการสนับสนุนจากครอบครัว)

1.2 ความสัมพันธ์แบบยอมรับ 

ประโยคความซ้อนที่แสดงความสัมพันธ์แบบยอมรับมีโครงสร้างดังนี้:

Although/ Though/ Even though + ประโยค, ประโยค

หรือ

ประโยค + although/ though/ even though + ประโยค

ตัวอย่าง:

  • Even though today is my day off, I’m still working (แม้วันนี้จะเป็นวันหยุด ฉันยังคงทำงานอยู่)

  • I still love him although he treats me badly. (ฉันยังรักเขาแม้ว่าเขาจะปฏิบัติต่อฉันไม่ดี)

1.3 ความสัมพันธ์แบบขัดแย้ง 

ประโยคความซ้อนที่แสดงความสัมพันธ์แบบขัดแย้งโดยใช้คำสันธานรอง มีโครงสร้างดังนี้:

While + ประโยค, ประโยค

หรือ

ประโยค + while/whereas + ประโยค

ตัวอย่าง:

  • While my mother prefers to live in the countryside, my father prefers the city. (ขณะที่แม่ฉันชอบอยู่ในชนบท พ่อฉันชอบอยู่ในเมือง)

  • Whereas I like staying at home, my boyfriend likes to go out. (ในขณะที่ฉันชอบอยู่บ้าน แฟนของฉันชอบออกไปข้างนอก)

1.4 วัตถุประสงค์

ประโยคความซ้อนที่แสดงวัตถุประสงค์ในภาษาอังกฤษมีโครงสร้างดังนี้:

ประโยค + in order that/ so that + ประโยค (กริยาช่วย + กริยารูปฐาน)

ตัวอย่าง:

  • I always turn off the lights before bed so that I can fall asleep easily. (ฉันมักจะปิดไฟก่อนนอนเพื่อให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น)

  • She wakes up early in order that she can catch the bus. (เธอตื่นแต่เช้าเพื่อให้ทันขึ้นรถบัส)

1.5 เวลา 

ประโยคความซ้อนที่แสดงเวลามีโครงสร้างดังนี้:

คำวิเศษณ์บอกเวลา + ประโยค, ประโยค

หรือ

ประโยค + คำวิเศษณ์บอกเวลา + ประโยค

ตัวอย่างคำวิเศษณ์บอกเวลาที่พบบ่อย: before, after, since, until

ประโยคความซ้อน ภาษาอังกฤษ (Complex Sentence) - โครงสร้างและตัวอย่าง
ประโยคความซ้อนที่แสดงเวลา

ตัวอย่าง:

  • After I graduate from university, I will go back to my hometown to work. (หลังจากฉันจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย ฉันจะกลับบ้านเกิดไปทำงาน)

  • You should turn off the lights before you leave your room. (คุณควรปิดไฟก่อนออกจากห้อง)

1.6 สมมติฐาน (Hypotheses)

ในกรณีที่ประโยคความซ้อนใช้แสดงสมมติฐาน โครงสร้างมีดังนี้:

If/As long as/Unless/In case + ประโยค, ประโยค

หรือ

ประโยค + if/as long as/unless/in case + ประโยค

ตัวอย่าง:

  • If you want to do well on the test, you should study hard. (ถ้าคุณอยากทำข้อสอบได้ดี คุณควรอ่านหนังสืออย่างขยันขันแข็ง)

  • You should check your mailbox regularly in case there is important news. (คุณควรตรวจสอบกล่องจดหมายเป็นประจำเผื่อมีข่าวสารสำคัญ)

ในรูปแบบสมมติฐานนี้ การผันกริยาในแต่ละอนุประโยคจะคล้ายกับประโยคเงื่อนไข

ดูบทความเพิ่มเติม

2. ประโยคความซ้อนที่ใช้อนุประโยคสัมพันธ์ (Relative Clauses)

ประโยคความซ้อน ภาษาอังกฤษที่ใช้อนุประโยคสัมพันธ์มีโครงสร้างพื้นฐานดังนี้:

คำสรรพนามสัมพันธ์

คำสรรพนามสัมพันธ์

โครงสร้าง

การใช้งาน

ตัวอย่าง

Who

Nouns ที่อ้างถึงคน + who + V/ O. หรือ Nouns ที่อ้างถึงคน + who + ประโยค

เพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับคำนามที่อ้างถึงบุคคล ทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในประโยค

She is the manager who you need to talk to when working.

เขาคือผู้จัดการที่คุณต้องคุยด้วยเมื่อทำงาน

Which

Nouns ที่อ้างถึงวัตถุ/เหตุการณ์ + which + V O. หรือ Nouns ที่อ้างถึงวัตถุ/เหตุการณ์ + which + ประโยค

ให้ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับคำนามที่อ้างถึงวัตถุหรือเหตุการณ์ ทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในประโยค

I just bought a computer which I had to save a lot of money to buy.

ฉันเพิ่งซื้อคอมพิวเตอร์ที่ฉันต้องเก็บเงินไว้เยอะมากเพื่อซื้อ

Whose

Noun + whose + noun + V O. หรือ Noun + whose + noun + ประโยค

เพิ่มความหมายของการเป็นเจ้าของให้กับคำนาม

The girl whose hair is so beautiful is my girlfriend.

เด็กผู้หญิงที่มีผมสวยมากคนนั้นเป็นแฟนของฉัน

คำกริยาวิเศษณ์สัมพันธ์

คำกริยาวิเศษณ์สัมพันธ์

โครงสร้าง

การใช้งาน

ตัวอย่าง

When

ประโยค + when + ประโยค

เพิ่มความหมายให้กับคำนามที่อ้างถึงเวลา

I still remember the first time when I bought my favorite toy.

ฉันยังจำครั้งแรกที่ซื้อของเล่นชิ้นโปรดได้

Where

ประโยค + where + ประโยค

เพิ่มความหมายให้กับคำนามที่อ้างถึงสถานที่

I really like Switzerland where there are many fairy villages.

ฉันชอบประเทศสวิตเซอร์แลนด์มาก ที่นั่นมีหมู่บ้านเทพนิยายมากมาย

III. การสร้างประโยคความซ้อนที่สมบูรณ์

ในการสร้างประโยคความซ้อนที่สมบูรณ์ในภาษาอังกฤษ คุณสามารถนำสูตรที่กล่าวถึงในส่วนที่ II มาปรับใช้ได้ พร้อมทั้งใส่ใจกับการใช้เครื่องหมายจุลภาคในประโยค หากอนุประโยคหลัก (independent clause) อยู่ก่อนอนุประโยคย่อย (dependent clause) ไม่จำเป็นต้องใส่จุลภาค แต่ถ้าอนุประโยคหลักอยู่หลังอนุประโยคย่อย ควรใส่จุลภาค ตัวอย่างการสร้างประโยคความซ้อน ภาษาอังกฤษมีดังนี้:

  • Because it was raining, the camping trip was canceled.  (เนื่องจากฝนตก การตั้งแคมป์จึงถูกยกเลิก ในประโยคนี้ อนุประโยคหลักอยู่หลัง จึงต้องใส่จุลภาค)

  • He got sick because he walked in the rain. (เขาป่วยเพราะเดินตากฝน ในประโยคนี้ อนุประโยคหลักอยู่ก่อน จึงไม่ต้องใส่จุลภาค)

IV. การแยกความแตกต่างระหว่างประโยคความเดียว ประโยคความรวม และประโยคความซ้อน ภาษาอังกฤษ

ในการแยกความแตกต่างของประโยคความซ้อนออกจากประโยคความเดียวและประโยคความรวมในภาษาอังกฤษ เราสามารถอ้างอิงจากแนวคิดและโครงสร้าง ดังนี้:

ประเภท

ประโยคความซ้อน

ประโยคความเดียว

ประโยคความรวม

การแยกแยะ

ประโยคความซ้อนเป็นประโยคที่มีอนุประโยคหลักหนึ่งอนุประโยค และมีอนุประโยคย่อยหนึ่งอนุประโยคหรือมากกว่า

ประโยคความเดียวเป็นประโยคที่มีเพียงอนุประโยคหลักหนึ่งอนุประโยคเท่านั้น

ประโยคความรวมเป็นประโยคที่มีอนุประโยคหลักสองอนุประโยคหรือมากกว่าและไม่มีอนุประโยคย่อย

ตัวอย่าง

Because I graduated from college, my father bought me a new computer.

(เนื่องจากฉันเรียนจบมหาวิทยาลัย พ่อจึงซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ให้ฉัน)

ในประโยคนี้:

- อนุประโยคย่อยคือ "Because I graduated from college"

- อนุประโยคหลักคือ "my father bought me a new computer"

My father bought me a new computer.

 

(พ่อซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ให้ฉัน)

 

ประโยคนี้มีเพียงอนุประโยคหลักเดียว

I lost my phone but my mom bought me a new one.

(ฉันหายโทรศัพท์ แต่แม่ซื้อใหม่ให้ฉัน)

 

ในประโยคนี้ ทั้งสองอนุประโยคเป็นอิสระและสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งประโยคอื่น

V. หมายเหตุเกี่ยวกับการใช้ประโยคความซ้อนในข้อสอบ IELTS Writing

การใช้ประโยคความซ้อนอย่างเหมาะสมในการสอบเขียน IELTS จะช่วยเพิ่มคะแนนและทำให้ได้รับการประเมินสูงขึ้นในเกณฑ์ Grammatical Range and Accuracy (ความสามารถในการใช้โครงสร้างทางไวยากรณ์ที่ยืดหยุ่นและหลากหลาย) ในการใช้ประโยคความซ้อนอย่างมีประสิทธิภาพ ควรให้ความสำคัญในการใช้ประโยคความซ้อนเพื่อแสดงจุดยืนหลักในบทความ โดยมักจะวางไว้ตอนต้นของย่อหน้า นอกจากนี้ ผู้เข้าสอบสามารถแทรกประโยคความซ้อนในการพัฒนาแนวคิดเพื่อสนับสนุนข้อโต้แย้งของตนเอง

ควรระวังไม่ให้ใช้ประโยคความซ้อนมากเกินไป แต่ควรรักษาสมดุลระหว่างประโยคความเดียว ประโยคความรวม และประโยคความซ้อนให้เหมาะสม

ตัวอย่างการใช้ประโยคความซ้อนเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยในการใช้โทรศัพท์ในตอนกลางคืน:
We should not use the phone at night because it greatly affects our vision and nervous system. (เราไม่ควรใช้โทรศัพท์ในเวลากลางคืนเพราะจะส่งผลอย่างมากต่อการมองเห็นและระบบประสาทของเรา)

VI. แบบฝึกหัดเกี่ยวกับประโยคความซ้อนพร้อมเฉลยอย่างละเอียด

ต่อไปนี้คือแบบฝึกหัดเพื่อฝึกทักษะเกี่ยวกับประโยคความซ้อน:

แบบฝึกหัดที่ 1: เลือกคำตอบที่ถูกต้อง

1. She almost missed the train ___________ she has been waiting at the pier for more than 30 minutes. 

  • A. although

  • B. since

  • C. despite

  • D. because of

2. I did not eat dinner _____________ I was too tired. 

  • A. so

  • B. because

  • C. but

  • D. if

3. We were driving to a village _____________ we caught an accident.

  • A. when

  • B. while

  • C. before

  • D. as soon as

4. I want to be a doctor ______ I can save people.

  • A. in order to

  • B. so as not to

  • C. so that

  • D. as soon as

5. ___________leaving the house, turn off the lights.

  • A. As soon as

  • B. Although

  • C. After

  • D. Before

แบบฝึกหัดที่ 2: Rewrite the following sentences:

1. I was born in a craft village. I know the process of making pottery. (BECAUSE)

➡ _________________________________________________

2. She was not happy at the party. She wanted to leave. (AS)

➡ _________________________________________________

3. I am sick. I still have to go to work. (ALTHOUGH)

➡ _________________________________________________

4. Tomorrow is a holiday. I have a day off work. (SO)

➡ _________________________________________________

5. I left my job. My boss didn’t give me a raise. (BECAUSE) 

➡ _________________________________________________

เฉลย:

แบบฝึกหัดที่ 1

แบบฝึกหัดที่ 2

  • 1. A

  • 2. B

  • 3. A

  • 4. C

  • 5. D

  1. I know the process of making pottery because  I was born in a craft village./ Because I was born in a craft village, I know the process of making pottery. 

  2. She wanted to leave as she was not happy at the party. 

  3. I still have to go to work although I am sick./ Although I am sick, I still have to go to work. 

  4. Tomorrow is a holiday so I have a day off work. 

  5. I left my job because my boss didn’t give me a raise./ Because my boss didn’t give me a raise, I left my job. 

บทความนี้ได้มอบความเข้าใจที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประโยคความซ้อน ซึ่งนักเรียนควรที่จะเข้าใจให้ถ่องแท้ กรุณาฝึกฝนการใช้ประโยคความซ้อนให้มาก โดยเฉพาะในการเขียน เพื่อเสริมสร้างทักษะไวยากรณ์ภาษาอังกฤษของคุณให้ดีขึ้น

PREP ช่วยให้คุณเรียนไวยากรณ์และคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้อย่างสนุกและเข้าใจง่าย ด้วยวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น Context-based Learning, Task-based Learning และ Guided Discovery
PREP ยังมี Mindmap ที่ช่วยให้คุณทบทวนและค้นหาความรู้ได้อย่างสะดวก AI จะช่วยตรวจจับข้อผิดพลาดในการออกเสียง และเป็นเพื่อนคู่ใจในการพัฒนาทักษะการออกเสียงของคุณ นอกจากนี้ วิธีการฟังและจดตามคำบอกยังช่วยเสริมคำศัพท์ใหม่ พัฒนาทักษะการฟัง และคุ้นเคยกับสำเนียงเจ้าของภาษา
ดาวน์โหลดแอป PREP วันนี้ เพื่อเริ่มเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์จากที่บ้าน
ติดต่อ HOTLINE +6624606789 หรือคลิกที่นี่เพื่อสมัครเรียนทันที!

ปริญญาโท Tu Pham
ปริญญาโท Tu Pham
ผู้ก่อตั้ง/ CEO ที่ Prep
ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มการเตรียมสอบอัจฉริยะ Prep ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในการสอนและเตรียมสอบ อาจารย์ Tu Pham ได้ช่วยให้นักเรียนหลายพันคนทำคะแนนสูงในการสอบ IELTS นอกจากนี้ อาจารย์ Tu Pham ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาในโครงการของ British Council และเป็นวิทยากรในงานและการประชุมชั้นนำทางการศึกษาหลายแห่ง
ดูเพิ่มเติม

ความคิดเห็น

0/300 อักขระ