ค้นหาบทความการศึกษา

ทำความเข้าใจโครงสร้างของ IELTS Speaking Test พร้อมเทคนิคเตรียมตัวสอบ

การสอบ IELTS ประกอบด้วย 4 ทักษะ: การฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด โดยคุณจะทำการสอบฟัง, อ่าน, และเขียนในครั้งเดียวกัน ส่วนการสอบพูดจะถูกจัดแยกออกมาในวันเดียวกันหรืออาจจะเป็นวันอื่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับศูนย์สอบ เนื่องจากการสอบพูดของ IELTS นั้นทำแยกออกมา ทาง prepedu.com จึงอยากนำเสนอข้อมูลโครงสร้างของ IELTS Speaking Test อย่างละเอียดที่สุดในบทความนี้ นอกจากนี้เรายังมีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการสอบพูด มาเริ่มกันเลย เพื่อช่วยให้คุณได้คะแนนสูง ๆ Preppies!

โครงสร้างของ IELTS Speaking Test - การเตรียมตัวและตัวอย่างคำถาม

I. แนะนำรูปแบบการสอบ IELTS
II. โครงสร้างของ IELTS Speaking Test
II. โครงสร้างของ IELTS Speaking Test Task 1
III. โครงสร้างของ IELTS Speaking Test Task 2
IV. โครงสร้างของ IELTS Speaking Test Task 3
V. สิ่งที่ควรรู้เมื่อสอบ IELTS Speaking
1. 1. ด้านจิตวิทยา
2. 2. ความประทับใจ
VI. สรุป

I. แนะนำรูปแบบการสอบ IELTS

การสอบ IELTS แบ่งออกเป็นสองรูปแบบ คือ IELTS Academic และ IELTS General Training ดังนี้:

IELTS Academic: รูปแบบนี้ใช้ประเมินผู้สมัครที่ต้องการเรียนต่อในระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า เป็นการทดสอบที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยและหลักสูตรการศึกษาขั้นสูงใช้ในการรับเข้าศึกษา
IELTS General Training: รูปแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักเพื่อศึกษาในระดับมัธยมศึกษา ฝึกอบรมวิชาชีพ หรือย้ายถิ่นฐาน

II. โครงสร้างของ IELTS Speaking Test

การสอบ IELTS Speaking ถูกออกแบบมาเพื่อประเมินความสามารถในการพูดและการสื่อสารของผู้สอบ โดยใช้เวลาประมาณ 11-14 นาที แต่ละเซสชันของการพูดจะถูกบันทึกไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้คะแนน การสอบนี้ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก โครงสร้างของ IELTS Speaking Test Academic หรือ General Training ก็จะเหมือนกันทั้งหมด คุณสามารถอ้างอิงข้อมูลต่อไปนี้เพื่อทำความเข้าใจโครงสร้างของการสอบพูดได้อย่างละเอียด:

IELTS Speaking Task 1: เป็นส่วนที่ประกอบด้วยคำถามทั่วไปเกี่ยวกับตัวผู้สอบ เช่น บ้าน, ครอบครัว, การทำงาน, งานอดิเรก, การศึกษา ฯลฯ โดยใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที
IELTS Speaking Task 2: ผู้คุมสอบจะให้ผู้สอบได้รับบัตรคำพูด (cue card) ที่มีหัวข้อหนึ่งกำหนดไว้ ผู้สอบจะมีเวลา 1 นาทีในการคิดและจดโน้ต หลังจากนั้นจะมีเวลา 2 นาทีในการพูดนำเสนอคำตอบของตนเอง
IELTS Speaking Task 3: ส่วนนี้เป็นการสนทนาเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อใน Task 2 ใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที

ข้อควรระวังในการสอบพูดคือควรหลีกเลี่ยงการพูดซ้ำๆ เพราะอาจทำให้คะแนนของคุณลดลงได้ เพื่อให้คุ้นเคยกับโครงสร้างการสอบ คุณสามารถฝึกซ้อมกับข้อสอบจริงปี 2023 ที่มีอยู่ใน "Official Collection of IELTS Speaking Test 2023"

II. โครงสร้างของ IELTS Speaking Test Task 1

ในการทดสอบ IELTS Speaking Task 1 นั้น ก่อนอื่นผู้คุมสอบจะแนะนำตัวเอง จากนั้นพวกเขาจะขอให้ผู้สอบแนะนำตัวเองและยืนยันตัวผ่านเอกสารที่ราชการออกให้ (บัตรประชาชน/บัตรพลเมือง/หนังสือเดินทาง/ใบขับขี่) นี่คือตัวอย่างคำถามที่ผู้คุมสอบอาจใช้:

Good morning, welcome to the IELTS Test conducted by IDP/ BC. (สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับสู่การทดสอบ IELTS ที่จัดโดย IDP/BC ครับ)
My name is Simon and I’m your examiner for the Speaking test today. (ผมชื่อไซมอนครับ วันนี้ผมจะเป็นผู้คุมสอบในส่วนการพูดของคุณครับ)
Can you please tell me your full name? (ช่วยบอกชื่อเต็มของคุณให้ผมทราบหน่อยได้ไหมครับ)
What is your candidate number? (หมายเลขผู้เข้าสอบของคุณคืออะไรครับ)
Can you show me your identification, please? (ช่วยแสดงบัตรประจำตัวให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ)

หลังจากการยืนยันตัวตนเสร็จสิ้นแล้ว ผู้สอบจะถูกถามคำถามทั่วไปเกี่ยวกับหัวข้อในชีวิตประจำวันที่คุ้นเคย เช่น ครอบครัว งาน การศึกษา งานอดิเรก บ้าน การขนส่ง ฯลฯ โดยผู้คุมสอบจะมุ่งเน้นการประเมินการตอบสนองอย่างรวดเร็วและคำตอบที่เป็นธรรมชาติเกี่ยวกับข้อห้อนั้น ๆ

แล้วคำถามประเภทใดบ้างที่จะอยู่ในส่วนที่ 1 ของการทดสอบ มาดูในนตารางข้างล่างนี้กันเลย!

ประเภทคำถาม	คำอธิบาย	ตัวอย่าง
คำถามเกี่ยวกับคำอธิบาย	ผู้สอบถูกถามให้อธิบายบุคคลหรือสิ่งของ	Tell me about your family (ช่วยเล่าเกี่ยวกับครอบครัวของคุณให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับ) Tell me about your hometown (เล่าเกี่ยวกับบ้านเกิดของคุณให้ผมฟังหน่อยครับ)
คำถามเกี่ยวกับความถี่	ผู้สอบถูกถามให้อธิบายเกี่ยวกับความถี่ในชีวิตประจำวัน	How often do you go to the movies? (คุณไปดูหนังบ่อยแค่ไหนครับ) How often do you eat out? (คุคุณกินข้าวนอกบ้านบ่อยแค่ไหนครับ)
คำถามเกี่ยวกับการชอบ	ผู้สอบถูกถามให้ตอบเกี่ยวกับความชอบในบางสิ่งบางอย่าง	Do you prefer eating snacks or healthy food? (คุณชอบกินขนมหรืออาหารเพื่อสุขภาพมากกว่ากันครับ) Do you prefer comfortable shoes or good-looking shoes? (คุณชอบรองเท้าที่สวมสบายหรือรองเท้าที่ดูดีมากกว่ากันครับ)
คำถามเกี่ยวกับการชอบและไม่ชอบ	ผู้สอบถูกถามให้ตอบเกี่ยวกับระดับความชอบบางอย่าง	Do you like playing sports? (คุณชอบเล่นกีฬาหรือเปล่าครับ) Do you like doing household chores? (คุณชอบทำงานบ้านไหมครับ)
คำถามเกี่ยวกับความนิยม	ผู้สอบถูกถามให้ตอบเกี่ยวกับข้อมูลเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างที่คนนิยม	Do people in your country like using public transport? (คนในประเทศของคุณชอบใช้ระบบขนส่งสาธารณะไหมครับ) Is football popular in your country? (ฟุตบอลเป็นที่นิยมในประเทศของคุณไหมครับ)
คำถามเกี่ยวกับประสบการณ์ในอดีต	ผู้สอบถูกถามให้อธิบายถึงเหตุการณ์ในอดีต	Have you ever had a present? (คุณเคยได้รับของขวัญไหมครับ) What did you like doing when you were a child? (ตอนเด็กๆ คุณชอบทำอะไรครับ)
คำถามเกี่ยวกับประสบการณ์ในอนาคต	ผู้สอบถูกถามให้อธิบายถึงเหตุการณ์ในอนาคต	Where would you like to live in the future? (ในอนาคตคุณอยากจะอยู่ที่ไหนครับ) Would you change your job in the future? (คุณคิดว่าจะเปลี่ยนงานในอนาคตไหมครับ)
คำถามประเภท 'type of'	ผู้สอบถูกถามให้เลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากหมวดหมู่หนึ่ง	What type of sports do you like? (คุณชอบกีฬาประเภทไหนครับ) What type of place do you like to live in? (คุณชอบอยู่ในสถานที่แบบไหนครับ)

หมายเหตุ: ใน Task 1 ผู้สอบจะถูกถามสูงสุด 4 คำถาม ดังนั้น ควรใช้เวลาประมาณ 20-30 วินาทีในการตอบแต่ละคำถาม และเวลารวมสำหรับส่วนนี้คือ 2-3 นาที

III. โครงสร้างของ IELTS Speaking Test Task 2

ใน Task 2 ผู้สอบจะได้รับบัตรคำพูด (cue card) เพื่อให้พูดเกี่ยวกับหัวข้อหนึ่งเป็นเวลา 2 นาที มีเวลา 1 นาทีในการคิดและจดโน้ตก่อนเริ่มพูด หลังจากพูดจบแล้ว ผู้คุมสอบอาจถามคำถามเพิ่มเติม 1-2 คำถามที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนั้นๆ

ข้อควรพิจารณาบางอย่างเพื่อตอบ IELTS Speaking Test ส่วนที่ 2 เพื่อทำคะแนนให้สูง:

ผู้สอบควรพูดอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับหัวข้อที่กำหนดบนบัตรป็นเวลา 1-2 นาที
ผู้สอบควรตอบคำถามเพิ่มเติมที่ผู้คุมสอบถามทั้งหมด คำถามเพิ่มเติมเหล่านี้จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับเนื้อหาของหัวข้อส่วนที่ 2 เพื่อช่วยให้ผู้สอบพูดตามหัวข้อและรักษาการพูดให้ไม่หลุดประเด็น
หากยังเหลือเวลา ผู้สอบสามารถขยายความคำตอบของตนโดยการอ้างถึงวัตถุหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อเหล่านั้นหลังจากตอบคำถามเพิ่มเติมที่ผู้คุมสอบถามทั้งหมดแล้ว

IV. โครงสร้างของ IELTS Speaking Test Task 3

Task 3 ของการสอบพูดจะเป็นการสนทนาเชิงลึกระหว่างผู้สอบและผู้คุมสอบ โดยผู้คุมสอบจะถามคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อใน Task 2 และเปิดโอกาสให้ผู้สอบขยายความและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

6 ประเภทของคำถามที่อาจเจอใน IELTS Speaking Task 3 มีดังนี้:

ประเภทคำถาม	คำอธิบาย	ตัวอย่าง
ความคิดเห็น	ผู้สอบต้องนำเสนอมุมมองว่าเห็นด้วย/ไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นหนึ่งๆ	Do you think cars should be banned from city centers? (คุณคิดว่าควรห้ามรถในใจกลางเมืองไหมคะ) In your opinion, do you think adults always make better decisions than children? (ตามความคิดเห็นของคุณ คุณคิดว่าผู้ใหญ่ตัดสินใจได้ดีกว่าเด็กไหมคะ)
การประเมิน	ผู้สอบต้องประเมินความเป็นไปได้/ความสำคัญ/ความจำเป็นของวัตถุ/กิจกรรมหนึ่งๆ	Why do some people enjoy eating out while others do not? (ทำไมบางคนถึงชอบกินข้าวนอกบ้านในขณะที่คนอื่นไม่ชอบคะ) Why do you think some people prefer not to go abroad on holidays? (คุณคิดว่าทำไมบางคนถึงชอบไม่ไปต่างประเทศในช่วงวันหยุดคะ)
อนาคต	ผู้สอบต้องนำเสนอมุมมองของตนเองเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือประเด็นที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต	Do you think the climate will be hotter in the future? (คุณคิดว่าในอนาคตอากาศจะร้อนขึ้นไหมคะ) What will cars look like in the future? (รถในอนาคตจะมีลักษณะอย่างไรคะ)
สาเหตุและผล	ผู้สอบต้องนำเสนอผลกระทบหรืออิทธิพลของบางอย่างที่เกิดขึ้น	What are the effects of global warming? (ผลกระทบของภาวะโลกร้อนคืออะไรคะ) How does advertising influence children? (การโฆษณามีอิทธิพลต่อเด็กอย่างไรคะ)
เปรียบเทียบและตัดขาด	ผู้สอบต้องเปรียบเทียบ และจากนั้นอธิบายความคล้ายคลึง/ความแตกต่างระหว่าง วัตถุ 2 สิ่ง หรือแนวคิด 2 ด้าน	What’s the difference between men’s and women’s conversation? (ความแตกต่างระหว่างการสนทนาของผู้ชายและผู้หญิงคืออะไรคะ) What’s the difference between films and books? (ความแตกต่างระหว่างภาพยนตร์และหนังสือคืออะไรคะ)
อดีต	ผู้สอบต้องเปรียบเทียบข้อมูลอดีตและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตามเวลา	What is the difference between the games people play now and in the past? (ความแตกต่างระหว่างเกมที่คนเล่นในปัจจุบันและในอดีตคืออะไรคะ) How has teaching changed in your country over the past few decades? (การสอนในประเทศของคุณเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาคะ)

V. สิ่งที่ควรรู้เมื่อสอบ IELTS Speaking

1. ด้านจิตวิทยา

การสอบ IELTS Speaking มีโครงสร้างที่คงที่และไม่ได้เปลี่ยนแปลง การสอบพูดจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ในขณะที่การเตรียมตัวของคุณอาจใช้เวลานานกว่ามาก สิ่งที่สำคัญคือคุณต้องตระหนักว่า คะแนนที่คุณได้รับอาจไม่สะท้อนถึงความสามารถที่แท้จริงของคุณ เนื่องจากความสามารถของคุณอาจสูงกว่าคะแนนที่ออกมาได้

คะแนนสอบของคุณได้รับอิทธิพลจากทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอก เช่น ผู้คุมสอบหรือสภาพแวดล้อมในการสอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถควบคุมได้มากนัก อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภายในคือจิตวิทยาของคุณเอง ซึ่งคุณสามารถทำความเข้าใจและควบคุมได้

เมื่อเข้าสู่การสอบจริง คุณอาจรู้สึกประหม่า วิตกกังวล หรือมีความกดดัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อการสอบของคุณได้ ดังนั้น การรักษาจิตใจให้สงบเป็นสิ่งสำคัญ ลองจินตนาการว่าคุณกำลังพูดคุยกับเพื่อนที่คุณคุ้นเคย ไม่ใช่ผู้คุมสอบ เพื่อให้การพูดของคุณเป็นธรรมชาติ ยืดหยุ่น และไม่เกร็งเกินไป

2. ความประทับใจ

การสร้างความประทับใจแรกพบเป็นสิ่งสำคัญเมื่อสอบ IELTS Speaking เมื่อคุณเข้าห้องสอบ ผู้คุมสอบจะเริ่มสังเกตคุณทันที การสร้างความประทับใจที่ดีตั้งแต่แรกจะช่วยให้การสอบของคุณผ่านไปได้ด้วยดี

ดังนั้น อย่าลืมแต่งตัวให้เรียบร้อยและเหมาะสม เลือกชุดที่ทำให้คุณรู้สึกมั่นใจ ส่งรอยยิ้มอย่างจริงใจและทักทายผู้คุมสอบด้วยความสุภาพ นอกจากนี้ การนั่งในท่าที่มั่นใจ เช่น การนั่งตัวตรง จะช่วยเสริมความมั่นใจของคุณและทำให้ผู้คุมสอบรู้สึกดีเกี่ยวกับคุณ

แม้ว่ารายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้อาจดูไม่สำคัญ แต่จริง ๆ แล้วมันสามารถสร้างความประทับใจและช่วยให้คุณได้รับการประเมินที่ดีขึ้นจากผู้คุมสอบได้

VI. สรุป

ทั้งหมดนี่คือโครงสร้างของ IELTS Speaking Test ที่ PREP อยากแบ่งปันกับคุณ อย่าลืมอ่านและทำความเข้าใจมันเพื่อให้คุณไม่ประหม่าก่อนที่จะเข้าสู่การสอบจริง ๆ

นอกจากนี้ อย่าลืมดูข้อควรรู้เพิ่มเติมเมื่อสอบ Speaking Test ที่เราแนะนำ และอ้างแผนการเตรียมสอบ IELTS บน prepedu.com ด้วย

ปริญญาโท Tu Pham

ผู้ก่อตั้ง/ CEO ที่ Prep

ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มการเตรียมสอบอัจฉริยะ Prep ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในการสอนและเตรียมสอบ อาจารย์ Tu Pham ได้ช่วยให้นักเรียนหลายพันคนทำคะแนนสูงในการสอบ IELTS นอกจากนี้ อาจารย์ Tu Pham ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาในโครงการของ British Council และเป็นวิทยากรในงานและการประชุมชั้นนำทางการศึกษาหลายแห่ง

ดูเพิ่มเติม