ค้นหาบทความการศึกษา
IELTS คือ อะไร? ทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนลงสนามสอบจริง
ในโลกที่การแข่งขันทางการศึกษาและการทำงานรุนแรงขึ้นทุกวัน การมีคะแนน IELTS ที่ดีกลายเป็นกุญแจสำคัญที่เปิดประตูสู่โอกาสระดับโลก แต่หลายคนยังไม่เข้าใจอย่างแท้จริงว่า IELTS คือ อะไร และทำไมคะแนนนี้ถึงมีความสำคัญมากขนาดนี้
ข้อสอบ IELTS คือ การทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งเป็นมาตรฐานหลักที่มหาวิทยาลัยและองค์กรชั้นนำทั่วโลกใช้ในการประเมินความพร้อมด้านภาษาอังกฤษของผู้สมัคร
การ สอบ IELTS ไม่ใช่เพียงแค่การทดสอบไวยากรณ์หรือคำศัพท์ธรรมดา แต่เป็นการประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริงอย่างครอบคลุม ตั้งแต่การฟัง การอ่าน การเขียน ไปจนถึงการพูด ซึ่งสะท้อนถึงทักษะการสื่อสารที่จำเป็นในสภาพแวดล้อมทางวิชาการและการทำงาน
สอบ IELTS คือ อะไร ที่แตกต่างจากข้อสอบอื่นๆ อยู่ที่การออกแบบให้สอดคล้องกับการใช้ภาษาอังกฤษในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนองานในห้องประชุม การเขียนรายงานทางวิชาการ หรือการสนทนาในชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุนี้ คะแนน IELTS จึงเป็นตัวชี้วัดที่น่าเชื่อถือสำหรับสถาบันการศึกษาและนายจ้างในการประเมินความสามารถด้านภาษาอังกฤษของผู้สมัคร
ปัจจุบัน สมัครสอบ IELTS กลายเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้สำหรับใครที่ต้องการก้าวเข้าสู่เวทีโลก ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำ การทำงานในบริษัทข้ามชาติ หรือการย้ายถิ่นฐานในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ
ในบทความนี้ คุณจะได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับทุกมิติของ IELTS ตั้งแต่ IELTS ย่อ มา จาก อะไร โครงสร้างการสอบทั้ง 4 ทักษะ ระบบการให้คะแนน ค่าสอบ IELTS ล่าสุด ขั้นตอนการสมัครสอบ ไปจนถึงกลยุทธ์การเตรียมตัวที่มีประสิทธิภาพ ข้อมูลที่ครบครันเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนการสอบได้อย่างมั่นใจและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
มาเริ่มต้นการเดินทางสู่ความสำเร็จในการสอบ IELTS ด้วยการทำความเข้าใจพื้นฐานที่สำคัญกันก่อน

- I. IELTS คือ อะไร?
- II. ประเภทของการสอบ IELTS
- III. เจาะลึกโครงสร้างข้อสอบ IELTS ทั้ง 4 ทักษะ (Listening, Reading, Writing, Speaking)
- IV. รู้จักระบบคะแนน IELTS Band Score เข้าใจง่ายใน 5 นาที
- V. ค่าสอบ IELTS (อัปเดตล่าสุด)
- VI. ขั้นตอนการสมัครสอบ IELTS
- VII. ถอดรหัสทักษะที่ IELTS ต้องการวัดจริงๆ
- VIII. วางแผนเตรียมตัวสอบ IELTS อย่างไรให้ได้ผล
- IX. ถาม-ตอบ ข้อสงสัยเกี่ยวกับ IELTS
I. IELTS คือ อะไร?
IELTS ย่อ มา จาก International English Language Testing System ซึ่งเป็นระบบการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล การสอบนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง British Council, IDP และ Cambridge Assessment English เพื่อวัดทักษะภาษาอังกฤษของผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง
IELTS สอบ วัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริง ไม่ใช่แค่การท่องจำไวยากรณ์หรือคำศัพท์ แต่เป็นการประเมินความสามารถในการสื่อสาร เข้าใจ และใช้ภาษาในบริบทที่หลากหลาย
องค์ประกอบหลัก |
รายละเอียด |
หน่วยงานผู้จัดสอบ |
British Council, IDP Education, Cambridge Assessment |
ระยะเวลาการสอบ |
2 ชั่วโมง 45 นาที |
จำนวนทักษะที่ทดสอบ |
4 ทักษะ (Listening, Reading, Writing, Speaking) |
ระบบการให้คะแนน |
Band Score 0-9 |
ข้อสอบ IELTS คือ เครื่องมือที่มหาวิทยาลัยและองค์กรระดับโลกใช้ในการประเมินความพร้อมด้านภาษาอังกฤษ ปัจจุบันมีสถาบันการศึกษาและองค์กรกว่า 11,000 แห่งในกว่า 140 ประเทศที่ยอมรับคะแนน IELTS
ความสำคัญของการมีคะแนน IELTS ที่ดีไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเข้าศึกษาต่อเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่โอกาสการทำงานในบริษัทข้ามชาติ การขอวีซ่าทำงาน และการย้ายถิ่นฐานในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ

II. ประเภทของการสอบ IELTS
1. IELTS Academic (AC): สำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
IELTS Academic ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอกในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ เนื้อหาของการสอบจะเน้นในเชิงวิชาการ มีการใช้คำศัพท์ทางวิชาการและโครงสร้างประโยคที่ซับซ้อนกว่า
การอ่านใน IELTS Academic จะประกอบด้วยข้อความจากวารสารวิชาการ หนังสือเรียน และสิ่งพิมพ์ทางการศึกษา ส่วนการเขียนจะต้องวิเคราะห์กราฟ แผนภูมิ และเขียนเรียงความแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่ต้องใช้การคิดเชิงวิเคราะห์
2. IELTS General Training (GT): สำหรับการทำงาน การฝึกอบรม และการย้ายถิ่นฐาน
สอบ IELTS คือ อะไร ในแบบ General Training คือการทดสอบที่มุ่งเน้นการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันและสภาพแวดล้อมการทำงาน เนื้อหาจะเป็นภาษาที่ใช้ในสังคม สื่อมวลชน และสถานที่ทำงาน
การอ่านจะประกอบด้วยป้ายประกาศ โฆษณา คู่มือการใช้งาน และบทความจากหนังสือพิมพ์ ส่วนการเขียนจะเป็นการเขียนจดหมาย อีเมล และเรียงความในหัวข้อทั่วไป
3. IELTS UKVI และ Life Skills: ข้อสอบสำหรับเงื่อนไขวีซ่าสหราชอาณาจักรโดยเฉพาะ
IELTS for UKVI (UK Visas and Immigration) เป็นการสอบที่ผ่านการรับรองพิเศษจากรัฐบาลอังกฤษสำหรับผู้ที่จะขอวีซ่าเข้าประเทศ ราคาการสอบจะสูงกว่า IELTS ทั่วไปประมาณ 20-30% เนื่องจากข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและการตรวจสอบที่เข้มงวดกว่า
IELTS Life Skills ทดสอบเฉพาะทักษะการฟังและการพูด สำหรับผู้ที่ขอวีซ่าครอบครัว การต่อวีซ่า หรือการขอสัญชาติอังกฤษ

บทความแนะนำอ่านต่อ:
- เข้าใจความแตกต่างระหว่าง IELTS Academic กับ General Training เพื่อการเลือกที่เหมาะสม
- ทำความเข้าใจโครงสร้างข้อสอบ IELTS ทั้ง Listening, Reading, Writing และ Speaking
III. เจาะลึกโครงสร้างข้อสอบ IELTS ทั้ง 4 ทักษะ (Listening, Reading, Writing, Speaking)
1. Part 1: Listening (การฟัง) - ทดสอบความเข้าใจในบริบทต่างๆ
การทดสอบการฟังใช้เวลา 30 นาทีบวกเวลาในการถ่ายทอดคำตอบอีก 10 นาที แบ่งเป็น 4 ส่วน โดยเริ่มจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการบรรยายทางวิชาการ
ส่วนที่ |
สถานการณ์ |
จำนวนคำถาม |
Section 1 |
บทสนทนาระหว่าง 2 คน (สถานการณ์ทั่วไป) |
10 ข้อ |
Section 2 |
การบรรยายของคนเดียว (ข้อมูลทั่วไป) |
10 ข้อ |
Section 3 |
บทสนทนาระหว่าง 2-4 คน (บริบททางการศึกษา) |
10 ข้อ |
Section 4 |
การบรรยายทางวิชาการของคนเดียว |
10 ข้อ |

บทความแนะนำอ่านต่อ:
2. Part 2: Reading (การอ่าน) - วัดความสามารถในการจับใจความและวิเคราะห์
การทดสอบการอ่านใช้เวลา 60 นาที ประกอบด้วยข้อความ 3 เรื่อง แต่ละเรื่องมีความยาวประมาณ 650-1,000 คำ รวม 40 คำถาม ความท้าทายไม่ได้อยู่ที่ความยากของคำศัพท์เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงเวลาที่จำกัดและความสามารถในการจับประเด็นสำคัญได้อย่างรวดเร็ว
รายการ |
Passage 1 |
Passage 2 |
Passage 3 |
ระดับความยาก |
ง่าย-ปานกลาง |
ปานกลาง |
ยาก |
จำนวนคำ |
650-750 คำ |
750-900 คำ |
900-1,000 คำ |
จำนวนคำถาม |
13-14 ข้อ |
13-14 ข้อ |
13-14 ข้อ |
เวลาแนะนำ |
18-20 นาที |
20-22 นาที |
20-22 นาที |
ประเภทข้อความ |
บทความทั่วไป |
บทความเชิงวิชาการ |
บทความวิชาการซับซ้อน |
3. Part 3: Writing (การเขียน) - ประเมินการใช้ภาษาเพื่อบรรยายและแสดงความคิดเห็น
การทดสอบการเขียนแบ่งเป็น 2 งาน ใช้เวลารวม 60 นาที Task 1 ใช้เวลา 20 นาทีในการเขียนรายงานจากข้อมูลที่ให้มา 150 คำ ส่วน Task 2 ใช้เวลา 40 นาทีในการเขียนเรียงความแสดงความคิดเห็น 250 คำ
รายการ |
Task 1 |
Task 2 |
เวลาที่ใช้ |
20 นาที |
40 นาที |
จำนวนคำ |
ไม่น้อยกว่า 150 คำ |
ไม่น้อยกว่า 250 คำ |
น้ำหนักคะแนน |
1/3 ของคะแนนรวม |
2/3 ของคะแนนรวม |
ประเภทงาน (Academic) |
อธิบายกราฟ/แผนภูมิ/แผนที่ |
เขียนเรียงความแสดงความคิดเห็น |
ประเภทงาน (General) |
เขียนจดหมาย |
เขียนเรียงความแสดงความคิดเห็น |
ทักษะที่ประเมิน |
การบรรยาย การเปรียบเทียบ |
การโต้แย้ง การวิเคราะห์ การแสดงความคิดเห็น |
ความแตกต่างที่สำคัญคือ Task 2 มีน้ำหนักคะแนนมากกว่า Task 1 ดังนั้นการจัดเวลาและคุณภาพของการเขียนใน Task 2 จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการได้คะแนนดี
4. Part 4: Speaking (การพูด) - วัดความคล่องแคล่วและการสื่อสารแบบตัวต่อตัว
การทดสอบการพูดเป็นการสนทนาตัวต่อตัวกับผู้ทดสอบเป็นเวลา 11-14 นาที แบ่งเป็น 3 ส่วน Part 1 เป็นการแนะนำตัวและตอบคำถามทั่วไปเกี่ยวกับตัวเอง Part 2 เป็นการพูดเดี่ยวในหัวข้อที่กำหนดให้ และ Part 3 เป็นการสนทนาในประเด็นที่เชื่อมโยงกับหัวข้อใน Part 2
ส่วนที่ |
ระยะเวลา |
รูปแบบ |
เนื้อหา |
วัตถุประสงค์ |
Part 1 |
4-5 นาที |
ถาม-ตอบ |
ข้อมูลส่วนตัว งานอดิเรก ความสนใจ |
วัดความสามารถในการตอบคำถามทั่วไป |
Part 2 |
3-4 นาที |
พูดเดี่ยว |
พูดตามหัวข้อที่กำหนด (2 นาที) + คำถามเพิ่มเติม |
วัดความสามารถในการพูดอย่างต่อเนื่อง |
Part 3 |
4-5 นาที |
สนทนา |
อภิปรายประเด็นเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับ Part 2 |
วัดความสามารถในการวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็น |
IV. รู้จักระบบคะแนน IELTS Band Score เข้าใจง่ายใน 5 นาที
1. การคิดคะแนนภาพรวม (Overall Band Score) และคะแนนแยกแต่ละทักษะ
ระบบคะแนน IELTS ใช้ Band Score ตั้งแต่ 0-9 โดยคะแนนจะออกเป็นทศนิยมครึ่งหน่วย เช่น 6.5, 7.0, 7.5 คะแนนภาพรวมคำนวณจากคะแนนเฉลี่ยของทั้ง 4 ทักษะ หากเศษทศนิยมต่ำกว่า 0.25 จะปัดลง หากมากกว่าหรือเท่ากับ 0.25 จะปัดขึ้น
ตัวอย่างการคิดคะแนน หากได้คะแนน Listening 6.5, Reading 6.0, Writing 6.0, Speaking 7.0 คะแนนเฉลี่ยจะเท่ากับ 6.375 ซึ่งจะได้คะแนนภาพรวม 6.5
2. ตารางเทียบระดับความสามารถตาม Band Score (Band 0-9) หมายถึงอะไร?
Band Score |
ระดับความสามารถ |
คำอธิบาย |
9 |
Expert User |
ใช้ภาษาได้อย่างเชี่ยวชาญ เข้าใจและสื่อสารได้อย่างสมบูรณ์ |
8 |
Very Good User |
ใช้ภาษาได้ดีมาก มีข้อผิดพลาดเล็กน้อยในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย |
7 |
Good User |
ใช้ภาษาได้ดี มีข้อผิดพลาดบ้างแต่สามารถจัดการกับภาษาที่ซับซ้อนได้ |
6 |
Competent User |
ใช้ภาษาได้อย่างเหมาะสม มีข้อผิดพลาดแต่เข้าใจความหมายในบริบทที่คุ้นเคย |
5 |
Modest User |
ใช้ภาษาได้บางส่วน เข้าใจความหมายโดยรวมในสถานการณ์ที่คุ้นเคย |

V. ค่าสอบ IELTS (อัปเดตล่าสุด)
1. ค่าสอบ IELTS ประเภท Academic และ General Training
ค่าสอบ IELTS ในประเทศไทยปัจจุบันอยู่ที่ 8,200 บาท สำหรับทั้ง IELTS Academic และ General Training การสอบแบบ Computer-delivered ก็ราคาเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับโอกาสที่จะได้รับ
IELTS ค่าสอบ อาจดูแพงในตอนแรก แต่เมื่อคิดถึงระยะเวลาที่คะแนนใช้ได้ (2 ปี) และโอกาสที่เปิดขึ้น การลงทุนนี้จึงถือว่าคุ้มค่ามาก การเตรียมตัวอย่างดีก่อนสอบจะช่วยให้ผ่านในครั้งแรกและประหยัดค่าใช้จ่าย
2. ค่าสอบ IELTS for UKVI และ Life Skills
สอบ IELTS ราคา สำหรับ IELTS for UKVI จะสูงกว่าการสอบทั่วไปประมาณ 1,000-1,500 บาท เนื่องจากข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและการตรวจสอบตัวตนที่เข้มงวดกว่า ส่วน IELTS Life Skills มีราคาประมาณ 6,500 บาท
ประเภทการสอบ |
ราคา (บาท) |
ความแตกต่าง |
IELTS Academic/General |
8,200 |
สำหรับการศึกษาต่อและงานทั่วไป |
IELTS for UKVI |
9,500-9,700 |
มีข้อกำหนดพิเศษสำหรับวีซ่า UK |
IELTS Life Skills A1 |
6,500 |
ทดสอบเฉพาะ Speaking & Listening |
IELTS Life Skills B1 |
6,500 |
ระดับที่สูงกว่า A1 |
VI. ขั้นตอนการสมัครสอบ IELTS
1. การเลือกศูนย์สอบ (British Council vs. IDP) และรอบสอบ
สมัครสอบ IELTS สามารถทำได้ที่ศูนย์สอบ 2 แห่งหลักในประเทศไทย คือ British Council และ IDP Education โดยทั้งสองแห่งมีมาตรฐานการจัดสอบและความน่าเชื่อถือเท่าเทียมกัน
การเลือกศูนย์สอบควรพิจารณาจากสถานที่ที่สะดวกในการเดินทาง รอบการสอบที่เหมาะสม และประสบการณ์การใช้บริการ โดยทั่วไปแล้วควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ เพราะรอบสอบยอดนิยมมักจะเต็มเร็ว
ศูนย์สอบ |
สถานที่จัดสอบในไทย |
จุดเด่น |
British Council |
กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ |
ประสบการณ์ยาวนาน บริการครบครัน |
IDP Education |
กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต |
เทคโนลัยที่ทันสมัย การจัดสอบที่ยืดหยุ่น |
ศูนย์สอบในกรุงเทพมหานคร มีให้เลือกหลากหลาย รวมถึง British Council ที่ซอยรวมฤดี และ IDP ที่อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ การเดินทางสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ส่วนศูนย์สอบในจังหวัดต่างๆ จัดสอบเป็นรอบเฉพาะตามความต้องการของผู้สมัคร
2. เอกสารที่ต้องใช้และขั้นตอนการกรอกข้อมูลออนไลน์
เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมคือบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ ข้อมูลส่วนตัวที่กรอกในใบสมัครต้องตรงกับเอกสารทุกประการ เพราะความผิดพลาดเล็กน้อยอาจส่งผลให้ไม่สามารถเข้าสอบได้
ขั้นตอนการสมัครออนไลน์ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที หลังจากกรอกข้อมูลและชำระเงินแล้ว จะได้รับอีเมลยืนยันการสมัครพร้อมรายละเอียดการสอบ การชำระเงินสามารถทำได้หลายช่องทาง รวมถึงบัตรเครดิต การโอนเงิน หรือการชำระที่เคาน์เตอร์
บริบทการสอบ IELTS ในประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้สมัครสอบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเปิดรับสมัครเรียนต่อต่างประเทศ นักศึกษาไทยส่วนใหญ่เลือกสอบ IELTS Academic เพื่อการศึกษาต่อ ขณะที่ผู้ที่ต้องการทำงานหรือย้ายถิ่นฐานจะเลือก General Training
VII. ถอดรหัสทักษะที่ IELTS ต้องการวัดจริงๆ
1. ไม่ใช่แค่ "ฟังออก" แต่คือการแยกแยะ (Distinguishing) และการอนุมาน (Inferring)
การ สอบ IELTS ในส่วนของ Listening ไม่ได้ทดสอบเพียงการได้ยินเสียงเท่านั้น แต่วัดความสามารถในการแยกแยะข้อมูลที่สำคัญจากข้อมูลรอง การจับอารมณ์และความรู้สึกของผู้พูด และการอนุมานความหมายที่ซ่อนอยู่ในบริบท
ผู้ทำสอบต้องสามารถกรองเสียงรบกวน จับคำสำคัญที่บ่งบอกทิศทางของเนื้อหา และเชื่อมโยงข้อมูลที่ได้ยินกับความรู้เดิมเพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้อง
2. ไม่ใช่แค่ "อ่านได้" แต่คือการ Skimming, Scanning และการวิเคราะห์โครงสร้างประโยค
การอ่านใน IELTS ต้องใช้เทคนิค Skimming เพื่อจับใจความโดยรวม Scanning เพื่อค้นหาข้อมูลเฉพาะ และการวิเคราะห์โครงสร้างประโยคเพื่อเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิดต่างๆ ทักษะเหล่านี้ต้องการการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจึงจะเชี่ยวชาญ
3. ไม่ใช่แค่ "เขียนเป็น" แต่คือการสร้าง Cohesion & Coherence และการใช้ Lexical Resource
การเขียนที่ได้คะแนนสูงต้องมี Cohesion (ความเชื่อมโยงระหว่างประโยค) และ Coherence (ความสอดคล้องของแนวคิด) ที่ดี รวมถึงการใช้ Lexical Resource (ทรัพยากรคำศัพท์) อย่างเหมาะสมและหลากหลาย
VIII. วางแผนเตรียมตัวสอบ IELTS อย่างไรให้ได้ผล
เรียน IELTS อย่างมีประสิทธิภาพต้องเริ่มจากการประเมินระดับปัจจุบันของตนเอง จากนั้นวางแผนการเรียนที่เหมาะสมกับเป้าหมายและเวลาที่มี การแบ่งเวลาเรียนแต่ละทักษะควรสมดุล โดยให้ความสำคัญพิเศษกับทักษะที่ตนเองอ่อนที่สุด
ระยะเวลาเตรียมตัว |
ระดับปัจจุบัน |
เป้าหมาย |
แผนการเรียน |
3-4 เดือน |
Band 5.0-5.5 |
Band 6.0-6.5 |
เน้นพื้นฐาน 2 ชั่วโมง/วัน |
6-8 เดือน |
Band 4.0-4.5 |
Band 6.0-6.5 |
สร้างพื้นฐาน 1.5 ชั่วโมง/วัน |
2-3 เดือน |
Band 6.0-6.5 |
Band 7.0+ |
ฝึกเทคนิคเฉพาะ 2-3 ชั่วโมง/วัน |
ปรากฏการณ์และแนวโน้มการสอบ IELTS ในไทย ช่วงหลังโควิด-19 การสอบแบบ Computer-delivered เป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากมีความยืดหยุ่นในการจองสอบและได้ผลเร็วกว่า ผู้เข้าสอบส่วนใหญ่ในไทยมักจะได้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ Band 5.5-6.0 โดยทักษะ Speaking และ Writing มักจะได้คะแนนต่ำกว่าทักษะอื่นๆ
สถิติจากศูนย์สอบในไทยแสดงให้เห็นว่า นักเรียนที่เตรียมตัวอย่างเป็นระบบด้วยหลักสูตรที่มีคุณภาพมักจะสามารถยกระดับคะแนนได้ 1-1.5 Band ภายในระยะเวลา 3-6 เดือน การเลือกสถาบันการสอนที่มีประสบการณ์และมีระบบการสอนที่เข้าใจในพฤติกรรมการเรียนของคนไทยจึงเป็นสิ่งสำคัญ
บทความแนะนำอ่านต่อ:
IX. ถาม-ตอบ ข้อสงสัยเกี่ยวกับ IELTS
1. สอบ IELTS ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งจริงหรือไม่?
IELTS สอบ ได้ กี่ ครั้ง คำตอบคือไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2-3 วันระหว่างการสอบแต่ละครั้ง อย่างไรก็ตาม การสอบซ้ำหลายครั้งอาจสิ้นเปลืองและไม่จำเป็น หากเตรียมตัวอย่างดีก่อนสอบครั้งแรก
2. เอกสาร TRF (Test Report Form) คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร?
TRF หรือ Test Report Form คือใบรายงานผลการสอบ IELTS ที่เป็นทางการ มีอายุ 2 ปีนับจากวันสอบ เอกสารนี้มีความสำคัญมากเพราะเป็นหลักฐานเดียวที่สถาบันการศึกษาและองค์กรต่างๆ ยอมรับ
3. การสอบ IELTS, TOEFL, และ TOEIC จัดกลุ่มตามวัตถุประสงค์การใช้งานได้อย่างไร?
IELTS what is it เมื่อเปรียบเทียบกับข้อสอบอื่นๆ IELTS และ TOEFL เหมาะสำหรับการศึกษาต่อ ส่วน TOEIC เน้นการใช้งานในสภาพแวดล้อมการทำงาน IELTS มีจุดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่นของรูปแบบและการยอมรับในหลายประเทศ
4. สอบแบบกระดาษ (Paper-based) กับ คอมพิวเตอร์ (Computer-delivered) แบบไหนดีกว่ากัน?
การสอบแบบ Computer-delivered มีข้อดีในเรื่องความสะดวกในการแก้ไขและการจัดการเวลา ส่วนการสอบแบบกระดาษเหมาะสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับการเขียนด้วยลายมือ ทั้งสองรูปแบบมีมาตรฐานการให้คะแนนเท่าเทียมกัน
การทำความเข้าใจว่า IELTS คือ อะไร เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ แต่การประสบความสำเร็จในการสอบต้องอาศัยการเตรียมตัวอย่างเป็นระบบและความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง คะแนน IELTS ที่ดีไม่ได้เกิดขึ้นในข้ามคืน แต่เป็นผลมาจากการเรียนรู้และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
แนวโน้มการใช้ IELTS ในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของโอกาสทางการศึกษาและการทำงานในระดับนานาชาติ มหาวิทยาลัยชั้นนำในไทยหลายแห่งเริ่มกำหนดให้นักศึกษาต้องมีคะแนน IELTS เป็นเงื่อนไขการสำเร็จการศึกษา บริษัทข้ามชาติก็ให้ความสำคัญกับพนักงานที่มีคะแนน IELTS ที่ดี
การลงทุนเวลาและเงินในการเตรียมสอบ IELTS จึงไม่ใช่แค่การเรียนภาษาอังกฤษ แต่เป็นการลงทุนในอนาคตของตนเองอย่างแท้จริง เมื่อได้คะแนน IELTS ตามที่ต้องการแล้ว จึงจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่า ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก การสมัครทำงานในตำแหน่งที่ต้องการ หรือการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในประเทศที่ใฝ่ฝัน
สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนสอบ IELTS ในประเทศไทย ข้อแนะนำสำคัญคือการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากรอบสอบในเดือนมีนาคม-เมษายน และสิงหาคม-กันยายน มักจะมีผู้สมัครสอบเป็นจำนวนมาก การจองล่วงหน้าและการเตรียมตัวที่เพียงพอจึงเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จ
พิชิตเส้นทางเรียน IELTS ที่บ้านกับ AI พิเศษจาก PREP! เรียนออนไลน์กับหลักสูตร IELTS คุณภาพสูง ที่รวมเทคโนโลยี AI ช่วยตรวจการบ้านอย่างละเอียดและฝึกฝนอย่างชาญฉลาด
สมัครเลยที่นี่ หรือโทร HOTLINE +6624606789 เพื่อขอคำแนะนำ! ดาวน์โหลดแอป PREP วันนี้ เพื่อสัมผัสประสบการณ์เรียนออนไลน์ที่บ้าน ช่วยให้คุณมั่นใจในการพิชิต IELTS พร้อมความช่วยเหลือจาก Teacher Bee AI ที่จะช่วยตอบทุกคำถามของคุณ!

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
บทความที่เกี่ยวข้อง
ค้นหาบทความการศึกษา
แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน
กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
