ภาษา

ค้นหาบทความการศึกษา

IELTS คือ อะไร? ทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนลงสนามสอบจริง

ในโลกที่การแข่งขันทางการศึกษาและการทำงานรุนแรงขึ้นทุกวัน การมีคะแนน IELTS ที่ดีกลายเป็นกุญแจสำคัญที่เปิดประตูสู่โอกาสระดับโลก แต่หลายคนยังไม่เข้าใจอย่างแท้จริงว่า IELTS คือ อะไร และทำไมคะแนนนี้ถึงมีความสำคัญมากขนาดนี้

ข้อสอบ IELTS คือ การทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งเป็นมาตรฐานหลักที่มหาวิทยาลัยและองค์กรชั้นนำทั่วโลกใช้ในการประเมินความพร้อมด้านภาษาอังกฤษของผู้สมัคร

การ สอบ IELTS ไม่ใช่เพียงแค่การทดสอบไวยากรณ์หรือคำศัพท์ธรรมดา แต่เป็นการประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริงอย่างครอบคลุม ตั้งแต่การฟัง การอ่าน การเขียน ไปจนถึงการพูด ซึ่งสะท้อนถึงทักษะการสื่อสารที่จำเป็นในสภาพแวดล้อมทางวิชาการและการทำงาน

สอบ IELTS คือ อะไร ที่แตกต่างจากข้อสอบอื่นๆ อยู่ที่การออกแบบให้สอดคล้องกับการใช้ภาษาอังกฤษในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนองานในห้องประชุม การเขียนรายงานทางวิชาการ หรือการสนทนาในชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุนี้ คะแนน IELTS จึงเป็นตัวชี้วัดที่น่าเชื่อถือสำหรับสถาบันการศึกษาและนายจ้างในการประเมินความสามารถด้านภาษาอังกฤษของผู้สมัคร

ปัจจุบัน สมัครสอบ IELTS กลายเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้สำหรับใครที่ต้องการก้าวเข้าสู่เวทีโลก ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำ การทำงานในบริษัทข้ามชาติ หรือการย้ายถิ่นฐานในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ

ในบทความนี้ คุณจะได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับทุกมิติของ IELTS ตั้งแต่ IELTS ย่อ มา จาก อะไร โครงสร้างการสอบทั้ง 4 ทักษะ ระบบการให้คะแนน ค่าสอบ IELTS ล่าสุด ขั้นตอนการสมัครสอบ ไปจนถึงกลยุทธ์การเตรียมตัวที่มีประสิทธิภาพ ข้อมูลที่ครบครันเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนการสอบได้อย่างมั่นใจและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

มาเริ่มต้นการเดินทางสู่ความสำเร็จในการสอบ IELTS ด้วยการทำความเข้าใจพื้นฐานที่สำคัญกันก่อน

IELTS คือ อะไร? ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการสอบ IELTS
IELTS คือ อะไร? ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการสอบ IELTS
  1. I. IELTS คือ อะไร?
  2. II. ประเภทของการสอบ IELTS
    1. 1. IELTS Academic (AC): สำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
    2. 2. IELTS General Training (GT): สำหรับการทำงาน การฝึกอบรม และการย้ายถิ่นฐาน
    3. 3. IELTS UKVI และ Life Skills: ข้อสอบสำหรับเงื่อนไขวีซ่าสหราชอาณาจักรโดยเฉพาะ
  3. III. เจาะลึกโครงสร้างข้อสอบ IELTS ทั้ง 4 ทักษะ (Listening, Reading, Writing, Speaking)
    1. 1. Part 1: Listening (การฟัง) - ทดสอบความเข้าใจในบริบทต่างๆ
    2. 2. Part 2: Reading (การอ่าน) - วัดความสามารถในการจับใจความและวิเคราะห์
    3. 3. Part 3: Writing (การเขียน) - ประเมินการใช้ภาษาเพื่อบรรยายและแสดงความคิดเห็น
    4. 4. Part 4: Speaking (การพูด) - วัดความคล่องแคล่วและการสื่อสารแบบตัวต่อตัว
  4. IV. รู้จักระบบคะแนน IELTS Band Score เข้าใจง่ายใน 5 นาที
    1. 1. การคิดคะแนนภาพรวม (Overall Band Score) และคะแนนแยกแต่ละทักษะ
    2. 2. ตารางเทียบระดับความสามารถตาม Band Score (Band 0-9) หมายถึงอะไร?
  5. V. ค่าสอบ IELTS (อัปเดตล่าสุด)
    1. 1. ค่าสอบ IELTS ประเภท Academic และ General Training
    2. 2. ค่าสอบ IELTS for UKVI และ Life Skills
  6. VI. ขั้นตอนการสมัครสอบ IELTS 
    1. 1. การเลือกศูนย์สอบ (British Council vs. IDP) และรอบสอบ
    2. 2. เอกสารที่ต้องใช้และขั้นตอนการกรอกข้อมูลออนไลน์
  7. VII. ถอดรหัสทักษะที่ IELTS ต้องการวัดจริงๆ
  8. VIII. วางแผนเตรียมตัวสอบ IELTS อย่างไรให้ได้ผล
  9. IX. ถาม-ตอบ ข้อสงสัยเกี่ยวกับ IELTS
    1. 1. สอบ IELTS ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งจริงหรือไม่?
    2. 2. เอกสาร TRF (Test Report Form) คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร?
    3. 3. การสอบ IELTS, TOEFL, และ TOEIC จัดกลุ่มตามวัตถุประสงค์การใช้งานได้อย่างไร?
    4. 4. สอบแบบกระดาษ (Paper-based) กับ คอมพิวเตอร์ (Computer-delivered) แบบไหนดีกว่ากัน?

I. IELTS คือ อะไร?

IELTS ย่อ มา จาก International English Language Testing System ซึ่งเป็นระบบการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล การสอบนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง British Council, IDP และ Cambridge Assessment English เพื่อวัดทักษะภาษาอังกฤษของผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง

IELTS สอบ วัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริง ไม่ใช่แค่การท่องจำไวยากรณ์หรือคำศัพท์ แต่เป็นการประเมินความสามารถในการสื่อสาร เข้าใจ และใช้ภาษาในบริบทที่หลากหลาย

องค์ประกอบหลัก

รายละเอียด

หน่วยงานผู้จัดสอบ

British Council, IDP Education, Cambridge Assessment

ระยะเวลาการสอบ

2 ชั่วโมง 45 นาที

จำนวนทักษะที่ทดสอบ

4 ทักษะ (Listening, Reading, Writing, Speaking)

ระบบการให้คะแนน

Band Score 0-9

ข้อสอบ IELTS คือ เครื่องมือที่มหาวิทยาลัยและองค์กรระดับโลกใช้ในการประเมินความพร้อมด้านภาษาอังกฤษ ปัจจุบันมีสถาบันการศึกษาและองค์กรกว่า 11,000 แห่งในกว่า 140 ประเทศที่ยอมรับคะแนน IELTS

ความสำคัญของการมีคะแนน IELTS ที่ดีไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเข้าศึกษาต่อเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่โอกาสการทำงานในบริษัทข้ามชาติ การขอวีซ่าทำงาน และการย้ายถิ่นฐานในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ

IELTS คือ อะไร? ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการสอบ IELTS
องค์ประกอบหลัก  IELTS

II. ประเภทของการสอบ IELTS

1. IELTS Academic (AC): สำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา

IELTS Academic ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอกในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ เนื้อหาของการสอบจะเน้นในเชิงวิชาการ มีการใช้คำศัพท์ทางวิชาการและโครงสร้างประโยคที่ซับซ้อนกว่า

การอ่านใน IELTS Academic จะประกอบด้วยข้อความจากวารสารวิชาการ หนังสือเรียน และสิ่งพิมพ์ทางการศึกษา ส่วนการเขียนจะต้องวิเคราะห์กราฟ แผนภูมิ และเขียนเรียงความแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่ต้องใช้การคิดเชิงวิเคราะห์

2. IELTS General Training (GT): สำหรับการทำงาน การฝึกอบรม และการย้ายถิ่นฐาน

สอบ IELTS คือ อะไร ในแบบ General Training คือการทดสอบที่มุ่งเน้นการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันและสภาพแวดล้อมการทำงาน เนื้อหาจะเป็นภาษาที่ใช้ในสังคม สื่อมวลชน และสถานที่ทำงาน

การอ่านจะประกอบด้วยป้ายประกาศ โฆษณา คู่มือการใช้งาน และบทความจากหนังสือพิมพ์ ส่วนการเขียนจะเป็นการเขียนจดหมาย อีเมล และเรียงความในหัวข้อทั่วไป

3. IELTS UKVI และ Life Skills: ข้อสอบสำหรับเงื่อนไขวีซ่าสหราชอาณาจักรโดยเฉพาะ

IELTS for UKVI (UK Visas and Immigration) เป็นการสอบที่ผ่านการรับรองพิเศษจากรัฐบาลอังกฤษสำหรับผู้ที่จะขอวีซ่าเข้าประเทศ ราคาการสอบจะสูงกว่า IELTS ทั่วไปประมาณ 20-30% เนื่องจากข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและการตรวจสอบที่เข้มงวดกว่า

IELTS Life Skills ทดสอบเฉพาะทักษะการฟังและการพูด สำหรับผู้ที่ขอวีซ่าครอบครัว การต่อวีซ่า หรือการขอสัญชาติอังกฤษ

IELTS คือ อะไร? ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการสอบ IELTS
ประเภทของการสอบ IELTS

บทความแนะนำอ่านต่อ:

III. เจาะลึกโครงสร้างข้อสอบ IELTS ทั้ง 4 ทักษะ (Listening, Reading, Writing, Speaking)

1. Part 1: Listening (การฟัง) - ทดสอบความเข้าใจในบริบทต่างๆ

การทดสอบการฟังใช้เวลา 30 นาทีบวกเวลาในการถ่ายทอดคำตอบอีก 10 นาที แบ่งเป็น 4 ส่วน โดยเริ่มจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการบรรยายทางวิชาการ

ส่วนที่

สถานการณ์

จำนวนคำถาม

Section 1

บทสนทนาระหว่าง 2 คน (สถานการณ์ทั่วไป)

10 ข้อ

Section 2

การบรรยายของคนเดียว (ข้อมูลทั่วไป)

10 ข้อ

Section 3

บทสนทนาระหว่าง 2-4 คน (บริบททางการศึกษา)

10 ข้อ

Section 4

การบรรยายทางวิชาการของคนเดียว

10 ข้อ

IELTS คือ อะไร? ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการสอบ IELTS
โครงสร้างข้อสอบ  Listening

บทความแนะนำอ่านต่อ:

2. Part 2: Reading (การอ่าน) - วัดความสามารถในการจับใจความและวิเคราะห์

การทดสอบการอ่านใช้เวลา 60 นาที ประกอบด้วยข้อความ 3 เรื่อง แต่ละเรื่องมีความยาวประมาณ 650-1,000 คำ รวม 40 คำถาม ความท้าทายไม่ได้อยู่ที่ความยากของคำศัพท์เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงเวลาที่จำกัดและความสามารถในการจับประเด็นสำคัญได้อย่างรวดเร็ว

รายการ

Passage 1

Passage 2

Passage 3

ระดับความยาก

ง่าย-ปานกลาง

ปานกลาง

ยาก

จำนวนคำ

650-750 คำ

750-900 คำ

900-1,000 คำ

จำนวนคำถาม

13-14 ข้อ

13-14 ข้อ

13-14 ข้อ

เวลาแนะนำ

18-20 นาที

20-22 นาที

20-22 นาที

ประเภทข้อความ

บทความทั่วไป

บทความเชิงวิชาการ

บทความวิชาการซับซ้อน

3. Part 3: Writing (การเขียน) - ประเมินการใช้ภาษาเพื่อบรรยายและแสดงความคิดเห็น

การทดสอบการเขียนแบ่งเป็น 2 งาน ใช้เวลารวม 60 นาที Task 1 ใช้เวลา 20 นาทีในการเขียนรายงานจากข้อมูลที่ให้มา 150 คำ ส่วน Task 2 ใช้เวลา 40 นาทีในการเขียนเรียงความแสดงความคิดเห็น 250 คำ

รายการ

Task 1

Task 2

เวลาที่ใช้

20 นาที

40 นาที

จำนวนคำ

ไม่น้อยกว่า 150 คำ

ไม่น้อยกว่า 250 คำ

น้ำหนักคะแนน

1/3 ของคะแนนรวม

2/3 ของคะแนนรวม

ประเภทงาน (Academic)

อธิบายกราฟ/แผนภูมิ/แผนที่

เขียนเรียงความแสดงความคิดเห็น

ประเภทงาน (General)

เขียนจดหมาย

เขียนเรียงความแสดงความคิดเห็น

ทักษะที่ประเมิน

การบรรยาย การเปรียบเทียบ

การโต้แย้ง การวิเคราะห์ การแสดงความคิดเห็น

ความแตกต่างที่สำคัญคือ Task 2 มีน้ำหนักคะแนนมากกว่า Task 1 ดังนั้นการจัดเวลาและคุณภาพของการเขียนใน Task 2 จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการได้คะแนนดี

4. Part 4: Speaking (การพูด) - วัดความคล่องแคล่วและการสื่อสารแบบตัวต่อตัว

การทดสอบการพูดเป็นการสนทนาตัวต่อตัวกับผู้ทดสอบเป็นเวลา 11-14 นาที แบ่งเป็น 3 ส่วน Part 1 เป็นการแนะนำตัวและตอบคำถามทั่วไปเกี่ยวกับตัวเอง Part 2 เป็นการพูดเดี่ยวในหัวข้อที่กำหนดให้ และ Part 3 เป็นการสนทนาในประเด็นที่เชื่อมโยงกับหัวข้อใน Part 2

ส่วนที่

ระยะเวลา

รูปแบบ

เนื้อหา

วัตถุประสงค์

Part 1

4-5 นาที

ถาม-ตอบ

ข้อมูลส่วนตัว งานอดิเรก ความสนใจ

วัดความสามารถในการตอบคำถามทั่วไป

Part 2

3-4 นาที

พูดเดี่ยว

พูดตามหัวข้อที่กำหนด (2 นาที) + คำถามเพิ่มเติม

วัดความสามารถในการพูดอย่างต่อเนื่อง

Part 3

4-5 นาที

สนทนา

อภิปรายประเด็นเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับ Part 2

วัดความสามารถในการวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็น

IV. รู้จักระบบคะแนน IELTS Band Score เข้าใจง่ายใน 5 นาที

1. การคิดคะแนนภาพรวม (Overall Band Score) และคะแนนแยกแต่ละทักษะ

ระบบคะแนน IELTS ใช้ Band Score ตั้งแต่ 0-9 โดยคะแนนจะออกเป็นทศนิยมครึ่งหน่วย เช่น 6.5, 7.0, 7.5 คะแนนภาพรวมคำนวณจากคะแนนเฉลี่ยของทั้ง 4 ทักษะ หากเศษทศนิยมต่ำกว่า 0.25 จะปัดลง หากมากกว่าหรือเท่ากับ 0.25 จะปัดขึ้น

ตัวอย่างการคิดคะแนน หากได้คะแนน Listening 6.5, Reading 6.0, Writing 6.0, Speaking 7.0 คะแนนเฉลี่ยจะเท่ากับ 6.375 ซึ่งจะได้คะแนนภาพรวม 6.5

2. ตารางเทียบระดับความสามารถตาม Band Score (Band 0-9) หมายถึงอะไร?

Band Score

ระดับความสามารถ

คำอธิบาย

9

Expert User

ใช้ภาษาได้อย่างเชี่ยวชาญ เข้าใจและสื่อสารได้อย่างสมบูรณ์

8

Very Good User

ใช้ภาษาได้ดีมาก มีข้อผิดพลาดเล็กน้อยในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย

7

Good User

ใช้ภาษาได้ดี มีข้อผิดพลาดบ้างแต่สามารถจัดการกับภาษาที่ซับซ้อนได้

6

Competent User

ใช้ภาษาได้อย่างเหมาะสม มีข้อผิดพลาดแต่เข้าใจความหมายในบริบทที่คุ้นเคย

5

Modest User

ใช้ภาษาได้บางส่วน เข้าใจความหมายโดยรวมในสถานการณ์ที่คุ้นเคย

IELTS คือ อะไร? ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการสอบ IELTS
ตารางเทียบระดับความสามารถตาม Band Score

V. ค่าสอบ IELTS (อัปเดตล่าสุด)

1. ค่าสอบ IELTS ประเภท Academic และ General Training

ค่าสอบ IELTS ในประเทศไทยปัจจุบันอยู่ที่ 8,200 บาท สำหรับทั้ง IELTS Academic และ General Training การสอบแบบ Computer-delivered ก็ราคาเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับโอกาสที่จะได้รับ

IELTS ค่าสอบ อาจดูแพงในตอนแรก แต่เมื่อคิดถึงระยะเวลาที่คะแนนใช้ได้ (2 ปี) และโอกาสที่เปิดขึ้น การลงทุนนี้จึงถือว่าคุ้มค่ามาก การเตรียมตัวอย่างดีก่อนสอบจะช่วยให้ผ่านในครั้งแรกและประหยัดค่าใช้จ่าย

2. ค่าสอบ IELTS for UKVI และ Life Skills

สอบ IELTS ราคา สำหรับ IELTS for UKVI จะสูงกว่าการสอบทั่วไปประมาณ 1,000-1,500 บาท เนื่องจากข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและการตรวจสอบตัวตนที่เข้มงวดกว่า ส่วน IELTS Life Skills มีราคาประมาณ 6,500 บาท

ประเภทการสอบ

ราคา (บาท)

ความแตกต่าง

IELTS Academic/General

8,200

สำหรับการศึกษาต่อและงานทั่วไป

IELTS for UKVI

9,500-9,700

มีข้อกำหนดพิเศษสำหรับวีซ่า UK

IELTS Life Skills A1

6,500

ทดสอบเฉพาะ Speaking & Listening

IELTS Life Skills B1

6,500

ระดับที่สูงกว่า A1

VI. ขั้นตอนการสมัครสอบ IELTS 

1. การเลือกศูนย์สอบ (British Council vs. IDP) และรอบสอบ

สมัครสอบ IELTS สามารถทำได้ที่ศูนย์สอบ 2 แห่งหลักในประเทศไทย คือ British Council และ IDP Education โดยทั้งสองแห่งมีมาตรฐานการจัดสอบและความน่าเชื่อถือเท่าเทียมกัน

การเลือกศูนย์สอบควรพิจารณาจากสถานที่ที่สะดวกในการเดินทาง รอบการสอบที่เหมาะสม และประสบการณ์การใช้บริการ โดยทั่วไปแล้วควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ เพราะรอบสอบยอดนิยมมักจะเต็มเร็ว

ศูนย์สอบ

สถานที่จัดสอบในไทย

จุดเด่น

British Council

กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่

ประสบการณ์ยาวนาน บริการครบครัน

IDP Education

กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต

เทคโนลัยที่ทันสมัย การจัดสอบที่ยืดหยุ่น

ศูนย์สอบในกรุงเทพมหานคร มีให้เลือกหลากหลาย รวมถึง British Council ที่ซอยรวมฤดี และ IDP ที่อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ การเดินทางสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ส่วนศูนย์สอบในจังหวัดต่างๆ จัดสอบเป็นรอบเฉพาะตามความต้องการของผู้สมัคร

2. เอกสารที่ต้องใช้และขั้นตอนการกรอกข้อมูลออนไลน์

เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมคือบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ ข้อมูลส่วนตัวที่กรอกในใบสมัครต้องตรงกับเอกสารทุกประการ เพราะความผิดพลาดเล็กน้อยอาจส่งผลให้ไม่สามารถเข้าสอบได้

ขั้นตอนการสมัครออนไลน์ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที หลังจากกรอกข้อมูลและชำระเงินแล้ว จะได้รับอีเมลยืนยันการสมัครพร้อมรายละเอียดการสอบ การชำระเงินสามารถทำได้หลายช่องทาง รวมถึงบัตรเครดิต การโอนเงิน หรือการชำระที่เคาน์เตอร์

บริบทการสอบ IELTS ในประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้สมัครสอบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเปิดรับสมัครเรียนต่อต่างประเทศ นักศึกษาไทยส่วนใหญ่เลือกสอบ IELTS Academic เพื่อการศึกษาต่อ ขณะที่ผู้ที่ต้องการทำงานหรือย้ายถิ่นฐานจะเลือก General Training

VII. ถอดรหัสทักษะที่ IELTS ต้องการวัดจริงๆ

1. ไม่ใช่แค่ "ฟังออก" แต่คือการแยกแยะ (Distinguishing) และการอนุมาน (Inferring)

การ สอบ IELTS ในส่วนของ Listening ไม่ได้ทดสอบเพียงการได้ยินเสียงเท่านั้น แต่วัดความสามารถในการแยกแยะข้อมูลที่สำคัญจากข้อมูลรอง การจับอารมณ์และความรู้สึกของผู้พูด และการอนุมานความหมายที่ซ่อนอยู่ในบริบท

ผู้ทำสอบต้องสามารถกรองเสียงรบกวน จับคำสำคัญที่บ่งบอกทิศทางของเนื้อหา และเชื่อมโยงข้อมูลที่ได้ยินกับความรู้เดิมเพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้อง

2. ไม่ใช่แค่ "อ่านได้" แต่คือการ Skimming, Scanning และการวิเคราะห์โครงสร้างประโยค

การอ่านใน IELTS ต้องใช้เทคนิค Skimming เพื่อจับใจความโดยรวม Scanning เพื่อค้นหาข้อมูลเฉพาะ และการวิเคราะห์โครงสร้างประโยคเพื่อเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิดต่างๆ ทักษะเหล่านี้ต้องการการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจึงจะเชี่ยวชาญ

3. ไม่ใช่แค่ "เขียนเป็น" แต่คือการสร้าง Cohesion & Coherence และการใช้ Lexical Resource

การเขียนที่ได้คะแนนสูงต้องมี Cohesion (ความเชื่อมโยงระหว่างประโยค) และ Coherence (ความสอดคล้องของแนวคิด) ที่ดี รวมถึงการใช้ Lexical Resource (ทรัพยากรคำศัพท์) อย่างเหมาะสมและหลากหลาย

VIII. วางแผนเตรียมตัวสอบ IELTS อย่างไรให้ได้ผล

เรียน IELTS อย่างมีประสิทธิภาพต้องเริ่มจากการประเมินระดับปัจจุบันของตนเอง จากนั้นวางแผนการเรียนที่เหมาะสมกับเป้าหมายและเวลาที่มี การแบ่งเวลาเรียนแต่ละทักษะควรสมดุล โดยให้ความสำคัญพิเศษกับทักษะที่ตนเองอ่อนที่สุด

ระยะเวลาเตรียมตัว

ระดับปัจจุบัน

เป้าหมาย

แผนการเรียน

3-4 เดือน

Band 5.0-5.5

Band 6.0-6.5

เน้นพื้นฐาน 2 ชั่วโมง/วัน

6-8 เดือน

Band 4.0-4.5

Band 6.0-6.5

สร้างพื้นฐาน 1.5 ชั่วโมง/วัน

2-3 เดือน

Band 6.0-6.5

Band 7.0+

ฝึกเทคนิคเฉพาะ 2-3 ชั่วโมง/วัน

ปรากฏการณ์และแนวโน้มการสอบ IELTS ในไทย ช่วงหลังโควิด-19 การสอบแบบ Computer-delivered เป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากมีความยืดหยุ่นในการจองสอบและได้ผลเร็วกว่า ผู้เข้าสอบส่วนใหญ่ในไทยมักจะได้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ Band 5.5-6.0 โดยทักษะ Speaking และ Writing มักจะได้คะแนนต่ำกว่าทักษะอื่นๆ

สถิติจากศูนย์สอบในไทยแสดงให้เห็นว่า นักเรียนที่เตรียมตัวอย่างเป็นระบบด้วยหลักสูตรที่มีคุณภาพมักจะสามารถยกระดับคะแนนได้ 1-1.5 Band ภายในระยะเวลา 3-6 เดือน การเลือกสถาบันการสอนที่มีประสบการณ์และมีระบบการสอนที่เข้าใจในพฤติกรรมการเรียนของคนไทยจึงเป็นสิ่งสำคัญ

บทความแนะนำอ่านต่อ:

IX. ถาม-ตอบ ข้อสงสัยเกี่ยวกับ IELTS

1. สอบ IELTS ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งจริงหรือไม่?

IELTS สอบ ได้ กี่ ครั้ง คำตอบคือไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2-3 วันระหว่างการสอบแต่ละครั้ง อย่างไรก็ตาม การสอบซ้ำหลายครั้งอาจสิ้นเปลืองและไม่จำเป็น หากเตรียมตัวอย่างดีก่อนสอบครั้งแรก

2. เอกสาร TRF (Test Report Form) คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร?

TRF หรือ Test Report Form คือใบรายงานผลการสอบ IELTS ที่เป็นทางการ มีอายุ 2 ปีนับจากวันสอบ เอกสารนี้มีความสำคัญมากเพราะเป็นหลักฐานเดียวที่สถาบันการศึกษาและองค์กรต่างๆ ยอมรับ

3. การสอบ IELTS, TOEFL, และ TOEIC จัดกลุ่มตามวัตถุประสงค์การใช้งานได้อย่างไร?

IELTS what is it เมื่อเปรียบเทียบกับข้อสอบอื่นๆ IELTS และ TOEFL เหมาะสำหรับการศึกษาต่อ ส่วน TOEIC เน้นการใช้งานในสภาพแวดล้อมการทำงาน IELTS มีจุดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่นของรูปแบบและการยอมรับในหลายประเทศ

4. สอบแบบกระดาษ (Paper-based) กับ คอมพิวเตอร์ (Computer-delivered) แบบไหนดีกว่ากัน?

การสอบแบบ Computer-delivered มีข้อดีในเรื่องความสะดวกในการแก้ไขและการจัดการเวลา ส่วนการสอบแบบกระดาษเหมาะสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับการเขียนด้วยลายมือ ทั้งสองรูปแบบมีมาตรฐานการให้คะแนนเท่าเทียมกัน

การทำความเข้าใจว่า IELTS คือ อะไร เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ แต่การประสบความสำเร็จในการสอบต้องอาศัยการเตรียมตัวอย่างเป็นระบบและความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง คะแนน IELTS ที่ดีไม่ได้เกิดขึ้นในข้ามคืน แต่เป็นผลมาจากการเรียนรู้และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ

แนวโน้มการใช้ IELTS ในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของโอกาสทางการศึกษาและการทำงานในระดับนานาชาติ มหาวิทยาลัยชั้นนำในไทยหลายแห่งเริ่มกำหนดให้นักศึกษาต้องมีคะแนน IELTS เป็นเงื่อนไขการสำเร็จการศึกษา บริษัทข้ามชาติก็ให้ความสำคัญกับพนักงานที่มีคะแนน IELTS ที่ดี

การลงทุนเวลาและเงินในการเตรียมสอบ IELTS จึงไม่ใช่แค่การเรียนภาษาอังกฤษ แต่เป็นการลงทุนในอนาคตของตนเองอย่างแท้จริง เมื่อได้คะแนน IELTS ตามที่ต้องการแล้ว จึงจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่า ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก การสมัครทำงานในตำแหน่งที่ต้องการ หรือการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในประเทศที่ใฝ่ฝัน

สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนสอบ IELTS ในประเทศไทย ข้อแนะนำสำคัญคือการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากรอบสอบในเดือนมีนาคม-เมษายน และสิงหาคม-กันยายน มักจะมีผู้สมัครสอบเป็นจำนวนมาก การจองล่วงหน้าและการเตรียมตัวที่เพียงพอจึงเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จ

พิชิตเส้นทางเรียน IELTS ที่บ้านกับ AI พิเศษจาก PREP! เรียนออนไลน์กับหลักสูตร IELTS คุณภาพสูง ที่รวมเทคโนโลยี AI ช่วยตรวจการบ้านอย่างละเอียดและฝึกฝนอย่างชาญฉลาด 
สมัครเลยที่นี่ หรือโทร HOTLINE +6624606789 เพื่อขอคำแนะนำ! ดาวน์โหลดแอป PREP วันนี้ เพื่อสัมผัสประสบการณ์เรียนออนไลน์ที่บ้าน ช่วยให้คุณมั่นใจในการพิชิต IELTS พร้อมความช่วยเหลือจาก Teacher Bee AI ที่จะช่วยตอบทุกคำถามของคุณ!

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 ตัวอักษร
Loading...
เข้าสู่ระบบ
เพื่อสัมผัสเนื้อหาพรีเมียมที่ปรับให้เหมาะกับคุณ

เนื้อหาแบบพรีเมียมเนื้อหาแบบพรีเมียม

ดูทั้งหมด

แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล

TH30

อ่านมากที่สุด

ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน

กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

bg contact

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล

facebookyoutubeinstagram
logo footer Prep
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
get prep on Google Playget Prep on app store
หลักสูตร
เชื่อมต่อกับเรา
mail icon - footerfacebook icon - footer
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย