รวมประเภทและตัวอย่างคำนามภาษาอังกฤษเข้าใจง่าย

ทุกประโยคภาษาอังกฤษที่คุณพูดหรือเขียนล้วนมี "คำนาม" เป็นองค์ประกอบสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ หรือแม้แต่ความรู้สึกและแนวคิด หากไม่เข้าใจคำนามภาษาอังกฤษ อย่างถูกต้อง คุณอาจใช้ a/an ผิด ทำคำนามเป็นพหูพจน์ไม่ถูก หรือสร้างประโยคที่ไม่สมบูรณ์ นี่คือเหตุผลว่าทำไมการเรียนรู้คำนามอย่างเป็นระบบจึงเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยยกระดับทักษะภาษาอังกฤษของคุณ

บทความนี้จะอธิบาย คำนามภาษาอังกฤษ คือ อะไร noun คือ ส่วนประกอบใด คำนามภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้าง พร้อมตัวอย่างประโยค noun ที่ครอบคลุมทุกประเภท รวมถึงnoun แปล ว่าอะไรและใช้อย่างไรให้ถูกต้อง

คำ นาม noun เป็นมากกว่าแค่การเรียกชื่อสิ่งต่างๆ แต่เป็นหัวใจของการสร้างความหมายในประโยค ไม่ว่าคุณจะพูดถึงสิ่งที่จับต้องได้อย่าง "หนังสือ" "รถยนต์" หรือสิ่งที่จับต้องไม่ได้อย่าง "ความรัก" "อิสรภาพ" ล้วนเป็นคำนามทั้งสิ้น การเข้าใจว่าคำ noun มี อะไร บ้าง จะช่วยให้คุณใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างแม่นยำและหลากหลายมากขึ้น

ความท้าทายหลักของการเรียนรู้คำนามคือการแยกประเภทและเข้าใจกฎการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น คำนามนับได้ต้องใช้ a/an หรือเปลี่ยนเป็นพหูพจน์ ขณะที่คำนามนับไม่ได้ไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ การสร้างพหูพจน์ก็มีหลายกฎที่ต้องจำ ตั้งแต่การเติม -s ธรรมดาไปจนถึง irregular forms ที่ต้องท่องจำเป็นพิเศษ

การรู้จักคำนามแต่ละประเภทยังช่วยในการเลือกใช้ articles (a, an, the) ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นจุดที่ผู้เรียนชาวไทยมักผิดพลาดบ่อยครั้ง ความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับคำนามจะช่วยให้คุณสื่อสารได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการเขียนเรียงความ การนำเสนอ หรือการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษอย่าง IELTS และ TOEIC ที่ต้องการความแม่นยำทางไวยากรณ์สูง

ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้ประเภทของคำนามทั้งหมด ตั้งแต่ proper nouns, common nouns, countable และ uncountable nouns กฎการสร้างพหูพจน์ การใช้ articles ตัวอย่างประโยคที่หลากหลาย และแบบฝึกหัดเพื่อเสริมความเข้าใจอย่างแท้จริง

มาเริ่มต้นเรียนรู้คำนามภาษาอังกฤษอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คุณสร้างประโยคได้อย่างถูกต้องและสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์

  1. I. คํานามภาษาอังกฤษคืออะไร?
  2. II. ประเภทของคํานามภาษาอังกฤษ
    1. 1. คำนามทั่วไป vs คำนามเฉพาะ
    2. 2. Common Nouns (คำนามทั่วไป)
    3. 3. คำนามนับได้ vs นับไม่ได้
    4. 4. Concrete Nouns (คำนามรูปธรรม)
    5. 4. Abstract Nouns (คำนามนามธรรม)
    6. 5. คำนามกลุ่ม (Collective Nouns)
    7. 6. คำนามประสม (Compound Nouns)
  3. III. การใช้คำนามในประโยค
    1. 1. คำนามทำหน้าที่เป็นประธาน (Subject)
    2. 2. คำนามทำหน้าที่เป็นกรรม (Object)
    3. 3. คำนามทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็ม (Complement)
    4. 4. คำนามทำหน้าที่แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive)
    5. 5. การสร้างคำนามพหูพจน์
  4. IV. เทคนิคการใช้ให้ถูกต้อง
    1. 1. การใช้ Article (a, an, the)
    2. 2. การใช้ Quantifiers (คำบอกปริมาณ)
    3. 3. การแสดงความเป็นเจ้าของ
  5. V. ความรู้ขั้นสูงเกี่ยวกับคํานามภาษาอังกฤษ
    1. 1. การสร้างคำนามจากคำอื่น (Nominalization)
    2. 2. Gerunds และ Infinitives เป็นคำนาม
    3. 3. Noun Clauses (อนุประโยคนาม)
    4. 4. คำนามที่เปลี่ยนความหมายตามบริบท
คำนามภาษาอังกฤษ คืออะไร? สอนใช้คำนามง่ายๆ สำหรับมือใหม่
คำนามภาษาอังกฤษ คืออะไร? สอนใช้คำนามง่ายๆ สำหรับมือใหม่

I. คํานามภาษาอังกฤษคืออะไร?

Noun คือ คํานามภาษาอังกฤษหรือคำที่ใช้เรียกชื่อบุคคล สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ความคิด ความรู้สึก หรือแนวคิดที่เป็นนามธรรม คำนามเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สุดในประโยคภาษาอังกฤษ ทำหน้าที่เป็นประธาน กรรม หรือส่วนเติมเต็มในประโยค

ความหมายและหน้าที่คํานามภาษาอังกฤษ:

คำ นาม noun ทำหน้าที่สำคัญในประโยค ได้แก่:

  • ประธาน (Subject): บอกว่าใครหรืออะไรทำกริยา
  • กรรม (Object): บอกว่าประธานกระทำต่อใครหรืออะไร
  • ส่วนเติมเต็ม (Complement): อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประธาน

ตัวอย่างคํานามภาษาอังกฤษ:

  • Dog is an animal. (สุนัขเป็นสัตว์ - dog เป็นประธาน)
  • I love music. (ฉันรักดนตรี - music เป็นกรรม)
  • She is a teacher. (เธอเป็นครู - teacher เป็นส่วนเติมเต็ม)

Noun แปล ว่า "คำนาม" ในภาษาไทย ซึ่งเป็นชนิดของคำที่มีความสำคัญมากที่สุดในการสร้างประโยค

II. ประเภทของคํานามภาษาอังกฤษ

คำ noun มี อะไร บ้าง นั้นแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะและการใช้งาน การเข้าใจประเภทต่างๆ จะช่วยให้ใช้คำนามได้อย่างถูกต้อง

1. คำนามทั่วไป vs คำนามเฉพาะ

Proper nouns คือคำนามที่ใช้เรียกชื่อเฉพาะของบุคคล สถานที่ องค์กร หรือสิ่งต่างๆ ที่มีชื่อเฉพาะ เขียนขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ

ประเภทของ Proper Nouns:

ประเภท

ตัวอย่าง

ความหมาย

ชื่อคน

John, Mary, Michael Jackson

จอห์น, แมรี่, ไมเคิล แจ็คสัน

ชื่อประเทศ

Thailand, Japan, United States

ประเทศไทย, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา

ชื่อเมือง

Bangkok, London, New York

กรุงเทพฯ, ลอนดอน, นิวยอร์ก

ชื่อภูเขา

Mount Everest, Doi Inthanon

ยอดเขาเอเวอเรสต์, ดอยอินทนนท์

ชื่อแม่น้ำ

Chao Phraya River, Thames River

แม่น้ำเจ้าพระยา, แม่น้ำเทมส์

ชื่อบริษัท

Apple, Microsoft, Google

แอปเปิล, ไมโครซอฟท์, กูเกิล

ชื่อโรงเรียน

Harvard University, MIT

มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด, เอ็มไอที

ชื่อวัน

Monday, Tuesday, Friday

วันจันทร์, วันอังคาร, วันศุกร์

ชื่อเดือน

January, July, December

มกราคม, กรกฎาคม, ธันวาคม

ชื่อเทศกาล

Christmas, Songkran, Diwali

คริสต์มาส, สงกรานต์, ดิวาลี

ตัวอย่างประโยค:

  • Bangkok is the capital of Thailand. (กรุงเทพฯ คือเมืองหลวงของประเทศไทย)

  • I met Susan at the mall yesterday. (เมื่อวานฉันพบซูซานที่ห้างสรรพสินค้า)

  • Mount Fuji is a famous mountain in Japan. (ภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น)

  • She works for Apple. (เธอทำงานให้กับบริษัทแอปเปิล)

2. Common Nouns (คำนามทั่วไป)

Common nouns คือคํานามภาษาอังกฤษที่ใช้เรียกชื่อทั่วไปของคน สัตว์ สิ่งของ หรือสถานที่ ไม่เฉพาะเจาะจง เขียนด้วยตัวพิมพ์เล็ก

ตัวอย่าง Common Nouns:

หมวดหมู่

ตัวอย่าง

ความหมาย

คน

teacher, doctor, student, engineer

ครู, หมอ, นักเรียน, วิศวกร

สัตว์

dog, cat, bird, elephant

สุนัข, แมว, นก, ช้าง

สิ่งของ

book, table, chair, phone

หนังสือ, โต๊ะ, เก้าอี้, โทรศัพท์

สถานที่

school, hospital, park, restaurant

โรงเรียน, โรงพยาบาล, สวนสาธารณะ, ร้านอาหาร

อาหาร

rice, bread, fruit, vegetables

ข้าว, ขนมปัง, ผลไม้, ผัก

เครื่องดื่ม

water, coffee, tea, juice

น้ำ, กาแฟ, ชา, น้ำผลไม้

ตัวอย่างประโยค:

  • The teacher is explaining the lesson. (ครูกำลังอธิบายบทเรียน)

  • I saw a cat in the garden. (ฉันเห็นแมวตัวหนึ่งในสวน)

  • She bought a new phone. (เธอซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่)

We went to the park yesterday. (เมื่อวานเราไปสวนสาธารณะ)
คำนามภาษาอังกฤษ คืออะไร? สอนใช้คำนามง่ายๆ สำหรับมือใหม่
คำนามทั่วไป vs คำนามเฉพาะ

บทความที่แนะนำ: Common Noun กับ Proper Noun การใช้และตัวอย่างที่ควรรู้

3. คำนามนับได้ vs นับไม่ได้

Countable and Uncountable Noun นี่คือหัวใจสำคัญของการเรียน คํานามภาษาอังกฤษ​ ที่คนไทยมักสับสน

ประเภท

ลักษณะสำคัญ

ตัวอย่าง

การใช้

คํานามนับได้ ภาษาอังกฤษ

นับเป็นจำนวนได้

book/books, cat/cats

ใช้ a/an ได้

คํานามนับไม่ได้ ภาษาอังกฤษ

ไม่สามารถนับได้

water, rice, love

ไม่ใช้ a/an

คำนามภาษาอังกฤษ คืออะไร? สอนใช้คำนามง่ายๆ สำหรับมือใหม่
คำนามนับได้ vs นับไม่ได้

เคล็ดลับการจำ: คํานามนับได้ นับไม่ได้ แยกแยะได้ง่ายๆ ถ้าคิดภาษาไทยแล้วนับได้ 1, 2, 3 ก็มักจะนับได้ในภาษาอังกฤษด้วย

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย:

  • ❌ "I need some informations"

  • ✅ "I need some information"

  • ❌ "He gave me good advices"

  • ✅ "He gave me good advice"

4. Concrete Nouns (คำนามรูปธรรม)

Concrete nouns คือคำนามที่สัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า (เห็น ได้ยิน สัมผัส ได้กลิ่น ลิ้มรส)

ตัวอย่าง Concrete Nouns:

ประเภท

ตัวอย่าง

ความหมาย

เห็นได้

car, tree, house, mountain

รถยนต์, ต้นไม้, บ้าน, ภูเขา

ได้ยินได้

music, noise, voice, thunder

ดนตรี, เสียงดัง, เสียง, เสียงฟ้าร้อง

สัมผัสได้

ice, sand, fur, silk

น้ำแข็ง, ทราย, ขน, ผ้าไหม

ได้กลิ่น

perfume, flower, food, smoke

น้ำหอม, ดอกไม้, อาหาร, ควัน

ลิ้มรสได้

sugar, salt, lemon, chocolate

น้ำตาล, เกลือ, มะนาว, ช็อกโกแลต

ตัวอย่างประโยค:

  • The flowers smell wonderful. (ดอกไม้มีกลิ่นหอมยอดเยี่ยม)

  • I can hear the music from here. (ฉันได้ยินเสียงดนตรีจากที่นี่)

  • The ice is melting quickly. (น้ำแข็งกำลังละลายอย่างรวดเร็ว)

  • She touched the soft fur of the cat. (เธอสัมผัสขนนุ่มของแมว)

4. Abstract Nouns (คำนามนามธรรม)

Abstract nouns คือคำนามที่แสดงความคิด ความรู้สึก คุณภาพ หรือสภาวะที่จับต้องไม่ได้

ตัวอย่าง Abstract Nouns:

หมวดหมู่

ตัวอย่าง

ความหมาย

ความรู้สึก

love, happiness, sadness, fear, anger

ความรัก, ความสุข, ความเศร้า, ความกลัว, ความโกรธ

คุณภาพ

beauty, honesty, kindness, intelligence

ความสวยงาม, ความซื่อสัตย์, ความเมตตา, ความฉลาด

สภาวะ

childhood, freedom, poverty, wealth

วัยเด็ก, อิสรภาพ, ความยากจน, ความมั่งคั่ง

แนวคิด

democracy, justice, truth, peace

ประชาธิปไตย, ความยุติธรรม, ความจริง, สันติภาพ

การกระทำ

education, friendship, relationship

การศึกษา, มิตรภาพ, ความสัมพันธ์

ตัวอย่างประโยค:

  • Love is a powerful emotion. (ความรักเป็นอารมณ์ที่ทรงพลัง)

  • Honesty is the best policy. (ความซื่อสัตย์คือนโยบายที่ดีที่สุด)

  • She found happiness in simple things. (เธอพบความสุขในสิ่งเรียบง่าย)

Freedom is important for everyone. (อิสรภาพสำคัญสำหรับทุกคน)

5. คำนามกลุ่ม (Collective Nouns)

Collective Nouns คือคำนามที่ใช้เรียกกลุ่มของคน สัตว์ หรือสิ่งของ เช่น

Collective nouns คือคำนามที่ใช้เรียกกลุ่มของคน สัตว์ หรือสิ่งของที่รวมกันเป็นหน่วยเดียว

ตัวอย่าง Collective Nouns:

Collective Noun

ใช้กับ

ความหมาย

ตัวอย่างประโยค

team

คน

ทีม

The team is ready.

(ทีมพร้อมแล้ว)

family

คน

ครอบครัว

My family lives in Bangkok.

(ครอบครัวฉันอยู่กรุงเทพฯ)

class

คน

ชั้นเรียน

The class is studying.

(ชั้นเรียนกำลังศึกษาอยู่)

committee

คน

คณะกรรมการ

The committee has decided.

(คณะกรรมการตัดสินใจแล้ว)

audience

คน

ผู้ชม

The audience was amazed.

(ผู้ชมประหลาดใจ)

crowd

คน

ฝูงชน

A crowd gathered.

(ฝูงชนรวมตัวกัน)

herd

สัตว์

ฝูง (โค ช้าง)

A herd of elephants passed by.

(ฝูงช้างผ่านไป)

flock

สัตว์

ฝูง (นก แกะ)

A flock of birds flew overhead.

(ฝูงนกบินผ่านเหนือศีรษะ)

pack

สัตว์

ฝูง (สุนัข หมาป่า)

A pack of wolves howled.

(ฝูงหมาป่าหอน)

school

สัตว์

ฝูง (ปลา)

A school of fish swam past.

(ฝูงปลาว่ายผ่าน)

การใช้กริยา:

  • ถือเป็นหน่วยเดียว → ใช้กริยาเอกพจน์: The team is playing.

  • เน้นสมาชิกแต่ละคน → ใช้กริยาพหูพจน์: The team are discussing their strategies.

6. คำนามประสม (Compound Nouns)

Compound Noun เกิดจากการรวมคำตั้งแต่ 2 คำขึ้นไป:

  • swimming pool (สระว่ายน้ำ), T-shirt (เสื้อยืด), school bus (รถโรงเรียน)

III. การใช้คำนามในประโยค

ประโยค noun มีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับหน้าที่ของคำนามในประโยค

1. คำนามทำหน้าที่เป็นประธาน (Subject)

ประธานคือส่วนที่บอกว่าใครหรืออะไรทำกริยา

ตัวอย่างประโยค:

  • The dog barks loudly. (สุนัขเห่าเสียงดัง)
  • Students are studying in the library. (นักเรียนกำลังเรียนในห้องสมุด)
  • Bangkok is a big city. (กรุงเทพฯ เป็นเมืองใหญ่)
  • Love makes people happy. (ความรักทำให้ผู้คนมีความสุข)
  • My sister works at a hospital. (พี่สาวฉันทำงานที่โรงพยาบาล)

2. คำนามทำหน้าที่เป็นกรรม (Object)

กรรมคือสิ่งที่ถูกกระทำโดยประธาน แบ่งเป็น:

Direct Object (กรรมตรง): รับการกระทำโดยตรงจากกริยา

  • I read a book. (ฉันอ่านหนังสือ)
  • She loves music. (เธอรักดนตรี)
  • They bought a car. (พวกเขาซื้อรถ)

Indirect Object (กรรมรอง): บอกว่าทำเพื่อใครหรือให้ใคร

  • He gave me a present. (เขาให้ของขวัญฉัน - me เป็นกรรมรอง)
  • She sent her friend a letter. (เธอส่งจดหมายให้เพื่อน - her friend เป็นกรรมรอง)
  • I told him the truth. (ฉันบอกความจริงกับเขา - him เป็นกรรมรอง)

Object of Preposition (กรรมของบุพบท): คำนามที่ตามหลังบุพบท

  • The book is on the table. (หนังสืออยู่บนโต๊ะ)
  • She lives in Bangkok. (เธออยู่ในกรุงเทพฯ)
  • We talked about the project. (เราคุยเกี่ยวกับโครงการ)

3. คำนามทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็ม (Complement)

ส่วนเติมเต็มอธิบายหรือบอกข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประธาน

Subject Complement: ตามหลัง linking verbs (be, become, seem)

  • She is a doctor. (เธอเป็นหมอ)
  • He became a famous actor. (เขากลายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง)
  • They seem good people. (พวกเขาดูเป็นคนดี)

Object Complement: อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรรม

  • We call him John. (เราเรียกเขาว่าจอห์น)
  • They elected her president. (พวกเขาเลือกเธอเป็นประธาน)
  • The news made everyone sad. (ข่าวทำให้ทุกคนเศร้า)

4. คำนามทำหน้าที่แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive)

ใช้ 's หรือ ' เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ

กฎการใช้:

  • เอกพจน์ + 's: John's book (หนังสือของจอห์น)
  • พหูพจน์ลงท้าย s + ': students' books (หนังสือของนักเรียน)
  • พหูพจน์ไม่ลงท้าย s + 's: children's toys (ของเล่นของเด็กๆ)

ตัวอย่างประโยค:

  • This is Mary's car. (นี่คือรถของแมรี่)
  • The dog's tail is long. (หางของสุนัขยาว)
  • My parents' house is big. (บ้านของพ่อแม่ฉันใหญ่)
  • The women's room is over there. (ห้องสตรีอยู่ตรงนั้น)
คำนามภาษาอังกฤษ คืออะไร? สอนใช้คำนามง่ายๆ สำหรับมือใหม่
หน้าที่หลักของคำนามในประโยค

5. การสร้างคำนามพหูพจน์

Plural noun คือคำนามที่แสดงจำนวนมากกว่าหนึ่ง กฎการสร้างมีดังนี้:

กฎ

วิธีทำ

ตัวอย่าง

กฎทั่วไป

เติม -s

cat → cats, book → books

ลงท้าย s, ss, sh, ch, x, z

เติม -es

bus → buses, box → boxes

พยัญชนะ + y

เปลี่ยน y เป็น ies

baby → babies, city → cities

ลงท้าย f/fe

เปลี่ยนเป็น ves

leaf → leaves, knife → knives

ไม่ปกติ

เปลี่ยนรูป

man → men, child → children

ไม่เปลี่ยน

รูปเดิม

sheep → sheep, fish → fish

คำนามภาษาอังกฤษ คืออะไร? สอนใช้คำนามง่ายๆ สำหรับมือใหม่
การสร้างคำนามพหูพจน์

IV. เทคนิคการใช้ให้ถูกต้อง

1. การใช้ Article (a, an, the)

Article

ใช้กับ

ตัวอย่าง

a/an

คำนามนับได้เอกพจน์ (ไม่เฉพาะเจาะจง)

a book, an apple

the

คำนามที่เฉพาะเจาะจง

the book I bought

ไม่ใช้

คำนามนับไม่ได้, พหูพจน์ทั่วไป

water, books

บทความแนะนำอ่านต่อ:

2. การใช้ Quantifiers (คำบอกปริมาณ)

คำบอกปริมาณ

คำนามนับได้

คำนามนับไม่ได้

ตัวอย่าง

many/much

 

many books

few/little

 

little water

some/any

some apples, some milk

a lot of

a lot of people, a lot of time

3. การแสดงความเป็นเจ้าของ

การใช้ apostrophe (') มีกฎง่ายๆ:

  • เอกพจน์: เติม 's → John's book (หนังสือของจอห์น)

  • พหูพจน์ลงท้าย s: เติม ' → students' books (หนังสือของนักเรียน)

  • พหูพจน์ไม่ลงท้าย s: เติม 's → children's toys (ของเล่นเด็ก)

V. ความรู้ขั้นสูงเกี่ยวกับคํานามภาษาอังกฤษ

1. การสร้างคำนามจากคำอื่น (Nominalization)

เทคนิคขั้นสูงในการสร้างคํานาม ภาษาอังกฤษ จากคำประเภทอื่น:

Suffix

จาก

ตัวอย่าง

-tion

กริยา

create → creation (การสร้าง)

-ment

กริยา

develop → development (การพัฒนา)

-ness

คุณศัพท์

happy → happiness (ความสุข)

-ity

คุณศัพท์

real → reality (ความเป็นจริง)

คำนามภาษาอังกฤษ คืออะไร? สอนใช้คำนามง่ายๆ สำหรับมือใหม่
การสร้างคำนามจากคำอื่น (Nominalization)

บทความแนะนำอ่านต่อ:

2. Gerunds และ Infinitives เป็นคำนาม

คำกริยาสามารถทำหน้าที่เป็นคำนามได้:

  • Gerund (V-ing): "Swimming is fun." (การว่ายน้ำสนุก)

  • Infinitive (to + V): "To learn English is important." (การเรียนอังกฤษสำคัญ)

3. Noun Clauses (อนุประโยคนาม)

Noun Clauses คืออนุประโยคที่ทำหน้าที่เสมือนคำนามในประโยค:

  • "What he said was true." (สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง)

  • "I know where she lives." (ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน)

4. คำนามที่เปลี่ยนความหมายตามบริบท

บางคำสามารถเป็นได้ทั้งนับได้และนับไม่ได้:

  • hair: "a hair" (เส้นผม-นับได้) vs "black hair" (ผมสีดำ-นับไม่ได้)

  • time: "three times" (สามครั้ง-นับได้) vs "no time" (ไม่มีเวลา-นับไม่ได้)

  • paper: "two papers" (เอกสารสองฉบับ-นับได้) vs "white paper" (กระดาษสีขาว-นับไม่ได้)

การเข้าใจคํานามภาษาอังกฤษอย่างลึกซึ้งจะเป็นรากฐานสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษขั้นสูง การเรียนรู้ คํานาม ภาษาอังกฤษ​ ต้องใช้เวลาและการฝึกฝน แต่เมื่อเข้าใจหลักการแล้ว การใช้ คำ นาม ภาษาอังกฤษจะเป็นเรื่องง่ายและสนุก

จุดสำคัญที่ต้องจำ:

  • เข้าใจความแตกต่างระหว่างคำนามแต่ละประเภท

  • ฝึกใช้ article และ quantifiers ให้ถูกต้อง

  • เรียนรู้การสร้างพหูพจน์และความเป็นเจ้าของ

  • ฝึกฝนการใช้งานในบริบทจริง

เริ่มต้นวันนี้และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ คุณจะพบว่าการใช้คํานามภาษาอังกฤษเป็นเรื่องง่ายและสนุก

หากคุณต้องการพัฒนาทักษะการใช้คำนามและไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสอบ IELTS คอร์สเรียนเตรียมสอบ IELTS ของ PREP Edu จะช่วยให้คุณเข้าใจการใช้คำนามในบริบทต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้ง หลักสูตรของเรามีการสอนไวยากรณ์อย่างเป็นระบบ พร้อมแบบฝึกหัดที่หลากหลายและระบบ AI ที่ช่วยตรวจสอบการใช้ไวยากรณ์แบบเรียลไทม์ เพื่อให้คุณมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษและบรรลุเป้าหมายคะแนน IELTS ที่ต้องการ

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 ตัวอักษร
Loading...
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย
DMCA protect