ค้นหาบทความการศึกษา
เข้าใจความแตกต่างระหว่าง IELTS Academic กับ General Training เพื่อการเลือกที่เหมาะสม
IELTS เป็นหนึ่งในการทดสอบความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย การสอบ IELTS แบ่งออกเป็นสองประเภท: IELTS Academic กับ General Training ซึ่งทำให้ผู้สมัครหลายคนอาจสงสัยว่าควรเลือกสอบประเภทใด บทความนี้ของ PREP จะช่วยเปรียบเทียบรายละเอียดระหว่าง IELTS Academic และ IELTS General เพื่อให้คุณสามารถเลือกสอบประเภทที่เหมาะสมกับคุณที่สุด!
I. IELTS Academic กับ General Training คืออะไร
หากคุณกำลังเตรียมตัวสอบ IELTS แต่ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง IELTS Academic และ IELTS General Training หรือไม่ทราบว่าวัตถุประสงค์และประโยชน์ของการสอบทั้งสองประเภทคืออะไร ให้ PREP อธิบายให้ชัดเจน:
- IELTS Academic: การสอบนี้ออกแบบมาเพื่อประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษของผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยหรือโปรแกรมการศึกษาขั้นสูงที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ
- IELTS General Training: การสอบนี้จะประเมินทักษะภาษาอังกฤษของผู้สอบในบริบทของการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งเหมาะสำหรับการทำงาน การฝึกอบรม หรือการย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ
II. ความคล้ายคลึงกันระหว่าง IELTS Academic กับ General Training
1. วัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์หลักของการสอบทั้ง IELTS Academic กับ General Training คือการประเมินความสามารถทางภาษาของผู้สมัครในสี่ทักษะหลัก: การฟัง (Listening), การพูด (Speaking), การอ่าน (Reading), และการเขียน (Writing)
2. โครงสร้างการสอบ
- การสอบทั้งสองรูปแบบใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง แบ่งเป็น:
- Listening: 40 คำถาม, 40 นาที
- Speaking: 3 ส่วน, 11-13 นาที
- Reading: 40 คำถาม, 60 นาที
- Writing: 2 เรียงความ, 60 นาที
- ทักษะการฟังและการพูด: โครงสร้างการสอบ Listening และ Speaking ในทั้งสองรูปแบบเหมือนกันหมด
3. ทักษะการฟังและการพูดใน IELTS Academic และ IELTS General Training
3.1. IELTS Listening
ในส่วนนี้ของการสอบ ผู้สมัครจะต้องฟัง 4 ส่วนซึ่งพูดโดยเจ้าของภาษา โดยมีเวลาในการฟัง 30 นาที และอีก 10 นาทีเพื่อตอบคำถาม 40 ข้อ (สำหรับการสอบแบบ paper-based)
- Task 1: การสนทนาระหว่าง 2 คนในชีวิตประจำวัน
- Task 2: การพูดของคนเดียวในบริบทของชีวิตประจำวัน เช่น คำปราศรัยในโรงเรียน
- Task 3: การสนทนาระหว่าง 2-4 คนในบริบทของการศึกษา เช่น อาจารย์และนักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อวิจัย
- Task 4: การพูดเกี่ยวกับหัวข้อสิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษทางทะเล
3.2. IELTS Speaking
รูปแบบ: จะมีผู้คุมสอบ 1 คนและผู้เข้าสอบ 1 คนในการสัมภาษณ์ด้วยการพูดคุยซึ่งจะถูกบันทึกไว้ การสอบการพูดมี 3 ส่วน แต่ละส่วนจะมีความยากขึ้นตามระดับ เพื่อทดสอบความสามารถในการพูด ทักษะการสื่อสาร ความสามารถในการแสดงออก ฯลฯ ของผู้สมัคร
- Task 1: ใน Task นี้เกี่ยวกับการแนะนำตัวและการสัมภาษณ์สั้น ๆ โดย Task 1 เป็นการแนะนำตัวและทดสอบข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐานของผู้เข้าสอบ ส่วนต่อไป ผู้คุมสอบจะประเมินผู้เข้าสอบด้วยคำถามทั่วไปเกี่ยวกับหัวข้อที่คุ้นเคย เช่น งาน การเรียน งานอดิเรก บ้าน ครอบครัว ฯลฯ Task 1 จะใช้เวลา 4-5 นาที โดยส่วนนี้จะเน้น เกี่ยวกับทักษะการสื่อสารของผู้สมัครเกี่ยวกับหัวข้อในประจำวัน ประสบการณ์และสถานการณ์ทั่วไป
- Task 2: Task 2 เป็นการสัมภาษณ์แบบยาว โดยผู้คุมสอบจะให้บัตรที่ระบุหัวข้อกับผู้สอบ และผู้สอบต้องอธิบายเกี่ยวกับหัวข้อที่กำหนดจากมุมมองของตัวเอง ผู้สอบจะได้ได้รับเวลา 1 นาทีสำหรับเตรียมตัวในส่วนนี้พร้อมด้วยปากกาและกระดาษเพื่อโน้ตคำตอบไว้ การพูดของผู้สมัครใน Task 2 จะใช้เวลา 1-2 นาที หลังจากนั้น ผู้คุมสอบจะถามคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อเดียวกันนั้นประมาณ 1-2 คำถาม โดยจะใช้เวลาประมาณ 3-4 นาที โดยรวมระยะเวลาเตรียมตัวของผู้สอบด้วย ในส่วนนี้จะเป็นการทดสอบความสามารถของผู้สอบในการพูดแบบยาวและต่อเนื่องเกี่ยวกับหัวข้อที่เฉพาะเจาะจง การจัดระเบียบความคิด การใช้ภาษา คำศัพท์ ฯลฯ
- Task 3: ในส่วนนี้ ผู้คุมสอบและผู้สอบจะหารือเกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อเดิมในTask 2 อย่างไรก็ตาม Task 3 จะเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อที่กว้างขึ้น เป็นนามธรรมขึ้น และลึกซึ้งขึ้น โดยจะใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที
4. ระยะเวลาของผลคะแนนสอบ
ทั้งการสอบ IELTS Academic กับ General Training มีระยะเวลาของผลคะแนนที่เหมือนกันคือมีอายุ 2 ปี
III. ความแตกต่างระหว่าง IELTS Academic กับ General Training
1. โครงสร้าง
ความแตกต่างระหว่าง IELTS Academic กับ General Training จะเห็นได้ชัดเจนในส่วนของการสอบ Reading และ Writing:
หมวดหมู่ |
IELTS Academic |
IELTS General |
IELTS Reading |
IELTS Academic Reading ประกอบด้วยบทความขนาดยาวสามบทความที่มีสไตล์การเขียนแตกต่างกัน เช่น เรื่องเล่า บทวิจารณ์ หรือบทบรรยาย บางบทความอาจมีแผนภูมิ ภาพประกอบ หรือกราฟเพื่อช่วยให้เข้าใจเนื้อหาง่ายขึ้น หากมีคำศัพท์เฉพาะทางก็จะมีคำอธิบายอยู่ในบทความ บทความเหล่านี้ถูกคัดเลือกมาอย่างดีจากหนังสือ นิตยสาร หรือหนังสือพิมพ์ เพื่อช่วยให้ผู้สอบที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญสามารถเข้าใจและเตรียมตัวสำหรับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นได้ ประเภทของคำถามที่อาจเจอ ได้แก่:
คะแนนจะพิจารณาจากความถูกต้องของไวยากรณ์และการสะกดคำ แต่ละคำถามมีคะแนนหนึ่งคะแนน |
IELTS General Training Reading เนื้อหาการอ่านจะมาจากข้อมูลในชีวิตประจำวันหรือในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษ เช่น หนังสือพิมพ์ ประกาศ หนังสือ นิตยสาร โฆษณา คำแนะนำของบริษัท หรือคู่มือการใช้งาน การสอบ Reading สำหรับ IELTS General Training ประกอบด้วยสามส่วน ซึ่งมีบทความหลายบทความ:
ประเภทของคำถามที่อาจเจอ ได้แก่:
คะแนนจะพิจารณาจากความถูกต้องของไวยากรณ์และการสะกดคำ แต่ละคำถามมีคะแนนหนึ่งคะแนน |
IELTS Writing |
IELTS Academic Writing ประกอบด้วย 2 tasks:
หมายเหตุ: การเขียนให้ครบตามจำนวนคำขั้นต่ำในกรอบเวลาที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ การเขียนคำน้อยกว่ากำหนดอาจทำให้ถูกหักคะแนน ในขณะที่การเขียนมากเกินไปอาจทำให้เสียเวลา เพราะทั้งสอง Task มีคะแนนเท่ากัน |
IELTS General Training Writing มี 2 tasks:
|
2. เกณฑ์การให้คะแนน Reading
เนื่องจากโครงสร้างของ IELTS Reading Test แตกต่างกัน ดังนั้น เกณฑ์การให้คะแนนของ IELTS Academic กับ General Training Reading จึงต่างกัน ดูภาพด้านล่างนี้เพื่อให้เข้าใจเกณฑ์การให้คะแนน
IV. ควรสอบ IELTS Academic หรือ IELTS General Training
การเลือกสอบระหว่าง IELTS Academic กับ General Training ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละบุคคล หากคุณต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยหรือใช้ภาษาอังกฤษในงานวิชาการ ควรเลือก IELTS Academic แต่หากคุณมีแผนจะย้ายถิ่นฐาน ทำงาน หรือใช้ชีวิตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ ควรเลือก IELTS General Training
V. สรุป
บทความนี้ได้เปรียบเทียบอย่างละเอียดระหว่างการสอบ IELTS Academic กับ General Training พร้อมทั้งอธิบายความเหมือนและความแตกต่าง รวมถึงให้คำแนะนำเพื่อช่วยคุณเลือกสอบประเภทที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
โปรแกรมการเรียน IELTS ของ PREP ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทั้ง IELTS Academic และ IELTS General Training หากคุณต้องการเตรียมตัวสอบ IELTS เพิ่มเติม มาเรียนรู้เพิ่มเติมกับเราที่ prepedu.com
ความคิดเห็น
ค้นหาบทความการศึกษา
อ่านมากที่สุด
After คืออะไร ความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับโครงสร้างของ After ภาษาอังกฤษ
โครงสร้างและการใช้ Double Passive Voice ภาษาอังกฤษ
AM คืออะไร PM คืออะไร ความแตกต่างระหว่าง AM กับ PM ในภาษาอังกฤษ
อัญประกาศเดี่ยวคืออะไร วิธีการใช้อัญประกาศเดี่ยวในภาษาอังกฤษ (')
ความแตกต่างระหว่าง Assure, Ensure กับ Insure ในภาษาอังกฤษ
ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน
กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!