ค้นหาบทความการศึกษา
พิชิตข้อสอบ IELTS Reading True False Not Given กลยุทธ์เพื่อคะแนนสูงสุด
คุณเคยรู้สึกหงุดหงิดกับข้อสอบ IELTS Reading ประเภท True/False/Not Given หรือไม่? แม้จะอ่านบทความเข้าใจแล้ว แต่กลับตอบผิดเพราะไม่สามารถแยกแยะระหว่าง "False" และ "Not Given" ได้อย่างชัดเจน สถิติแสดงว่าผู้สอบ 78% ตอบข้อสอบประเภทนี้ผิดมากที่สุด
บทความนี้จะเปิดเผยกลยุทธ์เฉพาะสำหรับการพิชิต IELTS reading true false not given ด้วยเทคนิคระดับผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยเพิ่มคะแนน IELTS reading ของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ
การทำ คำถาม True/False/Not Given ไม่ใช่เพียงแค่การอ่านและเลือกคำตอบ แต่เป็นศิลปะการวิเคราะห์ข้อมูลที่ต้องอาศัยความเข้าใจเชิงลึกในหลายมิติ ผู้ที่ เตรียมตัว IELTS มักประสบปัญหาจากการใช้ความรู้ภายนอกแทนการอ่านจากบทความ การตีความ paraphrasing ผิด และการแยกแยะข้อมูลที่ขัดแย้งกับข้อมูลที่ไม่มีการกล่าวถึง
เทคนิค ทํา ข้อสอบ reading ที่มีประสิทธิภาพต้องเริ่มจากการเข้าใจความแตกต่างพื้นฐานของแต่ละประเภทคำตอบ รวมถึงการจับสัญญาณจากคำบอกปริมาณ (qualifying words) การระบุ keyword อย่างแม่นยำ และการใช้กลยุทธ์การสแกนข้อมูลอย่างเป็นระบบ true false not given questions in IELTS มีรูปแบบเฉพาะที่ต้องการทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงตรรกะมากกว่าการเดาคำตอบ การฝึกฝน IELTS reading ตัวอย่าง อย่างสม่ำเสมอจะช่วยสร้างความคุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบและเพิ่มความมั่นใจในการทำข้อสอบจริง
ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้กลยุทธ์ 5 ขั้นตอนที่ผู้เชี่ยวชาญใช้ พร้อมตัวอย่าง ข้อสอบ IELTS พร้อม เฉลย มากกว่า 15 ข้อ เทคนิคการหลีกเลี่ยงกับดักทั่วไป และวิธีการพัฒนาทักษะ บทความ reading อย่างเป็นระบบ
มาเริ่มต้นการเดินทางสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญ IELTS reading tips true false not given กันเลย โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจสาเหตุที่ทำให้ข้อสอบนี้เป็นกับดัก

- I. ทำไม True/False/Not Given (T/F/NG) ถึงเป็น 'กับดัก' ของผู้สอบ IELTS Reading?
- II. ตีความ True, False, และ Not Given
- III. กลยุทธ์ 5 ขั้นตอนพิชิต True/False/Not Given
- IV. เทคนิคขั้นสูงจากผู้เชี่ยวชาญ
- V. ตัวอย่างข้อสอบ IELTS Reading พร้อมเฉลยและคำอธิบายเชิงลึก
- VII. คำถามที่พบบ่อย (FAQs) และข้อสงสัยเชิงลึก
I. ทำไม True/False/Not Given (T/F/NG) ถึงเป็น 'กับดัก' ของผู้สอบ IELTS Reading?
คำถาม True/False/Not Given เป็นประเภทคำถามที่มีอัตราการตอบผิดสูงที่สุดในการสอบ IELTS เนื่องจากต้องการความแม่นยำในการแยกแยะระหว่างข้อมูลที่ขัดแย้ง (False) และข้อมูลที่ไม่มีการกล่าวถึง (not given) ผู้สอบมักเกิดความสับสนจากการใช้ความรู้ภายนอกหรือการตีความข้อมูลผิด
สาเหตุหลักที่ทำให้ true false not given questions in IELTS เป็นกับดัก ได้แก่ การใช้ paraphrasing ที่ซับซ้อน การเปลี่ยนโครงสร้างประโยค และการใช้คำที่มีความหมายใกล้เคียงแต่แตกต่างในรายละเอียด นอกจากนี้ ผู้สอบจำเป็นต้องแยกแยะระหว่างข้อเท็จจริงที่ระบุไว้ชัดเจนในบทความกับข้อมูลที่ไม่ได้มีการกล่าวถึงเลย
II. ตีความ True, False, และ Not Given
1. True (จริง)
ข้อมูลตรงกันทุกประการและสามารถพิสูจน์ได้จากบทความ
คำตอบ True หมายถึงข้อมูลในประโยคคำถามสามารถพิสูจน์ได้จากข้อความในบทความอย่างชัดเจน แม้ว่าจะใช้คำศัพท์หรือโครงสร้างประโยคที่แตกต่างกัน หลักสำคัญคือความหมายต้องตรงกันทุกรายละเอียด ไม่มีส่วนใดของประโยคคำถามที่ขัดแย้งหรือไม่สอดคล้องกับข้อมูลในบทความ
2. False (เท็จ)
ข้อมูลขัดแย้งกับในบทความอย่างชัดเจน
คำตอบ False เกิดขึ้นเมื่อข้อมูลในประโยคคำถามขัดแย้งโดยตรงกับข้อมูลที่ระบุไว้ในบทความ การขัดแย้งนี้อาจเป็นในรูปแบบของตัวเลข วันที่ ชื่อบุคคล สถานที่ หรือข้อเท็จจริงอื่นๆ ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

3. Not Given (ไม่มีข้อมูล)
ข้อมูลที่ไม่มีการกล่าวถึงหรือยืนยันในบทความ
คำตอบ not given เป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุด เพราะหมายถึงข้อมูลในประโยคคำถามไม่ได้ถูกกล่าวถึงในบทความเลย ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันหรือปฏิเสธ ผู้สอบต้องระมัดระวังไม่ให้ใช้ความรู้พื้นฐานหรือสามัญสำนึกในการตัดสินใจ
4. ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่าง False และ Not Given ที่ต้องรู้
ประเภทคำตอบ |
ลักษณะข้อมูล |
ตัวอย่าง |
False |
ข้อมูลขัดแย้งโดยตรง |
บทความระบุ "เปิดทุกวัน" แต่คำถามระบุ "เปิดแค่วันจันทร์-ศุกร์" |
Not Given |
ไม่มีข้อมูลเลย |
บทความไม่ได้กล่าวถึงวันเวลาเปิด-ปิดเลย |
III. กลยุทธ์ 5 ขั้นตอนพิชิต True/False/Not Given
ขั้นตอนที่ 1: อ่านและวิเคราะห์ "ประโยคคำถาม" ให้ลึกซึ้งก่อนอ่านบทความ
การเริ่มต้นด้วยการอ่านประโยคคำถามให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งเป็นรากฐานสำคัญของ IELTS reading tips true false not given ที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ คุณต้องวิเคราะห์โครงสร้างของประโยค ระบุประธาน กริยา และกรรม รวมถึงคำขยายต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อความหมาย การฝึกฝน บทความ reading แบบนี้จะช่วยพัฒนาทักษะการวิเคราะห์ประโยค
ขั้นตอนที่ 2: ขีดเส้นใต้ Keyword และคำสำคัญในประโยคคำถามเพื่อใช้สแกนหาตำแหน่ง
การระบุ keyword ที่สำคัญช่วยให้คุณสามารถค้นหาข้อมูลในบทความได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ควรมุ่งเน้นไปที่คำนาม วันที่ ตัวเลข ชื่อเฉพาะ และคำกริยาหลักที่มีความหมายสำคัญ เทคนิคนี้เป็นส่วนสำคัญของ เทคนิค ทํา ข้อสอบ reading ที่มีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนที่ 3: สแกนหา Keyword ในบทความ (Passage) และอ่านประโยครอบๆ อย่างละเอียด
เมื่อพบ keyword ในบทความแล้ว ให้อ่านประโยคนั้นและประโยคข้างเคียงอย่างละเอียด เพราะข้อมูลที่เกี่ยวข้องอาจกระจายอยู่ในหลายประโยค การเข้าใจบริบทรอบข้างจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ถูกต้องในการทำ IELTS reading true false not given
ขั้นตอนที่ 4: เปรียบเทียบความหมายระหว่าง "ประโยคคำถาม" และ "ข้อมูลในบทความ" เพื่อตัดสินใจ
การเปรียบเทียบต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยพิจารณาทุกรายละเอียดในประโยคคำถาม หากข้อมูลตรงกันทุกส่วน ให้เลือก True หากขัดแย้งกัน ให้เลือก False และหากไม่มีข้อมูลเลย ให้เลือก not given ซึ่งเป็นคำตอบที่ท้าทายที่สุด
ขั้นตอนที่ 5: บริหารเวลาและทำเครื่องหมายหากยังไม่แน่ใจ เพื่อกลับมาทบทวนทีหลัง
การใช้ เทคนิค ทํา ข้อสอบ reading ที่มีประสิทธิภาพต้องรวมถึงการบริหารเวลา หากไม่แน่ใจในคำตอบ ให้ทำเครื่องหมายไว้และกลับมาทบทวนหลังจากทำข้อสอบข้ออื่นๆ เสร็จแล้ว การฝึกฝน ข้อสอบ IELTS พร้อม เฉลย จะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับการบริหารเวลาในสถานการณ์จริง
IV. เทคนิคขั้นสูงจากผู้เชี่ยวชาญ
1. จับสัญญาณ 'Qualifying Words': คำบอกปริมาณและขอบเขต
ประเภทคำ |
ตัวอย่าง |
ผลกระทบต่อความหมาย |
Absolute Words |
all, every, never, always |
ต้องเป็นจริงหรือเท็จ 100% |
Qualifying Words |
some, often, usually, many |
เป็นไปได้ในระดับต่างๆ |
Modal Verbs |
can, may, might, could |
แสดงความเป็นไปได้ |

2. ถอดรหัส Synonyms & Paraphrasing: หัวใจหลักของการทำข้อสอบ Reading
การ paraphrasing เป็นเครื่องมือสำคัญที่ผู้ออกข้อสอบใช้เพื่อทดสอบความเข้าใจของผู้สอบ คุณต้องฝึกฝนการจดจำคำพ้องความหมายและการเปลี่ยนรูปประโยคที่มีความหมายเดียวกัน
3. แยกแยะ 'เหตุและผล' (Cause & Effect) กับ 'ความสัมพันธ์' (Correlation): กับดักที่พบบ่อย
ผู้สอบมักเกิดความสับสนระหว่างความสัมพันธ์และการเป็นเหตุเป็นผล บทความอาจระบุว่าสองสิ่งเกิดขึ้นพร้อมกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งหนึ่งเป็นสาเหตุของอีกสิ่งหนึ่ง
4. ระวังการเปรียบเทียบ (Comparisons): ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบทความมีการเปรียบเทียบจริงหรือไม่
การเปรียบเทียบต้องมีการกล่าวถึงสองสิ่งขึ้นไปในบทความ หากประโยคคำถามเปรียบเทียบสองสิ่ง แต่บทความกล่าวถึงเพียงสิ่งเดียว คำตอบจะเป็น Not Given
5. ความสำคัญของ Tense และ Modal Verbs: คำกริยาช่วยเปลี่ยนความหมายได้
กาลเวลาและคำกริยาช่วยมีความสำคัญต่อความหมายของประโยค การเปลี่ยนจาก "will happen" เป็น "has happened" หรือ "might happen" สามารถเปลี่ยนคำตอบจาก True เป็น False หรือ Not Given ได้
V. ตัวอย่างข้อสอบ IELTS Reading พร้อมเฉลยและคำอธิบายเชิงลึก
1. ตัวอย่างบทความสั้น (Mini-Passage 1)
เทคนิค การ ทำ Reading ที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากการฝึกฝนกับ IELTS Reading ตัวอย่าง ต่อไปนี้:
"Solar energy technology has advanced significantly over the past decade, with solar panel efficiency increasing from 15% to 22% in commercial applications. The cost of solar installation has decreased by 85% since 2010, making it more accessible to homeowners. Currently, solar power accounts for approximately 3% of global electricity generation. Some experts predict that solar energy could provide up to 30% of the world's electricity by 2050, though this depends on continued technological improvements and government support."
ตัวอย่าง คำถาม True/False/Not Given - ชุดที่ 1
ข้อ |
ประโยคคำถาม |
คำตอบ |
1 |
Solar panel efficiency has improved by more than 5% in recent years |
True |
2 |
Solar installation costs have fallen by exactly 85% since 2010 |
True |
3 |
Solar energy is currently the largest source of renewable electricity globally |
Not Given |
4 |
All experts agree that solar energy will reach 30% of global electricity by 2050 |
False |
การวิเคราะห์และเฉลยแบบละเอียด - ชุดที่ 1
ข้อ 1: บทความระบุ "increasing from 15% to 22%" ซึ่งเพิ่มขึ้น 7% มากกว่า 5% ดังนั้นเป็น True
ข้อ 2: บทความระบุชัดเจนว่า "decreased by 85% since 2010" ตรงกับประโยคคำถาม จึงเป็น True
ข้อ 3: บทความไม่ได้เปรียบเทียบ solar energy กับแหล่งพลังงานหมุนเวียนอื่น จึงเป็น not given
ข้อ 4: บทความระบุ "Some experts predict" ไม่ใช่ "All experts" ดังนั้นจึงเป็น False
2. ตัวอย่างบทความสั้น (Mini-Passage 2)
IELTS ตัวอย่าง ข้อสอบ ชุดที่ 2 สำหรับฝึกฝน IELTS reading true false not given เพิ่มเติม:
"Bangkok's street food culture dates back over 150 years when Chinese immigrants first introduced mobile food carts to the city. Today, there are an estimated 20,000 street food vendors operating throughout Bangkok, serving over 2 million meals daily. The Bangkok Metropolitan Administration requires all vendors to obtain health permits, which cost 500 baht annually. Most street food stalls operate between 6 AM and 10 PM, though some night markets stay open until 2 AM. A typical street food meal costs between 30-80 baht, making it affordable for local residents."
ตัวอย่าง คำถาม True/False/Not Given - ชุดที่ 2
ข้อ |
ประโยคคำถาม |
คำตอบ |
เหตุผล |
1 |
Bangkok's street food tradition started in the 19th century |
True |
150 ปีที่แล้ว = ศตวรรษที่ 19 |
2 |
Street food vendors serve more than 3 million meals per day |
False |
บทความระบุ "over 2 million meals" |
3 |
Health permits for vendors are renewed every six months |
Not Given |
ไม่มีข้อมูลเรื่องการต่ออายุ |
4 |
All street food costs less than 100 baht per meal |
False |
ราคา 30-80 บาท ไม่ครอบคลุมทุกอาหาร |
5 |
Some food vendors operate after midnight |
True |
บางร้านเปิดถึง 2 AM |
3. เทคนิคการวิเคราะห์ขั้นสูง - แนวทางการแก้ปัญหา
การทำ true false not given questions in IELTS อย่างมีประสิทธิภาพต้องใช้ เทคนิค ทํา ข้อสอบ reading ดังนี้:
ประเภทกับดัก |
วิธีการระบุ |
เทคนิคการแก้ไข |
Exact Numbers |
ตัวเลขที่แตกต่างเล็กน้อย |
เปรียบเทียบตัวเลขอย่างละเอียด |
Qualifying Words |
all, some, many, few |
มองหาคำบอกปริมาณในบทความ |
Time References |
วันเวลาและช่วงเวลา |
ตรวจสอบความสอดคล้องของกาลเวลา |
Comparisons |
การเปรียบเทียบที่ซ่อนเร้น |
หาหลักฐานการเปรียบเทียบในบทความ |
4. แบบทดสอบเพิ่มเติม - Mini Test
สำหรับ บทความ reading ต่อไปนี้ ให้ทำการวิเคราะห์และตอบ คำถาม True/False/Not Given:
"The James Webb Space Telescope, launched in December 2021, is the most powerful space telescope ever built. It can observe galaxies that formed over 13 billion years ago, shortly after the Big Bang. The telescope cost $10 billion to develop and took 25 years to complete. Located 1.5 million kilometers from Earth, it orbits the Sun at a point called L2. Scientists expect the telescope to operate for at least 10 years, potentially revolutionizing our understanding of the universe."
แบบฝึกหัด:
-
The James Webb Space Telescope was launched in 2021
-
It is more powerful than any previous space telescope
-
The telescope can see galaxies older than 13 billion years
-
It took exactly 25 years to build and cost more than $10 billion
-
The telescope will definitely operate for exactly 10 years
การเชี่ยวชาญ IELTS reading true false not given ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการเข้าใจหลักการพื้นฐาน จำไว้ว่าคำตอบทุกข้อต้องมีหลักฐานสนับสนุนจากบทความ และห้ามใช้ความรู้ภายนอกในการตัดสินใจ การใช้ true false not given อย่างถูกต้องจะช่วยเพิ่มคะแนน IELTS reading ของคุณอย่างมีนัยสำคัญ
เตรียมตัว IELTS อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการฝึกฝนเทคนิคเหล่านี้เป็นประจำ และใช้เวลาในการทำแต่ละข้อไม่เกิน 1-2 นาที เพื่อให้มีเวลาเหลือสำหรับการตรวจสอบคำตอบ การทำ IELTS ตัวอย่าง ข้อสอบ เป็นประจำจะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับรูปแบบและเพิ่มความมั่นใจในการสอบ
VII. คำถามที่พบบ่อย (FAQs) และข้อสงสัยเชิงลึก
1. คำถาม True/False/Not Given แตกต่างจาก Yes/No/Not Given อย่างไร?
true false not given ใช้กับข้อเท็จจริงและข้อมูลที่วัดผลได้ ส่วน Yes/No/Not Given ใช้กับความคิดเห็น มุมมอง และการแสดงออกของผู้เขียน โครงสร้างการทำข้อสอบแตกต่างกันในด้านการวิเคราะห์บริบทและน้ำเสียงของผู้เขียน การฝึกฝน IELTS reading ตัวอย่าง ทั้งสองประเภทจะช่วยให้คุณแยกแยะได้ชัดเจน
2. ถ้าหา Keyword ไม่เจอ ควรเดาคำตอบเป็น Not Given เลยใช่หรือไม่?
หนึ่งใน IELTS reading tips true false not given ที่สำคัญคือไม่ควรสรุปเร็วเกินไป แม้หา keyword ไม่เจอ ข้อมูลอาจถูก paraphrase หรือแสดงในรูปแบบอื่น ให้ค้นหาด้วยคำพ้องความหมายและอ่านบทความทั้งหมดก่อนตัดสินใจ
3. คำประเภทใดบ้างที่มักเป็น 'ตัวล่อ' ให้เราตอบผิดระหว่าง True และ False?
คำเช่น "only", "all", "never", "always" มักเป็นตัวล่อ เพราะทำให้ข้อความมีความหมายที่เด็ดขาดเกินไป ส่วน "some", "often", "usually" ทำให้ข้อความมีความยืดหยุ่นมากขึ้น การระวัง คำถาม True/False/Not Given ประเภทนี้จะช่วยให้คุณไม่ตกกับดัก
4. 'Paraphrasing' ในบริบทของข้อสอบ T/F/NG คืออะไร และจะรับมืออย่างไร?
Paraphrasing คือการเปลี่ยนคำศัพท์และโครงสร้างประโยคแต่คงความหมายเดิม เช่น "annually" เปลี่ยนเป็น "each year" หรือ "established" เปลี่ยนเป็น "founded" การฝึกฝน บทความ reading หลากหลายจะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับรูปแบบการ paraphrase และเป็นส่วนสำคัญของ เทคนิค การ ทำ reading ที่ประสบความสำเร็จ
การปรับปรุงทักษะ IELTS reading โดยเฉพาะ ข้อสอบ IELTS พร้อม เฉลย ประเภท True/False/Not Given ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการทำ IELTS ตัวอย่าง ข้อสอบ ง่ายๆ แล้วค่อยเพิ่มระดับความยาก
จำไว้ว่าความสำเร็จในการสอบ IELTS reading ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการรู้คำศัพท์มากเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล การจัดการเวลา และความเข้าใจในรูปแบบข้อสอบเป็นหลัก ฝึกฝน เทคนิค ทํา ข้อสอบ reading เหล่านี้เป็นประจำ และคุณจะพบว่าคะแนน IELTS reading true false not given ของคุณจะพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เฉลยแบบทดสอบเพิ่มเติม:
-
True - บทความระบุ "launched in December 2021"
-
True - บทความระบุ "most powerful space telescope ever built"
-
False - บทความระบุ "over 13 billion years ago" ไม่ใช่ "older than 13 billion years"
-
False - ใช้เวลา 25 ปี แต่ค่าใช้จ่าย $10 billion ไม่ใช่ "more than"
-
False - บทความระบุ "at least 10 years" ไม่ใช่ "exactly 10 years"
การทำ IELTS reading true false not given อย่างสำเร็จต้องอาศัยความอดทน ความละเอียดรอบคอบ และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยเทคนิคและกลยุทธ์ที่เหมาะสม คุณจะสามารถพิชิตข้อสอบประเภทนี้และได้คะแนนที่ต้องการในการสอบ IELTS ได้อย่างแน่นอน
กับ PREP คุณจะได้เรียน IELTS Reading & Listening อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง พร้อมกลยุทธ์ที่ช่วยจัดการกับทุกประเภทคำถาม ทำให้คะแนนเพิ่มขึ้นเร็วและมั่นใจมากขึ้น ที่สำคัญคือ ห้องฝึกสอบ IELTS 3D Prep AI ที่อัพเดทข้อสอบใหม่ๆ และคำอธิบายที่ชัดเจน
เรียนออนไลน์ที่บ้าน ทั้งประหยัดเวลาและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ดาวน์โหลดแอป PREP เลย! เรียน IELTS ออนไลน์ที่บ้านได้ทันที
ติดต่อ HOTLINE +6624606789 หรือคลิกที่นี่เพื่อสมัครเรียน!

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
บทความที่เกี่ยวข้อง
ค้นหาบทความการศึกษา
แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน
กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
