ค้นหาบทความการเรียน
เจาะลึกข้อสอบ IELTS Reading แบบ True, False, Not Given พร้อมเคล็ดลับตอบให้ถูก
คุณกำลังเตรียมตัวสำหรับพาร์ท Reading อยู่แต่ไม่แน่ใจในวิธีการศึกษาที่เหมาะสมใช่ไหม? รู้สึกกังวลกับประเภทของคำถามในข้อสอบ IELTS Reading และรู้สึกหนักใจเมื่อต้องเจอกับข้อสอบ IELTS Reading แบบ True, False, Not Given หรือเปล่า บทความนี้ PREP จะมาแบ่งปัน "กุญแจ" สู่ความสำเร็จในการพิชิตคำถามประเภท True/False/Not Given ให้กับชาว Preppies ทุกคน มาสำรวจกันว่าคุณจะสามารถจัดการกับคำถามประเภทนี้อย่างไรเพื่อให้ได้คะแนนสูงในพาร์ท Reading!
I. ภาพรวมของข้อสอบ IELTS Reading แบบ True, False, Not Given
1. ข้อสอบ IELTS Reading แบบ True, False, Not Given คืออะไร
คำถาม True/False/Not Given จะให้คุณพิจารณาว่าข้อความในคำถามนั้น "ถูกต้อง" (True), "ผิด" (False) หรือ "ไม่มีข้อมูล" (Not Given) ในบทความที่อ่านอยู่หรือไม่ โดยพิจารณาจากข้อมูลที่ปรากฏในบทความ
เมื่อตอบคำถามประเภทนี้ ผู้สอบจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงในคำถามว่าตรงกับข้อมูลในบทความ (True/False) หรือหาไม่เจอในบทความ (Not Given) แม้ว่าคำถามประเภทนี้จะค่อนข้างง่าย แต่ก็อาจท้าทายสำหรับบางคนที่ยังไม่เข้าใจหลักการของมัน โดยทั่วไปแล้วมี 2 รูปแบบหลักของคำถาม True/False/Not Given ได้แก่:
-
True/False/Not Given ที่อ้างถึงบุคคลหรือสิ่งของหนึ่ง ๆ
-
True/False/Not Given ในรูปแบบการเปรียบเทียบ
หมายเหตุ: หากข้อสอบ IELTS Reading มีเพียงตัวเลือก T/F อย่างเดียว จะทำให้การทำข้อสอบง่ายขึ้น แต่ผู้สอบหลายคนมักใช้เวลานานในการตัดสินใจ เพราะ:
-
กลัวสับสนระหว่าง NOT GIVEN กับ FALSE ทำให้ลังเลว่าจะเลือกคำตอบใด
-
อาศัยแค่คำสำคัญ (keywords) ในบทความโดยไม่พิจารณาความหมายทั้งหมดของข้อความ เมื่อเจอคำสำคัญก็จะเลือก TRUE/FALSE โดยไม่สนใจเนื้อหาที่เจาะจงในข้อความ
2. ทักษะที่จำเป็นในการตอบข้อสอบ IELTS Reading แบบ True, False, Not Given
เพื่อให้ทำคะแนนได้ดีในคำถาม True/False/Not Given ผู้สอบควรมีทักษะดังต่อไปนี้:
-
ระบุข้อมูลเฉพาะในบทความได้อย่างแม่นยำ: ต้องสามารถหาข้อมูลที่ตรงกับคำถามได้
-
ทบทวนและเข้าใจข้อมูลทั้งหมดในรูปแบบ T/F/NG: เพื่อให้แน่ใจว่าตอบคำถามได้ครบถ้วนตามข้อกำหนด
-
เข้าใจมุมมองเฉพาะของผู้เขียน (ในรูปแบบ Y/N/NG): เพื่อให้สามารถระบุได้อย่างถูกต้องว่าผู้เขียนมีมุมมองอย่างไรเกี่ยวกับข้อมูลนั้น
3. รูปแบบของข้อสอบ IELTS Reading แบบ True, False, Not Given
ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นรูปแบบคำถาม True/False/Not Given ที่พบได้ในข้อสอบจริงของ IELTS Reading:
(ielts reading ตัวอย่าง: ตัวอย่างคำถาม T/F/NG และวิธีการประเมินตามรูปแบบข้อสอบจริงจะช่วยให้ผู้เรียนมีแนวทางที่ชัดเจนในการตอบคำถาม)
II. วิธีการทำข้อสอบ True/False/Not Given ใน IELTS Reading อย่างง่าย
คำถามประเภท True/False/Not Given ไม่ใช่คำถามที่ยากนัก แต่เพื่อทำคะแนนให้ได้สูงสุด คุณต้องอ่านและทำความเข้าใจคำถามอย่างละเอียด ลองทำตาม 4 ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อฝึกฝนและเพิ่มคะแนนในข้อสอบ IELTS Reading:
-
ขั้นตอนที่ 1: อ่านคำถามอย่างระมัดระวังเพื่อกำหนดรูปแบบ T/F/NG
อ่านคำถามอย่างละเอียดเพื่อแยกแยะว่าคำถามอยู่ในรูปแบบ T/F/NG หรือ Y/N/NG (อย่าสับสนระหว่างสองรูปแบบนี้ เพราะการตอบผิดจะไม่ได้คะแนน) -
ขั้นตอนที่ 2: อ่านคำถามทั้งหมดและขีดเส้นใต้คำสำคัญ
ขีดเส้นใต้คำสำคัญ (keywords) และให้ความสำคัญกับคำสำคัญเฉพาะ เช่น ชื่อบุคคล, ตัวเลข, คำศัพท์เฉพาะ ระวังคำที่มีความหมายสุดโต่งที่อาจทำให้เข้าใจผิด เช่น "only," "all," และ "never" ตัวอย่างเช่น:-
Michael Faraday was the first person to recognize Perkin’s ability as a student of chemistry.
-
Michael Faraday suggested Perkin should enroll in the Royal College of Chemistry.
-
Perkin employed August Wilhelm Hofmann as his assistant.
-
Perkin was still young when he made the discovery that made him rich and famous.
-
-
ขั้นตอนที่ 3: Scanning
ใช้เทคนิค สแกนหาคำสำคัญในบทความ และอ่านประโยคที่มีข้อมูลเหล่านั้นอย่างละเอียด เปรียบเทียบคำสำคัญในคำถามและข้อมูลในบทความเพื่อหาคำตอบ -
ขั้นตอนที่ 4: เขียนคำตอบลงไปทันทีโดยไม่เว้นว่างในแผ่นคำตอบ
ห้ามทิ้งคำตอบว่างไว้ในแผ่นคำตอบเด็ดขาด (พยายามตัดตัวเลือกที่ไม่น่าจะถูกเพื่อเพิ่มความแม่นยำ)
III. เคล็ดลับสำหรับการตอบข้อสอบ IELTS Reading แบบ True, False, Not Given อย่างแม่นยำ
1. เคล็ดลับสำหรับการตอบคำถาม True/False/Not Given (แบบเดี่ยว)
คำถามประเภท True/False/Not Given (แบบเดี่ยว) อาจไม่พบบ่อยในข้อสอบจริง แต่ควรทำอย่างไรเมื่อเจอคำถามประเภทนี้? ลองดูเคล็ดลับในการเลือกคำตอบที่ถูกต้องในภาพด้านล่าง
รูปแบบ TRUE/ FALSE/ NOT GIVEN (สำหรับ 1 สิ่ง/วัตถุ)
เราควรตอบคำถามประเภทนี้อย่างไร ดูคำแนะนำดังนี้:
-
มีข้อมูลในบทความที่ตรงกับคำถาม -> TRUE
-
มีข้อมูลในบทความ แต่ข้อมูลไม่ตรงกับคำถาม -> FALSE
-
ไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องในบทความเลย หรือข้อมูลไม่ครบ -> NOT GIVEN
หมายเหตุ: หากบทความระบุเพียงบางส่วนของข้อมูลที่กำหนดไว้ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลทั้งหมดถูกต้องหรือไม่ ให้ตอบ NOT GIVEN
2. เคล็ดลับสำหรับการตอบข้อสอบ IELTS Reading แบบ True, False, Not Given (รูปแบบการเปรียบเทียบ)
คำถาม True/False/Not Given (แบบเปรียบเทียบ) เป็นประเภทที่ผู้สอบมักทำผิดในข้อสอบจริง จุดที่ทำให้สับสนคือการเปรียบเทียบระหว่างสองสิ่ง หากต้องการตอบคำถามประเภทนี้ให้ได้คะแนนสูง ให้ดูคำแนะนำดังต่อไปนี้:
รูปแบบ TRUE/ FALSE/ NOT GIVEN (มีการเปรียบเทียบ)
-
มีข้อมูลทั้งในคำถามและในบทความ
-
ไม่มีการเปรียบเทียบระหว่าง A และ B
→ NOT GIVEN -
มีวัตถุเปรียบเทียบสองสิ่งในคำถาม
-
บทความกล่าวถึงเพียงวัตถุหนึ่ง อีกวัตถุหนึ่งไม่ได้กล่าวถึง
→ NOT GIVEN -
วัตถุเปรียบเทียบถูกกล่าวถึงในคำถาม
-
วัตถุหนึ่ง "มากกว่า" วัตถุอีกหนึ่ง
-
บทความให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกับคำถาม
→ FALSE -
วัตถุเปรียบเทียบถูกกล่าวถึงในคำถาม
-
วัตถุหนึ่ง "มากกว่า" วัตถุอีกหนึ่ง
-
บทความให้ข้อมูลที่ตรงกับคำถาม
→ TRUE
3. เคล็ดลับในการจัดการกับข้อสอบ IELTS Reading แบบ True, False, Not Given อย่างรวดเร็ว
เพื่อที่จะตอบคำถาม True/False/Not Given ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณจำเป็นต้องเชี่ยวชาญเคล็ดลับและกลยุทธ์บางประการดังนี้:
-
คำตอบจะเรียงตามลำดับในบทความ: เคล็ดลับแรกคือค้นหาคำตอบเรียงตามลำดับตั้งแต่ต้นจนจบ เช่น คำตอบที่ 1 อาจอยู่ในย่อหน้าแรก คำตอบที่ 2 อาจอยู่ในย่อหน้าถัดไป... และคำตอบที่ 5 อาจอยู่ในย่อหน้าที่ 5 หรือ 6 ดังนั้นให้ค้นหาคำตอบตามลำดับอย่างรวดเร็วและระมัดระวัง!
-
ความรอบคอบสำคัญที่สุด: คำตอบ "Not Given" ไม่ได้หมายความว่าไม่มีข้อมูลเลย ในหลายกรณี คำตอบ Not Given อาจมีข้อมูลในบทความ แต่ข้อมูลนั้นไม่ใช่คำตอบสำหรับคำถามที่กำหนด คำที่หายไปหรือคำที่มีความหมายตรงข้ามอาจทำให้เข้าใจผิดได้ง่าย ระวังไม่ให้เสียคะแนนอย่างไม่ยุติธรรม
-
หลีกเลี่ยงการคิดมากเกินไป: อย่าเดาหรือสรุปข้อมูลที่คุณคิดว่าใช่โดยอิงจากความคิดเห็นส่วนตัว คำตอบที่ถูกต้องอยู่ในบทความเท่านั้น → อย่าคิดซับซ้อนเกินไป
IV. แบบฝึกหัด True/False/Not Given ใน IELTS Reading พร้อมคำตอบ
หากคุณกำลังมองหาแบบฝึกหัดเพิ่มเติมสำหรับ True/False/Not Given สามารถลงทะเบียนคอร์ส IELTS Basic Listening-Reading และ IELTS Advanced Listening-Reading เพื่อฝึกฝนแบบฝึกหัดประเภทนี้อย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ PREP ได้รวบรวมไฟล์ PDF แบบฝึกหัด True False Not Given ให้คุณดาวน์โหลดเพื่อนำไปฝึกฝนที่บ้านเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการทำข้อสอบ IELTS Reading ของคุณ:
บทความนี้ได้แนะนำวิธีการตอบข้อสอบ IELTS Reading แบบ True, False, Not Given พร้อมเคล็ดลับที่ใช้ง่ายและได้ผล Preppies สามารถนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ในการฝึกอ่านที่บ้านเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านของคุณ ขอให้ประสบความสำเร็จในการพิชิตทักษะการอ่านและได้คะแนนสูงใน IELTS
กับ PREP คุณจะได้เรียน IELTS Reading & Listening อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง พร้อมกลยุทธ์ที่ช่วยจัดการกับทุกประเภทคำถาม ทำให้คะแนนเพิ่มขึ้นเร็วและมั่นใจมากขึ้น ที่สำคัญคือ ห้องฝึกสอบ IELTS 3D Prep AI ที่อัพเดทข้อสอบใหม่ๆ และคำอธิบายที่ชัดเจน
เรียนออนไลน์ที่บ้าน ทั้งประหยัดเวลาและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ดาวน์โหลดแอป PREP เลย! เรียน IELTS ออนไลน์ที่บ้านได้ทันที
ติดต่อ HOTLINE +6624606789 หรือคลิกที่นี่เพื่อสมัครเรียน!
ความคิดเห็น
ค้นหาบทความการเรียน
คุณอาจจะสนใจ
ตัวอย่าง Speaking Part 2: Describe a person whose work is useful to society
ข้อผิดพลาดในการ Paraphrase ใน IELTS Writing พร้อมวิธีแก้ไข
สูตรพิชิต IELTS Writing 7.0+ ด้วยเทคนิค 3/5+/5+/2 ที่ได้ผลจริง
4 รวมหนังสือสำนวนภาษาอังกฤษเด็ดๆ ที่ช่วยคุณทำคะแนนสูงใน IELTS
วิธีฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษวันละ 30 นาที เพื่อการพูดที่ลื่นไหลและเป็นธรรมชาติ
ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน
กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!