ค้นหาบทความการศึกษา
Skimming and Scanning: อ่านเร็ว หาคำตอบไว ทันทุกข้อสอบ
คุณเคยนั่งทำข้อสอบแล้วรู้สึกว่าเวลากำลังจะหมด แต่ยังเหลือข้อสอบอีกครึ่งชุดไหม? เสียงประกาศ "เหลือเวลาอีก 5 นาที" แต่คุณยังทำข้อสอบไม่ถึงครึ่ง นี่คือปัญหาที่พบบ่อยในสนามสอบ IELTS, TOEIC หรือแม้แต่ O-NET วิชาภาษาอังกฤษ ที่ผู้สอบมักต้องเผชิญกับความกดดันเมื่อเวลาหมดก่อนทำข้อสอบเสร็จ
Skimming and scanning คือ เทคนิคการอ่านเร็วที่ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในสนามสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งสองเทคนิคนี้ไม่ได้เน้นการอ่านละเอียดทุกคำ แต่เป็นการอ่านแบบมีกลยุทธ์ที่ช่วยให้คุณเข้าใจเนื้อหาและหาคำตอบได้อย่างรวดเร็ว
เทคนิค skimming and scanning แยกออกเป็นสองส่วนที่มีจุดประสงค์ต่างกัน skim reading เป็นการกวาดสายตาอย่างรวดเร็วเพื่อจับใจความสำคัญของบทความ คล้ายกับการดูตัวอย่างหนังเพื่อรู้ว่าเรื่องนั้นเกี่ยวกับอะไร Skimming meaning หมายถึงการ "ลูบคลำ" เนื้อหาโดยไม่ลงลึกในรายละเอียด ในขณะที่ scanning เป็นการมองหาข้อมูลเฉพาะเจาะจง เช่น ตัวเลข วันที่ หรือชื่อบุคคล เปรียบเหมือนการค้นหาเบอร์โทรศัพท์ในสมุดรายชื่อ
Skimming and scanning difference ที่สำคัญคือ skimming ช่วยให้เข้าใจภาพรวม (Big Picture) ขณะที่ scanning ช่วยหาข้อมูลเฉพาะจุด (Specific Detail) การเลือกใช้เทคนิคใดขึ้นอยู่กับประเภทของคำถาม หากคำถามถามเกี่ยวกับแนวคิดหลักของบทความ ควรใช้ skimming แต่ถ้าถามหาข้อมูลเฉพาะ เช่น "John Smith ทำอาชีพอะไร" ควรใช้ scanning
อยากทำข้อสอบให้ทันและได้คะแนนดี? มาฝึกฝนเทคนิค skimming and scanning กับ PREP ที่เน้นการฝึกแบบลงมือทำจริงผ่านโจทย์สถานการณ์จำลองหลากหลาย อ่านต่อเพื่อเรียนรู้วิธีใช้เทคนิคนี้ในสนามสอบให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

I. Skimming & Scanning คืออะไร?
Skimming and scanning คือ เทคนิคการอ่านเร็วที่ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในสนามสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณเคยประสบปัญหานี้ไหม? นั่งทำข้อสอบ อ่านโจทย์ วิเคราะห์ ตอบไปเรื่อยๆ แล้วจู่ๆ กรรมการสอบประกาศ "เหลือเวลาอีก 5 นาที" แต่คุณยังเหลือข้อสอบอีกครึ่งชุด นี่คือปัญหาที่พบบ่อยที่สุดในสนามสอบ IELTS, TOEIC หรือแม้แต่ข้อสอบ O-NET วิชาภาษาอังกฤษ เวลาหมดก่อนทำข้อสอบเสร็จ
เทคนิค skimming and scanning เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการอ่านเร็ว มันไม่ใช่การอ่านแบบละเอียดทุกคำ แต่เป็นวิธีการอ่านอย่างมีกลยุทธ์ที่ช่วยให้คุณจัดการเวลาในการสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ reading techniques skimming and scanning อย่างชำนาญจะช่วยให้ผู้สอบมีเวลาเหลือเพียงพอในการตรวจทานคำตอบ

II. Skimming: อ่านไว เอาแค่ "ใจความหลัก"
หัวใจ Skimming: หา Main Idea เร็วๆ
Skimming meaning คือการอ่านแบบกวาดสายตาอย่างรวดเร็วเพื่อจับใจความสำคัญของบทความ ไม่ใช่อ่านทุกคำ แต่เป็นการ "ลูบคลำ" เนื้อหาเพื่อเข้าใจภาพรวม คล้ายกับการดูตัวอย่างหนัง (trailer) เพื่อให้รู้ว่าหนังเรื่องนั้นเกี่ยวกับอะไร Skim reading เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับข้อสอบที่มีเวลาจำกัด และเป็นส่วนหนึ่งของเทคนิค skimming and scanning ที่ผู้สอบต้องฝึกฝน
วิธีใช้ในสนามสอบ: อ่านหัวข้อ + ย่อหน้าแรก/ท้าย + ประโยคแรกย่อหน้าอื่น
เมื่อ skimming ในสนามสอบ ให้ทำตามขั้นตอนนี้:
-
อ่านชื่อเรื่อง หัวข้อย่อย และคำที่เน้น (ตัวหนา ตัวเอียง)
-
อ่านย่อหน้าแรกและย่อหน้าสุดท้ายอย่างละเอียด (มักมีสาระสำคัญ)
-
อ่านเฉพาะประโยคแรกของแต่ละย่อหน้า (Topic Sentence)
-
สังเกตตัวเลข วันที่ ชื่อคน หรือคำสำคัญที่โดดเด่น
ใช้เวลาประมาณ 30 วินาทีถึง 2 นาทีต่อหน้า ขึ้นอยู่กับความยาวของเนื้อหา
III. Scanning: สแกนหา "คำตอบ" เป๊ะๆ
หัวใจ Scanning: หา Keyword ให้เจอไว
Scanning เป็นเทคนิคที่ต่างจาก skimming โดยสิ้นเชิง เพราะคุณไม่ได้สนใจภาพรวม แต่กำลังมองหาข้อมูลเฉพาะ เช่น ตัวเลข ชื่อคน สถานที่ หรือวันที่ คล้ายกับการค้นหาเบอร์โทรศัพท์ในสมุดโทรศัพท์ ใช้เวลาเพียง 5-30 วินาทีเท่านั้น
วิธีใช้ในสนามสอบ: ดู Keyword คำถาม -> กวาดตาหาในเนื้อหา -> เจอแล้วอ่านรอบๆ
เมื่อต้องใช้ skim and scan technique ในข้อสอบ:
-
ระบุคำสำคัญจากคำถาม (ตัวเลข วันที่ ชื่อเฉพาะ)
-
กวาดสายตาอย่างรวดเร็วในบทความเพื่อหาคำเหล่านั้น
-
เมื่อพบคำสำคัญ ให้อ่านประโยคนั้นและบริบทรอบๆ เพื่อยืนยันคำตอบ
การฝึกฝนเทคนิค skimming and scanning อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณใช้วิธีนี้ได้คล่องแคล่วในสนามสอบจริง
IV. Skim หรือ Scan? เมื่อไหร่ใช้ตัวไหน
ข้อแตกต่างสำคัญ: Skim = หาภาพรวม / Scan = หาจุดเล็กๆ
Skimming and scanning difference คือ:
-
Skim reading ช่วยให้เข้าใจเนื้อหาโดยรวม (Big Picture)
-
Scanning ช่วยให้หา Specific Detail (specific details คือข้อมูลเฉพาะเจาะจง)
เข้าใจความแตกต่างนี้เป็นกุญแจสำคัญในการใช้เทคนิค skimming and scanning ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวอย่างง่ายๆ: คำถาม Main Idea -> Skim / คำถามหาชื่อคน -> Scan
ตัวอย่าง examples of skimming and scanning in reading:
-
ใช้ Skimming เมื่อคำถามถามว่า "บทความนี้เกี่ยวกับอะไร" หรือ "จุดประสงค์ของผู้เขียนคืออะไร"
-
ใช้ Scanning เมื่อคำถามถามว่า "John Smith ทำอาชีพอะไร" หรือ "เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อไร"

V. รวมเทคนิคใช้ Skimming & Scanning ทำข้อสอบจริง
1. ข้อสอบ Reading: Skim ก่อน Scan ทีหลัง
ใน examples of skimming and scanning in reading สำหรับข้อสอบ การผสมผสานทั้งสองเทคนิคจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด:
-
Skim เนื้อหาทั้งหมดก่อนเพื่อให้เข้าใจภาพรวม (1-2 นาที)
-
อ่านคำถามให้เข้าใจและระบุคำสำคัญ
-
Scan กลับไปหาคำตอบในเนื้อหา
-
อ่านบริบทรอบๆ คำตอบเพื่อความแม่นยำ
นี่คือการประยุกต์ใช้ skimming and scanning อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
2. ข้อสอบคำศัพท์/เติมคำ: Scan หาคำ + อ่านบริบทสั้นๆ
สำหรับข้อสอบเติมคำหรือหาความหมาย:
-
Scan หาคำศัพท์ที่ถูกถาม
-
อ่านประโยคก่อนและหลัง เพื่อเข้าใจบริบท
-
ตอบโดยใช้ความเข้าใจจากบริบท ไม่ใช่ความหมายที่ท่องจำ
3. ข้อสอบตาราง/กราฟ: Scan หาตัวเลข/ข้อมูลที่ถาม
สำหรับข้อสอบที่มีตาราง กราฟ หรือแผนภูมิ:
-
อ่านคำถามให้เข้าใจว่าต้องการข้อมูลอะไร
-
Scan ตรงไปที่ส่วนของกราฟหรือตารางที่เกี่ยวข้อง
-
ตรวจสอบหน่วย สเกล และตัวเลขให้ถูกต้อง

VI. เคล็ดลับ & ข้อควรระวัง
1. เคล็ดลับ: ฝึกกับข้อสอบเก่า, จับเวลา
การใช้ skim and scan technique ให้ได้ผลจริง ต้องผ่านการฝึกฝน:
-
ฝึกกับข้อสอบเก่าหรือบทความที่มีคำถามท้ายบท
-
จับเวลาตัวเองเสมอ (Skimming 1-2 นาที/หน้า, Scanning 5-30 วินาที)
-
ฝึกทำข้อสอบแบบจำลองสถานการณ์จริง (Mock Test)
2. ข้อควรระวัง: อย่าเร็วไปจนพลาด, อย่าช้าไปจนไม่ทัน
แม้ว่า skimming meaning จะเกี่ยวกับความเร็ว แต่ก็มีข้อควรระวัง:
-
อย่าอ่านเร็วเกินไปจนพลาดข้อมูลสำคัญ
-
อย่ายึดติดกับคำหรือย่อหน้าที่ไม่เข้าใจนานเกินไป
-
อย่าลืมกลับไปอ่านรายละเอียดหลังจาก scan พบคำสำคัญแล้ว
VII. Q&A สั้น กระชับ ฉับไว
1. ต้อง Skim ก่อน Scan ตลอดไหม?
ไม่จำเป็น ให้ดูคำถามก่อนว่าต้องการอะไร หากคำถามเจาะจงมาก อาจ Scan ก่อนเลยก็ได้ แต่หากคำถามกว้างเกี่ยวกับใจความหลัก ควรเริ่มด้วย Skim
2. นอกจากสอบ ใช้ S&S ตอนไหนได้อีก?
ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เช่น อ่านข่าว อีเมล เว็บไซต์ หรือเอกสารยาว โดย Skim เพื่อดูภาพรวมว่าน่าสนใจไหม แล้ว Scan หาข้อมูลที่ต้องการเฉพาะเจาะจง
3. ใช้กับวิชาอื่นได้ไหม?
ได้แน่นอน! วิชาคณิตศาสตร์ - Scan หาตัวเลขสำคัญในโจทย์ วิชาสังคม - Skim เพื่อเข้าใจเหตุการณ์โดยรวม แล้ว Scan หาวันที่หรือบุคคลสำคัญ
4. Scan อย่างเดียวโดยไม่ Skim เลยได้ไหม?
ได้ในกรณีที่คำถามเจาะจงมาก เช่น "สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มปีไหน" แค่ Scan หา "สงครามโลกครั้งที่ 2" และ "ปี" ก็พอ ไม่จำเป็นต้อง Skim ทั้งบทความ
VIII. สรุปสั้นๆ
การฝึกฝน skimming and scanning อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณอ่านเร็วขึ้น หาคำตอบได้ไวขึ้น และมีเวลาเหลือในการทำข้อสอบส่วนอื่นหรือตรวจทานคำตอบ ที่สำคัญที่สุดคือต้องฝึกฝนให้เป็นธรรมชาติ เมื่อถึงสนามสอบจริง คุณจะใช้เทคนิคนี้ได้โดยอัตโนมัติ นี่คือวิธีที่จะช่วยให้คุณทำข้อสอบได้ทันเวลาและได้คะแนนที่ดีขึ้น
PREP สอนเทคนิค skimming and scanning โดยเน้นการฝึกฝนแบบลงมือทำจริง ผ่านโจทย์และสถานการณ์จำลองที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้เรียนนำไปใช้ได้จริงในสนามสอบ
กับ PREP คุณจะได้เรียน IELTS Reading & Listening อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง พร้อมกลยุทธ์ที่ช่วยจัดการกับทุกประเภทคำถาม ทำให้คะแนนเพิ่มขึ้นเร็วและมั่นใจมากขึ้น ที่สำคัญคือ ห้องฝึกสอบ IELTS 3D Prep AI ที่อัพเดทข้อสอบใหม่ๆ และคำอธิบายที่ชัดเจน
เรียนออนไลน์ที่บ้าน ทั้งประหยัดเวลาและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ดาวน์โหลดแอป PREP เลย! เรียน IELTS ออนไลน์ที่บ้านได้ทันที
ติดต่อ HOTLINE +6624606789 หรือคลิกที่นี่เพื่อสมัครเรียน!

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
บทความที่เกี่ยวข้อง
ค้นหาบทความการศึกษา
แผนที่เฉพาะบุคคล
อ่านมากที่สุด
ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน
กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

เชื่อมต่อกับ Prep
