ค้นหาบทความการศึกษา
Skimming and Scanning: อ่านเร็ว หาคำตอบไว ทันทุกข้อสอบ
บทความนี้นำเสนอเทคนิค skimming and scanning ซึ่งเป็นกลยุทธ์การอ่านเร็วที่ช่วยแก้ปัญหาการทำข้อสอบไม่ทันเวลา โดยเฉพาะในการสอบภาษาอังกฤษอย่าง IELTS, TOEIC หรือ O-NET
Skimming and scanning คือ เทคนิคการอ่านแบบมีกลยุทธ์ที่แบ่งเป็นสองวิธีหลัก:
-
Skimming คือการอ่านแบบกวาดสายตาเพื่อจับใจความสำคัญ (main idea) โดยไม่อ่านทุกคำ เปรียบเสมือนการดูตัวอย่างหนังเพื่อเข้าใจเรื่องราวโดยรวม วิธีการทำได้โดย:
-
อ่านหัวข้อ คำที่เน้น และประโยคแรกของแต่ละย่อหน้า
-
อ่านย่อหน้าแรกและย่อหน้าสุดท้ายอย่างละเอียด
-
ใช้เวลาประมาณ 30 วินาที - 2 นาทีต่อหน้า
-
-
Scanning คือการอ่านแบบค้นหาข้อมูลเฉพาะเจาะจง เช่น ตัวเลข วันที่ ชื่อบุคคล โดย:
-
กำหนดคำสำคัญที่ต้องการค้นหา
-
กวาดสายตาหาคำเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
-
เมื่อพบแล้ว อ่านบริบทรอบๆ เพื่อยืนยันคำตอบ
-
ใช้เวลาเพียง 5-30 วินาที
-
ความแตกต่างสำคัญ ระหว่างสองเทคนิคนี้ คือ skimming เน้นหาภาพรวม ส่วน scanning เน้นหาข้อมูลเฉพาะ
การประยุกต์ใช้ในข้อสอบแต่ละประเภท:
-
ข้อสอบ Reading: ใช้ skimming ก่อนเพื่อเข้าใจภาพรวม แล้วตามด้วย scanning เพื่อหาคำตอบ
-
ข้อสอบคำศัพท์/เติมคำ: scanning หาคำสำคัญ แล้วอ่านบริบทรอบข้าง
-
ข้อสอบตาราง/กราฟ: scanning หาข้อมูลที่ตรงกับคำถาม
เคล็ดลับการฝึกฝน:
-
ฝึกกับข้อสอบเก่าและตั้งเวลาจับ
-
ระวังอย่าอ่านเร็วเกินไปจนพลาดข้อมูลสำคัญ
-
อย่าติดอยู่กับคำที่ไม่เข้าใจนานเกินไป
บทความยังอธิบายว่าเทคนิคนี้สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การอ่านข่าว อีเมล และเว็บไซต์ รวมถึงการนำไปใช้ในวิชาอื่นๆ เช่น คณิตศาสตร์ และสังคมศึกษา
PREP เน้นการสอนเทคนิค skimming and scanning ผ่านการฝึกฝนจริง เพื่อให้ผู้เรียนนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในสนามสอบจริง ช่วยประหยัดเวลา และเพิ่มโอกาสในการทำข้อสอบได้คะแนนดี

I. Skimming & Scanning คืออะไร?
Skimming and scanning คือ เทคนิคการอ่านเร็วที่ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในสนามสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณเคยประสบปัญหานี้ไหม? นั่งทำข้อสอบ อ่านโจทย์ วิเคราะห์ ตอบไปเรื่อยๆ แล้วจู่ๆ กรรมการสอบประกาศ "เหลือเวลาอีก 5 นาที" แต่คุณยังเหลือข้อสอบอีกครึ่งชุด นี่คือปัญหาที่พบบ่อยที่สุดในสนามสอบ IELTS, TOEIC หรือแม้แต่ข้อสอบ O-NET วิชาภาษาอังกฤษ เวลาหมดก่อนทำข้อสอบเสร็จ
เทคนิค skimming and scanning เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการอ่านเร็ว มันไม่ใช่การอ่านแบบละเอียดทุกคำ แต่เป็นวิธีการอ่านอย่างมีกลยุทธ์ที่ช่วยให้คุณจัดการเวลาในการสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ reading techniques skimming and scanning อย่างชำนาญจะช่วยให้ผู้สอบมีเวลาเหลือเพียงพอในการตรวจทานคำตอบ

II. Skimming: อ่านไว เอาแค่ "ใจความหลัก"
หัวใจ Skimming: หา Main Idea เร็วๆ
Skimming meaning คือการอ่านแบบกวาดสายตาอย่างรวดเร็วเพื่อจับใจความสำคัญของบทความ ไม่ใช่อ่านทุกคำ แต่เป็นการ "ลูบคลำ" เนื้อหาเพื่อเข้าใจภาพรวม คล้ายกับการดูตัวอย่างหนัง (trailer) เพื่อให้รู้ว่าหนังเรื่องนั้นเกี่ยวกับอะไร Skim reading เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับข้อสอบที่มีเวลาจำกัด และเป็นส่วนหนึ่งของเทคนิค skimming and scanning ที่ผู้สอบต้องฝึกฝน
วิธีใช้ในสนามสอบ: อ่านหัวข้อ + ย่อหน้าแรก/ท้าย + ประโยคแรกย่อหน้าอื่น
เมื่อ skimming ในสนามสอบ ให้ทำตามขั้นตอนนี้:
-
อ่านชื่อเรื่อง หัวข้อย่อย และคำที่เน้น (ตัวหนา ตัวเอียง)
-
อ่านย่อหน้าแรกและย่อหน้าสุดท้ายอย่างละเอียด (มักมีสาระสำคัญ)
-
อ่านเฉพาะประโยคแรกของแต่ละย่อหน้า (Topic Sentence)
-
สังเกตตัวเลข วันที่ ชื่อคน หรือคำสำคัญที่โดดเด่น
ใช้เวลาประมาณ 30 วินาทีถึง 2 นาทีต่อหน้า ขึ้นอยู่กับความยาวของเนื้อหา
III. Scanning: สแกนหา "คำตอบ" เป๊ะๆ
หัวใจ Scanning: หา Keyword ให้เจอไว
Scanning เป็นเทคนิคที่ต่างจาก skimming โดยสิ้นเชิง เพราะคุณไม่ได้สนใจภาพรวม แต่กำลังมองหาข้อมูลเฉพาะ เช่น ตัวเลข ชื่อคน สถานที่ หรือวันที่ คล้ายกับการค้นหาเบอร์โทรศัพท์ในสมุดโทรศัพท์ ใช้เวลาเพียง 5-30 วินาทีเท่านั้น
วิธีใช้ในสนามสอบ: ดู Keyword คำถาม -> กวาดตาหาในเนื้อหา -> เจอแล้วอ่านรอบๆ
เมื่อต้องใช้ skim and scan technique ในข้อสอบ:
-
ระบุคำสำคัญจากคำถาม (ตัวเลข วันที่ ชื่อเฉพาะ)
-
กวาดสายตาอย่างรวดเร็วในบทความเพื่อหาคำเหล่านั้น
-
เมื่อพบคำสำคัญ ให้อ่านประโยคนั้นและบริบทรอบๆ เพื่อยืนยันคำตอบ
การฝึกฝนเทคนิค skimming and scanning อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณใช้วิธีนี้ได้คล่องแคล่วในสนามสอบจริง
IV. Skim หรือ Scan? เมื่อไหร่ใช้ตัวไหน
ข้อแตกต่างสำคัญ: Skim = หาภาพรวม / Scan = หาจุดเล็กๆ
Skimming and scanning difference คือ:
-
Skim reading ช่วยให้เข้าใจเนื้อหาโดยรวม (Big Picture)
-
Scanning ช่วยให้หา Specific Detail (specific details คือข้อมูลเฉพาะเจาะจง)
เข้าใจความแตกต่างนี้เป็นกุญแจสำคัญในการใช้เทคนิค skimming and scanning ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวอย่างง่ายๆ: คำถาม Main Idea -> Skim / คำถามหาชื่อคน -> Scan
ตัวอย่าง examples of skimming and scanning in reading:
-
ใช้ Skimming เมื่อคำถามถามว่า "บทความนี้เกี่ยวกับอะไร" หรือ "จุดประสงค์ของผู้เขียนคืออะไร"
-
ใช้ Scanning เมื่อคำถามถามว่า "John Smith ทำอาชีพอะไร" หรือ "เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อไร"

V. รวมเทคนิคใช้ Skimming & Scanning ทำข้อสอบจริง
1. ข้อสอบ Reading: Skim ก่อน Scan ทีหลัง
ใน examples of skimming and scanning in reading สำหรับข้อสอบ การผสมผสานทั้งสองเทคนิคจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด:
-
Skim เนื้อหาทั้งหมดก่อนเพื่อให้เข้าใจภาพรวม (1-2 นาที)
-
อ่านคำถามให้เข้าใจและระบุคำสำคัญ
-
Scan กลับไปหาคำตอบในเนื้อหา
-
อ่านบริบทรอบๆ คำตอบเพื่อความแม่นยำ
นี่คือการประยุกต์ใช้ skimming and scanning อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
2. ข้อสอบคำศัพท์/เติมคำ: Scan หาคำ + อ่านบริบทสั้นๆ
สำหรับข้อสอบเติมคำหรือหาความหมาย:
-
Scan หาคำศัพท์ที่ถูกถาม
-
อ่านประโยคก่อนและหลัง เพื่อเข้าใจบริบท
-
ตอบโดยใช้ความเข้าใจจากบริบท ไม่ใช่ความหมายที่ท่องจำ
3. ข้อสอบตาราง/กราฟ: Scan หาตัวเลข/ข้อมูลที่ถาม
สำหรับข้อสอบที่มีตาราง กราฟ หรือแผนภูมิ:
-
อ่านคำถามให้เข้าใจว่าต้องการข้อมูลอะไร
-
Scan ตรงไปที่ส่วนของกราฟหรือตารางที่เกี่ยวข้อง
-
ตรวจสอบหน่วย สเกล และตัวเลขให้ถูกต้อง

VI. เคล็ดลับ & ข้อควรระวัง
1. เคล็ดลับ: ฝึกกับข้อสอบเก่า, จับเวลา
การใช้ skim and scan technique ให้ได้ผลจริง ต้องผ่านการฝึกฝน:
-
ฝึกกับข้อสอบเก่าหรือบทความที่มีคำถามท้ายบท
-
จับเวลาตัวเองเสมอ (Skimming 1-2 นาที/หน้า, Scanning 5-30 วินาที)
-
ฝึกทำข้อสอบแบบจำลองสถานการณ์จริง (Mock Test)
2. ข้อควรระวัง: อย่าเร็วไปจนพลาด, อย่าช้าไปจนไม่ทัน
แม้ว่า skimming meaning จะเกี่ยวกับความเร็ว แต่ก็มีข้อควรระวัง:
-
อย่าอ่านเร็วเกินไปจนพลาดข้อมูลสำคัญ
-
อย่ายึดติดกับคำหรือย่อหน้าที่ไม่เข้าใจนานเกินไป
-
อย่าลืมกลับไปอ่านรายละเอียดหลังจาก scan พบคำสำคัญแล้ว
VII. Q&A สั้น กระชับ ฉับไว
1. ต้อง Skim ก่อน Scan ตลอดไหม?
ไม่จำเป็น ให้ดูคำถามก่อนว่าต้องการอะไร หากคำถามเจาะจงมาก อาจ Scan ก่อนเลยก็ได้ แต่หากคำถามกว้างเกี่ยวกับใจความหลัก ควรเริ่มด้วย Skim
2. นอกจากสอบ ใช้ S&S ตอนไหนได้อีก?
ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เช่น อ่านข่าว อีเมล เว็บไซต์ หรือเอกสารยาว โดย Skim เพื่อดูภาพรวมว่าน่าสนใจไหม แล้ว Scan หาข้อมูลที่ต้องการเฉพาะเจาะจง
3. ใช้กับวิชาอื่นได้ไหม?
ได้แน่นอน! วิชาคณิตศาสตร์ - Scan หาตัวเลขสำคัญในโจทย์ วิชาสังคม - Skim เพื่อเข้าใจเหตุการณ์โดยรวม แล้ว Scan หาวันที่หรือบุคคลสำคัญ
4. Scan อย่างเดียวโดยไม่ Skim เลยได้ไหม?
ได้ในกรณีที่คำถามเจาะจงมาก เช่น "สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มปีไหน" แค่ Scan หา "สงครามโลกครั้งที่ 2" และ "ปี" ก็พอ ไม่จำเป็นต้อง Skim ทั้งบทความ
VIII. สรุปสั้นๆ
การฝึกฝน skimming and scanning อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณอ่านเร็วขึ้น หาคำตอบได้ไวขึ้น และมีเวลาเหลือในการทำข้อสอบส่วนอื่นหรือตรวจทานคำตอบ ที่สำคัญที่สุดคือต้องฝึกฝนให้เป็นธรรมชาติ เมื่อถึงสนามสอบจริง คุณจะใช้เทคนิคนี้ได้โดยอัตโนมัติ นี่คือวิธีที่จะช่วยให้คุณทำข้อสอบได้ทันเวลาและได้คะแนนที่ดีขึ้น
PREP สอนเทคนิค skimming and scanning โดยเน้นการฝึกฝนแบบลงมือทำจริง ผ่านโจทย์และสถานการณ์จำลองที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้เรียนนำไปใช้ได้จริงในสนามสอบ
กับ PREP คุณจะได้เรียน IELTS Reading & Listening อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง พร้อมกลยุทธ์ที่ช่วยจัดการกับทุกประเภทคำถาม ทำให้คะแนนเพิ่มขึ้นเร็วและมั่นใจมากขึ้น ที่สำคัญคือ ห้องฝึกสอบ IELTS 3D Prep AI ที่อัพเดทข้อสอบใหม่ๆ และคำอธิบายที่ชัดเจน
เรียนออนไลน์ที่บ้าน ทั้งประหยัดเวลาและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ดาวน์โหลดแอป PREP เลย! เรียน IELTS ออนไลน์ที่บ้านได้ทันที
ติดต่อ HOTLINE +6624606789 หรือคลิกที่นี่เพื่อสมัครเรียน!

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
บทความที่เกี่ยวข้อง
ค้นหาบทความการศึกษา
แผนที่เฉพาะบุคคล
อ่านมากที่สุด
ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน
กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

เชื่อมต่อกับ Prep
