ค้นหาบทความการศึกษา

การเรียงลำดับคำในภาษาอังกฤษ (Word Order)

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมประโยคภาษาอังกฤษของคุณถึงฟังดูแปลกๆ แม้จะใช้คำศัพท์ถูกต้อง หรือทำไมเจ้าของภาษาถึงรู้ทันทีว่าคุณไม่ใช่คนอเมริกัน ความลับอยู่ที่การเรียงลำดับคำในภาษาอังกฤษที่แตกต่างจากภาษาไทยอย่างสิ้นเชิง

การเรียงลำดับคำในภาษาอังกฤษหรือ word order เป็นรากฐานสำคัญที่จะทำให้การเรียงประโยคภาษาอังกฤษของคุณฟังดูเป็นธรรมชาติและถูกต้องตามหลักไวยากรณ์

ระบบ word order ในภาษาอังกฤษมีความซับซ้อนมากกว่าที่ผู้เรียนส่วนใหญ่คิด ไม่ใช่แค่การจัดเรียง Subject-Verb-Object เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการวางตำแหน่งของ adjective order ตามกฎ OSASCOMP การวาง คํา ภาษาอังกฤษประเภท adverb ในตำแหน่งที่เหมาะสม และการจัดการกับประโยคซับซ้อนที่มีหลาย clause

สำหรับนักเรียนไทย ความเข้าใจเรื่อง word order สรุปจะช่วยยกระดับคะแนน IELTS Writing และ Speaking อย่างมีนัยสำคัญ เพราะการเรียงคำคุณศัพท์และการสร้างประโยคที่ถูกต้องเป็นหนึ่งในเกณฑ์การให้คะแนนที่สำคัญ การฝึกฝน Order of Adjectives และเทคนิคการจัดวางคำต่างๆ จะทำให้การเขียนและการพูดมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น

บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมของการเรียงลำดับคำ ตั้งแต่โครงสร้าง SVO พื้นฐาน เทคนิค OSASCOMP สำหรับคำคุณศัพท์ การวาง adverb ในตำแหน่งต่างๆ จนถึงการจัดการประโยคซับซ้อน พร้อมตัวอย่างการใช้งานจริงและข้อผิดพลาดที่คนไทยมักพบ

มาเริ่มต้นสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับการสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณกันเลย โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจความสำคัญของ word order

การเรียงลำดับคำในภาษาอังกฤษ โครงสร้างประโยคและตัวอย่างใช้งาน
การเรียงลำดับคำในภาษาอังกฤษ โครงสร้างประโยคและตัวอย่างใช้งาน

I. โครงสร้างประโยคพื้นฐาน: SVO (Subject-Verb-Object)

การเรียงลำดับคำในภาษาอังกฤษกำหนดความหมายของประโยคได้อย่างสิ้นเชิง เมื่อเราเรียงคำผิดตำแหน่ง ความหมายของประโยคจะเปลี่ยนไปหรือทำให้ผู้ฟังเข้าใจผิดได้ ตัวอย่างเช่น The dog bit the man กับ The man bit the dog จะให้ความหมายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้จะใช้คำเดียวกันทั้งหมด

ภาษาอังกฤษมีระบบ word order ที่เป็นแบบแผนและเข้มงวดมากกว่าภาษาไทย ความรู้เรื่องนี้จะช่วยให้ผู้เรียนหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่มักเกิดขึ้นในการเรียน IELTS, TOEIC หรือการสื่อสารในชีวิตประจำวัน การเรียงประโยคภาษาอังกฤษที่ถูกต้องจะทำให้การแสดงออกฟังดูเป็นธรรมชาติและมีความน่าเชื่อถือ

ภาษาอังกฤษใช้รูปแบบ SVO เป็นโครงสร้างหลักของประโยค ซึ่งแตกต่างจากภาษาไทยที่มีความยืดหยุ่นในการเรียงคำมากกว่า การเข้าใจโครงสร้างนี้จะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการสร้างประโยคที่ถูกต้อง

การเรียงลำดับคำในภาษาอังกฤษ โครงสร้างประโยคและตัวอย่างใช้งาน
โครงสร้างประโยคพื้นฐาน: SVO (Subject-Verb-Object)

1. Subject (ประธาน)

Subject คือผู้กระทำหรือสิ่งที่ประโยคกล่าวถึง โดยจะอยู่ในตำแหน่งแรกของประโยค ประธานอาจเป็นคำนาม สรรพนาม หรือกลุ่มคำนาม และมักจะตอบคำถาม Who หรือ What

ประเภท Subject

ตัวอย่าง

ความหมาย

คำนาม

Sarah studies English.

ซาราเรียนภาษาอังกฤษ

สรรพนาม

She loves music.

เธอรักดนตรี

กลุ่มคำนาม

The beautiful girl sings well.

เด็กสาวสวยร้องเพลงเก่ง

2. Verb (กริยา)

Verb แสดงการกระทำหรือสถานะของประธาน และอยู่หลัง Subject เสมอในประโยคบอกเล่า กริยาจะเปลี่ยนรูปตาม tense และ subject ที่ใช้

3. Object (กรรม) และตัวอย่างประโยค

Object รับการกระทำจาก Subject ผ่าน Verb และจะอยู่หลัง Verb ในประโยคธรรมดา Object ตอบคำถาม What หรือ Who หลังกริยา

ตัวอย่างประโยค SVO:

  • Tom reads books every day. (ทอมอ่านหนังสือทุกวัน)

  • My sister bought a new car yesterday. (พี่สาวผมซื้อรถใหม่เมื่อวาน)

  • They are watching movies tonight. (พวกเขากำลังดูหนังคืนนี้)

II. กฎการเรียงลำดับคำคุณศัพท์ (Order of Adjectives)

การเรียงคำคุณศัพท์เป็นหนึ่งในส่วนที่ท้าทายที่สุดของ word order เมื่อต้องใช้คำคุณศัพท์หลายคำขยายคำนามเดียวกัน การเรียงคำคุณศัพท์ต้องเป็นไปตามลำดับที่กำหนด มิฉะนั้นจะฟังดูผิดหูสำหรับเจ้าของภาษา

กฎ OSASCOMP เป็นเทคนิคที่ช่วยจำลำดับการเรียงคำคุณศัพท์ได้อย่างง่ายดาย การจำคำนี้จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถ adjective order ได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรมชาติ

การเรียงลำดับคำในภาษาอังกฤษ โครงสร้างประโยคและตัวอย่างใช้งาน
กฎการเรียงลำดับคำคุณศัพท์ (Order of Adjectives)

ตัวอักษร

ความหมาย

ตัวอย่าง

O

Opinion (ความคิดเห็น)

beautiful, ugly, nice

S

Size (ขนาด)

big, small, tiny

A

Age (อายุ)

old, new, young

S

Shape (รูปทรง)

round, square, long

C

Color (สี)

red, blue, green

O

Origin (ที่มา)

Thai, American, Japanese

M

Material (วัสดุ)

wooden, plastic, metal

P

Purpose (จุดประสงค์)

sleeping, cooking, sports

การเรียงคำคุณศัพท์ตาม OSASCOMP จะทำให้ประโยคฟังดูเป็นธรรมชาติ:

  • A beautiful small old round wooden table (โต๊ะไม้กลมเก่าขนาดเล็กที่สวยงาม)

  • Those expensive big new Italian leather shoes (รองเท้าหนังอิตาลีใหม่ขนาดใหญ่ราคาแพงคู่นั้น)

  • My lovely little white sleeping cat (แมวสีขาวตัวเล็กน่ารักที่กำลังนอนหลับของฉัน)

III. ตำแหน่งของคำวิเศษณ์ (Adverb Placement) ในประโยค

คำวิเศษณ์มีตำแหน่งที่หลากหลายในประโยค ขึ้นอยู่กับประเภทและความหมายที่ต้องการเน้น การวาง คํา ภาษาอังกฤษประเภทนี้ให้ถูกตำแหน่งจะช่วยให้ประโยคมีความชัดเจนและเข้าใจง่าย

1. Adverbs of Manner, Place, Time

กฎทั่วไปสำหรับการวางคำวิเศษณ์เหล่านี้คือ Manner-Place-Time หรือ MPT ซึ่งจะวางหลัง Object หากมี:

  • She drives carefully to school every morning. (เธอขับรถอย่างระมัดระวังไปโรงเรียนทุกเช้า)

  • They played football enthusiastically in the park yesterday. (พวกเขาเล่นฟุตบอลอย่างกระตือรือร้นในสวนสาธารณะเมื่อวาน)

  • He speaks English fluently at the office daily. (เขาพูดภาษาอังกฤษได้คล่องในออฟฟิศทุกวัน)

2. Adverbs of Frequency (เช่น always, never)

คำวิเศษณ์แสดงความถี่จะวางในตำแหน่งพิเศษ ขึ้นอยู่กับประเภทของกริยา:

ประเภทกริยา

ตำแหน่ง Adverb

ตัวอย่าง

กริยาธรรมดา

หลัง Subject หน้า Verb

She always arrives early. 

(เธอมาถึงเร็วเสมอ)

กริยา To be

หลัง Verb

He is never late. 

(เขาไม่เคยมาสาย)

กริยาช่วย

หลัง Auxiliary verb

I have often visited Bangkok. 

(ฉันไปเยี่ยมกรุงเทพบ่อยๆ)

IV. การเรียงประโยคประเภทต่างๆ

ประโยคแต่ละประเภทมีรูปแบบการเรียงคำที่แตกต่างกัน การเข้าใจ word order สรุปของแต่ละประเภทจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถสร้างประโยคได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

1. ประโยคคำถาม (Questions)

ประโยคคำถามมีการเรียงคำที่แตกต่างจากประโยคบอกเล่า โดยมักจะใช้ Inversion หรือการสลับตำแหน่ง:

  • Wh-questions: What do you study? (คุณเรียนอะไร)

  • Yes/No questions: Are you coming tomorrow? (คุณจะมาพรุ่งนี้ไหม)

  • Tag questions: You like coffee, don't you? (คุณชอบกาแฟใช่ไหม)

2. ประโยคปฏิเสธ (Negative Sentences)

ประโยคปฏิเสธใช้ not หรือ negative words โดยวางในตำแหน่งที่กำหนด:

  • She does not like spicy food. (เธอไม่ชอบอาหารเผ็ด)

  • We have never been to Japan. (เราไม่เคยไปญี่ปุ่น)

  • Nobody came to the party. (ไม่มีใครมางานปาร์ตี้)

3. ประโยคคำสั่ง (Imperatives)

ประโยคคำสั่งเริ่มต้นด้วยกริยาช่องที่ 1 โดยไม่มี Subject:

  • Open the window, please. (กรุณาเปิดหน้าต่าง)

  • Don't forget your homework. (อย่าลืมการบ้าน)

  • Let's go to the movies tonight. (ไปดูหนังกันเย็นนี้เถอะ)

V. การเรียงคำในประโยคซับซ้อน (Complex Sentences)

ประโยคซับซ้อนประกอบด้วยประโยคหลักและประโยคย่อย การเรียงลำดับคำในภาษาอังกฤษแบบนี้ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับ Subordinate clauses และ Relative clauses

ตัวอย่างประโยคซับซ้อน:

  • The book that I bought yesterday is very interesting. (หนังสือที่ฉันซื้อเมื่อวานน่าสนใจมาก)

  • Although it was raining, we went for a walk. (แม้จะฝนตก เราก็ออกไปเดิน)

  • If you study hard, you will pass the exam. (ถ้าคุณเรียนหนัก คุณจะสอบผ่าน)

VI. ข้อควรระวัง

คนไทยมักทำผิดในการเรียงลำดับคำเนื่องจากอิทธิพลของโครงสร้างภาษาไทย ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยได้แก่:

  • การวาง Adjective ผิดตำแหน่ง เช่น เขียน "car red" แทน "red car"

  • การวาง Adverb ผิดที่ เช่น "I always am late" แทน "I am always late"

  • การเรียง Time expression ผิด เช่น "Yesterday I went" แทน "I went yesterday"

การฝึกฝนและการเข้าใจหลักการ word order จะช่วยลดข้อผิดพลาดเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

VII. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. Word Order ต่างจาก Grammar อย่างไร?

Word order เป็นส่วนหนึ่งของ Grammar ที่เน้นเฉพาะการเรียงลำดับคำในประโยค ในขณะที่ Grammar ครอบคลุมหลักเกณฑ์ทั้งหมดของภาษา รวมถึง Tenses, Parts of speech และ Sentence structure

2. ต้องเรียง Adjective ตามกฎ OSASCOMP เสมอไปไหม?

ไม่จำเป็นต้องใช้คำคุณศัพท์ครบทุกประเภทในประโยคเดียว แต่เมื่อใช้หลายคำ ควรเรียงตามลำดับ OSASCOMP เพื่อให้ฟังดูเป็นธรรมชาติ

3. คำชนิดไหนวางได้หลายตำแหน่งในประโยค?

Adverbs สามารถวางได้หลายตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับความหมายที่ต้องการเน้น เช่น "Carefully, she opened the door" หรือ "She opened the door carefully"

4. Word Order ภาษาอังกฤษกับภาษาไทย ต่างกันอย่างไร?

ภาษาอังกฤษมี word order ที่เข้มงวดกว่าภาษาไทย ภาษาไทยใช้ context และ particles มากกว่าการเรียงคำในการสื่อความหมาย

การเรียงลำดับคำในภาษาอังกฤษต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เริ่มจากการเข้าใจโครงสร้าง SVO พื้นฐาน จากนั้นฝึกใช้กฎ OSASCOMP สำหรับคำคุณศัพท์ และเรียนรู้ตำแหน่งของคำวิเศษณ์ การอ่านและฟังเนื้อหาภาษาอังกฤษจะช่วยพัฒนาความรู้สึกทางภาษาและทำให้การเรียงประโยคเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ

สำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างครอบคลุม Prepedu มีหลักสูตร IELTS ที่ครอบคลุมทั้งการฝึก Grammar, Word Order และทักษะการสื่อสารที่จำเป็นสำหรับการสอบ ด้วยระบบการเรียนรู้ที่ทันสมัยและผู้สอนที่มีประสบการณ์ PREP จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียงประโยคภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและมั่นใจในการสื่อสาร

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 ตัวอักษร
Loading...

แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล

TH30

ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน

กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

bg contact

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล

facebookyoutubeinstagram
logo footer Prep
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
get prep on Google Playget Prep on app store
หลักสูตร
เชื่อมต่อกับเรา
mail icon - footerfacebook icon - footer
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย