คำสรรพนามภาษาอังกฤษ ที่คุณต้องรู้! ใช้ยังไงให้ถูกต้อง

"Why do I feel confused?" "Can you help me?" "They are studying together." คุณเคยสังเกตไหมว่าในประโยคเหล่านี้มีคำสั้นๆ ที่ช่วยให้ภาษาอังกฤษฟังดูเป็นธรรมชาติ แต่หลายคนมักใช้ผิดจนทำให้การสื่อสารไม่ชัดเจน คำเหล่านี้คือ "คำสรรพนาม" ที่เป็นกุญแจสำคัญในการพูดและเขียนภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง

คําสรรพนาม ภาษาอังกฤษ หรือ pronoun เป็นพื้นฐานไวยากรณ์ที่ทุกคนต้องเข้าใจ การใช้ pronoun แปล ความหมายและประยุกต์ใช้อย่างถูกต้องจะช่วยยกระดับทักษะการสื่อสารของคุณอย่างมีนัยสำคัญ

ในโลกของภาษาศาสตร์สมัยใหม่ ความ หมาย pronoun ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การแทนคำนาม แต่ยังเป็นเครื่องมือที่สะท้อนถึงความเข้าใจในโครงสร้างภาษาอย่างลึกซึ้ง ประเภท ของ pronoun แต่ละชนิดมีบทบาทเฉพาะในการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างแนวคิดต่างๆ ในประโยค ทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Personal pronouns อย่าง i you we they he she it คือ รากฐานสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถอ้างถึงตัวตนและผู้อื่นได้อย่างแม่นยำ ขณะที่ possessive pronoun คือ เครื่องมือในการแสดงความเป็นเจ้าของที่ช่วยให้ประโยคกระชับและชัดเจน การเข้าใจ subject pronouns object pronouns และความแตกต่างของแต่ละประเภทจะช่วยให้คุณสร้าง ประโยค pronoun ที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์

สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ ตาราง pronoun และการ identify the pronoun ในบริบทต่างๆ จะเป็นทักษะที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษทั้งในการสนทนาและการเขียน

บทความนี้จะนำเสนอ pronoun สรุป ที่ครอบคลุมทุกประเภทพร้อมตัวอย่างการใช้งานจริง เพื่อให้คุณเข้าใจ pronoun มีอะไรบ้าง และสามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้องในทุกสถานการณ์

มาเริ่มต้นเรียนรู้ คำ สรรพนาม อย่างเป็นระบบเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณให้แข็งแกร่งขึ้นกันเถอะ

I. คำสรรพนาม (Pronoun) คืออะไร? 

คำสรรพนาม หรือ pronoun คือคำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อหลีกเลี่ยงการพูดซ้ำ ทำให้ประโยคกระชับและเข้าใจง่าย เมื่อเราต้องการอ้างถึงบุคคล สัตว์ หรือสิ่งของที่เราได้พูดถึงไปแล้ว คำสรรพนามจึงเข้ามาช่วยแทนที่คำนามเหล่านั้น

ตัวอย่างเช่น แทนที่จะพูดว่า "นายโจรีเอนโจยังไม่มาถึง เพราะนายโจนกำลังติดรถ" เราสามารถพูดได้ว่า "นายโจยังไม่มาถึง เพราะเขากำลังติดรถ" การใช้ pronoun แปล ว่า "เขา" แทนการพูด "นายโจ" ซ้ำทำให้ประโยคฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

การใช้ คําสรรพนาม ภาษาอังกฤษ อย่างถูกต้องช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความซ้ำซาก และทำให้ผู้ฟังเข้าใจเนื้อหาได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าคุณมีความเข้าใจในโครงสร้างภาษาอังกฤษอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสื่อสารทั้งในชีวิตประจำวันและการทำงาน

II. เจาะลึกประเภทของคำสรรพนาม (Pronouns) ที่ใช้บ่อยและต้องรู้ 

Pronoun มีอะไรบ้าง ที่เราควรรู้? ในภาษาอังกฤษมีคำสรรพนามหลายประเภทที่มีบทบาทแตกต่างกันในประโยค แต่ละประเภทจะมีหน้าที่เฉพาะที่ช่วยให้การสื่อสารชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

1. บุรุษสรรพนาม (Personal Pronouns): ผู้พูด ผู้ฟัง และผู้ถูกกล่าวถึง – personal pronouns

Personal pronouns คือคำสรรพนามที่อ้างถึงบุคคลโดยตรง แบ่งออกเป็นสามบุรุษ คือ บุรุษที่หนึ่ง (ผู้พูด) บุรุษที่สอง (ผู้ฟัง) และบุรุษที่สาม (ผู้ถูกกล่าวถึง) ซึ่งแต่ละบุรุษจะมีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันตามตำแหน่งในประโยค

1.1 สรรพนามประธาน (Subject Pronouns): ฉัน เธอ เขา พวกเรา และอื่นๆ - subject pronouns, i you we they he she it คือ, i you we they, he she it

Subject pronouns ทำหน้าที่เป็นประธานในประโยค อยู่ตำแหน่งหน้ากริยาและเป็นผู้กระทำกิริยานั้นๆ รูปแบบที่สำคัญได้แก่ I you we they he she it คือ คำสรรพนามที่ใช้บ่อยที่สุดในการสนทนา

I you we they เป็นคำที่ใช้บ่อยในการแนะนำตัวและบรรยายกิจกรรม ส่วน he she it จะใช้เมื่ออ้างถึงบุคคลหรือสิ่งของที่เราได้กล่าวถึงไปแล้ว

1.2. สรรพนามกรรม (Object Pronouns): ผู้ถูกกระทำในประโยค – object pronoun คือ, subject pronouns object pronouns

Object pronoun คือ คำสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรมในประโยค อยู่หลังกริยาหรือหลังคำบุพบท ความแตกต่างระหว่าง subject pronouns object pronouns อยู่ที่ตำแหน่งและหน้าที่ในประโยค

2. สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Pronouns): ของฉัน ของเธอ ของเขา – possessive pronoun คือ

Possessive pronoun คือ คำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ แบ่งเป็นสองประเภทหลัก คือ Possessive Adjectives และ Possessive Pronouns ซึ่งมีการใช้งานที่แตกต่างกัน

2.1 คุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Adjectives)

Possessive Adjectives ต้องมีคำนามตามหลังเสมอ ใช้ขยายคำนามเพื่อบอกความเป็นเจ้าของ

2.2 สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Pronouns)

Possessive Pronouns ไม่ต้องมีคำนามตามหลัง เพราะเป็นคำสรรพนามที่แทนทั้งเจ้าของและสิ่งของที่เป็นเจ้าของแล้ว

3. สรรพนามสะท้อน (Reflexive Pronouns): การกระทำที่สะท้อนกลับมาที่ผู้ทำเอง – reflexive pronoun คือ

Reflexive pronoun คือ คำสรรพนามที่ใช้เมื่อประธานและกรรมในประโยคเป็นบุคคลหรือสิ่งเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าการกระทำนั้นเกิดขึ้นกับตัวผู้กระทำเอง

4 สรรพนามเน้นย้ำ (Intensive Pronouns): เพื่อเน้นว่าประธานทำเองจริงๆ – intensive pronoun

Intensive pronoun มีรูปแบบเดียวกับ Reflexive Pronouns แต่หน้าที่แตกต่างกัน ใช้เพื่อเน้นย้ำว่าผู้กระทำได้ทำการกระทำนั้นด้วยตนเอง ถ้าตัดออกจากประโยคแล้วประโยคยังคงสมบูรณ์

ตัวอย่างการใช้ intensive pronoun: 

• "The president himself came to visit our school" (ท่านประธานาธิบดีมาเยี่ยมโรงเรียนเราด้วยตนเอง) 

คำว่า "himself" เน้นย้ำว่าท่านประธานาธิบดีมาเอง ไม่ได้ส่งคนอื่นมาแทน

III. ตารางสรุปคำสรรพนาม (Pronoun Cheat Sheet) 

ตาราง pronoun ดังนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและใช้คำสรรพนามได้อย่างถูกต้อง pronoun สรุป ทั้งหมดในตารางเดียว

IV. วิธีใช้คำสรรพนามในประโยค

การใช้ ประโยค pronoun ต้องคำนึงถึงความสอดคล้องระหว่างคำสรรพนามกับคำนามที่อ้างถึง เมื่อเราต้อง identify the pronoun ในประโยค เราต้องดูว่าคำสรรพนามนั้นอ้างถึงใครหรืออะไรและใช้รูปแบบที่เหมาะสม

การเลือกใช้สรรพนามให้สอดคล้องกับคำนามที่อ้างถึง 

หลักการสำคัญคือคำสรรพนามต้องสอดคล้องกับคำนามในด้านจำนวน (เอกพจน์/พหูพจน์) เพศ และบุรุษ ตัวอย่างเช่น:

"นางสาวสมใจเป็นครูที่ดี เธอสอนเด็กๆ ด้วยความรัก" ในประโยคนี้ "เธอ" อ้างถึง "นางสาวสมใจ" ซึ่งเป็นผู้หญิงเอกพจน์ จึงใช้ "she"

ตัวอย่างประโยคที่ใช้สรรพนามแต่ละประเภทในสถานการณ์ต่างๆ

V. ข้อควรระวัง

1. การสับสนระหว่าง Subject และ Object Pronouns

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยคือการใช้ "Me and John went to school" แทนที่จะเป็น "John and I went to school" วิธีตรวจสอบคือลองตัด "John" ออกดู ถ้าเราพูด "Me went to school" จะรู้สึกผิดแปลก ควรเป็น "I went to school"

2. การใช้ 's กับ It's (contraction) และ Its (possessive adjective)

"It's" เป็นการย่อของ "It is" หรือ "It has" เช่น "It's raining" (ฝนกำลังตก) ส่วน "Its" เป็น possessive adjective เช่น "The dog wagged its tail" (สุนัขส่ายหางของมัน)

3. การเลือกใช้ Who และ Whom

"Who" ใช้เป็นประธาน เช่น "Who is coming?" (ใครกำลังมา) ส่วน "Whom" ใช้เป็นกรรม เช่น "Whom did you meet?" (คุณไปพบใคร) แม้ว่าในการสนทนาทั่วไป เราอาจใช้ "Who" ได้ทั้งสองกรณี

VI. ความซับซ้อนและความสำคัญของคำสรรพนามในภาษาศาสตร์

1. การเปลี่ยนแปลงและการละสรรพนามในบริบทที่ไม่เป็นทางการ (Pronoun Dropping)

ในการสนทนาแบบไม่เป็นทางการ เราอาจละคำสรรพนามบางคำได้ เช่น "Going to the market?" แทน "Are you going to the market?" การละสรรพนามนี้ทำให้การสนทนาเป็นธรรมชาติและไม่เป็นทางการมากขึ้น

2. สรรพนามที่ไม่ระบุเพศ (Gender-Neutral Pronouns) และการใช้ "they" แบบเอกพจน์

ในปัจจุบัน การใช้ "they" เป็นสรรพนามเอกพจน์เพื่อหลีกเลี่ยงการระบุเพศเป็นที่ยอมรับมากขึ้น เช่น "Someone left their bag here" แทน "Someone left his or her bag here"

3. ความเชื่อมโยงของสรรพนามกับวัฒนธรรมและการแสดงออกทางสังคม

คําสรรพนาม ภาษาอังกฤษ สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเลือกใช้สรรพนามแสดงให้เห็นถึงความเคารพและการยอมรับความหลากหลายในสังคม

VII. คำถามที่พบบ่อย

1. คำ สรรพนาม (Pronoun) คืออะไรกันแน่ สรุปสั้นๆ อีกครั้งได้ไหม?

Pronoun คือคำที่ใช้แทนคำนามเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดซ้ำ ทำให้ประโยคเป็นธรรมชาติมากขึ้น มีหลายประเภทตามหน้าที่การใช้งาน เช่น Subject, Object, Possessive, Reflexive และ Intensive Pronouns

2. จำเป็นต้องใช้คำสรรพนามทุกครั้งที่กล่าวถึงคน/สิ่งของซ้ำๆ หรือไม่?

ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกครั้ง หากการใช้คำนามซ้ำทำให้เข้าใจชัดเจนกว่า ก็สามารถใช้คำนามได้ แต่การใช้สรรพนามอย่างเหมาะสมจะทำให้การสื่อสารราบรื่นกว่า

3. คำสรรพนามบุรุษที่ 1, 2, 3 แตกต่างกันอย่างไร และมีอะไรบ้างที่สำคัญ?

บุรุษที่ 1 คือผู้พูด (I, we) บุรุษที่ 2 คือผู้ฟัง (you) บุรุษที่ 3 คือผู้ถูกกล่าวถึง (he, she, it, they) แต่ละบุรุษมีรูปแบบสรรพนามที่แตกต่างกันตามหน้าที่ในประโยค

4. Intensive pronoun กับ Reflexive Pronouns เหมือนหรือต่างกันอย่างไรในการใช้งานจริง?

รูปแบบเหมือนกัน แต่หน้าที่ต่างกัน Reflexive Pronouns จำเป็นสำหรับความหมายของประโยค ส่วน Intensive Pronouns ใช้เน้นย้ำเท่านั้น หากตัดออกประโยคยังสมบูรณ์

การเรียนรู้ คําสรรพนาม ภาษาอังกฤษ เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้คุณสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพ การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันจะช่วยให้คุณเชี่ยวชาญการใช้สรรพนามแต่ละประเภท

เริ่มต้นจากการฝึกใช้ Subject และ Object Pronouns ในประโยคง่ายๆ จากนั้นค่อยๆ เพิ่มความซับซ้อนด้วย Possessive และ Reflexive Pronouns เมื่อคุณเข้าใจหลักการและฝึกฝนจนเป็นนิสัย การใช้คำสรรพนามจะเป็นเรื่องง่ายและช่วยให้การสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น

ที่ PREP เราเชื่อว่าการเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษต้องเริ่มจากพื้นฐานที่มั่นคง คำสรรพนามเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้คุณก้าวสู่ความสำเร็จในการใช้ภา