สรุป Reported Speech เข้าใจง่าย ไม่ต้องท่องเยอะ!

คุณเคยรู้สึกสับสนกับการใช้ reported speech ไหม? หลายคนมักจะหนักใจกับกฎเกณฑ์ที่ดูซับซ้อน ต้องท่องจำการเปลี่ยนแปลง tense มากมาย หรือกังวลว่าจะใช้ผิดหลักไวยากรณ์ แต่ความจริงแล้ว reported speech ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่เข้าใจหลักการพื้นฐานไม่กี่ข้อ คุณก็จะสามารถใช้ได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรมชาติ

Reported speech คือ การรายงานหรือเล่าต่อคำพูดของผู้อื่นโดยไม่ใช้เครื่องหมายคำพูด เป็นทักษะสำคัญในการสื่อสารภาษาอังกฤษที่ช่วยให้เราสามารถถ่ายทอดสิ่งที่ผู้อื่นพูดได้อย่างเป็นทางการและมีประสิทธิภาพ

การเข้าใจ reported speech จะนำไปสู่การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในหลายด้าน นอกจากการเรียนรู้ indirect speech แล้ว คุณยังได้ทบทวนเรื่อง tense ในภาษาอังกฤษ การใช้สรรพนาม และคำบอกเวลาและสถานที่ให้ถูกต้องตามบริบท ทักษะเหล่านี้สำคัญมากในการสอบ เช่น TOEIC, TOEFL หรือ IELTS ที่มักมี ข้อสอบ reported speech เป็นประจำ นอกจากนี้ เมื่อคุณเขียนอีเมลทางธุรกิจ รายงาน หรือบทความวิชาการ คุณจะสามารถอ้างอิงคำพูดหรือข้อมูลจากแหล่งอื่นได้อย่างถูกต้องตาม reported speech หลักการใช้ ทำให้งานเขียนของคุณดูเป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือมากขึ้น

บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ reported speech แบบเข้าใจง่าย ไม่ต้องท่องจำกฎเกณฑ์มากมาย ผ่าน reported speech ตัวอย่างประโยค หลากหลายรูปแบบ ทั้งประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม และประโยคคำสั่ง เราจะอธิบายหลักการเปลี่ยนแปลงสำคัญเพียง 3 ประการ พร้อม reported speech examples ที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

มาเริ่มทำความเข้าใจพื้นฐานของ reported speech กันเลย และคุณจะพบว่าการเรียนรู้ไวยากรณ์อังกฤษส่วนนี้ไม่ได้ยากอย่างที่คิด!

 

I. Reported Speech คืออะไร? 

Reported speech คือ การรายงานหรือเล่าต่อคำพูดของผู้อื่นโดยไม่ใช้เครื่องหมายคำพูด เป็นการเปลี่ยนมุมมองจากคำพูดตรงๆ ของผู้พูดเดิม มาเป็นการเล่าในมุมมองของผู้รายงาน

เมื่อเพื่อนบอกคุณว่า "ฉันชอบดูหนัง" แล้วคุณไปเล่าต่อให้คนอื่นฟังว่า "เขาบอกว่าเขาชอบดูหนัง" นี่คือการใช้ reported speech ในชีวิตประจำวันนั่นเอง

Direct Speech (คำพูดตรง) vs. Reported Speech 

Direct and indirect speech มีความแตกต่างกันที่เห็นได้ชัดคือ:

• Direct Speech: "I am happy," she said. (ใช้เครื่องหมายคำพูด ยกคำพูดโดยตรง) 

• Reported Speech: She said that she was happy. (ไม่ใช้เครื่องหมายคำพูด มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง)

II. การเปลี่ยน Direct เป็น Reported Speech

การเปลี่ยนประโยคจาก direct เป็น reported speech มี reported speech หลักการ ใช้ ที่สำคัญเพียง 3 องค์ประกอบเท่านั้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. การเปลี่ยนแปลง Tense (Tense Shift)

Reported speech rules ที่สำคัญคือ การถอยหลัง Tense ไปหนึ่งขั้น เพราะเมื่อเราเล่าเรื่องที่คนอื่นพูดไว้ เหตุการณ์นั้นอยู่ในอดีตแล้ว

ตัวอย่างที่เห็นชัด: Present Simple -> Past Simple, etc.

2. การเปลี่ยน Pronouns (สรรพนาม)

เปลี่ยนตามมุมมองของ "ผู้เล่า": สรรพนามเปลี่ยนตามความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่าและบุคคลที่ถูกกล่าวถึง ไม่ใช่คงไว้เหมือนในคำพูดเดิม

ตัวอย่าง: "I" อาจเปลี่ยนเป็น "he/she", "you" อาจเปลี่ยนเป็น "me/him/her/they"

• "I like this book." → She said she liked that book. 

• "Can you help me?" → He asked if I could help him.

3. การเปลี่ยน Time and Place Expressions: จาก "วันนี้" เป็น "วันนั้น"

เปลี่ยนให้เข้ากับ "เวลาที่เล่า": คำบอกเวลาและสถานที่ต้องเปลี่ยนให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่กำลังรายงานคำพูด

ตัวอย่าง: now -> then, today -> that day, etc.

III. วิธีเปลี่ยนประโยคประเภทต่างๆ เป็น Reported Speech

มาดู reported speech ตัวอย่างประโยค แต่ละประเภทกันครับ

1. ประโยคบอกเล่า (Statements): พื้นฐานที่สุด

โครงสร้าง: Subject + Reporting Verb (said/told) + (that) + Clause ที่เปลี่ยนแล้ว

Subject + said/told (+ object) + (that) +

ตัวอย่าง: 

• "I am happy." -> He said (that) he was happy.

• "I went to the mall yesterday." → She said (that) she had gone to the mall the day before. 

• "I will call you tonight." → He told me (that) he would call me that night.

2. ประโยคคำถาม (Questions)

2.1 Yes/No Questions: ใช้ if หรือ whether

โครงสร้าง: Subject + asked + if/whether + Clause (เรียงแบบบอกเล่า)

สำหรับ indirect speech questions ประเภทนี้ เราใช้ if หรือ whether แล้วตามด้วยประโยคบอกเล่า

ตัวอย่าง: 

• "Are you okay?" -> She asked if/whether I was okay.

• "Do you like coffee?" → He asked if I liked coffee. 

• "Will you come to the party?" → She asked whether I would come to the party.

2.2 Wh-Questions: ใช้คำถามเดิม แต่เปลี่ยนโครงสร้าง

โครงสร้าง: Subject + asked + Wh-word + Clause (เรียงแบบบอกเล่า)

คงคำถาม (what, where, when, why, how) ไว้ แต่เรียงประโยคเป็นแบบบอกเล่า

ตัวอย่าง: 

• "Where do you live?" -> He asked where I lived.

• "What are you doing?" → She asked what I was doing. 

• "Why did you leave early?" → He asked why I had left early.

3. ประโยคคำสั่ง/ขอร้อง (Commands/Requests)

โครงสร้าง: Subject + told/asked/ordered + Object + (not) + to + V1

ตัวอย่าง: 

• "Close the door." -> She told me to close the door.

• "Please don't go." → He asked me not to go. 

• "Turn off the lights." → She told them to turn off the lights.

บทความแนะนำอ่านต่อ: 

• โครงสร้างและการใช้ If Clause ภาษาอังกฤษ

IV. สรุปหลักการสำคัญและเทคนิคช่วยจำ

1. เช็ค Tense, Pronoun, Time/Place

เมื่อต้องเปลี่ยนประโยคเป็น reported speech สรุป ได้ว่าควรเช็ค:

• ปรับ Tense (ถอยหลังไปหนึ่งขั้น)

• เปลี่ยน Pronouns (ตามมุมมองผู้เล่า)

• ปรับ Time/Place expressions (ให้เข้ากับเวลาที่เล่า)

2. เทคนิค: นึกถึง "การเล่าเรื่อง" ไม่ใช่ "การแปลตรงตัว"

คิดว่ากำลังเล่าเรื่องที่คนอื่นพูด ไม่ใช่แค่แปลประโยคตรงๆ จะช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น

V. ตัวอย่างประโยคและแบบฝึกหัดง่ายๆ (พร้อมเฉลย)

มาลองทำ reported speech exercises กันครับ:

1. เปลี่ยน Direct เป็น Reported (Statements)

1. "I love Thai food." (John)

2. "We are going to the beach tomorrow." (They)

3. "I have never been to Japan." (She)

2. เปลี่ยน Direct เป็น Reported (Questions)

1. "Do you speak English?" (He asked me)

2. "Where did you buy that shirt?" (She asked Tom)

3. "Why are you late?" (The teacher asked us)

3. เปลี่ยน Direct เป็น Reported (Commands/Requests)

1. "Please wait here." (She)

2. "Don't forget your passport." (My mother)

3. "Call me tonight." (He)

เฉลย ข้อสอบ reported speech:

Statements:

1. John said (that) he loved Thai food.

2. They said (that) they were going to the beach the next day.

3. She said (that) she had never been to Japan.

Questions:

1. He asked me if/whether I spoke English.

2. She asked Tom where he had bought that shirt.

3. The teacher asked us why we were late.

Commands:

1. She asked/requested me to wait there.

2. My mother told me not to forget my passport.

3. He asked/told me to call him that night.

VI. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Reported Speech

1. Reported Speech กับ Indirect Speech คือสิ่งเดียวกันใช่ไหม?

ใช่ครับ indirect speech และ reported speech คือคำเรียกเดียวกัน สามารถใช้แทนกันได้

2. จำเป็นต้องเปลี่ยน Tense เสมอไปหรือไม่? มีข้อยกเว้นอะไรบ้าง?

ไม่เสมอไป มีข้อยกเว้นเมื่อ:

• รายงานข้อเท็จจริงทั่วไปที่ยังเป็นจริงอยู่เสมอ

• เมื่อ reporting verb อยู่ในรูป present tense

• เมื่อรายงานเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นหรือยังเกี่ยวข้องกับปัจจุบัน

VII. สรุป

ความเข้าใจใน reported speech จะช่วยให้คุณสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องท่องจำกฎทุกข้อ เพียงทำความเข้าใจหลักการง่ายๆ และฝึกฝนสม่ำเสมอ คุณจะสามารถใช้ reported speech ได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ เหมือนเจ้าของภาษาในไม่ช้า!

PREP – แพลตฟอร์มการเรียนและฝึกสอบอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยี Prep AI ช่วยให้คุณเรียนรู้ไวยากรณ์และคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการเรียนที่มีประสิทธิภาพ เช่น Context-based Learning, Task-based Learning และ Guided Discovery ที่ช่วยให้คุณเข้าใจเนื้อหาต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น

PREP ยังมี Mindmap สรุปเนื้อหาที่ช่วยให้คุณทบทวนและค้นหาความรู้ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ด้วยความช่วยเหลือจาก AI คุณจะสามารถตรวจจับข้อผิดพลาดในการออกเสียง และพัฒนาทักษะการออกเสียงตั้งแต่คำเดี่ยวจนถึงประโยคสมบูรณ์

นอกจากนี้ คุณยังสามารถฝึกฟังและจดตามคำบอกเพื่อเสริมคำศัพท์ใหม่ และคุ้นเคยกับสำเนียงและจังหวะการพูดของเจ้าของภาษา

ดาวน์โหลดแอป PREP แล้วเริ่มเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่บ้าน พร้อมโปรแกรมฝึกสอบออนไลน์คุณภาพสูง

ติดต่อ HOTLINE +6624606789 หรือคลิกที่นี่เพื่อสมัครเรียนเลย!