ใช้ Present Perfect Tense อย่างไรให้เข้าใจทันที

"Have you ever been to London?" vs "Did you go to London?" ทั้งสองประโยคดูคล้ายกัน แต่ความหมายต่างกันอย่างมาก การใช้ผิดกาลอาจทำให้การสื่อสารคลาดเคลื่อน Present perfect tense เป็นกาลที่หลายคนมักสับสนและใช้ผิดเพราะไม่มีโครงสร้างตรงกันในภาษาไทย ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าจะใช้เมื่อไหร่ ใช้อย่างไร หรือแตกต่างจาก past simple อย่างไร บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจอย่างถ่องแท้และใช้ได้อย่างถูกต้อง

บทความนี้จะอธิบาย present perfect tense คือ อะไร โครงสร้าง present perfect ที่สมบูรณ์ present perfect ใช้ยังไง ในแต่ละสถานการณ์ พร้อมpresent perfect tense ตัวอย่างประโยค ที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน

Present perfect คือ กาลที่ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ไม่ใช่แค่บอกว่าเหตุการณ์เกิดในอดีต แต่เน้นว่าเหตุการณ์นั้นยังมีความเกี่ยวข้องหรือมีผลต่อปัจจุบันอย่างไร การเข้าใจ the present perfect tense จะช่วยให้คุณสื่อสารเกี่ยวกับประสบการณ์ การกระทำที่เพิ่งเกิด และสถานการณ์ที่ยังดำเนินต่อเนื่องได้อย่างแม่นยำ

ความท้าทายหลักของกาลนี้คือการเข้าใจว่าเมื่อไหร่ควรใช้ present perfect และเมื่อไหร่ควรใช้ past simple เพราะทั้งสองกาลพูดถึงอดีต แต่มุมมองและวัตถุประสงค์ต่างกัน นอกจากนี้ การท่องจำ irregular verbs ช่อง 3 และการใช้คำเช่น just, already, yet, for, since อย่างถูกต้องก็เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่ผู้เรียนมักพบ

การเรียนรู้ ประโยค present perfect อย่างเป็นระบบพร้อมเข้าใจบริบทการใช้งานจะช่วยลดความสับสนและข้อผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นการเขียนเรียงความ การสนทนาทั่วไป หรือการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษอย่าง IELTS และ TOEIC ที่ต้องการความแม่นยำทางไวยากรณ์สูง การเข้าใจ present perfect ประโยค ในทุกรูปแบบจะช่วยยกระดับทักษะการสื่อสารของคุณอย่างมีนัยสำคัญ

ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้โครงสร้างสมบูรณ์ รายการ irregular verbs ที่จำเป็น การใช้งานในบริบทต่างๆ present perfect ตัวอย่างประโยค และpresent perfect simple ตัวอย่างประโยค ที่หลากหลาย พร้อมเทคนิคการจำและแบบฝึกหัดเพื่อเสริมความเข้าใจ

มาเริ่มต้นเรียนรู้กาลที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คุณสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและมั่นใจในทุกสถานการณ์

Present Perfect Tense - โครงสร้างและตัวอย่างประโยคในภาษาอังกฤษ
Present Perfect Tense - โครงสร้างและตัวอย่างประโยคในภาษาอังกฤษ

I. Present perfect tense คืออะไร

Present perfect tense คือ กาลที่ใช้บอกเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต แต่มีความเกี่ยวข้องหรือมีผลต่อปัจจุบัน โดยไม่ระบุเวลาที่เกิดอย่างชัดเจน หรือใช้บอกประสบการณ์ที่เคยผ่านมา

ความหมายและการใช้งาน:

Present perfect คือ กาลที่เน้นผลลัพธ์หรือความสำเร็จของการกระทำมากกว่าเวลาที่เกิด เป็นสะพานเชื่อมระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ทำให้เหตุการณ์ในอดีตยังมีความหมายกับตอนนี้

ลักษณะเด่นของ the present perfect tense:

  • เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน
  • ไม่ระบุเวลาที่แน่นอนในอดีต
  • เน้นผลลัพธ์หรือประสบการณ์
  • บอกการกระทำที่เพิ่งเกิดหรือยังไม่เสร็จสิ้น

ตัวอย่างเบื้องต้น:

  • I have visited Thailand. (ฉันเคยไปเมืองไทย - มีประสบการณ์)
  • She has lost her keys. (เธอทำกุญแจหาย - ผลคือตอนนี้ยังหาไม่เจอ)
  • They have finished their homework. (พวกเขาทำการบ้านเสร็จแล้ว - ผลคือตอนนี้เสร็จแล้ว)
Present Perfect Tense - โครงสร้างและตัวอย่างประโยคในภาษาอังกฤษ
Present perfect tense ตัวอย่างประโยค

II. โครงสร้างประโยค Present Perfect Tense

Present perfect ใช้ยังไง นั้นขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องมี have/has และกริยาช่อง 3 (Past Participle) เสมอ

ประเภทประโยค

โครงสร้าง

ตัวอย่าง

บอกเล่า

S + have/has + V3

I have been to London three times. 

(ฉันเคยไปลอนดอนมาแล้วสามครั้ง)

ปฏิเสธ

S + haven't/hasn't + V3

Anna has not finished her homework yet. 

(Anna ยังทำการบ้านไม่เสร็จเลย)

คำถาม

Have/Has + S + V3?

Have you read the message yet? 

(คุณอ่านข้อความหรือยัง)

Present perfect examples การตอบคำถาม:

  • Yes, I have. (ใช่ ฉันอ่านแล้ว)

  • No, I haven't. (ไม่ ฉันยังไม่ได้อ่าน)

III. การใช้งาน Present Perfect Tense

Present perfect tense มีหลายวิธีการใช้งาน การเข้าใจแต่ละการใช้งานจะช่วยให้สื่อสารได้แม่นยำ

1. ประสบการณ์ในชีวิต (Life Experience)

ใช้บอกประสบการณ์ที่เคยทำหรือไม่เคยทำ โดยไม่ระบุเวลาที่แน่นอน มักใช้กับคำ: ever, never, before, many times, several times, once, twice

Present perfect ตัวอย่างประโยค:

  • I have visited London three times. (ฉันเคยไปลอนดอนสามครั้ง)
  • She has never eaten sushi. (เธอไม่เคยกินซูชิเลย)
  • Have you ever been to Thailand? (คุณเคยไปเมืองไทยไหม)
  • We have seen this movie before. (เราเคยดูหนังเรื่องนี้มาก่อน)
  • He has traveled to many countries. (เขาเคยเดินทางไปหลายประเทศ)
  • They have tried Thai food several times. (พวกเขาเคยลองอาหารไทยหลายครั้ง)
  • I have met him once. (ฉันเคยพบเขาครั้งหนึ่ง)

2. การกระทำที่เพิ่งเกิด (Recent Actions)

ใช้บอกเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นและมีผลต่อปัจจุบัน มักใช้กับคำ: just, already, yet, recently, lately

ตัวอย่าง:

  • I have just finished my work. (ฉันเพิ่งทำงานเสร็จ)
  • She has already left. (เธอออกไปแล้ว)
  • Have you done your homework yet? (คุณทำการบ้านเสร็จแล้วหรือยัง)
  • We have recently moved to a new apartment. (เร็วๆ นี้เราย้ายไปอพาร์ตเมนต์ใหม่)
  • He has not arrived yet. (เขายังไม่มาถึง)
  • They have already eaten. (พวกเขาทานข้าวแล้ว)
  • The train has just departed. (รถไฟเพิ่งออก)

ตำแหน่งของคำ just, already, yet:

  • just และ already วางระหว่าง have/has กับ verb 3
  • yet วางท้ายประโยคในประโยคปฏิเสธและคำถาม

3. การกระทำที่เริ่มในอดีตและยังดำเนินต่อถึงปัจจุบัน

ใช้กับคำ: for (เป็นเวลา), since (ตั้งแต่), so far (จนถึงตอนนี้), up to now (จนถึงตอนนี้)

ตัวอย่าง:

  • I have lived here for five years. (ฉันอยู่ที่นี่มาห้าปีแล้ว - ยังอยู่อยู่)
  • She has worked at this company since 2020. (เธอทำงานที่บริษัทนี้ตั้งแต่ปี 2020 - ยังทำงานอยู่)
  • We have studied English for a long time. (เราเรียนภาษาอังกฤษมานานแล้ว)
  • He has been a teacher since 2015. (เขาเป็นครูมาตั้งแต่ปี 2015)
  • They have known each other for ten years. (พวกเขารู้จักกันมาสิบปีแล้ว)
  • So far, I have read three books this month. (จนถึงตอนนี้ ฉันอ่านหนังสือไปสามเล่มในเดือนนี้)

ความแตกต่าง for และ since:

  • for + ช่วงเวลา (period of time): for 3 hours, for 2 weeks, for a long time
  • since + จุดเวลา (point in time): since Monday, since 2020, since last year, since I was young

4. การกระทำที่เกิดในอดีตและมีผลต่อปัจจุบัน

เน้นผลลัพธ์ที่เห็นได้ในปัจจุบัน

ตัวอย่าง:

  • She has lost her keys. (เธอทำกุญแจหาย - ผลคือตอนนี้ไม่มีกุญแจ)
  • I have finished my homework. (ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว - ผลคือตอนนี้ว่าง)
  • They have cleaned the house. (พวกเขาทำความสะอาดบ้านแล้ว - ผลคือตอนนี้บ้านสะอาด)
  • He has broken his leg. (เขาขาหัก - ผลคือตอนนี้เดินไม่ได้)
  • The price has increased. (ราคาเพิ่มขึ้นแล้ว - ผลคือตอนนี้แพงกว่าเดิม)
  • We have missed the bus. (เราพลาดรถบัส - ผลคือต้องรอคันต่อไป)

5. การกระทำที่เกิดหลายครั้งในช่วงเวลาที่ยังไม่สิ้นสุด

ใช้กับช่วงเวลาที่ยังไม่จบ เช่น today, this week, this month, this year

ตัวอย่าง:

  • I have drunk three cups of coffee today. (วันนี้ฉันดื่มกาแฟไปสามแก้วแล้ว - วันยังไม่จบ)
  • She has called me twice this morning. (เช้านี้เธอโทรหาฉันสองครั้งแล้ว)
  • We have had several meetings this week. (สัปดาห์นี้เรามีประชุมหลายครั้งแล้ว)
  • He has visited us many times this year. (ปีนี้เขามาเยี่ยมเราหลายครั้งแล้ว)
  • They have sent five emails today. (วันนี้พวกเขาส่งอีเมลไปห้าฉบับแล้ว)

6. ข่าวหรือเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น

ใช้ในข่าวหรือการประกาศเหตุการณ์สำคัญที่เพิ่งเกิด

ตัวอย่าง:

  • Scientists have discovered a new planet. (นักวิทยาศาสตร์ค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่)
  • The company has announced new products. (บริษัทประกาศผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว)
  • The Prime Minister has resigned. (นายกรัฐมนตรีลาออกแล้ว)
  • The price of oil has risen. (ราคาน้ำมันขึ้นแล้ว)
Present Perfect Tense - โครงสร้างและตัวอย่างประโยคในภาษาอังกฤษ
การใช้ Present perfect tense

IV. สัญญาณการรับรู้ของ Present perfect tense

คำเหล่านี้เป็นสัญญาณของการใช้ Present Perfect Tense:

  • Just, Already, Before, Yet, Ever, Never, Recently, So far

  • For + ระยะเวลา (เช่น for a long time, for 2 years)

  • Since + ช่วงเวลา (เช่น since 2000, since 1995)

ตำแหน่งของคำวิเศษณ์เหล่านี้ในประโยคอยู่ใน Present perfect tense:

ตำแหน่งของคำวิเศษณ์

ประเภท

ตำแหน่ง

ตัวอย่าง

Already, never, ever, just

หลัง have/has และก่อน V3

I have just come back home. 

(ฉันเพิ่งกลับถึงบ้าน)

Already

ท้ายประโยค (ได้เช่นกัน)

Anna's family has already heard the news. 

(ครอบครัวของ Anna รู้ข่าวแล้ว)

Yet

ท้ายประโยค (มักใช้ในประโยคปฏิเสธและคำถาม)

She hasn't told me about you yet. 

(เธอยังไม่ได้บอกฉันเกี่ยวกับคุณ)

So far, recently, lately

ต้นประโยคหรือท้ายประโยค

I have seen this film recently. 

(ฉันเพิ่งดูหนังเรื่องนี้)

การแยกแยะ "Have gone to" และ "Have been to"

Have been to

Have gone to

ไปที่ไหนสักแห่งแล้วกลับมา เน้นประสบการณ์

ไปไหนมาไหนแล้วยังไม่กลับ (หรืออาจจะกลับภายหลัง)

I have been to Paris twice. 

(ฉันไปปารีสมาสองครั้งแล้ว)

She has gone to the store and will be back soon. 

(เธอไปที่ร้านแล้วและจะกลับมาเร็วๆ นี้)

บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม:

เข้าใจ Past Perfect Tense ใช้ยังไงให้ถูกต้อง

เรียนรู้ 8 ประเภทของ Special Passive Voice ในภาษาอังกฤษ

เรียนรู้ Present Participle ในภาษาอังกฤษ

V. Present Perfect Passive

Present perfect passive หรือ passive voice present perfect ใช้เพื่อเน้นสิ่งที่ถูกกระทำมากกว่าผู้กระทำ

โครงสร้าง: Subject + have/has + been + V3

ตัวอย่าง:

  • The report has been completed. (รายงานถูกทำเสร็จแล้ว)

  • Several mistakes have been found in the document. (พบข้อผิดพลาดหลายจุดในเอกสาร)

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Tense 20 ประโยค นี่คือ ตัวอย่างประโยค present perfect tense 20 ประโยค ที่ครอบคลุมการใช้งานต่างๆ:

ลำดับ

ประโยค

คำแปล

1

I have finished my homework.

ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว

2

She has lived here for five years.

เธออาศัยที่นี่มา 5 ปีแล้ว

3

We have never seen this movie.

เราไม่เคยดูหนังเรื่องนี้

4

They have just arrived at the airport.

พวกเขาเพิ่งมาถึงสนามบิน

5

Have you ever been to Japan?

คุณเคยไปญี่ปุ่นไหม

6

He hasn't called me yet.

เขายังไม่ได้โทรหาฉัน

7

I have already eaten lunch.

ฉันกินข้าวเที่ยงแล้ว

8

She has worked here since 2010.

เธอทำงานที่นี่ตั้งแต่ปี 2010

9

We have visited Paris three times.

เราไปปารีสมา 3 ครั้งแล้ว

10

They have recently moved to a new house.

พวกเขาเพิ่งย้ายบ้านใหม่

11

I have lost my keys.

ฉันทำกุญแจหาย

12

She has become a famous singer.

เธอกลายเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง

13

We have known each other for ten years.

เราคบกันมา 10 ปีแล้ว

14

He has never tried sushi.

เขาไม่เคยลองซูชิ

15

I have been waiting for you for an hour.

ฉันรอคุณมา 1 ชั่วโมงแล้ว

16

They have already left the office.

พวกเขาออกจากออฟฟิศไปแล้ว

17

She hasn't finished her project yet.

เธอยังทำโปรเจคไม่เสร็จ

18

We have learned a lot this year.

เราได้เรียนรู้หลายสิ่งในปีนี้

19

He has just graduated from university.

เขาเพิ่งจบมหาวิทยาลัย

20

I have never forgotten your kindness.

ฉันไม่เคยลืมความใจดีของคุณ

VI. แบบฝึกหัด Present Perfect Tense

เพื่อให้เข้าใจ Present Perfect Tense มากขึ้น มาทำแบบฝึกหัดต่อไปนี้ ซึ่งสามารถใช้เป็น present perfect tense worksheet หรือ present perfect worksheet:

แบบฝึกหัดที่ 1: เปลี่ยนกริยาเป็น Present Perfect Tense

  1. Jack _____ (drive) Rose to work today.

  2. They _____ (work) all day and night.

  3. We _____ (see) the new bridge.

  4. He _____ (have) breakfast this morning.

  5. Ann and Don _____ (wash) the car.

  6. Kathy _____ (want) to go to Queensland for a long time.

  7. Mel _____ (give) up smoking.

  8. I _____ (forget) that man's name.

  9. They _____ (lose) their keys.

  10. Jack _____ (be) to England.

แบบฝึกหัดที่ 2: เรียงประโยคใหม่

  1. We/play/tennis/2 years.

  2. Mai/go/the library/3 hours.

  3. My sister/move/a new house/near/her boyfriend's flat.

  4. His teacher/not/explain/this lesson/yet.

  5. This/best/film/I/ever/watch.

  6. Bob/just/leave/office/2 hours.

  7. They/write/a report/since/last Monday?

  8. I/never/have/been/there.

  9. He/online/hasn't/played/online/months/games/for.

  10. I have/2015/lived/in/city/since/this.

เฉลย

แบบฝึกหัดที่ 1:

  1. has driven

  2. have worked

  3. have seen

  4. has had

  5. have washed

  6. has wanted

  7. has given

  8. have forgotten

  9. have lost

  10. has been

แบบฝึกหัดที่ 2:

  1. We have played tennis for 2 years.

  2. Mai has gone to the library for 3 hours.

  3. My sister has moved to a new house near her boyfriend's flat.

  4. His teacher hasn't explained this lesson yet.

  5. This is the best film I have ever watched.

  6. Bob has just left the office for 2 hours.

  7. Have they written a report since last Monday?

  8. I have never been there.

  9. He hasn't played online games for months.

  10. I have lived in this city since 2015.

Present perfect tense เป็นกาลที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน ใช้บอกประสบการณ์ การกระทำที่เพิ่งเกิด หรือการกระทำที่เริ่มในอดีตและยังดำเนินต่อถึงปัจจุบัน โดยมีโครงสร้างพื้นฐานคือ have/has + Verb 3 (Past Participle)

การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง present perfect กับ past simple เป็นสิ่งสำคัญ โดย present perfect ไม่ระบุเวลาที่ชัดเจนและเน้นผลลัพธ์ที่มีต่อปัจจุบัน ขณะที่ past simple ระบุเวลาที่แน่นอนและเหตุการณ์จบสิ้นในอดีต

การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอผ่านการท่อง irregular verbs การใช้ for/since อย่างถูกต้อง และการเลือกใช้คำเช่น just, already, yet จะช่วยให้คุณใช้กาลนี้ได้อย่างแม่นยำและมั่นใจ

เรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นระบบกับ PREP Education หากคุณต้องการพัฒนาทักษะไวยากรณ์และเตรียมสอบ IELTS อย่างมีประสิทธิภาพ PREP มีคอร์สเรียนเตรียมสอบ IELTS ที่ครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะพร้อมเทคโนโลยี AI ขั้นสูง ด้วย Virtual Speaking Room คุณจะได้ฝึกการพูดและรับฟีดแบ็กทันที ส่วน Virtual Writing Room ช่วยตรวจสอบและปรับปรุงงานเขียนของคุณอย่างละเอียด นอกจากนี้ยังมี Teacher Bee AI ที่พร้อมตอบคำถามตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยให้คุณเรียนรู้อย่างมั่นใจและบรรลุเป้าหมายคะแนน IELTS ที่ต้องการ เริ่มต้นเส้นทางสู่ความสำเร็จกับเรียน IELTS ออนไลน์ ที่ PREP วันนี้

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 ตัวอักษร
Loading...
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย
DMCA protect