ใช้ Simple Present Tense อย่างไรให้ถูกต้องในประโยค
"I go to school every day" vs "I am going to school" - ทั้งสองประโยคดูคล้ายกัน แต่ใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง Simple Present Tense เป็นกาลที่คุณใช้บ่อยที่สุดในชีวิตประจำวัน แต่หลายคนกลับใช้ผิดโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการลืมเติม s/es กับประธานเอกพจน์ หรือสับสนว่าเมื่อไหร่ควรใช้กาลนี้ การเข้าใจอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างแม่นยำและเป็นธรรมชาติ
บทความนี้จะอธิบาย Simple Present Tense อย่างครบถ้วน ตั้งแต่ความ หมาย ของ present simple tense โครงสร้างประโยค present simple tense หลักการใช้ ในแต่ละสถานการณ์ พร้อมpresent simple tense ตัวอย่างประโยค ที่ใช้ได้จริง
หลักการใช้ present simple tense ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด แต่ต้องเข้าใจหลักการพื้นฐานให้ถูกต้อง กาลนี้ใช้บอกเล่าเกี่ยวกับนิสัย กิจวัตรประจำวัน ความจริงทั่วไป และข้อเท็จจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการบอกว่าคุณทำอะไรเป็นประจำ อธิบายข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ หรือพูดถึงตารางเวลา
ความท้าทายหลักที่ผู้เรียนชาวไทยมักพบคือการเติม s/es กับประธานเอกพจน์ (he, she, it) และการใช้ do/does ในประโยคปฏิเสธและคำถาม นอกจากนี้ยังมีการสับสนระหว่าง Simple Present กับ Present Continuous ที่หลายคนยังแยกไม่ออกว่าควรใช้กาลไหนในสถานการณ์ใด
การเรียนรู้present simple ประโยค ที่ถูกต้องไม่ใช่แค่การท่องจำโครงสร้าง แต่ต้องเข้าใจบริบทการใช้งาน รู้ว่าเมื่อไหร่ควรใช้กาลนี้และเมื่อไหร่ไม่ควรใช้ การฝึกฝนจากตัวอย่างที่หลากหลายจะช่วยให้คุณสร้างประโยค present simple tense ได้อย่างมั่นใจและแม่นยำ
ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้โครงสร้างครบทั้งประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ และคำถาม กฎการเติม s/es present simple หลักการใช้ ในแต่ละสถานการณ์ present simple ตัวอย่าง ประโยค ที่หลากหลาย ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย และแบบฝึกหัดเพื่อทดสอบความเข้าใจ
มาเริ่มต้นเรียนรู้กาลที่คุณจะใช้บ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คุณสื่อสารได้อย่างถูกต้องและมั่นใจในทุกสถานการณ์
I. Simple Present Tense คืออะไร?
Simple Present Tense เป็นกาลปัจจุบันอย่างง่ายที่ใช้บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ความจริง นิสัย หรือสิ่งที่เป็นจริงเสมอ
หลักการใช้ present simple tense มีดังนี้:
- ความจริงทั่วไป (General truths)
- นิสัยและกิจวัตรประจำวัน (Habits and routines)
- ข้อเท็จจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลง (Facts)
- ตารางเวลา (Schedules)
- ความสามารถและคุณสมบัติ (Abilities and characteristics)
II. โครงสร้างของ Simple Present Tense
1. ประโยคบอกเล่า (Affirmative Sentences)
โครงสร้าง:
-
I/You/We/They + Verb (infinitive)
-
He/She/It + Verb + s/es
กฎการเติม s/es:
|
กรณี |
กฎ |
ตัวอย่าง |
|
กริยาทั่วไป |
เติม s |
work → works, play → plays |
|
ลงท้าย s, x, z, ch, sh |
เติม es |
watch → watches, go → goes |
|
ลงท้าย พยัญชนะ + y |
เปลี่ยน y เป็น ies |
study → studies, cry → cries |
|
ลงท้าย สระ + y |
เติม s |
play → plays, enjoy → enjoys |
ตัวอย่าง:
-
I work at a bank. (ฉันทำงานที่ธนาคาร)
-
She works at a bank. (เธอทำงานที่ธนาคาร)
-
They study English. (พวกเขาเรียนภาษาอังกฤษ)
-
He studies English. (เขาเรียนภาษาอังกฤษ)
2. ประโยคปฏิเสธ (Negative Sentences)
โครงสร้าง:
-
I/You/We/They + do not (don't) + Verb (infinitive)
-
He/She/It + does not (doesn't) + Verb (infinitive)
ตัวอย่าง:
-
I don't like coffee. (ฉันไม่ชอบกาแฟ)
-
She doesn't like coffee. (เธอไม่ชอบกาแฟ)
-
We don't watch TV. (เราไม่ดูทีวี)
-
He doesn't watch TV. (เขาไม่ดูทีวี)
3. ประโยคคำถาม (Interrogative Sentences)
โครงสร้าง:
-
Do + I/you/we/they + Verb (infinitive)?
-
Does + he/she/it + Verb (infinitive)?
ตัวอย่าง:
-
Do you speak English? (คุณพูดภาษาอังกฤษไหม)
-
Does she speak English? (เธอพูดภาษาอังกฤษไหม)
-
Do they live here? (พวกเขาอยู่ที่นี่ไหม)
-
Does he live here? (เขาอยู่ที่นี่ไหม)
III. การใช้งาน Simple Present Tense
1. ความจริงทั่วไปและข้อเท็จจริง
ตัวอย่าง:
-
The sun rises in the east. (ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก)
-
Water boils at 100 degrees Celsius. (น้ำเดือดที่ 100 องศาเซลเซียส)
-
The Earth revolves around the sun. (โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์)
2. นิสัยและกิจวัตรประจำวัน
present simple ประโยค ที่ใช้บ่อย:
-
I wake up at 6 AM every day. (ฉันตื่นนอน 6 โมงเช้าทุกวัน)
-
She exercises three times a week. (เธอออกกำลังกายสามครั้งต่อสัปดาห์)
-
They have dinner at 7 PM. (พวกเขาทานอาหารเย็นตอน 7 โมงเย็น)
3. ตารางเวลาและกำหนดการ
ตัวอย่าง:
-
The train leaves at 9:00 AM. (รถไฟออก 9 โมงเช้า)
-
The movie starts at 8 PM. (หนังเริ่มตอน 8 โมงเย็น)
-
School begins in September. (โรงเรียนเปิดในเดือนกันยายน)
4. ความสามารถและคุณสมบัติ
ตัวอย่าง:
-
He speaks three languages. (เขาพูดได้สามภาษา)
-
She plays the piano. (เธอเล่นเปียโน)
-
I understand French. (ฉันเข้าใจภาษาฝรั่งเศส)
5. ความคิดเห็นและความรู้สึก
ตัวอย่าง:
-
I love chocolate. (ฉันรักช็อกโกแลต)
-
She hates spicy food. (เธอเกลียดอาหารเผ็ด)
-
We believe in honesty. (เราเชื่อในความซื่อสัตย์)
IV. คำที่ใช้กับ Simple Present Tense
|
ความถี่ |
คำ |
ตัวอย่าง |
|
100% |
always |
I always brush my teeth. |
|
80-90% |
usually |
She usually walks to work. |
|
60-70% |
often |
They often eat out. |
|
40-50% |
sometimes |
He sometimes reads books. |
|
20-30% |
rarely |
We rarely watch TV. |
|
10% |
seldom |
She seldom drinks coffee. |
|
0% |
never |
I never smoke. |
คำบอกเวลาอื่นๆ:
-
every day/week/month/year
-
once/twice a week
-
on Mondays
-
in the morning/afternoon/evening
-
at night
V. กฎการผันกริยาใน Simple Present Tense
Present simple tense หลักการใช้ การผันกริยามีกฎดังนี้:
1. กฎทั่วไป
-
I, We, You, They + คำนามพหูพจน์: ใช้กริยารูปฐาน
-
He, She, It + คำนามเอกพจน์/คำนามนับไม่ได้: เติม s/es
2. กฎเฉพาะสำหรับบุรุษที่สามเอกพจน์
|
กฎการเติม |
ตัวอย่าง |
การผัน |
|
กริยาลงท้ายด้วย o, ch, sh, x, s |
go, teach, brush, mix, kiss |
goes, teaches, brushes, mixes, kisses |
|
กริยาลงท้ายด้วย y (หน้า y เป็นพยัญชนะ) |
study, try, cry |
studies, tries, cries |
|
กริยาทั่วไป |
work, play, read |
works, plays, reads |
บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม: กริยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ ผันยังไงให้ถูกต้อง
บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม:
Future Simple Tense ใช้ยังไงให้เป๊ะ? ดูตัวอย่างแล้วเข้าใจทันที!
Simple Past Tense คืออะไร ใช้ยังไงให้เก่ง
โครงสร้างและตัวอย่าง Future Perfect Tense ที่ออกสอบบ่อย
VI. แบบฝึกหัด Simple Present Tense
แบบฝึกหัดที่ 1: เติมกริยาให้ถูกต้อง
- She _____ (go) to school every day.
- They _____ (watch) TV in the evening.
- He _____ (study) English on Mondays.
- I _____ (like) ice cream.
- The sun _____ (rise) in the east.
เฉลย: 1. goes | 2. watch | 3. studies | 4. like | 5. rises
แบบฝึกหัดที่ 2: เปลี่ยนเป็นประโยคปฏิเสธ
- I play tennis.
- She works here.
- They live in Bangkok.
- He speaks French.
- We eat breakfast at 7 AM.
เฉลย:
- I don't play tennis.
- She doesn't work here.
- They don't live in Bangkok.
- He doesn't speak French.
- We don't eat breakfast at 7 AM.
แบบฝึกหัดที่ 3: สร้างประโยคคำถาม
- You / like / pizza
- She / work / on Saturdays
- They / play / football
- He / speak / English
- You / live / here
เฉลย:
- Do you like pizza?
- Does she work on Saturdays?
- Do they play football?
- Does he speak English?
- Do you live here?
Simple Present Tense เป็นกาลพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในภาษาอังกฤษ present simple หลักการใช้ คือใช้บอกความจริง นิสัย กิจวัตร และข้อเท็จจริง การจำโครงสร้างและฝึกฝนการใช้ present simple ตัวอย่าง ประโยค อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณใช้กาลนี้ได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรมชาติ
จุดสำคัญที่ต้องจำ:
- เติม s/es กับประธานเอกพจน์ (he, she, it)
- ใช้ do/does ในประโยคปฏิเสธและคำถาม
- กริยาหลัก do/does กลับเป็นรูปธรรมดา (infinitive)
- ใช้กับคำบอกความถี่และเวลา
การเข้าใจประโยค present simple tense อย่างแท้จริงจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณให้ก้าวหน้าต่อไป
พัฒนาทักษะไวยากรณ์และภาษาอังกฤษกับ PREP English หากคุณต้องการเสริมสร้างความเข้าใจไวยากรณ์และเตรียมสอบ IELTS อย่างเป็นระบบ PREP มีคอร์สเรียนเตรียมสอบ IELTS ที่ครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะพร้อมเนื้อหาไวยากรณ์ที่ละเอียด ด้วย Virtual Speaking Room และ Virtual Writing Room คุณจะได้รับฟีดแบ็กแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับการใช้ไวยากรณ์ที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังมี Teacher Bee AI ที่พร้อมตอบคำถามเกี่ยวกับไวยากรณ์และเทคนิคการสอบตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยให้คุณเรียนรู้อย่างมั่นใจและบรรลุเป้าหมายคะแนน IELTS ที่ต้องการ เริ่มต้นพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณกับ IELTS prep ที่ PREP วันนี้

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
เนื้อหาแบบพรีเมียม
ดูทั้งหมดแผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
















