ค้นหาบทความการศึกษา

Conjunction คืออะไร? เรียนรู้การใช้คำเชื่อมเพื่อสร้างประโยคที่สมบูรณ์

การเขียนประโยคภาษาอังกฤษที่ดูเป็นธรรมชาติและเชื่อมโยงกันอย่างลื่นไหลไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนมักเขียนประโยคที่ดูขาดๆ เกินๆ หรือซ้ำซากจำเจ เหตุผลสำคัญมาจากการขาดความเข้าใจในการใช้คำเชื่อม (conjunctions) ที่เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างข้อความที่มีพลังและประทับใจ

Conjunction คือ คำหรือกลุ่มคำที่ทำหน้าที่เชื่อมส่วนต่างๆ ของประโยคเข้าด้วยกัน เป็นเครื่องมือหลักในการสร้าง linking words ที่มีประสิทธิภาพ

คำเชื่อมในภาษาอังกฤษมีบทบาทสำคัญเหมือนกับกระดูกสันหลังของประโยค ที่ช่วยเชื่อมแนวคิด ความรู้สึก และข้อมูลต่างๆ ให้กลายเป็นเรื่องเล่าที่สมบูรณ์ Coordinating conjunction อย่าง FANBOYS ช่วยเชื่อมประโยคที่มีความสำคัญเท่าเทียมกัน ในขณะที่ subordinating conjunctions เปิดโอกาสให้เราแสดงความสัมพันธ์เชิงเหตุผล เงื่อนไข และเวลาอย่างละเอียดลึกซึ้ง การเข้าใจ cause and effect linking words จะช่วยให้การอธิบายมีเหตุผลและน่าเชื่อถือ

ความแตกต่างระหว่าง fanboys linking words กับประเภทอื่นๆ ไม่ได้อยู่ที่รูปแบบเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงวิธีการใช้เครื่องหมายวรรคตอน ตำแหน่งในประโยค และผลกระทบต่อความหมายโดยรวม Subordinating conjunctions examples ที่หลากหลายช่วยให้เราสามารถแสดงออกถึงความคิดที่ซับซ้อนได้อย่างชัดเจน

บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกประเภทของ conjunction พร้อมตัวอย่างการใช้งานจริง เทคนิคการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด และแนวทางการพัฒนาทักษะการเขียนสู่ระดับมืออาชีพ มาเริ่มต้นการเดินทางสู่การเขียนภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพกันเลย

Conjunction คืออะไร? การใช้คำเชื่อมในภาษาอังกฤษ
Conjunction คืออะไร? การใช้คำเชื่อมในภาษาอังกฤษ
  1. I. Conjunction คืออะไร?
  2. II. ประเภทของ Conjunction 
    1. 1. Coordinating Conjunctions (คำเชื่อมประสานประโยค)
    2. 2. Subordinating Conjunctions (คำเชื่อมอนุประโยค)
    3. 3. Correlative Conjunctions (คำเชื่อมแบบคู่)
  3. III. เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Conjunction ทั้ง 3 ประเภท
  4. IV. ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้ Conjunction
    1. 1. การใช้ Comma (จุลภาค) ผิดตำแหน่งกับ Coordinating Conjunctions
    2. 2. การเลือกใช้ Subordinating Conjunction ไม่ตรงกับความหมายที่ต้องการ
    3. 3. ความสับสนระหว่าง Conjunction กับคำประเภทอื่น
  5. V. Conjunctive Adverbs (กริยาวิเศษณ์เชื่อมความ)
    1. 1. Conjunctive Adverbs คืออะไร?
    2. 2. ความแตกต่างด้านโครงสร้างและเครื่องหมายวรรคตอน
  6. VI. คำถามที่พบบ่อยและข้อสงสัยเชิงลึกเกี่ยวกับ Conjunctions
    1. 1. "Linking Words" กับ "Conjunction" เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
    2. 2. นอกจาก because, since, as แล้ว ยังมี Conjunctions บอกเหตุและผลกลุ่มไหนอีกบ้าง?
    3. 3. จำเป็นต้องใส่เครื่องหมายจุลภาคก่อน 'and' เสมอไปหรือไม่?
    4. 4. ระหว่างการใช้ "although" กับ "but" เพื่อแสดงความขัดแย้ง ให้ความรู้สึกต่างกันอย่างไร?
  7. VII. ข้อสอบ Conjunction พร้อม เฉลย

I. Conjunction คืออะไร?

Conjunction คือ คำหรือกลุ่มคำที่ทำหน้าที่เชื่อมคำ วลี หรือประโยคเข้าด้วยกันเพื่อสร้างความต่อเนื่องในการสื่อสาร คำเชื่อมเป็นส่วนสำคัญของ linking words ที่ช่วยให้ประโยคมีโครงสร้างที่สมบูรณ์และแสดงความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิดได้อย่างชัดเจน การใช้ conjunction อย่างถูกต้องจะทำให้การเขียนและการพูดมีความเป็นระบบและเข้าใจง่ายขึ้น ในภาษาอังกฤษ conjunction แบ่งออกเป็นหลายประเภทที่แต่ละประเภทมีวิธีใช้และความหมายที่แตกต่างกัน

การใช้ linking words อย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างแนวคิดต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแสดงเหตุและผล การเปรียบเทียบ หรือการแสดงเงื่อนไข

II. ประเภทของ Conjunction 

เมื่อเข้าใจว่า conjunction คือ อะไรแล้ว เราต้องทำความรู้จักกับประเภทต่างๆ ให้ชัดเจน Conjunction มีอะไรบ้าง นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ตามการทำงานและโครงสร้าง

ประเภท Conjunction

หน้าที่หลัก

จำนวนคำ

ตัวอย่าง

Coordinating

เชื่อมประโยคเท่าเทียม

7 คำ

and, but, or,..

Subordinating

เชื่อมประโยครอง

20+ คำ

because, although, when,..

Correlative

เชื่อมแบบคู่

8-10 คู่

either...or, both...and,...

Conjunction คืออะไร? การใช้คำเชื่อมในภาษาอังกฤษ
ประเภทของ Conjunction

1. Coordinating Conjunctions (คำเชื่อมประสานประโยค)

Coordinating conjunction เป็นคำเชื่อมที่เชื่อมประโยคหรือส่วนประกอบที่มีความสำคัญเท่าเทียมกัน ประเภทนี้มีเพียง 7 คำเท่านั้น แต่ใช้งานบ่อยมาก

หลักการจำง่ายๆ: FANBOYS คืออะไรและใช้อย่างไร?

FANBOYS เป็นเทคนิคการจำ fanboys conjunctions ที่ได้รับความนิยม แต่ละตัวอักษรแทนคำเชื่อมหนึ่งคำ

ตัวอักษร

คำเชื่อม

ความหมาย

การใช้งาน

F

For

เพราะ/เนื่องจาก

แสดงเหตุผล

A

And

และ

เพิ่มข้อมูล

N

Nor

ไม่...เช่นกัน

ปฏิเสธเพิ่มเติม

B

But

แต่

แสดงความขัดแย้ง

O

Or

หรือ

แสดงทางเลือก

Y

Yet

แต่/อย่างไรก็ตาม

แสดงความขัดแย้งที่ไม่คาดคิด

S

So

ดังนั้น

แสดงผลลัพธ์

ตัวอย่างการใช้ FANBOYS แต่ละตัวในประโยค:

  • For: I couldn't attend the meeting, for I was sick. (ฉันไปประชุมไม่ได้เพราะป่วย)

  • And: She studied hard and passed the exam with flying colors. (เธอเรียนหนักและสอบผ่านได้คะแนนดี)

  • Nor: He doesn't like coffee, nor does he drink tea. (เขาไม่ชอบกาแฟและก็ไม่ดื่มชาด้วย)

  • But: The weather was cold, but we decided to go hiking anyway. (อากาศหนาวแต่เราก็ตัดสินใจไปเดินป่าต่อ)

  • Or: Would you like tea or coffee with your breakfast? (คุณจะเอาชาหรือกาแฟกับอาหารเช้า)

  • Yet: She's very young, yet she's incredibly wise. (เธออายุน้อยมากแต่ฉลาดอย่างไม่น่าเชื่อ)

  • So: It was raining heavily, so we stayed inside. (ฝนตกหนักดังนั้นเราจึงอยู่ในบ้าน)

Conjunction คืออะไร? การใช้คำเชื่อมในภาษาอังกฤษ
หลักการ FANBOYS จำง่ายๆ

2. Subordinating Conjunctions (คำเชื่อมอนุประโยค)

Subordinating conjunctions ทำหน้าที่เชื่อมประโยคที่มีความสำคัญไม่เท่าเทียมกัน โดยเชื่อมประโยครอง (dependent clause) เข้ากับประโยคหลัก (independent clause)

หน้าที่หลัก: การเชื่อมประโยคใจความรอง เข้ากับประโยคใจความหลัก

ประโยครองที่ขึ้นต้นด้วย subordinating conjunctions จะไม่สามารถยืนอยู่ได้เองและต้องมีประโยคหลักเสมอ ทำให้การสื่อสารมีโครงสร้างที่ซับซ้อนและน่าสนใจมากขึ้น

จัดกลุ่ม Subordinating Conjunctions ตามความหมายเพื่อง่ายต่อการจำและใช้

การจัดกลุ่มตามความหมายจะช่วยให้เข้าใจและเลือกใช้ได้เหมาะสมกับบริบท

กลุ่มบอกเวลา (Time)

คำเชื่อม

ความหมาย

ตัวอย่างประโยค

After

หลังจาก

After we finished dinner, we watched a movie. (หลังจากเรากินข้าวเสร็จเราก็ดูหนัง)

Before

ก่อน

Before you leave, please turn off the lights. (ก่อนออกไปช่วยปิดไฟด้วย)

When

เมื่อ

When it rains, the flowers bloom beautifully. (เมื่อฝนตกดอกไม้จะบานสวยงาม)

While

ขณะที่

While I was studying, my phone rang constantly. (ขณะที่ฉันกำลังเรียนโทรศัพท์ดังตลอด)

Since

ตั้งแต่

Since we moved here, life has been much better. (ตั้งแต่เราย้ายมาที่นี่ชีวิตดีขึ้นมาก)

Until

จนกว่า

Until you apologize, I won't forgive you. (จนกว่าเธอจะขอโทษฉันจะไม่ยกโทษให้)

กลุ่มบอกเหตุและผล (Cause & Effect)

Cause and effect linking words เป็นเครื่องมือสำคัญในการอธิบายความสัมพันธ์เชิงเหตุผล

คำเชื่อม

ความหมาย

ตัวอย่างประโยค

Because

เพราะ

Because it was late, we decided to go home.

(เพราะดึกแล้วเราจึงตัดสินใจกลับบ้าน)

Since

เนื่องจาก

Since you're here, let's start the meeting.

(เนื่องจากคุณมาแล้วเรามาเริ่มประชุมกัน)

As

เมื่อ/เนื่องจาก

As the sun set, the temperature dropped quickly.

(เมื่อพระอาทิตย์ตกอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว)

So that

เพื่อที่

I saved money so that I could buy a new car.

(ฉันเก็บเงินเพื่อที่จะซื้อรถใหม่)

กลุ่มบอกเงื่อนไข (Condition)

คำเชื่อม

ความหมาย

ตัวอย่างประโยค

If

ถ้า

If it rains tomorrow, we'll cancel the picnic.

(ถ้าพรุ่งนี้ฝนตกเราจะยกเลิกปิกนิก)

Unless

เว้นแต่

Unless you study hard, you won't pass the exam.

(เว้นแต่เธอจะเรียนหนักไม่งั้นสอบไม่ผ่าน)

Even if

แม้ว่า

Even if it's expensive, I'll buy it.

(แม้ว่าแพงฉันก็จะซื้อ)

Provided that

หากว่า

You can borrow my car provided that you drive carefully.

(เธอขอยืมรถได้หากว่าขับระวังๆ)

กลุ่มบอกความขัดแย้ง (Contrast/Concession)

คำเชื่อม

ความหมาย

ตัวอย่างประโยค

Although

แม้ว่า

Although she's busy, she always helps others.

(แม้ว่าเธอจะยุ่งแต่ก็ช่วยเหลือคนอื่นเสมอ)

Though

แม้ว่า

Though he's young, he's very responsible.

(แม้ว่าเขาจะเด็กแต่รับผิดชอบมาก)

Even though

ถึงแม้ว่า

Even though it was raining, we continued walking.

(ถึงแม้ว่าฝนตกเราก็เดินต่อไป)

Whereas

ในขณะที่

She loves music, whereas her brother prefers sports.

(เธอชอบดนตรีในขณะที่พี่ชายชอบกีฬา)

3. Correlative Conjunctions (คำเชื่อมแบบคู่)

Correlative conjunctions มีลักษณะพิเศษคือต้องมาเป็นคู่เสมอและเชื่อมโครงสร้างที่มีรูปแบบเดียวกัน

ลักษณะเด่น: ต้องมาเป็นคู่เสมอเพื่อเชื่อมโครงสร้างที่เหมือนกัน

การใช้ correlative conjunctions ต้องระวังให้โครงสร้างทั้งสองส่วนที่เชื่อมเหมือนกัน เรียกว่า parallel structure

ตัวอย่างคู่ที่พบบ่อย

คู่คำเชื่อม

ความหมาย

ตัวอย่างประโยค

Either...or

ไม่...ก็...

Either you study now or you fail the test.

(ไม่เรียนตอนนี้ก็สอบตก)

Neither...nor

ทั้ง...และ...ไม่

Neither John nor Mary came to the party.

(ทั้งจอห์นและแมรี่ไม่มางาน)

Not only...but also

ไม่เพียงแต่...เท่านั้นแต่ยัง

She's not only smart but also kind.

(เธอไม่เพียงแต่ฉลาดเท่านั้นแต่ยังใจดีด้วย)

Both...and

ทั้ง...และ

Both my parents and I love traveling.

(ทั้งพ่อแม่และฉันชอบเดินทาง)

Conjunction คืออะไร? การใช้คำเชื่อมในภาษาอังกฤษ
Correlative Conjunctions (คำเชื่อมแบบคู่)

III. เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Conjunction ทั้ง 3 ประเภท

ลักษณะ

Coordinating

Subordinating

Correlative

จำนวนคำ

7 คำ

20+ คำ

8-10 คู่

ตำแหน่งในประโยค

ระหว่างประโยค

ต้นประโยครอง

แยกกันในประโยค

การใช้จุลภาค

มักใช้หน้าคำเชื่อม

ไม่ใช้ถ้าประโยครองอยู่หลัง

ไม่จำเป็น

ความซับซ้อน

ง่าย

ปานกลาง

ต้องระวังโครงสร้าง

ตัวอย่าง

I studied, and I passed.

Because I studied, I passed.

Not only did I study, but I also passed.

IV. ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้ Conjunction

การเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาทักษะ นี่คือข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข

1. การใช้ Comma (จุลภาค) ผิดตำแหน่งกับ Coordinating Conjunctions

ผิด: I like pizza and, I also like pasta. (ฉันชอบพิซซ่าและฉันก็ชอบพาสต้าด้วย) 

ถูก: I like pizza, and I also like pasta. (ฉันชอบพิซซ่าและฉันก็ชอบพาสต้าด้วย)

กฎคือใส่จุลภาคก่อน coordinating conjunction เมื่อเชื่อมประโยคที่สมบูรณ์สองประโยค

2. การเลือกใช้ Subordinating Conjunction ไม่ตรงกับความหมายที่ต้องการ

ผิด: I will go to the beach although it's sunny. (ฉันจะไปชายหาดแม้ว่าแดดจะออก) 

ถูก: I will go to the beach because it's sunny. (ฉันจะไปชายหาดเพราะแดดออก)

การเลือก subordinating conjunctions ต้องพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างประโยคให้ถูกต้อง

3. ความสับสนระหว่าง Conjunction กับคำประเภทอื่น

บางครั้งคนเรียนสับสนระหว่าง conjunction กับ preposition เช่น:

ผิด: After I finished my homework, I went to bed after midnight. (หลังจากทำการบ้านเสร็จฉันเข้านอนหลังเที่ยงคืน) 

ถูก: After I finished my homework, I went to bed past midnight. (หลังจากทำการบ้านเสร็จฉันเข้านอนเกินเที่ยงคืน)

V. Conjunctive Adverbs (กริยาวิเศษณ์เชื่อมความ)

1. Conjunctive Adverbs คืออะไร?

Conjunctive adverbs เป็นคำที่ทำหน้าที่เหมือน conjunction แต่มีโครงสร้างและการใช้เครื่องหมายวรรคตอนแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น however, therefore, moreover, consequently

ตัวอย่าง: The weather was terrible; however, we enjoyed our trip. (อากาศแย่มากแต่เราก็สนุกกับการเดินทาง)

2. ความแตกต่างด้านโครงสร้างและเครื่องหมายวรรคตอน

ประเภท

รูปแบบ

ตัวอย่าง

Conjunction

ประโยค + conjunction + ประโยค

It rained, but we went out.

Conjunctive Adverb

ประโยค; conjunctive adverb, ประโยค

It rained; however, we went out.

VI. คำถามที่พบบ่อยและข้อสงสัยเชิงลึกเกี่ยวกับ Conjunctions

การเลือกใช้ conjunction ให้เหมาะสมต้องพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิด ระดับความเป็นทางการของข้อความ และผู้อ่านเป็นเป้าหมาย

ในการเขียนทางการควรใช้ subordinating conjunctions มากกว่า และหลีกเลี่ยงการเริ่มประโยคด้วย coordinating conjunctions

1. "Linking Words" กับ "Conjunction" เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?

Linking words เป็นคำศัพท์ที่กว้างกว่า conjunction โดย linking words รวมถึง conjunctions, conjunctive adverbs, และ transitional phrases ส่วน conjunction แปล ว่าคำเชื่อมเป็นเฉพาะคำที่เชื่อมโครงสร้างไวยากรณ์

2. นอกจาก because, since, as แล้ว ยังมี Conjunctions บอกเหตุและผลกลุ่มไหนอีกบ้าง?

นอกจากสามคำหลักแล้ว ยังมี seeing that, now that, in order that, so that ที่ใช้แสดงเหตุและผลในลักษณะต่างๆ

3. จำเป็นต้องใส่เครื่องหมายจุลภาคก่อน 'and' เสมอไปหรือไม่?

ไม่จำเป็นเสมอไป ใส่จุลภาคเมื่อ 'and' เชื่อมประโยคที่สมบูรณ์สองประโยค แต่ไม่ใส่เมื่อเชื่อมคำหรือวลีสั้นๆ

4. ระหว่างการใช้ "although" กับ "but" เพื่อแสดงความขัดแย้ง ให้ความรู้สึกต่างกันอย่างไร?

"Although" ให้ความรู้สึกเป็นทางการมากกว่าและมักใช้ในการเขียน ส่วน "but" เป็นธรรมชาติมากกว่าและใช้ได้ทั้งการพูดและเขียน

VII. ข้อสอบ Conjunction พร้อม เฉลย

ตัวอย่างข้อสอบ:

  1. Choose the correct conjunction: "I wanted to go swimming, _____ it was too cold." a) and b) but c) so d) for 

เฉลย: b) but

  1. Complete the sentence: "_____ it was raining, we decided to have a picnic indoors." a) Because b) Although c) When d) If 

เฉลย: a) Because

การเรียนรู้ conjunction คือ การลงทุนในทักษะการสื่อสารที่จะใช้ได้ตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็น fanboys linking words สำหรับประโยคง่ายๆ หรือ subordinating conjunctions examples ที่ซับซ้อน ทุกอย่างล้วนมีบทบาทในการสร้าง ประโยค conjunction ที่มีประสิทธิภาพ

เมื่อคุณเข้าใจและใช้ conjunction ได้อย่างถูกต้อง การเขียนและการพูดของคุณจะมีความเชื่อมโยงที่ชัดเจน ทำให้ผู้อ่านและผู้ฟังเข้าใจง่ายขึ้น การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการศึกษาตัวอย่างจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้จะช่วยให้คุณเชี่ยวชาญเครื่องมือสำคัญนี้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 ตัวอักษร
Loading...
เข้าสู่ระบบ
เพื่อสัมผัสเนื้อหาพรีเมียมที่ปรับให้เหมาะกับคุณ

เนื้อหาแบบพรีเมียมเนื้อหาแบบพรีเมียม

ดูทั้งหมด

แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล

TH30

อ่านมากที่สุด

ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน

กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

bg contact

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล

facebookyoutubeinstagram
logo footer Prep
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
get prep on Google Playget Prep on app store
หลักสูตร
เชื่อมต่อกับเรา
mail icon - footerfacebook icon - footer
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย