ค้นหาบทความการศึกษา

กริยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ ผันยังไงให้ถูกต้อง

คุณเคยรู้สึกสับสนกับการผันกริยาภาษาอังกฤษหรือไม่? เช่น ทำไม "go" ต้องกลายเป็น "went" ในอดีต หรือทำไมถึงต้องใช้ "gone" ในบางสถานการณ์? การสร้างประโยคที่ถูกต้องในภาษาอังกฤษจำเป็นต้องเข้าใจเรื่อง กริยา 3 ช่อง ให้ถ่องแท้ เพราะนี่คือหัวใจสำคัญของการสื่อสารที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ

กริยา 3 ช่อง หมายถึงรูปแบบของ คํากริยา อังกฤษ ที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ประกอบด้วย verb 1 (รูปพื้นฐาน), verb 2 (รูปอดีต) และ verb 3 (Past Participle) ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการสร้างประโยคในทุกระดับ

การเรียนรู้เรื่อง กริยา 3 ช่อง ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การท่องจำคำเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเข้าใจในการนำไปใช้อย่างถูกต้องในบริบทต่างๆ เช่น การเล่าเรื่องในอดีตด้วย Past Simple ที่ใช้ v2 การพูดถึงประสบการณ์ด้วย Present Perfect ที่ใช้ have/has + v3 หรือการสร้างประโยค Passive Voice ที่ต้องใช้ ช่อง สาม เป็นส่วนสำคัญ

ในภาษาอังกฤษ เราแบ่งกริยาออกเป็น 2 กลุ่มหลักคือ กริยาผันปกติ (Regular Verbs) ที่เพียงเติม "-ed" และกริยาผันไม่ปกติ (Irregular Verbs) ที่มีรูปแบบเฉพาะ เช่น go v2 เป็น "went" และ go ช่อง 3 เป็น "gone" หรือ eat v3 เป็น "eaten" ซึ่งต้องอาศัยการจดจำและฝึกฝน

บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกตั้งแต่กฎพื้นฐานของการผันกริยา ตัวอย่างการใช้ verb 1 2 3 ในประโยค ไปจนถึงเทคนิคการจำกริยาผันไม่ปกติที่ใช้บ่อยอย่าง break ช่อง 2, bring ช่อง 2, buy v2, buy v3, learn v3, lose v3, make v3, take v3, know v3, find v3, do v3 และอื่นๆ

เมื่อคุณเข้าใจและจดจำ กริยา 3 ช่อง ได้อย่างแม่นยำ คุณจะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ว่าจะพูด ฟัง อ่าน หรือเขียน เริ่มทำความเข้าใจกับหลักการพื้นฐานนี้ไปด้วยกัน และพร้อมที่จะพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างก้าวกระโดด!

การผันคำกริยา 3 ช่อง Verb 1 2 3 ในภาษาอังกฤษ
การผันคำกริยา 3 ช่อง Verb 1 2 3 ในภาษาอังกฤษ
  1. I. กริยา 3 ช่องคืออะไร? 
  2. II. กลุ่มกริยาผันปกติ (Regular Verbs)
  3. III. กลุ่มกริยาผันไม่ปกติ (Irregular Verbs)
    1. 1. กลุ่มที่ทั้ง 3 ช่องเหมือนกัน
    2. 2. กลุ่มที่ช่อง 2 และ 3 เหมือนกัน
    3. 3. กลุ่มที่ทั้ง 3 ช่องต่างกัน
    4. 4. กลุ่มที่ช่อง 1 และ 3 เหมือนกัน
    5. 5. เทคนิคการจำ Irregular Verbs
  4. IV. การนำกริยา 3 ช่องไปใช้ใน Tenses ต่างๆ
    1. 1. การใช้ Verb 1 (Base Form)
    2. 2. การใช้ Verb 2 (Past Simple)
    3. 3. การใช้ Verb 3 (Past Participle)
  5. V. มุมมองเชิงภาษาศาสตร์และข้อควรระวัง
  6. VI. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
    1. 1. กริยาแท้และกริยาไม่แท้เกี่ยวข้องกับกริยา 3 ช่องอย่างไร?
    2. 2. จำเป็นต้องท่องจำกริยา 3 ช่องทุกตัวในภาษาอังกฤษหรือไม่?
    3. 3. นอกจากการแบ่งตามรูปแบบการผัน V1 V2 V3 แล้ว เราสามารถแบ่งกลุ่ม Irregular Verbs ได้อีกหรือไม่?
    4. 4. การเรียนกริยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ ยากหรือง่ายกว่าการผันกริยาในภาษาอื่นอย่างไร?

I. กริยา 3 ช่องคืออะไร? 

กริยา 3 ช่อง คือรูปแบบการผันคำกริยาในภาษาอังกฤษเพื่อแสดงช่วงเวลา (Tense) ที่แตกต่างกัน แบ่งเป็น verb 1 (รูปพื้นฐาน), verb 2 (รูปอดีต) และ verb 3 (รูปกริยาช่องที่ 3 หรือ Past Participle)

การเข้าใจ กริยา 3 ช่อง เปรียบเสมือนกุญแจที่จะไขประตูสู่การสร้างประโยคที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ ไม่ว่าคุณจะต้องการสื่อสารในช่วงเวลาปัจจุบัน อดีต หรืออนาคต หรือแม้แต่การสร้างประโยคที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

II. กลุ่มกริยาผันปกติ (Regular Verbs)

กริยาผันปกติใน verb 1 2 3 มีหลักการง่ายๆ คือการเติม "-ed" ที่ verb 1 เพื่อสร้าง verb 2 และ verb 3 ซึ่งจะมีรูปเหมือนกัน

Verb 1

Verb 2

Verb 3

ความหมาย

work

worked

worked

ทำงาน

play

played

played

เล่น

talk

talked

talked

พูด

walk

walked

walked

เดิน

watch

watched

watched

ดู

listen

listened

listened

ฟัง

learn

learned

learned

เรียนรู้

help

helped

helped

ช่วยเหลือ

want

wanted

wanted

ต้องการ

need

needed

needed

จำเป็น

cook

cooked

cooked

ทำอาหาร

clean

cleaned

cleaned

ทำความสะอาด

wash

washed

washed

ล้าง

start

started

started

เริ่มต้น

end

ended

ended

จบ

กริยา 3 ช่อง ภาษาอังกฤษ รวมคำกริยาที่ต้องรู้
กลุ่มกริยาผันปกติ (Regular Verbs)

แต่มีข้อยกเว้นที่ควรระวังเมื่อเติม "-ed":

  1. ถ้า verb ลงท้ายด้วย "e" ให้เติมเพียง "d" เช่น like → liked, smile → smiled

  2. ถ้า คำ กริยา ลงท้ายด้วยพยัญชนะ + y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม "ed" เช่น study → studied, try → tried

  3. ถ้ากริยาลงท้ายด้วยพยัญชนะตัวเดียวที่มีสระเสียงสั้นอยู่หน้า ให้เพิ่มพยัญชนะตัวสุดท้ายอีก 1 ตัว เช่น stop → stopped, plan → planned

III. กลุ่มกริยาผันไม่ปกติ (Irregular Verbs)

กริยาผันไม่ปกติไม่เป็นไปตามกฎการเติม "-ed" ทำให้รูป verb 2 และ verb 3 มีการเปลี่ยนแปลงที่ต้องจำเป็นพิเศษ แต่เราสามารถแบ่งกลุ่มเพื่อให้จำง่ายขึ้นได้ดังนี้:

1. กลุ่มที่ทั้ง 3 ช่องเหมือนกัน

Verb 1

Verb 2

Verb 3

ความหมาย

cut

cut

cut

ตัด

put

put

put

วาง

read*

read*

read*

อ่าน

กริยา 3 ช่อง ภาษาอังกฤษ รวมคำกริยาที่ต้องรู้
กลุ่มที่ทั้ง 3 ช่องเหมือนกัน

*อ่านออกเสียงต่างกัน: V1 = /riːd/, V2 และ V3 = /red/

2. กลุ่มที่ช่อง 2 และ 3 เหมือนกัน

Verb 1

Verb 2

Verb 3

ความหมาย

buy

buy v2 (bought)

buy v3: bought

ซื้อ

build

built

build v3: built

สร้าง

find

found

find v3: found

พบ

bring

ช่อง 2: brought

brought

นำมา

lose

lost

lose v3: lost

ทำหาย

try 

try ช่อง 2: tried

tried

พยายาม

3. กลุ่มที่ทั้ง 3 ช่องต่างกัน

Verb 1

Verb 2

Verb 3

ความหมาย

go

go v2: went

go ช่อง 3: gone

ไป

do

do ช่อง 2: did

do ช่อง 3: done

ทำ

eat

ate

eat v3: eaten

กิน

take

took

take v3: taken

เอา, นำ

break

break ช่อง 2: broke

broken

ทำแตก

drink

drank

drink ช่อง 3: drunk

ดื่ม

know

knew

know v3: known

รู้

make 

made

make v3: made

ทำ, สร้าง

4. กลุ่มที่ช่อง 1 และ 3 เหมือนกัน

Verb 1

Verb 2

Verb 3

ความหมาย

come

came

come

มา

run

ran

run

วิ่ง

กริยา 3 ช่อง ภาษาอังกฤษ รวมคำกริยาที่ต้องรู้
กลุ่มที่ช่อง 1 และ 3 เหมือนกัน

5. เทคนิคการจำ Irregular Verbs

การจำ กริยา 3 ช่อง ที่ผันไม่ปกติอาจเป็นเรื่องยาก แต่ด้วยเทคนิคต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณจดจำได้ดีขึ้น:

  1. จำเป็นกลุ่ม - แบ่งตามรูปแบบการผันที่คล้ายกัน เช่น buy-bought-bought, bring-brought-brought มีเสียง "ought" เหมือนกัน

  2. ใช้บัตรคำ (Flashcards) - เขียน verb 1 ด้านหนึ่ง และ v2 กับ v3 อีกด้าน

  3. สร้างประโยค - ฝึกใช้กริยาในประโยคจริง เช่น "I eat (V1) breakfast every day. Yesterday, I ate (V2) rice. I have eaten (V3) already."

  4. ใช้เพลงหรือเกม - มีแอปและเกมมากมายที่ช่วยให้การจำสนุกขึ้น

IV. การนำกริยา 3 ช่องไปใช้ใน Tenses ต่างๆ

1. การใช้ Verb 1 (Base Form)

Verb 1 ใช้ในกรณีต่อไปนี้:

Tense / โครงสร้าง

รูปแบบการใช้

ตัวอย่างประโยค

Present Simple

S + V1 (+ s/es สำหรับประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3)

They work every day. (พวกเขาทำงานทุกวัน)

She works at a hospital. (เธอทำงานที่โรงพยาบาล)

Future Simple

S + will/shall + V1

I will go to Bangkok next week.

(ฉันจะไปกรุงเทพฯ สัปดาห์หน้า)

หลัง Modal Verbs

S + Modal + V1

You should study more. (คุณควรเรียนให้มากขึ้น)

They can swim very well. (พวกเขาว่ายน้ำได้ดีมาก)

Imperative

V1 + ...

Open the window, please. (เปิดหน้าต่างหน่อย)

Listen to me! (ฟังฉันหน่อย!

2. การใช้ Verb 2 (Past Simple)

Verb 2 หรือ ช่อง 2 ใช้ในกรณีต่อไปนี้:

Tense / โครงสร้าง

รูปแบบการใช้

ตัวอย่างประโยค

Past Simple

S + V2

I worked late yesterday. (เมื่อวานฉันทำงานดึก)

She read a book last night. (เธออ่านหนังสือเมื่อคืน)

They went to the market. (พวกเขาไปตลาด)

Past Continuous

S + was/were + V-ing

While I was studying, he called. (ขณะที่ฉันกำลังเรียน เขาโทรมา)

Past Perfect

S + had + V3

I had finished before you came. (ฉันทำเสร็จแล้วก่อนคุณมา)

Second Conditional

If + S + V2, S + would + V1

If I knew her name, I would tell you. (ถ้าฉันรู้ชื่อเธอ ฉันจะบอกคุณ)

กริยา 3 ช่อง ภาษาอังกฤษ รวมคำกริยาที่ต้องรู้
การใช้ Verb 2 (Past Simple)

3. การใช้ Verb 3 (Past Participle)

Verb 3 หรือ ช่อง สาม ใช้ในกรณีต่อไปนี้:

Tense / โครงสร้าง

รูปแบบการใช้

ตัวอย่างประโยค

Present Perfect

S + have/has + V3

I have eaten already. (ฉันกินแล้ว)

She has gone home. (เธอกลับบ้านไปแล้ว)

Past Perfect

S + had + V3

We had finished before the rain. (เราทำเสร็จก่อนฝนตก)

Future Perfect

S + will have + V3

I will have completed this by tomorrow. (ฉันจะทำสิ่งนี้เสร็จภายในวันพรุ่งนี้)

Passive Voice

S + is/am/are/was/were + V3

The house was built in 1995. (บ้านถูกสร้างในปี 1995)

This book is written by a famous author. (หนังสือเล่มนี้เขียนโดยนักเขียนที่มีชื่อเสียง)

Perfect Modal

S + Modal + have + V3

She must have forgotten about it. (เธอคงลืมมันไปแล้ว)

Adjective

V3 + Noun

He gave me written directions. (เขาให้คำแนะนำที่เขียนไว้กับฉัน)

The broken vase was expensive. (แจกันที่แตกนั้นมีราคาแพง)

กริยา 3 ช่อง ภาษาอังกฤษ รวมคำกริยาที่ต้องรู้
การใช้ Verb 3 (Past Participle)

V. มุมมองเชิงภาษาศาสตร์และข้อควรระวัง

ในประวัติศาสตร์ภาษาอังกฤษ กริยาผันไม่ปกติส่วนใหญ่มาจาก "Strong Verbs" ในภาษาอังกฤษโบราณ ที่เปลี่ยนเสียงสระภายในคำเมื่อผันรูป ไม่ใช่การเติมหางเสียงอย่างกริยาผันปกติ (Weak Verbs)

มีกริยาบางตัวที่มีความหมายเปลี่ยนไปเมื่อผันช่อง เช่น:

  • hang (แขวน) → hung (แขวน/ห้อย) → hung (แขวน/ห้อย) แต่ถ้าหมายถึงการแขวนคอประหารชีวิต: hang → hanged → hanged

ข้อควรระวัง คำกริยาที่สับสนและใช้ผิดบ่อย:

  • lie (นอน) / lay (วาง)

  • rise (ลุกขึ้น) / raise (ยกขึ้น)

  • affect (มีผลกระทบ) / effect (ผล)

VI. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. กริยาแท้และกริยาไม่แท้เกี่ยวข้องกับกริยา 3 ช่องอย่างไร?

กริยาแท้ (Finite Verbs) คือกริยาที่ผันตามประธานและแสดงเวลา ซึ่งจะใช้รูป verb 1 หรือ verb 2 ส่วนกริยาไม่แท้ (Non-finite Verbs) ไม่ผันตามประธานหรือเวลา มักจะอยู่ในรูป Infinitive (to + verb 1) หรือ Participle (verb 3 หรือ V-ing)

2. จำเป็นต้องท่องจำกริยา 3 ช่องทุกตัวในภาษาอังกฤษหรือไม่?

ไม่จำเป็น แต่ควรจำกริยาที่ใช้บ่อยประมาณ 50-100 ตัว เช่น go, do, make, take, come, see, know, get เป็นต้น ส่วนกริยาอื่นๆ ค่อยๆ เรียนรู้เพิ่มเติมผ่านการใช้งานจริง

3. นอกจากการแบ่งตามรูปแบบการผัน V1 V2 V3 แล้ว เราสามารถแบ่งกลุ่ม Irregular Verbs ได้อีกหรือไม่?

ได้ เราสามารถแบ่งตามเสียงสระที่เปลี่ยนไป เช่น:

  • กลุ่ม i-a-u: drink-drank-drunk, sing-sang-sung, swim-swam-swum

  • กลุ่ม i-o-i: give-gave-given, forgive-forgave-forgiven

  • กลุ่ม ea-o-o: speak-spoke-spoken, steal-stole-stolen

4. การเรียนกริยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษ ยากหรือง่ายกว่าการผันกริยาในภาษาอื่นอย่างไร?

ภาษาอังกฤษมีการผันกริยาที่ง่ายกว่าหลายภาษา เช่น ภาษาฝรั่งเศส สเปน หรือเยอรมัน เพราะไม่ต้องผันตามเพศและจำนวนของประธานในทุกกาล แต่ความท้าทายของภาษาอังกฤษคือการจดจำกริยาผันไม่ปกติที่ไม่มีรูปแบบตายตัว

การเรียนรู้ กริยา 3 ช่อง อาจดูเป็นเรื่องยากในตอนแรก แต่ด้วยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและใช้เทคนิคการจำที่เหมาะกับตัวคุณ คุณจะสามารถเอาชนะความท้าทายนี้ได้

ความเข้าใจเรื่อง กริยา 3 ช่อง จะช่วยให้คุณสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง มั่นใจ และเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการพูด การเขียน หรือการฟัง

จำไว้ว่าความสำเร็จในการเรียนภาษามาจากการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ การนำไปใช้ในชีวิตจริง และไม่กลัวที่จะผิดพลาด เริ่มต้นวันนี้ แล้วคุณจะพบว่า กริยา 3 ช่อง ไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป แต่เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะพาคุณไปสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษในอนาคต

หากคุณต้องการพัฒนาทักษะการใช้คำกริยาในภาษาอังกฤษและเตรียมตัวสอบ IELTS สามารถ เรียน IELTS กับเราเพื่อเพิ่มความมั่นใจและความสำเร็จได้เลย!

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 ตัวอักษร
Loading...
เข้าสู่ระบบ
เพื่อสัมผัสเนื้อหาพรีเมียมที่ปรับให้เหมาะกับคุณ

เนื้อหาแบบพรีเมียมเนื้อหาแบบพรีเมียม

ดูทั้งหมด

แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล

TH30

อ่านมากที่สุด

ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน

กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

bg contact

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล

facebookyoutubeinstagram
logo footer Prep
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
get prep on Google Playget Prep on app store
หลักสูตร
เชื่อมต่อกับเรา
mail icon - footerfacebook icon - footer
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย