โครงสร้าง การใช้ และตัวอย่าง Future Simple Tense เข้าใจง่าย

"I will go" vs "I am going to go" - ต่างกันอย่างไร? เมื่อไหร่ควรใช้ will และเมื่อไหร่ไม่ควร? Future Simple Tense เป็นกาลที่ใช้บ่อยในการพูดถึงอนาคต แต่หลายคนใช้ผิดหรือสับสนกับ be going to การเข้าใจโครงสร้างและการใช้งานอย่างถูกต้องจะช่วยให้การสื่อสารของคุณชัดเจนและเป็นธรรมชาติ

บทความนี้จะอธิบาย Future Simple โครงสร้าง future ประโยค will future will พร้อม future simple tense ตัวอย่างประโยค และ ประโยค future simple tense ที่ครอบคลุม

Future Simple Tense มีความสำคัญในการแสดงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการทำนาย การตัดสินใจทันที การให้สัญญา หรือการเสนอความช่วยเหลือ การเข้าใจ simple future จะช่วยให้คุณสามารถถ่ายทอดความคิดเกี่ยวกับอนาคตได้อย่างแม่นยำ

ประโยค future simple มีโครงสร้างที่เรียบง่ายคือ will + V1 แต่การใช้งานมีความละเอียดอ่อนที่ต้องเข้าใจ เช่น ความแตกต่างระหว่าง will กับ be going to ซึ่งหลายคนมักสับสน will ใช้เมื่อตัดสินใจทันทีหรือทำนายโดยไม่มีหลักฐาน ขณะที่ be going to ใช้เมื่อมีแผนที่วางไว้แล้ว

นอกจากนี้ ยังมีข้อผิดพลาดที่พบบ่อย เช่น การใช้ to หลัง will การเติม -s/-es กับกริยา หรือการใช้ will ในประโยคเงื่อนไข ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องหลีกเลี่ยงเพื่อให้ใช้ภาษาอังกฤษได้ถูกต้อง

ในการสอบ IELTS การใช้ ประโยค will อย่างเหมาะสมและหลากหลายจะช่วยเพิ่มคะแนน Grammatical Range and Accuracy

คุณจะได้เรียนรู้โครงสร้างครบทั้งประโยคบอกเล่า ปฏิเเสธ และคำถาม การใช้งานในแต่ละสถานการณ์ ความแตกต่างกับ be going to ข้อผิดพลาดที่ต้องหลีกเลี่ยง และแบบฝึกหัด

มาเริ่มทำความเข้าใจ Future Simple Tense ที่จะทำให้การใช้ภาษาอังกฤษของคุณแม่นยำและมีระดับมากขึ้นกันเลย

Future Simple Tense - โครงสร้างและตัวอย่างประโยคในภาษาอังกฤษ
Future Simple Tense - โครงสร้างและตัวอย่างประโยคในภาษาอังกฤษ

I. Future Simple Tense คืออะไร?

Future Simple Tense คือกาลที่ใช้บอกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ใช้เมื่อต้องการพูดถึงการกระทำที่จะเกิดขึ้นหลังจากเวลาปัจจุบัน

โครงสร้างพื้นฐาน:

  • ประโยคบอกเล่า: Subject + will + V1
  • ประโยคปฏิเสธ: Subject + will not (won't) + V1
  • ประโยคคำถาม: Will + subject + V1?

ตัวอย่าง:

  • I will go to school tomorrow. (ฉันจะไปโรงเรียนพรุ่งนี้)
  • She will not come to the party. (เธอจะไม่มางานเลี้ยง)
  • Will you help me? (คุณจะช่วยฉันไหม?)
Future Simple Tense - โครงสร้างและตัวอย่างประโยคในภาษาอังกฤษ
Future simple tense ตัวอย่างประโยค

II. โครงสร้างของ Future Simple Tense ในภาษาอังกฤษ

ตารางด้านล่างแสดงสูตรของ Future Simple Tense ในภาษาอังกฤษ ทั้งประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ คำถาม และประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย Wh-questions:

 

โครงสร้างของ Future Simple Tense

ตัวอย่าง

ประโยคบอกเล่า

Future Simple Tense



Will + V)

(S + will/ “ll + V)

I will bake some pastries tomorrow. (ฉันจะอบขนมอบพรุ่งนี้)

ประโยคปฏิเสธ

Future Simple Tense



Will not/ won’t + V

(S + will not/ won’t + V)

She won’t go to work next week. (เธอจะไม่ไปทำงานในสัปดาห์หน้า)

ประโยคคำถาม

Future Simple Tense



Will + S + V?

  • Yes, S + will + V

  • No, S + will not +V

Will they go to England? Yes, they will. (พวกเขาจะไปอังกฤษไหม แน่นอนพวกเขาจะไป)

Wh- Question

Future Simple Tense



Wh-questions + Will + (S) + V?

  • S + will + V + O

What will you do next time you visit your friend? I will bring her a lovely doll. (ครั้งหน้าคุณจะทำอย่างไรเมื่อไปเยี่ยมเพื่อน ฉันจะนำตุ๊กตาที่น่ารักไปให้เธอ)

III. การใช้ Future Simple Tense

มาสำรวจ future simple tense หลักการใช้กับ PREP กันเถอะ!

1. แสดงการกระทำที่จะเกิดขึ้นทันทีหลังจากเวลาที่พูด หรือในอนาคต

ใช้ Future Simple Tense เพื่อแสดงการกระทำที่จะเกิดขึ้นหลังจากเวลาที่พูด หรือในอนาคต
ตัวอย่าง:

  • My mother will be fifty in May. (แม่ของฉันจะอายุห้าสิบปีในเดือนพฤษภาคม)

  • I am studying English because I will take an English exam tomorrow. (ฉันกำลังเรียนภาษาอังกฤษเพราะฉันจะสอบภาษาอังกฤษพรุ่งนี้)

Future Simple Tense - โครงสร้างและตัวอย่างประโยคในภาษาอังกฤษ
การใช้ Future Simple Tense

2. ทำนายอนาคตที่อาจเกิดขึ้นแต่ไม่มีหลักฐานชัดเจน

ตัวอย่าง:

  • In the future, people will live and work in space. (ในอนาคต ผู้คนจะอยู่อาศัยและทำงานในอวกาศ)

  • James will be here within ten minutes. (เจมส์จะมาถึงภายในสิบ นาที)

สามารถใช้คำวิเศษณ์เช่น definitely, probably, surely เพื่อบ่งบอกระดับของความแน่นอน
ตัวอย่าง:

  • I’ll definitely pass the test. (ฉันจะสอบผ่านแน่นอน)

  • I will surely try my best to get the cup. (ฉันจะพยายามเต็มที่เพื่อคว้าถ้วยรางวัลให้ได้)

3. เสนอความช่วยเหลือ

ใช้ "shall" เมื่อเราตัดสินใจหรือมีเจตนาจะทำบางสิ่ง ณ เวลาที่พูด โดยยังไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า
ตัวอย่าง:

  • Shall I carry the bags for you, Dad? (ให้ฉันช่วยถือกระเป๋าให้พ่อนะ)

  • Shall I get you something to eat? (ให้ฉันหาอะไรมากินให้ไหม)

4. ให้คำสัญญา

ตัวอย่าง:

  • I promise I will write to her every day. (ฉันสัญญาว่าฉันจะเขียนจดหมายถึงเธอทุกวัน)

  • My friend will never tell anyone about this. (เพื่อนของฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครเลย)

5. ออกคำเตือนหรือขู่

ตัวอย่าง:

  • Be quiet or John will be angry. (เงียบซะไม่งั้นจอห์นจะโกรธ)

  • Stop talking, or the teacher will send you out. (หยุดพูด ไม่งั้นครูจะไล่คุณออกไป)

6. เสนอแนะ

คำถามที่ขึ้นต้นด้วย "Shall we" เป็นคำถามเชิงเสนอแนะ
ตัวอย่าง:

  • Shall we play football? (เรามาเล่นฟุตบอลกันไหม)

  • Shall we have Chinese food? (เรากินอาหารจีนกันไหม)

7. ใช้ในประโยคเงื่อนไขที่ 1

ตัวอย่าง:

  • If she learns hard, she will pass the exam. (ถ้าเธอตั้งใจเรียน เธอจะสอบผ่าน)

  • If I study hard, I will get the prize. (ถ้าฉันตั้งใจเรียน ฉันจะได้รางวัล)

IV. สัญญาณของ Future Simple Tense

คำที่มักใช้กับ Future Simple Tense:

คำวิเศษณ์บอกเวลา

  • In + time (เช่น in 2 minutes = ในอีก 2 นาที)

  • Tomorrow (พรุ่งนี้)

  • Next day/ Next week/ Next month/ Next year (วันถัดไป/ สัปดาห์หน้า/ เดือนหน้า/ ปีหน้า)

  • Will you be home tomorrow morning? (พรุ่งนี้เช้าคุณจะอยู่บ้านไหม)

  • My father will call you in 5 minutes. (พ่อของฉันจะโทรหาคุณในอีก 5 นาที)

คำกริยาที่บ่งบอกความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์

  • Think/ believe/ suppose/... (คิด/ เชื่อ/ คาดว่า)

  • Promise (สัญญา)

  • I promise I will take you to the water park when I’m not occupied. (ฉันสัญญาว่าจะพาคุณไปสวนน้ำเมื่อฉันว่าง)

คำวิเศษณ์บ่งบอกระดับความแน่นอนในการทำนายอนาคต

  • Perhaps (อาจจะ)

  • Probably (น่าจะ)

  • Certainly (แน่นอน)

  • Definitely (แน่ๆ)

  • Surely (แน่ๆ)

  • She will surely miss him while he’s away. (เธอคงจะคิดถึงเขาแน่ๆ ระหว่างที่เขาไม่อยู่)

  • They’ll probably delay their trip if it continues to rain over there. (พวกเขาอาจเลื่อนการเดินทางถ้าฝนยังตกต่อเนื่องที่นั่น)

V. ความแตกต่างระหว่าง Will และ Be Going To

 

Will

Be Going To

การใช้

ตัดสินใจทันที, ทำนาย

แผนที่วางไว้, หลักฐานชัดเจน

ตัวอย่าง

I will call him now.

I'm going to call him. (วางแผนไว้แล้ว)

It will rain. (คิดว่า)

It's going to rain. (เห็นเมฆดำ)

เปรียบเทียบ:

  • A: The phone is ringing. B: I will answer it. (ตัดสินใจทันที)

  • A: Why are you holding that phone? B: I'm going to call John. (วางแผนไว้แล้ว)

 

บทความที่แนะนำ:

Future Continuous Tense ใช้ยังไง? ตัวอย่างพร้อมโครงสร้าง

โครงสร้างและตัวอย่าง Future Perfect Tense ที่ออกสอบบ่อย

Future Perfect Continuous คืออะไร ใช้ยังไงให้เก่ง

VI. แบบฝึกหัด

เพื่อความเข้าใจในการใช้ Future Simple Tense และ Near future tense มากขึ้น มาทำแบบฝึกหัดด้านล่างนี้กันเถอะ!

1. ใบ งาน Future simple tense

แบบฝึกหัดที่ 1: ใส่คำกริยาในวงเล็บในกาล Future Simple Tense

  1. I (call) you when I arrive home.

  2. They (travel) to Europe next summer.

  3. James (start) her new job on Monday.

  4. We (have) dinner at 7 PM tomorrow.

  5. Jack (finish) his homework before going to bed.

แบบฝึกหัดที่ 2: ใส่คำกริยาในวงเล็บในกาล Near future tense

  1. Anna (buy) a new car this weekend to travel around the world.

  2. They (move) to a new house next month.

  3. We (visit) our relatives during the holidays.

  4. John (start) his new job on Monday.

  5. They (celebrate) their anniversary next week.

2. เฉลย

แบบฝึกหัดที่ 1

แบบฝึกหัดที่ 2

  1. will call

  2. will travel

  3. will start

  4. will have

  5. will finish

  1. is going to buy

  2. are going to move

  3. are going to visit

  4. is going to start

  5. are going to celebrate

Future Simple Tense เป็นกาลที่ใช้บอกเหตุการณ์ในอนาคต โดยมีโครงสร้างพื้นฐาน Subject + will + V1 สำหรับประโยคบอกเล่า Subject + will not (won't) + V1 สำหรับประโยคปฏิเสธ และ Will + subject + V1 สำหรับประโยคคำถาม

การใช้งาน Future Simple มีหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ การทำนายเหตุการณ์ การตัดสินใจทันที การให้สัญญา การเสนอความช่วยเหลือ และการขอร้อง คำที่มักใช้ร่วมกับกาลนี้ ได้แก่ tomorrow, next week, next month, soon และ later ซึ่งเป็นคำบอกเวลาที่ชี้ให้เห็นว่าเหตุการณ์จะเกิดในอนาคต

ข้อแตกต่างสำคัญระหว่าง will และ be going to คือ will ใช้เมื่อตัดสินใจทันทีหรือทำนายโดยไม่มีหลักฐาน ส่วน be going to ใช้เมื่อมีแผนที่วางไว้แล้ว ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ การใช้ to หลัง will การเติม -s/-es กับกริยา และการใช้ will ในประโยคเงื่อนไข การฝึกฝนการใช้ Future Simple Tense อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณเชี่ยวชาญและใช้งานได้ถูกต้องในการสอบ IELTS

เสริมสร้างทักษะภาษาอังกฤษเพื่อสอบ IELTS กับ PREP English การเรียนรู้ไวยากรณ์อย่างเป็นระบบเป็นรากฐานสำคัญในการทำคะแนน IELTS ให้ได้สูง PREP เข้าใจดีว่าผู้เรียนต้องการคอร์สเรียน IELTS ออนไลน์ ที่ไม่เพียงแค่สอนทฤษฎี แต่ยังให้โอกาสฝึกฝนจริงในทุกทักษะ ด้วยระบบ Virtual Writing Room คุณจะได้เขียนเรียงความและรับคำแนะนำจากระบบ AI ที่วิเคราะห์การใช้ไวยากรณ์ของคุณอย่างละเอียด ขณะที่ Virtual Speaking Room ช่วยให้คุณฝึกพูดและได้รับฟีดแบ็กทันที พร้อมด้วย Teacher Bee AI ที่คอยตอบคำถามและอธิบายจุดที่สงสัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาร่วมเดินทางสู่เป้าหมายคะแนน IELTS ที่คุณต้องการกับ ielts prep ที่เข้าใจและตอบโจทย์ผู้เรียนคนไทยอย่างแท้จริง

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 ตัวอักษร
Loading...

แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล

TH30

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล

facebookyoutubeinstagram
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย
DMCA protect