ค้นหาบทความการศึกษา
Affirmative sentences ภาษาอังกฤษ: ความหมาย โครงสร้าง วิธีใช้ และแบบฝึกหัด
Affirmative sentences ภาษาอังกฤษคืออะไร ใช้ยังไง ในบทความนี้ เราจะมาตอบคำถามเหล่านี้กันอย่างละเอียด มาดูกันเลย!
I. Affirmative sentences ภาษาอังกฤษคืออะไร
เรามาเริ่มต้นกันด้วยการทำความเข้าใจแนวคิดของ affirmative sentences ภาษาอังกฤษ (ประโยคบอกเล่า) กันก่อน แตกต่างจากภาษาไทยไหม คืออะไร และจะสร้างอย่างไร
1. นิยามของประโยคบอกเล่าภาษาอังกฤษ
ประโยคบอกเล่าคืออะไร ก็ตามชื่อเลย affirmative sentences ภาษาอังกฤษก็เหมือนกับภาษาไทย เพราะคือประโยคที่เป็นจริง แสดงการยอมรับ หรือหมายถึงการตอบว่า “ใช่” เช่น:
- Jennie and Lisa are best friends. (Jennie กับ Lisa เป็นเพื่อนสนิทกัน)
- I wake up at 6am everyday. (เราตื่นตอนหกโมงเช้าทุกวัน)
- The monitor will start the party with the fireworks. (หัวหน้าห้องจะเริ่มปาร์ตี้ด้วยดอกไม้ไฟ)
2. การสร้างประโยคบอกเล่าภาษาอังกฤษ
การสร้างประโยคบอกเล่าภาษาอังกฤษง่ายมาก
S (ประธาน) + V (กริยา)
ในนั้น:
- Subject: ประธาน
- Verb: กริยา (กริยาทั่วไป, verb to be, กริยาช่วย)
และนอกจากนี้เราสามารถเพิ่มส่วนเติมเต็มอื่น ๆ มาเพื่อให้ประโยคสมบูรณ์ขึ้นได้อีกด้วย
เช่น:
- We will go to the airport at 8pm. (เราจะไปสนามบินตอนสองทุ่ม)
- I had breakfast at 6am this morning. (เรากินข้าวเช้าตอนหกโมงเช้าวันนี้)
- My sister can sing and dance beautifully. (น้องสาวเราร้องเพลงและเต้นได้สวยมาก)
II. โครงสร้าง affirmative sentences ภาษาอังกฤษ
เราลองมาดูโครงสร้างของประโยคบอกเล่าใน 12 tenses ของภาษาอังกฤษและคำกริยาช่วยด้านล่างนี้กันเลย
1. เรารู้กันดีว่าในภาษาอังกฤษนั้นมี 12 Tenses ที่แตกต่างกัน
Tenses ภาษาอังกฤษ | โครงสร้าง | ตัวอย่างเช่น |
Present simple | Regular verb: S + V(s/es) (+ O) Verb tobe: S + am/ is/ are (+ O) | I often play badminton on Sunday. (เรามักจะเล่นแบดมินตันวันอาทิตย์) Rose is a singer. (Rose เป็นนักร้อง) |
Present continuous tense | S + am/ is/ are + V-ing (+ O) | My mother is cooking in the kitchen at the moment. (ตอนนี้แม่เรากำลังทำอาหารในครัว) |
Present perfect tense | S + have/ has + V3 (+ O) | Ms. Linda has taught English for 5 years at my school. (Ms. Linda สอนภาษาอังกฤษมาแล้วห้าปีที่โรงเรียนเรา) |
Present perfect continuous tense | S + have/ has + been + V-ing (+ O) | My family has been living in this town for 10 years. (ครอบครัวเราอยู่ที่เมืองนี้มาแล้วสิบปี) |
Past simple tense | Regular verbs: S + V-ed/V2 (+ O) Verb tobe: S + was/ were (+ O) | I had a good buffet with my friend yesterday. (เมื่อวานเรากินบุฟเฟต์กับเพื่อน) I was at Railay Beach last month. (เราอยู่ที่หาด Railay เมื่อเดือนที่แล้ว) |
Past continuous tense | S + was/were + V-ing (+ O) | He was playing badminton at 5 p.m yesterday. (เมื่อวานตอนห้าโมงเย็นเขาเล่นแบดมินตัน) |
Past perfect tense | S + had + V3 (+ O) | Windy had finished the course before the expiration day. (Windy เรียนจบคอร์สก่อนวันหมดเขต) |
Past perfect continuous tense | S + had + been + V-ing (+ O) | Tony had been working at a multinational company for 5 years before he went abroad. (Tony ทำงานที่บริษัทข้ามชาติมาห้าปีก่อนจะไปต่างประเทศ) |
Simple future tense | S + will + V (+ O) | I will be a doctor in the future. (อนาคตเราจะเป็นหมอ) |
Future continuous tense | S + will + be + Ving (+ O) | I will be graduating on Sunday next week. (วันอาทิตย์อาทิตย์หน้าเราจะจบการศึกษา) |
Future perfect tense | S + will + have + V3 (+ O) | I will have carried out ten big projects this year until December. (ปีนี้จนถึงเดือนธันวาคม เราจะทำโปรเจกต์ใหญ่สิบโปรเจกต์) |
Future perfect continuous tense | S + will + have + been + V-ing (+ O) | By the end of this year, Fiona will have been working in HSBC for 5 years. (สิ้นปีนี้ Fiona จะทำงานที่ HSBC ครบห้าปี) |
2. คำกริยาช่วย
โครงสร้างของประโยคบอกเล่าที่ปรากฏพร้อม modal verb: S + modal verb+ V-inf (+ O) | ||
Modal verbs | ตัวอย่าง | |
Ability ความสามารถ | can/ could/ be able to | Niaomi can speak three different languages fluently. (Naomi พูดได้สามภาษาอย่างคล่องแคล่ว) |
Advice คำแนะนำ | must/ should/ ought to/ could | You must Complete the assignment by the end of the day to meet the deadline. (นายต้องทำงานเสร็จก่อนหมดวันเพื่อให้ทันกำหนด) |
Obligation and Necessity หน้าที่และความจำเป็น | must/ have to/ need | Everyone has to attend the meeting at 10am tomorrow. (ทุกคนต้องเข้าประชุมตอนสิบโมงเช้าพรุ่งนี้) |
Certainty and possibility ความแน่นอนและความเป็นไปได้ | will/ would/ may/ might/ can/ could | You may bring a guest to the event if you'd like. (ถ้านายอยากพาแขกมาร่วมงานก็ได้) |
III. การทำ affirmative sentences ภาษาอังกฤษให้เป็นประโยคปฏิเสธ
ประโยคบอกเล่าเองก็สามารถทำให้เป็นประโยคบอกเล่าแบบปฏิเสธได้ แล้วเราจะทำอย่างไร มาลองดูวิธีการการทำให้เป็นปฏิเสธด้านล่างนี้กันเลย
1. การใช้ to be
เมื่อต้องการเปลี่ยนประโยคบอกเล่าภาษาอังกฤษเป็นประโยคปฏิเสธ เราแค่เติมคำว่า "not" หลัง "to be" ประโยคปฏิเสธ ตัวอย่าง:
Present Continuous Tense | They are watching a movie right now. (ตอนนี้พวกเขากำลังดูหนัง) ⏩ They are not watching a movie right now. (ตอนนี้พวกเขากำลังไม่ดูหนัง) |
Past Continuous Tense | I was reading a book when the phone rang. (ตอนที่โทรศัพท์ดังเราอ่านหนังสืออยู่) ⏩ I was not reading a book when the phone rings. (ตอนที่โทรศัพท์ดังเราไม่ได้อ่านหนังสืออยู่) |
2. ประโยคกริยาทั่วไป
สำหรับประโยคที่มีกริยาทั่วไป เราต้องใช้ auxilary verb "do/does" มาช่วยและวาง "not" ตามหลังคำ auxilary verb เพื่อเปลี่ยนประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยคปฏิเสธ ตัวอย่างเช่น:
Present Simple | Ms. Kim works at a bank on Sunday. (คุณ Kim ทำงานที่ธนาคารวันอาทิตย์) ⏩ Ms. Kim does not work at a bank. (คุณ Kim ไม่ทำงานที่ธนาคารวันอาทิตย์) |
Present perfect tense
| Aladdin has visited that museum before. (Aladdin เคยไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์นั้นแล้ว) ⏩ Aladdin has not visited that museum before. (Aladdin ไม่เคยไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์นั้นมาก่อน) |
Present perfect continuous tense
| They have been playing soccer all afternoon. (พวกเขาเล่นฟุตบอลทั้งบ่าย) ⏩ They have not been playing soccer all afternoon. (พวกเขาไม่ได้เล่นฟุตบอลทั้งบ่าย) |
Past simple tense
| Hulk visited Paris last summer. (Hulk ไปปารีสเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว) ⏩ Hulk did not visit Paris last summer. (Hulk ไม่ได้ไปปารีสเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว) |
Past perfect tense
| Mona had finished her meal by the time I got there. (Mona กินข้าวเสร็จแล้วตอนที่เรามาถึง) ⏩ Mona had not finished her meal by the time I got there. (Mona ยังกินข้าวไม่เสร็จตอนที่เรามาถึง) |
Past perfect continuous tense | My friends had been studying for hours when I called. (เพื่อนๆ เราอ่านหนังสือหลายชั่วโมงแล้วตอนที่เราโทรไป) ⏩ My friends had not been studying for hours when I called. (เพื่อนๆ เราไม่ได้อ่านหนังสือหลายชั่วโมงตอนที่เราโทรไป) |
Simple future tense
| My mother will go to the store tomorrow. (พรุ่งนี้แม่เราจะไปร้าน) ⏩ My mother will not go to the store tomorrow. (พรุ่งนี้แม่เราจะไม่ไปร้าน) |
Future continuous tense
| My team will be working on this project next week. (อาทิตย์หน้าเราจะทำโปรเจกต์นี้) ⏩ My team will not be working on this project next week. (อาทิตย์หน้าเราจะไม่ทำโปรเจกต์นี้) |
Future perfect tense
| Jesus will have finished her book by the end of the month.(ภายในสิ้นเดือนนี้ Jesus จะเขียนหนังสือเสร็จ) ⏩ Jesus will not have finished her book by the end of the month. (ภายในสิ้นเดือนนี้ Jesus เขียนหนังสือไม่เสร็จ) |
Future perfect continuous tense
| By 11 pm tonight, I and my brother will have been watching film for hours. (คืนนี้ตอนห้าทุ่มเรากับน้องชายจะดูหนังหลายชั่วโมงแล้ว) ⏩ By 11 pm tonight, I and my brother not have been watching film for hours. (คืนนี้ตอนห้าทุ่ม เรากับน้องชายจะไม่ดูหนังหลายชั่วโมง) |
3. ประโยคที่มี modal verbs
ถ้าเราอยากจะเปลี่ยนประโยคบอกเล่าภาษาอังกฤษที่มี modal verbs ให้เป็นประโยคปฏิเสธ เราสามารถเติม not ลงไปตามหลังคำว่า would, could, might ได้เลยตามโครงสร้างดังนี้
S + modal verbs + V-inf + O ⏩ S + modal verbs + not + V-inf + + O
ประโยคปฏิเสธ ตัวอย่าง:
- Clara will be able to finish the project on time. (Clara จะทำโปรเจกต์เสร็จตรงเวลา)
⏩ Clara will not be able to finish the project on time. (Clara จะทำโปรเจกต์เสร็จไม่ตรงเวลา)
- Peter can play the guitar. (Peter เล่นกีตาร์ได้)
⏩ Peter can not play guitar. (Peter เล่นกีตาร์ไม่ได้)
IV. แบบฝึกหัด affirmative sentences ภาษาอังกฤษและเฉลย
เพื่อให้ Preppies ทุกคนเข้าใจโครงสร้างและวิธีการใช้งประโยคบอกเล่าภาษาอังกฤษทั้งปกติและปฏิเสธ เรามาทำแบบฝึกหัดกันเลย อย่ารอช้า!
1. แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัดที่ 1: เปลี่ยนประโยคปฏิเสธเหล่านี้ให้เป็นประโยคบอกเล่าธรรมดา
- Archway does not like to swim in the ocean.
- They have not finished their homework already.
- Bob won’t go to the concert tonight.
- My mother does not enjoy eating spicy food.
- We will not visit our grandparents next Sunday.
แบบฝึกหัดที่ 2: ผันคำกริยาในวงเล็บให้ถูกต้อง
- I (travel) to London two weeks ago.
- My friends (watch) a movie at the moment.
- Jack (go) to the gym regularly.
- They (visit) that museum before.
- They (attend) the conference next week.
2. เฉลย
แบบฝึกหัดที่ 1 | แบบฝึกหัดที่ 2 |
|
|
พวกเราหวังหว่าสรุปโครงสร้าง affirmative sentences ภาษาอังกฤษนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจหลักการและเรียนรู้เทคนิกในการเปลี่ยนรูปประโยคเป็นประโยคปฏิเสธ ถ้ามีข้อสงสัยอะไร อย่าลังเลที่จะถามหรือส่งข้อความหาเรา พวกเราพร้อมอธิบายให้เสมอ เพื่อให้คุณเข้าใจภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น!
ความคิดเห็น
ค้นหาบทความการศึกษา
อ่านมากที่สุด
After คืออะไร ความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับโครงสร้างของ After ภาษาอังกฤษ
โครงสร้างและการใช้ Double Passive Voice ภาษาอังกฤษ
AM คืออะไร PM คืออะไร ความแตกต่างระหว่าง AM กับ PM ในภาษาอังกฤษ
อัญประกาศเดี่ยวคืออะไร วิธีการใช้อัญประกาศเดี่ยวในภาษาอังกฤษ (')
ความแตกต่างระหว่าง Assure, Ensure กับ Insure ในภาษาอังกฤษ
ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน
กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!