ค้นหาบทความการศึกษา
วิธีตอบคำถามใน IELTS Speaking Part 1 อย่างมั่นใจด้วยเทคนิคที่ได้ผล
คุณเคยรู้สึกตื่นเต้นจนพูดไม่ออกเมื่อเข้าห้องสอบ IELTS Speaking หรือไม่? หลายคนมักคิดว่า Part 1 เป็นส่วนง่ายที่สุด แต่แท้จริงแล้วนี่คือช่วงเวลาทองคำที่จะสร้างความประทับใจแรกกับผู้คุมสอบและวางรากฐานคะแนนที่คุณต้องการ
IELTS speaking part 1 เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการสอบ IELTS speaking ที่ใช้เวลาเพียง 4-5 นาที แต่กลับมีผลต่อความมั่นใจและคะแนนรวมของคุณอย่างมากมาย เพราะนี่คือโอกาสแรกในการแสดงความสามารถ
การเข้าใจ วิธีตอบคำถามใน IELTS Speaking Part 1 อย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณจัดการกับ IELTS speaking questions part 1 ได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นคำถามเกี่ยวกับตัวคุณเอง งาน การศึกษา หรือหัวข้อ speaking IELTS ที่หลากหลายอย่าง colour IELTS speaking part 1 และ birthday topic IELTS speaking part 1
การเตรียมตัวที่มีประสิทธิภาพต้องเริ่มจากการเข้าใจว่า IELTS speaking part 1 time ที่จำกัดนี้ต้องการให้คุณแสดงความสามารถในการสื่อสารอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การท่องจำคำตอบ ผู้คุมสอบมองหาความคล่องแคล่ว ความถูกต้องทางไวยากรณ์ การใช้คำศัพท์ที่หลากหลาย และการออกเสียงที่ชัดเจน
ความท้าทายที่แท้จริงของ IELTS speaking questions ไม่ได้อยู่ที่ความยากของคำถาม แต่อยู่ที่การสร้างคำตอบที่สมดุลระหว่างความเป็นธรรมชาติและการแสดงทักษะภาษาอย่างเหมาะสม เมื่อคุณเชี่ยวชาญเทคนิคเหล่านี้แล้ว คุณจะพบว่าการสอบ IELTS กลายเป็นโอกาสในการแสดงศักยภาพมากกว่าการทดสอบที่น่ากลัว
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเทคนิคการตอบคำถามอย่างครบวงจร ตั้งแต่การเข้าใจโครงสร้างการสอบ การเตรียนตัวอย่างเป็นระบบ ไปจนถึงกลยุทธ์ขั้นสูงที่จะยกระดับคำตอบของคุณ คุณจะได้เรียนรู้สูตรการตอบ PREP การใช้คำศัพท์และไวยากรณ์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงตัวอย่างคำตอบจริงจากหัวข้อที่พบบ่อย
มาเริ่มต้นการเดินทางสู่ความสำเร็จใน IELTS Speaking Part 1 กันด้วยการทำความเข้าใจพื้นฐานสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงผลการสอบของคุณ

- I. เข้าใจภาพรวม IELTS Speaking Part 1
- II. กลยุทธ์การเตรียมตัวและสร้างความมั่นใจก่อนลงสนามจริง
- III. โครงสร้างการตอบคำถามและเนื้อหาที่ทรงพลัง
- IV. เทคนิคยกระดับคำตอบ
- V. สิ่งที่ควรทำ (Do's) และไม่ควรทำ (Don'ts) ในวันสอบจริง
- VI. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
- "Fluency" ใน IELTS Speaking Part 1 หมายถึงอะไรกันแน่ แตกต่างจาก "Accuracy" อย่างไร?
- หัวข้อใดบ้างที่มักถูกจัดอยู่ในกลุ่ม "ง่าย" และกลุ่ม "ท้าทาย" สำหรับผู้สอบชาวไทย?
- การเตรียมตัวสำหรับ Part 1 แตกต่างจากการเตรียมตัวสำหรับ Part 2 และ 3 อย่างไร?
- ความแตกต่างระหว่าง "สำเนียง" (Accent) กับ "การออกเสียง" (Pronunciation) ที่ถูกต้อง
I. เข้าใจภาพรวม IELTS Speaking Part 1
1. IELTS Speaking Part 1 คืออะไร?
IELTS speaking part 1 เป็นส่วนแรกของการสอบพูดที่ผู้คุมสอบจะถามคำถามเกี่ยวกับตัวคุณโดยตรง เป้าหมายหลักคือการประเมินความสามารถในการสื่อสารพื้นฐานและการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ผู้คุมสอบมองหาความคล่องแคล่วของคุณในการตอบคำถามง่ายๆ รวมถึงความสามารถในการใช้คำศัพท์และไวยากรณ์อย่างเหมาะสม
การสอบ IELTS speaking ทั้งหมดใช้เวลา 11-14 นาที โดย Part 1 จะใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญในการสร้างความประทับใจแรกกับผู้คุมสอบ
2. ระยะเวลาและรูปแบบคำถามที่พบบ่อยใน Part 1
หัวข้อ |
รายละเอียด |
IELTS speaking part 1 time |
4-5 นาที |
จำนวนคำถาม |
8-12 คำถาม |
หัวข้อหลัก |
2-3 หัวข้อ |
ระดับความยาก |
พื้นฐานถึงปานกลาง |

IELTS Speaking questions part 1 มักจะเริ่มด้วยคำถามเกี่ยวกับตัวคุณเอง เช่น งาน การศึกษา บ้านเกิด แล้วจึงขยายไปสู่หัวข้อที่หลากหลายมากขึ้น ตัวอย่างหัวข้อที่พบบ่อย ได้แก่ Colour IELTS speaking part 1, Birthday topic IELTS speaking part 1, กีฬา, อาหาร, และงานอดิเรก
3. เกณฑ์การให้คะแนน (Marking Criteria)
เกณฑ์การประเมิน |
คำอธิบาย |
น้ำหนัก |
Fluency and Coherence |
ความคล่องแคล่วและเชื่อมโยง |
25% |
Lexical Resource |
ความหลากหลายของคำศัพท์ |
25% |
Grammatical Range and Accuracy |
ไวยากรณ์และความถูกต้อง |
25% |
Pronunciation |
การออกเสียงและสำเนียง |
25% |
II. กลยุทธ์การเตรียมตัวและสร้างความมั่นใจก่อนลงสนามจริง
1. การฝึกฝนกับหัวข้อที่หลากหลาย: จากเรื่องใกล้ตัวสู่หัวข้อที่คาดไม่ถึง
หัวข้อ Speaking IELTS ที่ควรเตรียมตัว:
ประเภทหัวข้อ |
ตัวอย่าง |
ข้อมูลส่วนตัว |
Work, Study, Hometown |
ความชอบ |
Hobbies, Music, Sports |
ชีวิตประจำวัน |
Daily Routine, Weekend Activities |
หัวข้อพิเศษ |
Colours, Birthdays, Weather |

ตัวอย่างหัวข้อที่พบบ่อยพร้อม Sample Answers
หัวข้อ 1: Work/Study
-
คำถาม: "What do you do for work?" หรือ "What do you study?"
-
Sample Answer: "I work as a marketing manager at a tech company in Bangkok. I've been in this position for about two years now, and I really enjoy it because it allows me to be creative while also working with data. The job involves developing marketing campaigns and analyzing customer behavior, which I find quite fascinating."
หัวข้อ 2: Hometown
-
คำถาม: "Where are you from?" หรือ "Tell me about your hometown."
-
Sample Answer: "I'm from Chiang Mai, which is a beautiful city in northern Thailand. It's famous for its ancient temples and mountain scenery. What I love most about my hometown is the relaxed atmosphere and the friendly people. The weather is also much cooler than Bangkok, especially during the winter months."
หัวข้อ 3: colour IELTS speaking part 1
-
คำถาม: "What's your favorite color?" หรือ "Do you like bright colors?"
-
Sample Answer: "My favorite color is navy blue because it's both calming and professional. I often wear blue clothes to work, and I've painted my bedroom walls in a light blue shade. I think blue represents stability and trust, which are qualities I value. However, I also appreciate warm colors like orange and yellow when I want to feel more energetic."
หัวข้อ 4: birthday topic IELTS speaking part 1
-
คำถาม: "How do you usually celebrate your birthday?"
-
Sample Answer: "I typically celebrate my birthday in a simple way with close family and friends. Usually, we have dinner at a nice restaurant or sometimes my mom cooks my favorite meal at home. I'm not really into big parties, but I do enjoy receiving thoughtful gifts and spending quality time with people I care about. Last year, my friends surprised me with a small cake, which was really sweet."

หัวข้อ 5: Hobbies
-
คำถาม: "What do you like to do in your free time?"
-
Sample Answer: "In my spare time, I enjoy reading novels, especially mystery and science fiction books. I also like to go hiking on weekends because it helps me stay fit and connect with nature. Recently, I've started learning to play the guitar, which is challenging but really rewarding. These activities help me relax after a busy week at work."
เทคนิคการระดมความคิด (Brainstorming) สำหรับแต่ละหัวข้อ
การเตรียมวิธีตอบคำถามใน IELTS Speaking Part 1 ที่มีประสิทธิภาพคือการคิดล่วงหน้าเกี่ยวกับประสบการณ์ส่วนตัว ความชอบ และเหตุผลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแต่ละหัวข้อ
2. เทคนิคสร้างความคุ้นเคย ลดความประหม่า และการจัดการกับความตื่นเต้น
การฝึกฝนกับเพื่อนหรือการบันทึกเสียงตัวเองเป็นวิธีที่ดีในการสร้างความมั่นใจ จำไว้ว่าผู้คุมสอบไม่ได้พยายามทำให้คุณผิดพลาด แต่ต้องการเห็นความสามารถที่แท้จริงของคุณ
3. การบันทึกเสียงตัวเองและขอ Feedback: กุญแจสู่การพัฒนา
การฟังเสียงของตัวเองจะช่วยให้คุณระบุจุดที่ต้องปรับปรุง เช่น ความเร็วในการพูด การหยุดเว้นจังหวะ และการออกเสียง
III. โครงสร้างการตอบคำถามและเนื้อหาที่ทรงพลัง
1. สูตรการตอบ "PREP" (Point, Reason, Example, Point)
ขั้นตอน |
คำอธิบาย |
ตัวอย่างคำถาม: "Do you like cooking?" |
Point |
ตอบตรงคำถาม |
"Yes, I really enjoy cooking" |
Reason |
ให้เหตุผล |
"because it helps me relax after work" |
Example |
ยกตัวอย่าง |
"For instance, I love making Thai curry on weekends" |
Point |
สรุปหรือเพิ่มเติม |
"It's also a great way to save money and eat healthily" |
เทคนิคเพิ่มเติมสำหรับการตอบคำถาม:
1. เทคนิค "เพิ่ม + ลด" (Add & Subtract)
-
เมื่อถามเกี่ยวกับความชอบ ให้บอกทั้งสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ
-
ตัวอย่าง: "I love spicy food, especially Thai dishes, but I'm not really into very sweet desserts."
2. เทคนิค "อดีต + ปัจจุบัน + อนาคต" (Past + Present + Future)
-
ขยายคำตอบโดยพูดถึงการเปลี่ยนแปลงตามเวลา
-
ตัวอย่าง: "When I was younger, I hated vegetables, but now I enjoy eating salads. I'm planning to grow my own vegetables next year."
3. เทคนิค "เปรียบเทียบ" (Comparison)
-
เปรียบเทียบกับคนอื่น สถานที่อื่น หรือสถานการณ์อื่น
-
ตัวอย่าง: "Unlike my friends who prefer staying indoors, I love outdoor activities like hiking and cycling."
4. เทคนิค "ความรู้สึก + เหตุผล" (Feeling + Reason)
-
แสดงความรู้สึกแล้วตามด้วยเหตุผลที่ชัดเจน
-
ตัวอย่าง: "I feel excited when I travel because it allows me to experience different cultures and meet new people."
2. การขยายคำตอบอย่างเป็นธรรมชาติ: ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป
สำหรับ IELTS Speaking questions ใน Part 1 คำตอบที่ดีควรยาวประมาณ 20-30 วินาที หรือ 2-3 ประโยค หลีกเลี่ยงการตอบคำเดียวหรือพูดยาวจนเกินไป
เทคนิคการใช้ "Wh-" questions เพื่อช่วยขยายความ
เมื่อคุณตอบคำถามแล้ว ลองถามตัวเองว่า "Why?" "When?" "Where?" "How?" เพื่อขยายคำตอบให้สมบูรณ์ขึ้น
เทคนิคขยายคำตอบด้วย 5W1H:
คำถาม |
วิธีใช้ |
ตัวอย่าง |
Why? |
ให้เหตุผล |
"I like reading because it improves my vocabulary" |
When? |
บอกเวลา |
"I usually read before bedtime" |
Where? |
บอกสถานที่ |
"I prefer reading in a quiet coffee shop" |
Who? |
เกี่ยวกับคน |
"My sister also loves reading novels" |
What? |
รายละเอียด |
"I especially enjoy mystery and thriller books" |
How? |
วิธีการ |
"I usually buy books online or borrow from library" |
เทคนิคพิเศษสำหรับคำถามยาก:
1. การใช้ "It depends" อย่างชาญฉลาด
-
เมื่อคำถามมีหลายแง่มุม ให้ใช้วลีนี้แล้วอธิบายต่อ
-
ตัวอย่าง: "Do you prefer tea or coffee?" → "Well, it depends on the time of day. I usually drink coffee in the morning for energy, but I prefer tea in the evening because it's more relaxing."
2. การขอเวลาคิด (Thinking Time) อย่างเป็นธรรมชาติ
-
ใช้วลีเหล่านี้เพื่อซื้อเวลา: "That's an interesting question...", "Let me think...", "Well, actually..."
-
ตัวอย่าง: "That's a good question. Let me think... I'd say my favorite season is autumn because the weather is perfect and the colors are beautiful."
3. เทคนิค "แต่ก่อน vs ตอนนี้" (Past vs Present)
-
เปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงเพื่อแสดงการพัฒนา
-
ตัวอย่าง: "When I was a child, I was quite shy and didn't like meeting new people. However, now I'm much more confident and I actually enjoy socializing."
การให้รายละเอียดและยกตัวอย่างที่เกี่ยวข้อง
การยกตัวอย่างจากประสบการณ์จริงจะทำให้คำตอบของคุณน่าเชื่อถือและน่าสนใจมากขึ้น
3. การใช้คำศัพท์ (Lexical Resource) และไวยากรณ์ (Grammatical Range and Accuracy) อย่างถูกต้องและหลากหลาย
เคล็ดลับการใช้ Tenses พื้นฐานที่จำเป็น
Tense |
การใช้งาน |
ตัวอย่าง |
Present Simple |
ความจริงทั่วไป |
"I work in Bangkok" |
Past Simple |
เหตุการณ์ในอดีต |
"I studied abroad" |
Present Perfect |
ประสบการณ์ |
"I have visited Japan" |
Future |
แผนการ |
"I will travel next year" |
การเพิ่มคลังศัพท์เฉพาะหัวข้อ (Topic-specific Vocabulary) และคำเชื่อม
คำศัพท์เฉพาะหัวข้อที่ควรรู้:
หัวข้อ |
คำศัพท์สำคัญ |
ตัวอย่างการใช้ |
Work |
challenging, rewarding, demanding, flexible |
"My job is quite demanding but very rewarding" |
Study |
concentrate, assignment, deadline, major |
"I find it hard to concentrate when it's noisy" |
Hobbies |
passionate about, keen on, fascinating, engaging |
"I'm passionate about photography" |
Food |
nutritious, appetizing, spicy, bland |
"Thai food is usually spicy and appetizing" |
Travel |
breathtaking, memorable, exotic, cultural |
"The mountain view was absolutely breathtaking" |
คำเชื่อมสำคัญที่ช่วยเพิ่มคะแนน:
ประเภท |
คำเชื่อม |
การใช้งาน |
เพิ่มข้อมูล |
Additionally, Moreover, Furthermore |
"I love hiking. Additionally, it keeps me fit" |
ตัวอย่าง |
For instance, For example, Such as |
"I enjoy outdoor activities, such as hiking" |
ความแตกต่าง |
However, On the other hand, Although |
"I like spicy food. However, I can't eat very hot dishes" |
ผลลัพธ์ |
As a result, Therefore, Consequently |
"I practice daily. As a result, my English improved" |
ความคิดเห็น |
Actually, In fact, To be honest |
"Actually, I prefer staying home on weekends" |
วลีเปิดและปิดคำตอบที่มีประสิทธิภาพ:
วลีเปิด (Opening phrases):
-
"Well, to be honest..."
-
"That's an interesting question..."
-
"I'd say that..."
-
"From my experience..."
วลีปิด (Closing phrases):
-
"...so that's why I feel this way"
-
"...and that's what makes it special to me"
-
"...which is why I really enjoy it"
-
"...so overall, I think it's great"
4. ความสำคัญของ Pronunciation และ Fluency: พูดชัดถ้อยชัดคำและลื่นไหล
การเน้นเสียงในคำและประโยค
การเน้นเสียงที่ถูกต้องจะช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจคุณได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะคำที่มีความสำคัญในประโยค
Intonation และ Rhythm ในการพูด
การเปลี่ยนระดับเสียงขึ้นลงตามความหมายของประโยคจะทำให้การพูดของคุณฟังดูเป็นธรรมชาติ
การหยุดเว้นจังหวะ (Pausing) อย่างเหมาะสม
การหยุดเว้นช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างประโยคจะช่วยให้คุณมีเวลาคิดและทำให้ผู้ฟังติดตามได้ง่าย
IV. เทคนิคยกระดับคำตอบ
1. การใช้ Idioms และ Collocations อย่างเหมาะสมและเป็นธรรมชาติ
Idioms ง่ายๆ ที่ใช้ได้จริง:
Idiom |
ความหมาย |
ตัวอย่างการใช้ |
once in a blue moon |
นานๆ ครั้ง |
"I eat fast food once in a blue moon" |
have a sweet tooth |
ชอบของหวาน |
"I have a sweet tooth, so I love desserts" |
early bird |
คนตื่นเช้า |
"I'm an early bird - I wake up at 6 AM" |
night owl |
คนนอนดึก |
"My brother is a night owl, unlike me" |
piece of cake |
ง่ายมาก |
"Learning basic cooking is a piece of cake" |
Collocations ที่เพิ่มคะแนน Lexical Resource:
Collocation |
ตัวอย่าง |
make friends |
"It's easy to make friends at university" |
spare time |
"In my spare time, I like reading novels" |
heavy traffic |
"I avoid heavy traffic by leaving early" |
sound sleep |
"I need a sound sleep to feel refreshed" |
fresh air |
"I love breathing fresh air in the mountains" |
2. การแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก และการเปรียบเทียบอย่างมีชั้นเชิง
เทคนิคการแสดงความคิดเห็นระดับสูง:
1. การใช้ Hedge Words (คำที่ทำให้นุ่มนวล)
-
"I tend to think that...", "I'm inclined to believe...", "It seems to me that..."
-
ตัวอย่าง: "I tend to think that learning languages opens up many opportunities"
2. การเปรียบเทียบแบบ Sophisticated
-
ใช้ "whereas", "while", "in contrast to" แทน "but"
-
ตัวอย่าง: "I prefer quiet places for studying, whereas my friends like studying in groups"
3. การแสดงระดับความชอบ (Degrees of Preference)
ระดับ |
วลีที่ใช้ |
ตัวอย่าง |
ชอบมาก |
absolutely love, crazy about, passionate about |
"I'm absolutely crazy about jazz music" |
ชอบปานกลาง |
quite enjoy, fairly keen on, rather like |
"I'm quite keen on outdoor sports" |
ไม่ค่อยชอบ |
not particularly fond of, not really into |
"I'm not particularly fond of horror movies" |
ไม่ชอบเลย |
can't stand, absolutely hate |
"I absolutely can't stand being late" |
3. เทคนิคการ Paraphrase คำถามเพื่อซื้อเวลาและแสดงความเข้าใจ
วิธีการ Paraphrase ที่มีประสิทธิภาพ:
คำถามเดิม |
การ Paraphrase |
ประโยชน์ |
"Do you like your job?" |
"You're asking about my feelings toward my work..." |
ซื้อเวลาคิด + แสดงความเข้าใจ |
"What's your hometown like?" |
"So you want to know about the place where I grew up..." |
สร้างความเชื่อมต่อ |
"Do you cook often?" |
"When it comes to cooking..." |
เริ่มต้นอย่างเป็นธรรมชาติ |
4. การแก้ไขตัวเองเมื่อพูดผิด (Self-correction) อย่างชาญฉลาด
เทคนิคการแก้ไขที่ดู Professional:
1. การแก้ไขแบบ Smooth
-
"Sorry, what I meant to say is..."
-
"Let me rephrase that..."
-
"Actually, I should clarify..."
2. การใช้ Filler Words อย่างชาญฉลาด
-
"Umm, how should I put it..."
-
"Well, let's see..."
-
"You know what I mean..."
ตัวอย่างการแก้ไขตัวเอง: เดิม: "I work in marketing... sorry, actually I work in digital marketing, which is quite different from traditional marketing."
V. สิ่งที่ควรทำ (Do's) และไม่ควรทำ (Don'ts) ในวันสอบจริง
1.การสร้างความประทับใจแรกที่ดี (First Impression) กับผู้คุมสอบ
ควรทำ |
ไม่ควรทำ |
ยิ้มและทักทาย |
หน้าตึงเครียด |
ตอบรับอย่างสุภาพ |
พูดเสียงเบา |
รักษาการสบตา |
มองที่อื่น |
นั่งตัวตร |
นั่งเอนหลัง |
2. การฟังคำถามอย่างตั้งใจและการขอให้ผู้คุมสอบพูดซ้ำอย่างสุภาพ
หากคุณไม่เข้าใจคำถาม สามารถขอให้พูดซ้ำได้โดยการพูดว่า "Sorry, could you repeat that?" หรือ "I'm not sure I understand. Could you rephrase that?"
3. ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและวิธีหลีกเลี่ยง
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยใน IELTS Speaking Part 1 คือการตอบคำเดียว การท่องจำคำตอบ และการพูดเสียงเบาเกินไป หลีกเลี่ยงโดยการฝึกฝนให้คำตอบมีความยาวเหมาะสมและเป็นธรรมชาติ
VI. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
ไม่จำเป็น คำตอบสำหรับ IELTS speaking part 1 ควรยาวพอสมควร ประมาณ 2-3 ประโยค หรือ 20-30 วินาที การตอบยาวเกินไปอาจทำให้ผู้คุมสอบต้องขัดจังหวะ
"Fluency" ใน IELTS Speaking Part 1 หมายถึงอะไรกันแน่ แตกต่างจาก "Accuracy" อย่างไร?
แง่มุม |
Fluency |
Accuracy |
ความหมาย |
ความลื่นไหลในการพูด |
ความถูกต้องทางไวยากรณ์ |
โฟกัส |
ความต่อเนื่องของการสื่อสار |
การใช้ภาษาที่ถูกต้อง |
การประเมิน |
การหยุดชะงัก ความเร็ว |
ข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ |
หัวข้อใดบ้างที่มักถูกจัดอยู่ในกลุ่ม "ง่าย" และกลุ่ม "ท้าทาย" สำหรับผู้สอบชาวไทย?
หัวข้อระดับง่าย:
หัวข้อ |
เหตุผลที่ง่าย |
Sample Questions |
Work/Study |
เป็นเรื่องใกล้ตัว |
"What do you do?", "Do you like your job?" |
Family |
มีประสบการณ์ตรง |
"Tell me about your family", "Are you close to your family?" |
Food |
วัฒนธรรมไทยเน้นอาหาร |
"What's your favorite food?", "Do you cook?" |
Hometown |
รู้จักดี |
"Where are you from?", "What's special about your hometown?" |
หัวข้อระดับท้าทาย:
หัวข้อ |
เหตุผลที่ท้าทาย |
เทคนิคการตอบ |
Art & Culture |
ไม่คุ้นเคยกับศัพท์เฉพาะ |
เตรียมคำศัพท์พื้นฐาน เช่น exhibition, sculpture |
Environment |
ต้องการความรู้เฉพาะ |
โยงเข้ากับประสบการณ์ส่วนตัว |
Technology |
ศัพท์เทคนิคซับซ้อน |
พูดง่ายๆ หลีกเลี่ยงคำยาก |
Politics/Economy |
หลีกเลี่ยงในการสอบ |
หันเหประสบการณ์ส่วนตัว |
หัวข้อที่ต้องระวังพิเศษ:
การเตรียมตัวที่ดีคือการฝึกกับ IELTS Speaking questions ทุกประเภท โดยเฉพาะหัวข้อที่ไม่คุ้นเคย ให้เตรียมคำศัพท์พื้นฐานและเทคนิคการโยงเข้ากับประสบการณ์ส่วนตัว
เทคนิคจัดการหัวข้อยาก:
-
โยงเข้าหาตัวเอง - แม้หัวข้อยาก แต่พยายามเล่าประสบการณ์ส่วนตัว
-
ใช้ภาษาง่าย - ไม่ต้องใช้คำยากๆ ให้พูดให้เข้าใจง่าย
-
ยอมรับความไม่รู้ - "I'm not an expert, but I think..." เป็นวลีที่ดี
การเตรียมตัวสำหรับ Part 1 แตกต่างจากการเตรียมตัวสำหรับ Part 2 และ 3 อย่างไร?
Part |
เน้น |
เวลาเตรียม |
Part 1 |
คำตอบสั้น ความคุ้นเคย |
ฝึกหัวข้อหลากหลาย |
Part 2 |
การเล่าเรื่อง |
ฝึกการพูด 2 นาที |
Part 3 |
การอภิปราย |
ฝึกการวิเคราะห์ |
ความแตกต่างระหว่าง "สำเนียง" (Accent) กับ "การออกเสียง" (Pronunciation) ที่ถูกต้อง
การมีสำเนียงไทยไม่ใช่ปัญหา แต่การออกเสียงที่ชัดเจนและถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ ผู้คุมสอบมองหาความชัดเจนในการสื่อสารมากกว่าการมีสำเนียงพื้นเมือง
การพิชิต IELTS Speaking part 1 ต้องอาศัยการเตรียมตัวอย่างเป็นระบบ การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ และความเข้าใจในเกณฑ์การให้คะแนน จำไว้ว่าความมั่นใจและความเป็นธรรมชาติในการตอบคำถามคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ
การใช้เทคนิค PREP การขยายคำตอบอย่างเหมาะสม และการแสดงออกที่เป็นตัวของคุณเองจะช่วยให้คุณโดดเด่นในสายตาของผู้คุมสอบ ด้วยการเตรียมตัวที่ดีและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง คุณจะสามารถบรรลุเป้าหมายคะแนน IELTS ที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน
หากคุณต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบ IELTS ขอแนะนำ ติวสอบภาษาอังกฤษ IELTS ที่จะช่วยให้คุณพร้อมสำหรับการสอบนี้

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
บทความที่เกี่ยวข้อง
ค้นหาบทความการศึกษา
แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน
กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
