Punctuation คือ? ใช้ยังไงให้เขียนเป๊ะ
"Let's eat, Grandma!" vs "Let's eat Grandma!" - ประโยคเดียวกัน แต่ความหมายต่างกันสุดขั้ว! Punctuation คือเครื่องหมายเล็กๆ ที่สร้างความแตกต่างมหาศาล การใช้เครื่องหมายวรรคตอนผิดไม่เพียงทำให้ประโยคไม่ชัดเจน แต่อาจเปลี่ยนความหมายไปโดยสิ้นเชิง การเข้าใจและใช้งานอย่างถูกต้องจะช่วยให้การเขียนของคุณเป็นมืออาชีพและสื่อความหมายได้แม่นยำ
บทความนี้จะอธิบาย punctuation คือ punctuation punctuation marks คือ punctuation marks in english และ punctuation แปล พร้อมวิธีการใช้งานแต่ละเครื่องหมายอย่างครอบคลุม
Punctuation คือ เครื่องหมายวรรคตอนที่ใช้ในการเขียนเพื่อแบ่งประโยค แสดงจังหวะการหยุด และช่วยสื่อความหมายให้ชัดเจน เครื่องหมายพื้นฐานที่ต้องรู้ได้แก่ period (.) สำหรับจบประโยค comma (,) สำหรับแยกส่วน question mark (?) สำหรับคำถาม exclamation mark (!) สำหรับแสดงอารมณ์ colon (:) และ semicolon (;) สำหรับเชื่อมประโยค quotation marks ("") สำหรับครอบคำพูด และ apostrophe (') สำหรับแสดงความเป็นเจ้าของ
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยคือการใช้ comma มากเกินไป การลืมใช้ apostrophe การสับสนระหว่าง it's (it is) กับ its (ความเป็นเจ้าของ) และการวางเครื่องหมายผิดที่กับ quotation marks การเข้าใจความแตกต่างของแต่ละเครื่องหมายและบริบทการใช้งานจะช่วยให้การเขียนของคุณถูกต้องและมีคุณภาพ
ในการสอบ IELTS Writing การใช้ punctuation อย่างถูกต้องเป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์การให้คะแนน Grammatical Range and Accuracy
คุณจะได้เรียนรู้ความหมายและหน้าที่ของเครื่องหมายวรรคตอนทุกประเภท กฎการใช้งานแต่ละเครื่องหมาย ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง และแบบฝึกหัดเพื่อทดสอบความเข้าใจ พร้อมตัวอย่างประโยคที่ใช้ได้จริง
มาเริ่มทำความเข้าใจเครื่องหมายวรรคตอนอย่างเป็นระบบที่จะทำให้การเขียนภาษาอังกฤษของคุณชัดเจนและเป็นมืออาชีพมากขึ้นกันเลย
I. ทำความเข้าใจ Punctuation
Punctuation คือ (punctuation แปลว่า "เครื่องหมายวรรคตอน") สัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่ใช้ในการเขียนเพื่อแบ่งประโยค แสดงจังหวะการหยุด และช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจความหมายได้ถูกต้อง
หน้าที่หลัก:
- แบ่งประโยคและข้อความ
- แสดงจังหวะการหยุด
- ช่วยสื่อความหมายให้ชัดเจน
- แสดงอารมณ์และน้ำเสียง
ตัวอย่างความสำคัญ:
- Let's eat, Grandma! (มากินข้าวกันเถอะ ยาย!)
- Let's eat Grandma! (มากินยายกันเถอะ! - ความหมายผิดเพี้ยน)
II. Punctuation Marks in English ทั้งหมด
Punctuation ภาษาอังกฤษมีหลายประเภท:
|
กลุ่มเครื่องหมาย |
หน้าที่หลัก |
เครื่องหมายที่รวมอยู่ |
|
End-of-Sentence Marks |
จบประโยค |
Period (.), Question Mark (?), Exclamation Mark (!) |
|
Pausing and Connecting |
หยุดพักและเชื่อม |
Comma (,), Semicolon (;), Colon (:) |
|
Possessives and Contractions |
แสดงความเป็นเจ้าของ |
Apostrophe (') |
|
Quoting and Enclosing |
อ้างอิงและครอบคลุม |
Quotation Marks ("), Parentheses ( ) |
|
Dashes and Hyphen |
เชื่อมและเน้น |
Hyphen (-), En Dash (–), Em Dash (—) |
1. เครื่องหมายจบประโยค
เครื่องหมายในกลุ่มนี้ทำหน้าที่เหมือนไฟจราจรในงานเขียน บอกให้ผู้อ่านรู้ว่าควรหยุดที่จุดนี้และเตรียมพร้อมสำหรับประโยคถัดไป
1.1. จุด (Period / Full Stop) .
จุดเป็นเครื่องหมายพื้นฐานที่สุดใน punctuation และใช้บ่อยที่สุด ใช้จบประโยคบอกเล่าหรือประโยคคำสั่งทั่วไป
วิธีใช้จุดอย่างถูกต้อง:
-
ใช้จบประโยคบอกเล่า: Today is Monday. (วันนี้เป็นวันจันทร์)
-
ใช้กับคำย่อ: Dr. Smith will arrive at 3 p.m. (ดร.สมิธจะมาถึงตอนบ่ายสามโมง)
-
ใช้กับตัวเลขทศนิยม: The temperature is 36.5 degrees Celsius. (อุณหภูมิ 36.5 องศาเซลเซียส)
การใช้จุดต้องระวังเรื่องการเว้นวรรค หลังจุดต้องเว้นวรรค 1 ช่องก่อนเริ่มประโยคใหม่
1.2. เครื่องหมายคำถาม (Question Mark) ?
เครื่องหมายคำถามใช้จบประโยคที่เป็นคำถามโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นคำถาม Wh-questions หรือ Yes/No questions
ตัวอย่างการใช้งาน:
-
How are you today? (คุณเป็นอย่างไรบ้างวันนี้)
-
Did you finish your homework? (คุณทำการบ้านเสร็จแล้วหรือยัง)
-
What time does the meeting start? (ประชุมเริ่มกี่โมง)
สิ่งที่ต้องระวังคือประโยคที่เป็นคำถามทางอ้อม (indirect question) จะไม่ใช้เครื่องหมายคำถาม เช่น I wonder what time it is. (ฉันสงสัยว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว)
1.3. เครื่องหมายตกใจ (Exclamation Mark / Exclamation Point) !
เครื่องหมายตกใจใช้แสดงอารมณ์ที่รุนแรง ความตื่นเต้น ความประหลาดใจ หรือการเน้นย้ำ
ตัวอย่างที่เหมาะสม:
-
What a beautiful sunset! (พระอาทิตย์ตกงดงามจริงๆ)
-
Help! (ช่วยด้วย)
-
Congratulations on your graduation! (ยินดีด้วยกับการจบการศึกษา)
การใช้เครื่องหมายตกใจในการสื่อสารทางธุรกิจต้องระมัดระวัง เพราะอาจทำให้ดูไม่เป็นทางการเกินไป
2. เครื่องหมายเพื่อหยุดพักหรือเชื่อมความ
เครื่องหมายในกลุ่มนี้ช่วยสร้างจังหวะและความเชื่อมโยงภายในประโยค ทำให้ข้อความมีการไหลที่เป็นธรรมชาติและผู้อ่านสามารถติดตามความคิดได้ง่าย
2.1. จุลภาค หรือ ลูกน้ำ (Comma) ,
จุลภาคเป็นเครื่องหมายที่ใช้บ่อยรองจากจุด มีหน้าที่หลากหลายในการแยกส่วนประกอบของประโยค
|
การใช้งาน |
ตัวอย่าง |
ความหมาย |
|
แยกรายการ |
I bought apples, oranges, and bananas. |
ฉันซื้อแอปเปิล ส้ม และกล้วย |
|
ก่อน conjunction |
I like coffee, but I prefer tea. |
ฉันชอบกาแฟ แต่ชอบชามากกว่า |
|
หลัง introductory phrase |
After the meeting, we had lunch. |
หลังจากประชุม เรากินข้าวกลางวัน |
|
ครอบ non-essential info |
My brother, who lives in Bangkok, is a teacher. |
พี่ชายฉันที่อยู่กรุงเทพเป็นครู |
การใช้จุลภาคก่อน and ในรายการ (Oxford comma) เป็นเรื่องที่ยังมีการถกเถียงกัน ควรเลือกใช้แบบใดแบบหนึ่งให้สม่ำเสมอตลอดบทความ
2.2. อัฒภาค (Semicolon) ;
อัฒภาคมีพลังมากกว่าจุลภาค แต่อ่อนกว่าจุด ใช้เชื่อมประโยคอิสระสองประโยคที่มีความสัมพันธ์กัน
ตัวอย่างการใช้งาน:
-
The conference starts at 9 AM; please arrive early. (การประชุมเริ่ม 9 โมงเช้า กรุณามาให้เร็ว)
-
I visited Paris, France; Rome, Italy; and Madrid, Spain. (ฉันไปปารีส ฝรั่งเศส โรม อิตาลี และมาดริด สเปน)
การใช้อัฒภาคจะทำให้งานเขียนดูมีระดับมากขึ้น แต่ต้องระวังไม่ใช้มากเกินไป
2.3. ทวิภาค (Colon) :
ทวิภาคใช้แนะนำสิ่งที่จะตามมา เช่น รายการ คำอธิบาย หรือตัวอย่าง เป็นเครื่องหมายที่สร้างความคาดหวัง
You need three things for this recipe: flour, eggs, and milk. (คุณต้องใช้สิ่งของสามอย่างสำหรับสูตรนี้ แป้ง ไข่ และนม) Remember this: practice makes perfect. (จำไว้นะ การฝึกฝนทำให้เก่ง)
3. เครื่องหมายแสดงความเป็นเจ้าของและคำย่อ
3.1. ฝนทอง หรือ อัญประกาศเดี่ยว (Apostrophe) '
อัญประกาศเดี่ยวมีการใช้งานหลัก 2 แบบ คือแสดงความเป็นเจ้าของ (possessive) และใช้ในคำย่อ (contraction)
การแสดงความเป็นเจ้าของ:
-
คำนามเอกพจน์: John's car (รถของจอห์น)
-
คำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย s: the students' books (หนังสือของนักเรียน)
-
คำนามพหูพจน์ที่ไม่ลงท้ายด้วย s: the children's toys (ของเล่นของเด็กๆ)
การใช้ในคำย่อ:
-
I'm = I am (ฉันเป็น)
-
don't = do not (ไม่)
-
it's = it is หรือ it has (มันเป็น หรือ มันมี)
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยคือการใช้ it's กับ its โดยที่ it's เป็นคำย่อของ it is ส่วน its แสดงความเป็นเจ้าของโดยไม่ต้องใช้อัญประกาศ
4. เครื่องหมายสำหรับอ้างอิงและเพิ่มเติมข้อมูล
4.1. อัญประกาศ หรือ เครื่องหมายคำพูด (Quotation Marks) "
อัญประกาศใช้ครอบคำพูดโดยตรง ชื่อเรื่อง บทความ หรือคำที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษ
วิธีการใช้ที่ถูกต้อง:
-
She said, "I will arrive at 3 PM." (เธอพูดว่า "ฉันจะมาถึงตอนบ่ายสามโมง")
-
The article "Climate Change Effects" was published yesterday. (บทความ "ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" ถูกตีพิมพ์เมื่อวาน)
ในอเมริกันอิงลิช เครื่องหมายวรรคตอนจะอยู่ภายในอัญประกาศ แต่ในบริติชอิงลิชจะอยู่ภายนอกถ้าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของคำพูดเดิม
4.2. วงเล็บ (Parentheses) ( )
วงเล็บใช้ใส่ข้อมูลเสริมหรือข้อมูลที่ไม่จำเป็นต่อความเข้าใจหลัก แต่ช่วยให้เข้าใจมากขึ้น
การใช้งานทั่วไป:
-
The company (founded in 1995) has over 500 employees. (บริษัท (ก่อตั้งในปี 1995) มีพนักงานมากกว่า 500 คน)
-
Please submit your report by Friday (October 15th). (กรุณาส่งรายงานภายในวันศุกร์ (15 ตุลาคม))
5. กลุ่มขีดที่มักใช้สับสน
เครื่องหมาย dash เป็นกลุ่มที่หลายคนมักสับสนและใช้ผิด เพราะมีรูปร่างคล้ายกันแต่หน้าที่แตกต่างกัน
|
เครื่องหมาย |
ความยาว |
การใช้งานหลัก |
ตัวอย่าง |
|
Hyphen (-) |
สั้นที่สุด |
เชื่อมคำ, แบ่งคำ |
twenty-one, self-control |
|
En Dash (–) |
ปานกลาง |
ช่วงเวลา, ตัวเลข |
2020–2021, pages 10–20 |
| Em Dash (–) |
ยาวที่สุด |
แทรกข้อมูล, เน้น |
The weather—surprisingly—was perfect |
5.1. ยัติภังค์ (Hyphen) -
ยัติภังค์เป็นเครื่องหมายที่สั้นที่สุดในกลุ่ม ใช้เชื่อมคำเข้าด้วยกันให้เป็นคำประสม
ตัวอย่างการใช้งาน:
-
twenty-three years old (อายุยี่สิบสามปี)
-
state-of-the-art technology (เทคโนโลยีล้ำสมัย)
-
The well-known author signed books yesterday. (นักเขียนที่มีชื่อเสียงเซ็นหนังสือเมื่อวาน)
5.2. เอนแดช (En Dash) –
เอนแดชยาวกว่ายัติภังค์ ใช้แสดงช่วง ระหว่าง หรือการเชื่อมต่อระหว่างสิ่งที่มีความเท่าเทียมกัน
วิธีการใช้ที่ถูกต้อง:
-
The meeting is scheduled for 2:00–3:30 PM. (ประชุมกำหนดเวลา 14:00–15:30)
-
Read pages 15–25 for homework. (อ่านหน้า 15–25 เป็นการบ้าน)
-
The London–Paris flight takes 2 hours. (เที่ยวบินลอนดอน–ปารีสใช้เวลา 2 ชั่วโมง)
5.3. เอ็มแดช (Em Dash) —
เอ็มแดชเป็นเครื่องหมายที่ยาวที่สุด ใช้แทรกข้อมูลเสริม สร้างการหยุดพักที่เด่นชัด หรือเน้นข้อมูลสำคัญ
-
The solution—if there is one—must be found quickly. (ทางแก้ไข ถ้ามี ต้องหาให้เจอเร็วๆ)
-
She opened the door and saw him—her long-lost brother. (เธอเปิดประตูและเห็นเขา พี่ชายที่หายไปนาน)
III. เทคนิคการใช้ Punctuation อย่างมีชั้นเชิง
เมื่อคุณเข้าใจพื้นฐานของ punctuation แปล ต่างๆ แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการพัฒนาทักษะให้เข้าถึงระดับมืออาชีพ
1. British vs. American English Punctuation
ความแตกต่างหลักระหว่างสองสไตล์:
|
ประเด็น |
American English |
British English |
|
Oxford comma |
ใช้เสมอ |
ไม่ใช้โดยทั่วไป |
|
เครื่องหมายกับ quotation |
ภายในอัญประกาศ |
ภายนอกอัญประกาศ |
|
Single vs. double quotes |
Double quotes เป็นหลัก |
Single quotes เป็นหลัก |
2. การเลือกใช้ Punctuation เพื่อสร้าง 'น้ำเสียง' (Tone) ในงานเขียน
การใช้ punctuation marks คือ เครื่องมือสร้างอารมณ์และน้ำเสียงที่แตกต่างกัน:
สำหรับงานเขียนเป็นทางการ:
-
ใช้จุดและจุลภาคเป็นหลัก
-
หลีกเลี่ยงเครื่องหมายตกใจ
-
ใช้อัฒภาคเพื่อแสดงความรู้
สำหรับงานเขียนไม่เป็นทางการ:
-
ใช้เครื่องหมายตกใจได้บ้าง
-
ใช้ Em dash เพื่อสร้างความน่าสนใจ
-
ใช้จุดไข่ปลา (...) เพื่อสร้างความลุ้น
บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม:
Quantifiers ใช้คำบอกปริมาณให้ถูก
Not Only But Also ใช้ยังไงให้เป๊ะ? รวมโครงสร้าง ตัวอย่างประโยค
IV. คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับเครื่องหมายวรรคตอน
1. Interrobang (‽) คืออะไรและเราจะได้เห็นมันที่ไหน?
Interrobang เป็นเครื่องหมายที่รวม question mark และ exclamation mark เข้าด้วยกัน ใช้แสดงคำถามที่มีความประหลาดใจหรือตื่นเต้น
การใช้งาน:
-
You did what‽ (คุณทำอะไรนะ‽)
-
He said that‽ (เขาพูดอย่างนั้นเหรอ‽)
แต่ในปัจจุบันไม่ค่อยได้ใช้ในการเขียนทั่วไป มักเห็นในงานศิลปะหรือการออกแบบเท่านั้น
2. การเว้นวรรค 2 ครั้งหลัง Full Stop ยังจำเป็นอยู่หรือไม่ในยุคดิจิทัล?
ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การเว้นวรรค 1 ครั้งหลังจุดถือเป็นมาตรฐาน เพราะ:
ข้อดีของการเว้น 1 ครั้ง:
-
ประหยัดพื้นที่
-
ดูสะอาดตาในหน้าจอ
-
เป็นมาตรฐานใหม่ที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย
การเว้น 2 ครั้งยังคงใช้ในบางสถานการณ์ เช่น การเขียนเอกสารทางกฎหมายหรือการเขียนแบบ MLA
3. นอกจากกลุ่ม Dash แล้ว เครื่องหมายวรรคตอนภาษาอังกฤษกลุ่มไหนที่คนไทยมักใช้ผิดบ่อยที่สุด?
เครื่องหมายที่คนไทยใช้ผิดบ่อยที่สุด:
Apostrophe ('):
-
ใช้ผิดใน its vs. it's
-
ใช้กับคำนามพหูพจน์ผิด เช่น apple's แทน apples
Comma (,):
-
ลืมใช้ก่อน coordinating conjunction
-
ใช้มากเกินไปในประโยคสั้น
Quotation marks ("):
-
วางตำแหน่งเครื่องหมายวรรคตอนผิด
-
ใช้กับ indirect speech
4. ความแตกต่างเชิงลึกระหว่าง Semicolon (;) กับ Colon (:) คืออะไร?
ความแตกต่างหลักที่ต้องเข้าใจ:
|
Semicolon (;) |
Colon (:) |
|
เชื่อมประโยคที่เท่าเทียมกัน |
แนะนำสิ่งที่จะตามมา |
|
ใช้กับ independent clauses |
ใช้นำหน้ารายการหรือคำอธิบาย |
|
สร้างความสมดุล |
สร้างความคาดหวัง |
ตัวอย่างเปรียบเทียบ:
-
I love reading; books are my passion. (ฉันรักการอ่าน หนังสือคือความหลงใหล)
-
I love three things: reading, writing, and learning. (ฉันรักสามสิ่ง การอ่าน การเขียน และการเรียนรู้)
Punctuation คือ เครื่องหมายวรรคตอนที่มีบทบาทสำคัญในการเขียนภาษาอังกฤษ ช่วยแบ่งประโยค แสดงจังหวะ และสื่อความหมายให้ชัดเจน Punctuation marks in english มีหลายประเภท แต่ละตัวมีหน้าที่และการใช้งานเฉพาะ เครื่องหมายพื้นฐานที่ต้องเชี่ยวชาญได้แก่ period (.) สำหรับจบประโยค comma (,) สำหรับแยกส่วนประโยค question mark (?) สำหรับคำถาม exclamation mark (!) สำหรับแสดงอารมณ์ colon (:) สำหรับนำหน้ารายการ semicolon (;) สำหรับเชื่อมประโยค quotation marks ("") สำหรับครอบคำพูด และ apostrophe (') สำหรับแสดงความเป็นเจ้าของและย่อคำ
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยคือการใช้ comma มากเกินไป การลืมใช้ apostrophe การสับสน it's กับ its และการวาง punctuation ผิดที่กับ quotation marks การฝึกฝนและจำกฎการใช้เครื่องหมายวรรคตอนจะช่วยให้การเขียนภาษาอังกฤษของคุณถูกต้อง ชัดเจน และเป็นมืออาชีพ โดยเฉพาะในการสอบ IELTS Writing ที่การใช้ punctuation อย่างถูกต้องเป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์การให้คะแนน
เขียนภาษาอังกฤษอย่างมืออาชีพกับ PREP การใช้เครื่องหมายวรรคตอนอย่างถูกต้องเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญในการเขียน IELTS Writing ให้ได้คะแนนสูง PREP เข้าใจดีว่ารายละเอียดเล็กๆ อย่าง punctuation สามารถสร้างความแตกต่างในคะแนนของคุณได้ จึงออกแบบคอร์สเรียนเตรียมสอบ IELTS ที่ครอบคลุมทั้งเนื้อหาและรูปแบบการเขียน ด้วยระบบ Virtual Writing Room ที่ตรวจสอบและแนะนำการใช้ punctuation อย่างละเอียด พร้อมให้คำแนะนำเฉพาะจุดที่ต้องปรับปรุง นอกจากนี้ยังมี Teacher Bee AI ที่พร้อมตอบคำถามเกี่ยวกับการเขียนและ punctuation ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้คุณสามารถพัฒนาทักษะการเขียนอย่างต่อเนื่อง มาเริ่มต้นพัฒนาทักษะการเขียนอย่างเป็นระบบและมั่นใจในการสอบกับ IELTS ออนไลน์ ที่ PREP วันนี้

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
เนื้อหาแบบพรีเมียม
ดูทั้งหมดแผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
















