ค้นหาบทความการศึกษา
5 นาทีเรียนรู้การอ่านและเขียนวัน เดือน และปีในภาษาอังกฤษ
ในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่คุณต้องเน้นคือการเรียนรู้วิธีการอ่านและเขียนเขียนวัน เดือน และปีในภาษาอังกฤษ ดังนั้นคุณจะอ่านวัน วันที่ เดือน และปีให้ถูกต้องได้อย่างไร มาทบทวนบทความด้านล่างนี้เพื่อจดจำอย่างลึกซึ้ง เข้าใจอย่างถ่องแท้ และฝึกฝนอย่างแม่นยำกันเถอะ!
I. วิธีการอ่านและเขียนวันในภาษาอังกฤษ
ก่อนที่เราจะสำรวจวิธีการอ่านและเขียนเขียนวัน เดือน และปีในภาษาอังกฤษ มาทำความเข้าใจวิธีการเขียนและอ่านวันในภาษาอังกฤษกันให้ละเอียด!
1. วิธีอ่านวันภาษาอังกฤษ
วันภาษาอังกฤษ |
วิธีการอ่าน |
|
British English |
American English |
|
Monday |
/ˈmʌn.deɪ/ |
/ˈmʌn.deɪ/ |
Tuesday |
/ˈtʃuːz.deɪ/ |
/ˈtuːz.deɪ/ |
Wednesday |
/ˈwenz.deɪ/ |
/ˈwenz.deɪ/ |
Thursday |
/ˈθɜːz.deɪ/ |
/ˈθɝːz.deɪ/ |
Friday |
/ˈfraɪ.deɪ/ |
/ˈfraɪ.deɪ/ |
Saturday |
/ˈsæt.ə.deɪ/ |
/ˈsæt̬.ɚ.deɪ/ |
Sunday |
/ˈsʌn.deɪ/ |
/ˈsʌn.deɪ/ |
2. วิธีการเขียนวันเป็นภาษาอังกฤษ
ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำบางประการเพื่อช่วยให้คุณเขียนวันเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง:
-
ใช้คำบุพบท "on" + วันในสัปดาห์ ตัวอย่างเช่น:
-
On Monday
-
On Sunday
-
They will meet at 8:00 am on Tuesday.
-
The 22th is on Thursday, isn’t it?
-
-
หากคุณต้องการแสดงความถี่ของการกระทำที่เกิดขึ้นในวันใดวันหนึ่งของสัปดาห์ คุณต้องใช้รูปพหูพจน์ของคำว่า day โดยเติม "s" ลงท้าย ตัวอย่างเช่น:
-
This coffee shop is always closed on Fridays. (ร้านกาแฟนี้จะปิดบริการทุกๆวันศุกร์)
-
Students at my school have to wear uniforms on Mondays. (นักเรียนที่โรงเรียนของฉันต้องใส่ชุดนักเรียนในวันจันทร์)
-
-
โดยปกติแล้ว คุณสามารถย่อวันในภาษาอังกฤษได้ดังนี้: Mon, Tue, Wed, Thu, Fri, Sat, Sun อย่างไรก็ตาม ในการเขียน IELTS คุณไม่สามารถย่อคำเหล่านี้ได้
II. วิธีการอ่านและเขียนวันที่เป็นภาษาอังกฤษ
ต่อไป เรามาทำความเข้าใจอย่างละเอียดเกี่ยวกับการอ่านและเขียนวันที่ ก่อนที่จะเจาะลึกลงไปว่าเราจะอ่านและเขียนวัน วัน เดือน และปีในภาษาอังกฤษได้อย่างไร
1. วิธีการอ่านวันที่เป็นภาษาอังกฤษ
วันที่เป็นภาษาอังกฤษ |
วิธีการอ่าน |
|
British English |
American English |
|
1st – First |
/ˈfɜːst/ |
/ˈfɝːst/ |
2nd – Second |
/ˈsek.ənd/ |
/ˈsek.ənd/ |
3rd – Third |
/θɜːd/ |
/θɝːd/ |
4th – Fourth |
/fɔːθ/ |
/fɔːrθ/ |
5th – Fifth |
/fɪfθ/ |
/fɪfθ/ |
6th – Sixth |
/sɪksθ/ |
/sɪksθ/ |
7th – Seventh |
/ˈsev.ənθ/ |
/ˈsev.ənθ/ |
8th – Eighth |
/eɪtθ/ |
/eɪtθ/ |
9th – Ninth |
/naɪnθ/ |
/naɪnθ/ |
10th – Tenth |
/tenθ/ |
/tenθ/ |
11th – Eleventh |
/ɪˈlev.ənθ/ |
/əˈlev.ənθ/ |
12th – Twelfth |
/twelfθ/ |
/twelfθ/ |
13th – Thirteenth |
/θɜːˈtiːnθ/ |
/θɝːˈtiːnθ/ |
14th – Fourteenth |
/ˌfɔːˈtiːnθ/ |
/ˌfɔːrˈtiːnθ/ |
15th – Fifteenth |
/ˌfɪfˈtiːnθ/ |
/ˌfɪfˈtiːnθ/ |
16th – Sixteenth |
/ˌsɪkˈstiːnθ/ |
/ˌsɪkˈstiːnθ/ |
17th – Seventeenth |
/ˌsev.ənˈtiːnθ/ |
/ˌsev.ənˈtiːnθ/ |
18th – Eighteenth |
/ˌeɪˈtiːnθ/ |
/ˌeɪˈtiːnθ/ |
19th – Nineteenth |
/ˌnaɪnˈtiːnθ/ |
/ˌnaɪnˈtiːnθ/ |
20th – Twentieth |
/ˈtwen.ti.əθ/ |
/ˈtwen.ti.əθ/ |
21st – Twenty-first |
/ˌtwen.tiˈfɜːst/ |
/ˌtwen.tiˈfɜːst/ |
22nd – Twenty-second |
/ˌtwen.ti ˈsek.ənd/ |
/ˌtwen.ti ˈsek.ənd/ |
23rd – Twenty-third |
/ˌtwen.ti θɜːd/ |
/ˌtwen.ti θɜːd/ |
24th – Twenty-fourth |
/ˌtwen.ti fɔːθ/ |
/ˌtwen.ti fɔːθ/ |
25th – Twenty-fifth |
/ˌtwen.ti fɪfθ/ |
/ˌtwen.ti fɪfθ/ |
26th – Twenty-sixth |
/ˌtwen.ti sɪksθ/ |
/ˌtwen.ti sɪksθ/ |
27th – Twenty-seventh |
/ˌtwen.ti ˈsev.ənθ/ |
/ˌtwen.ti ˈsev.ənθ/ |
28th – Twenty-eighth |
/ˌtwen.ti eɪtθ/ |
/ˌtwen.ti eɪtθ/ |
29th – Twenty-ninth |
/ˌtwen.ti naɪnθ/ |
/ˌtwen.ti naɪnθ/ |
30th – Thirtieth |
/ˈθɜː.ti.əθ/ |
/ˈθɜː.ti.əθ/ |
31st – Thirty-first |
/ˈθɜːrtiˈfɜːrst/ |
/ˈθɜːrtiˈfɜːrst/ |
2. วิธีเขียนวันที่เป็นภาษาอังกฤษ
ตามกฎของภาษาอังกฤษ ลำดับวันในแต่ละเดือนมีจุดสำคัญบางประการที่ต้องจำไว้:
-
วันที่ 1 ของเดือนเขียนเป็น 1st - First
-
วันที่ 2 ของเดือนเขียนเป็น 2nd - Second
-
วันที่ 3 ของเดือนเขียนเป็น 3rd - Third
-
ตั้งแต่วันที่ 4 ถึงวันที่ 30 ของเดือน ให้เติมคำต่อท้าย "th" หลังตัวเลข เช่น 6th, 7th, 11th
-
สำหรับวันที่ 21st, 22nd, 23rd และ 31st ให้เติมคำต่อท้าย "st", "nd", "rd" ตามลำดับ เช่น 21st, 31st, 22nd, 23rd
-
ใช้คำบุพบท "on" + วันที่ในภาษาอังกฤษ ตัวอย่างเช่น ในวันที่ 2 กันยายน ประเทศเวียดนามจะเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพ
III. วิธีการอ่านและเขียนเดือนเป็นภาษาอังกฤษ
Let’s take a look at the ways to read and write the months in English!
1. วิธีการอ่านเดือนเป็นภาษาอังกฤษ
เดือนภาษาอังกฤษ |
วิธีการอ่าน |
|
British English |
American English |
|
January |
/ˈdʒæn.ju.ə.ri/ |
/ˈdʒæn.ju.er.i/ |
February |
/ˈfeb.ru.ər.i/ |
/ˈfeb.ruː.er.i/ |
March |
/mɑːtʃ/ |
/mɑːrtʃ/ |
April |
/ˈeɪ.prəl/ |
/ˈeɪ.prəl/ |
May |
/meɪ/ |
/meɪ/ |
June |
/dʒuːn/ |
/dʒuːn/ |
July |
/dʒuˈlaɪ/ |
/dʒʊˈlaɪ/ |
August |
/ˈɔː.ɡəst/ |
/ˈɑː.ɡəst/ |
September |
/sepˈtem.bər/ |
/sepˈtem.bɚ/ |
October |
/ɒkˈtəʊ.bər/ |
/ɑːkˈtoʊ.bɚ/ |
November |
/nəʊˈvem.bər/ /nəˈvem.bər/ |
/noʊˈvem.bɚ/ |
December |
/dɪˈsem.bər/ |
/dɪˈsem.bɚ/ |
2. วิธีการเขียนเดือนเป็นภาษาอังกฤษ
ต่อไปนี้เป็นวิธีเขียนเดือนอย่างมีประสิทธิผลในภาษาอังกฤษ:
-
คำย่อสำหรับเดือนในภาษาอังกฤษ: Jan, Feb, Mar, Apr, May, Aug, Sep, Oct, Nov, Dec คุณสามารถใช้คำย่อเหล่านี้ในชีวิตประจำวันได้ ยกเว้นในข้อสอบการเขียน IELTS
-
ใช้คำบุพบท "in" + เดือนในภาษาอังกฤษ ตัวอย่างเช่น:
-
My family moved to a new house in January. (ครอบครัวของฉันย้ายไปบ้านใหม่ในเดือนมกราคม)
-
My boyfriend was born in February. (แฟนฉันเกิดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์)
-
IV. วิธีการอ่านและเขียนปีในภาษาอังกฤษ
มาเรียนรู้วิธีการอ่านและเขียนตามปีกันด้านล่างนี้!
วิธีการอ่าน |
รายละเอียด |
การอ่านแบบลำดับ |
|
การอ่านตามหน่วย |
|
วิธีอ่านปีก่อน 1,000 ปี |
หมายเหตุ: AD (Anno Domini) หรือ CE (Common Era) หมายถึงปีหลังคริสตศักราช ส่วน BC (Before Christ) หมายถึงปีก่อนคริสตศักราช
|
วิธีการอ่านสัญลักษณ์ปีย่อ |
ปีในรูปแบบ 4 หลักภาษาอังกฤษ มักจะเขียนในรูปแบบย่อเป็น 'xx ในกรณีนี้ คุณต้องอ่านเฉพาะสองหลักสุดท้ายเป็นตัวเลขปกติ
|
V. วิธีการอ่านและเขียนวัน เดือน และปีในภาษาอังกฤษ
หลังจากที่เราเข้าใจความรู้ข้างต้นแล้ว เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการอ่านและเขียนวัน เดือน และปีในภาษาอังกฤษกันดีกว่า:
1. ลำดับการเขียนวัน เดือน และปีในภาษาอังกฤษ
การอ่านและการเขียน |
รายละเอียด |
ตามภาษาอังกฤษแบบบริติช |
โครงสร้าง: DD – MM – YYYY ตัวอย่างเช่น:
|
ตามภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน |
โครงสร้าง: MM – DD – YYYY ตัวอย่างเช่น:
|
ตามมาตรฐานสากล |
โครงสร้าง: YYYY – MM – DD ตัวอย่างเช่น:
|
2. การถามและตอบเกี่ยวกับวัน เดือน ปี เป็นภาษาอังกฤษ
คำถาม |
คำตอบ |
|
|
|
|
|
|
VI. แบบฝึกหัดการเขียนวัน เดือน และปีในภาษาอังกฤษ
มาลองทำแบบฝึกหัดต่อไปนี้เพื่อทำความเข้าใจการเขียนวัน เดือน และปีในภาษาอังกฤษอย่างถ่องแท้กันดีกว่า!
1. แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัดที่ 1: เติมคำบุพบทที่เหมาะสมลงในช่องว่าง
1. The weather in my country is very hot …………… July.
2. I am going to travel to Coimbra …………… October 25th.
3. The flower shop closed …………………. June.
4. My younger brother was born …………… December 25th, 2005.
5. The boy has to meet his younger sister …… Sunday morning.
แบบฝึกหัดที่ 2: กรอกรูปแบบการเขียนและการอ่านภาษาอังกฤษสำหรับวัน เดือน และปีในตาราง
รูปแบบการเขียน |
รูปแบบการอ่าน |
15th June |
(1)_____________________ |
3rd April |
(2)_____________________ |
(3)_____________________ |
The second of December |
(4_____________________ |
The fifteenth of May |
29th February |
(5)_____________________ |
2. เฉลย
แบบฝึกหัดที่ 1:
1 – in, 2 – on, 3 – in, 4 – on, 5 – on |
แบบฝึกหัดที่ 2:
-
The fifteenth of June
-
The third of April
-
2nd December
-
15th May
-
The twenty-ninth of February
ด้านบน PREP ได้แบ่งปันข้อมูลโดยละเอียดที่สุดเกี่ยวกับการอ่านและเขียนวัน เดือน และปีในภาษาอังกฤษ หากต้องการสะสมความรู้ภาษาอังกฤษที่มีประโยชน์เพิ่มเติม ให้ติดตาม PREP กัน!
ความคิดเห็น
ค้นหาบทความการศึกษา
อ่านมากที่สุด
ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน
กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!