ค้นหาบทความการศึกษา
สรุปครบทุกชนิดของประโยคในภาษาอังกฤษ (Sentence Types)
การเขียนภาษาอังกฤษที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้คำศัพท์ยากหรือไวยากรณ์ซับซ้อนเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเข้าใจและใช้โครงสร้างประโยคที่เหมาะสม การรู้จักประโยคแต่ละชนิดจะช่วยให้คุณสื่อสารได้อย่างชัดเจน มีประสิทธิภาพ และสร้างความประทับใจให้ผู้อ่าน
ชนิดของประโยคในภาษาอังกฤษ เป็นรากฐานสำคัญที่นักเรียนและผู้เรียนทุกระดับจำเป็นต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนและการสื่อสารให้ก้าวหน้าขึ้น
เมื่อพูดถึงการสร้างประโยคในภาษาอังกฤษ หลายคนมักคิดว่าเป็นเรื่องยาก แต่ความจริงแล้วการเข้าใจ ชนิด ของ ประโยค ภาษา อังกฤษ จะทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก ประโยคในภาษาอังกฤษแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักตามโครงสร้าง ได้แก่ ประโยค simple sentence ที่เรียบง่ายแต่ได้ใจความ compound sentence คือ อะไร ที่เชื่อมประโยคเท่าเทียมกัน ประโยค complex sentence ที่มีความสัมพันธ์ไม่เท่าเทียม และ compound complex sentence ที่ซับซ้อนที่สุด
นอกจากการแบ่งตามโครงสร้างแล้ว ประโยคยังสามารถจำแนกตามจุดประสงค์การใช้งานได้อีก 4 ประเภท คือประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม ประโยคคำสั่ง และประโยคอุทาน การเข้าใจทั้งสองมิตินี้จะช่วยให้คุณเลือกใช้รูปแบบประโยคที่เหมาะสมกับสถานการณ์และจุดประสงค์ในการสื่อสารได้อย่างแม่นยำ
บทความนี้จะพาคุณสำรวจความลึกลับของแต่ละชนิดประโยค พร้อมตัวอย่างที่เข้าใจง่ายและเทคนิคการใช้งานจริง มาเริ่มต้นการเดินทางสู่ความเชี่ยวชาญด้านโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษกัน

- I. ประโยคในภาษาอังกฤษคืออะไร?
- II. อนุประโยค (Clause)
- III. เจาะลึก 4 ชนิดของประโยคในภาษาอังกฤษตามโครงสร้าง
- IV. ตารางเปรียบเทียบ 4 โครงสร้างประโยค
- V. การแบ่งชนิดประโยคตามจุดประสงค์
- VI. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
- 1. ประโยคอนุประโยค (Subordinate Clause) คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไรในการสร้างประโยคความซ้อน?
- 2. ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่าง Compound Sentence และ Complex Sentence คืออะไร?
- 3. ประโยคทุกประโยคจำเป็นต้องมีประธาน (Subject) หรือไม่?
- 4. เราจะจัดกลุ่มเครื่องหมายวรรคตอน (Punctuation) เช่น Comma, Semicolon ที่ใช้เชื่อมประโยคได้อย่างไรบ้าง?
I. ประโยคในภาษาอังกฤษคืออะไร?
ประโยคในภาษาอังกฤษหมายถึงกลุ่มคำที่สมบูรณ์ในตัวเองและสื่อความหมายอย่างชัดเจน โดยต้องประกอบด้วยส่วนประกอบหลักที่ขาดไม่ได้ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาได้อย่างครบถ้วน
1. ส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้: ประธาน (Subject) และ กริยา (Verb)
ประโยคที่สมบูรณ์จะต้องมีประธานและกริยาเป็นอย่างน้อย ประธานคือผู้กระทำหรือสิ่งที่ถูกกล่าวถึงในประโยค ส่วนกริยาแสดงการกระทำหรือสถานะของประธาน
ประธาน (Subject) |
กริยา (Verb) |
ประโยคสมบูรณ์ |
ความหมาย |
She |
runs |
She runs. |
(เธอวิ่ง) |
The cat |
sleeps |
The cat sleeps. |
(แมวหลับ) |
Students |
study |
Students study. |
(นักเรียนเรียนหนังสือ) |
2. ความแตกต่างระหว่าง วลี (Phrase) และ อนุประโยค (Clause)
วลี (Phrase) คือกลุ่มคำที่ไม่มีประธานและกริยาครบถ้วน เช่น in the morning (ในตอนเช้า) หรือ very quickly (อย่างรวดเร็วมาก) ส่วนอนุประโยค (Clause) เป็นกลุ่มคำที่มีประธานและกริยาครบถ้วน แต่อาจไม่สมบูรณ์พอที่จะยืนเป็นประโยคเดี่ยวได้
II. อนุประโยค (Clause)
การเข้าใจอนุประโยคเป็นพื้นฐานสำคัญในการศึกษาชนิดของประโยคในภาษาอังกฤษ เนื่องจากประโยคส่วนใหญ่ประกอบด้วยอนุประโยคหลายตัวที่เชื่อมต่อกัน
1. Independent Clause (มหาอนุประโยค)
มหาอนุประโยคเป็นกลุ่มคำที่มีประธานและกริยาครบถ้วน และสามารถยืนเป็นประโยคเดี่ยวได้โดยไม่ต้องพึ่งพาส่วนอื่น
ตัวอย่าง Independent Clauses:
-
I love chocolate. (ฉันรักช็อกโกแลต)
-
The weather is beautiful today. (อากาศสวยงามมากวันนี้)
-
My brother graduated from university. (พี่ชายของฉันจบมหาวิทยาลัยแล้ว)
บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม:
ประเภทของ clause ในภาษาอังกฤษ: independent clause และ dependent clause
2. Dependent Clause (อนุประโยคย่อย)
อนุประโยคย่อยมีประธานและกริยาครบถ้วน แต่ไม่สามารถยืนเป็นประโยคเดี่ยวได้ เนื่องจากขึ้นต้นด้วยคำเชื่อม (Subordinating Conjunction) เช่น because, when, if, although
ตัวอย่าง Dependent Clauses:
-
because it was raining (เพราะฝนตก)
-
when she arrives home (เมื่อเธอกลับถึงบ้าน)
-
if you study hard (หากคุณเรียนหนักขึ้น)

III. เจาะลึก 4 ชนิดของประโยคในภาษาอังกฤษตามโครงสร้าง
การศึกษาชนิด ของ ประโยค ภาษา อังกฤษตามโครงสร้างจะช่วยให้คุณเข้าใจรูปแบบการสร้างประโยคที่หลากหลายและเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม
1. ประโยคความเดียว (Simple Sentence)
ประโยค simple sentence คือประโยคที่ประกอบด้วย Independent Clause เพียงตัวเดียว โดยมีประธานและกริยาหลักเพียงชุดเดียว แม้จะเรียกว่าง่าย แต่สามารถมีรายละเอียดเพิ่มเติมได้มากมาย
คำศัพท์ (IPA) |
ความหมาย |
ตัวอย่างประโยค |
subject /ˈsʌbdʒɪkt/ |
ประธาน |
The subject of this sentence is clear. (ประธานของประโยคนี้ชัดเจน) |
predicate /ˈpredɪkət/ |
ภาคแสดง |
The predicate tells us about the subject. (ภาคแสดงบอกเล่าเกี่ยวกับประธาน) |
modifier /ˈmɒdɪfaɪər/ |
คำขยาย |
Adjectives are common modifiers. (คำคุณศัพท์เป็นคำขยายที่ใช้บ่อย) |
ตัวอย่าง Simple Sentences:
-
My dog barks loudly. (สุนัขของฉันเห่าเสียงดัง)
-
The students in our class work very hard every day. (นักเรียนในชั้นเรียนของเราทำงานหนักมากทุกวัน)
-
Sarah and Tom went to the supermarket yesterday afternoon. (ซาร่าห์และทอมไปซูเปอร์มาร์เก็ตเมื่อบ่ายวาน)
2. ประโยคความรวม (Compound Sentence)
ประโยคความรวมประกอบด้วย Independent Clause ตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป ที่เชื่อมด้วยคำเชื่อมแบบเท่าเทียม (Coordinating Conjunction) หรือเครื่องหมาย semicolon

Compound Sentence คืออะไร? และการใช้ FANBOYS เชื่อมประโยค
Compound sentence คือ อะไร ที่นักเรียนมักสงสัย คำตอบคือประโยคที่รวม Independent Clause หลายตัวเข้าด้วยกันด้วยคำเชื่อม FANBOYS ซึ่งประกอบด้วย For, And, Nor, But, Or, Yet, So
คำเชื่อม |
ความหมาย |
ตัวอย่างการใช้ |
For |
เพราะ, เนื่องจาก |
I stayed home, for it was raining. (ฉันอยู่บ้าน เพราะฝนตก) |
And |
และ |
She studies hard, and she gets good grades. (เธอเรียนหนัก และได้เกรดดี) |
But |
แต่ |
He is smart, but he is lazy. (เขาฉลาด แต่ขี้เกียจ) |
Or |
หรือ |
You can walk, or you can take the bus. (คุณเดินไป หรือขึ้นรถเมล์ก็ได้) |
So |
ดังนั้น |
It was late, so we went home. (ดึกแล้ว ดังนั้นเราจึงกลับบ้าน) |
3. ประโยคความซ้อน (Complex Sentence)
ประโยค complex sentence ประกอบด้วย Independent Clause หนึ่งตัว และ Dependent Clause อย่างน้อยหนึ่งตัว โดยเชื่อมด้วย Subordinating Conjunction ทำให้เกิดความสัมพันธ์แบบไม่เท่าเทียมกัน
การใช้ Subordinating Conjunctions เพื่อสร้างประโยคความซ้อน
Subordinating Conjunction คือคำเชื่อมที่ทำให้อนุประโยคกลายเป็น Dependent Clause และต้องอาศัย Independent Clause ในการสร้างความหมายที่สมบูรณ์
ตัวอย่าง Complex Sentences:
-
When the rain stops, we will go outside. (เมื่อฝนหยุดตก เราจะออกไปข้างนอก)
-
Although she was tired, she finished her homework. (แม้ว่าเธอจะเหนื่อย แต่เธอก็ทำการบ้านเสร็จ)
-
Because he studies regularly, his English improves quickly. (เพราะเขาเรียนอย่างสม่ำเสมอ ภาษาอังกฤษของเขาจึงพัฒนาอย่างรวดเร็ว)
4. ประโยคความรวมผสมความซ้อน (Compound-Complex Sentence)
Compound complex sentence เป็นประโยคที่ซับซ้อนที่สุด ประกอบด้วย Independent Clause อย่างน้อย 2 ตัว และ Dependent Clause อย่างน้อย 1 ตัว ทำให้สามารถสื่อความหมายที่มีความละเอียดและครอบคลุมมากขึ้น

ตัวอย่าง Compound-Complex Sentences:
-
When the meeting ended, John went home, but Mary stayed to finish her report. (เมื่อการประชุมจบลง จอห์นกลับบ้าน แต่แมรี่อยู่เพื่อทำรายงานให้เสร็จ)
-
Although it was raining, we decided to go hiking, and we had a wonderful time. (แม้ว่าฝนจะตก เราตัดสินใจไปเดินป่า และเราก็มีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม)
IV. ตารางเปรียบเทียบ 4 โครงสร้างประโยค
ชนิดประโยค |
โครงสร้าง |
คำเชื่อม |
ตัวอย่าง |
Simple |
1 Independent Clause |
ไม่ใช้ |
Tom reads books. (ทอมอ่านหนังสือ) |
Compound |
2+ Independent Clauses |
FANBOYS |
Tom reads, and Mary writes. (ทอมอ่าน และแมรี่เขียน) |
Complex |
1 Independent + 1+ Dependent |
Subordinating |
When Tom reads, he learns. (เมื่อทอมอ่าน เขาเรียนรู้) |
Compound-Complex |
2+ Independent + 1+ Dependent |
ทั้งสองแบบ |
When Tom reads, he learns, and Mary studies too. (เมื่อทอมอ่าน เขาเรียนรู้ และแมรี่ก็เรียนด้วย) |
V. การแบ่งชนิดประโยคตามจุดประสงค์
นอกจากชนิดของประโยคในภาษาอังกฤษตามโครงสร้างแล้ว การแบ่งตามจุดประสงค์ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
1. Declarative Sentence (ประโยคบอกเล่า)
ประโยคบอกเล่าใช้สำหรับการให้ข้อมูล แสดงความคิดเห็น หรือบรรยายเหตุการณ์ต่างๆ โดยจบด้วยเครื่องหมายมหัพภาค (.)
ตัวอย่าง: The library closes at 9 PM. (ห้องสมุดปิดเวลา 21.00 น.)
2. Interrogative Sentence (ประโยคคำถาม)
ประโยคคำถามใช้สำหรับการสอบถามข้อมูล โดยจบด้วยเครื่องหมายคำถาม (?) และมักเริ่มต้นด้วยคำถาม เช่น what, where, when, why, how
ตัวอย่าง: What time does the library close? (ห้องสมุดปิดกี่โมง?)
3. Imperative Sentence (ประโยคคำสั่ง/ขอร้อง)
ประโยคคำสั่งใช้สำหรับการสั่ง ขอร้อง หรือแนะนำ โดยมักจะไม่แสดงประธานอย่างชัดเจน เนื่องจากเข้าใจว่าหมายถึง "you"
ตัวอย่าง: Please close the door. (กรุณาปิดประตู)
4. Exclamatory Sentence (ประโยคอุทาน)
ประโยคอุทานใช้สำหรับการแสดงอารมณ์หรือความรู้สึกอย่างแรงกล้า โดยจบด้วยเครื่องหมายอัศเจรีย์ (!)
ตัวอย่าง: What a beautiful sunset! (พระอาทิตย์ตกดินช่างสวยงามเหลือเกิน!)
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการสร้างประโยคของคนไทยและวิธีแก้ไข
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย:
-
การใช้ comma splice ในการเชื่อมประโยค เช่น I like coffee, she likes tea. (ไม่ถูกต้อง)
-
การขาดประธานในประโยค เช่น Is very beautiful. (ไม่ถูกต้อง)
-
การใช้ coordinating conjunction ผิดตำแหน่ง
วิธีแก้ไข: ใช้คำเชื่อมที่เหมาะสม เช่น I like coffee, but she likes tea. (ฉันชอบกาแฟ แต่เธอชอบชา) และตรวจสอบให้แน่ใจว่าประโยคมีประธานและกริยาครบถ้วน
VI. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. ประโยคอนุประโยค (Subordinate Clause) คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไรในการสร้างประโยคความซ้อน?
ประโยคอนุประโยคหรือ Subordinate Clause คือ Dependent Clause ที่ไม่สามารถยืนเป็นประโยคเดี่ยวได้ มีความสำคัญในการสร้างประโยค complex sentenceเพราะช่วยเพิ่มรายละเอียดและความลึกให้กับประโยคหลัก ทำให้การสื่อสารมีความหมายที่ซับซ้อนและชัดเจนมากขึ้น
2. ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่าง Compound Sentence และ Complex Sentence คืออะไร?
ความแตกต่างหลักอยู่ที่ความสัมพันธ์ของอนุประโยค Compound Sentence มีอนุประโยคที่เท่าเทียมกัน (Independent Clauses) เชื่อมด้วย FANBOYS ส่วน Complex Sentence มีความสัมพันธ์แบบไม่เท่าเทียม โดย Dependent Clause พึ่งพา Independent Clause
3. ประโยคทุกประโยคจำเป็นต้องมีประธาน (Subject) หรือไม่?
ไม่จำเป็นเสมอไป ในประโยคคำสั่ง (Imperative Sentence) ประธาน "you" มักถูกตัดออก เช่น Stop! (หยุด!) หรือ Come here. (มานี่!) เนื่องจากเข้าใจกันว่าหมายถึงผู้ฟัง
4. เราจะจัดกลุ่มเครื่องหมายวรรคตอน (Punctuation) เช่น Comma, Semicolon ที่ใช้เชื่อมประโยคได้อย่างไรบ้าง?
เครื่องหมายวรรคตอนจัดกลุ่มได้ดังนี้:
-
Comma (,): ใช้กับ coordinating conjunction ในการเชื่อม compound sentence
-
Semicolon (;): เชื่อม independent clause โดยไม่ใช้คำเชื่อม
-
Period (.): แยกประโยคที่สมบูรณ์
-
Colon (:): แนะนำรายการหรือคำอธิบาย
การเรียนรู้ชนิดของประโยคในภาษาอังกฤษอย่างครบถ้วนจะช่วยยกระดับทักษะการเขียนและการสื่อสารของคุณอย่างมีนัยสำคัญ เริ่มตั้งแต่การเข้าใจประโยค simple sentence ที่เป็นพื้นฐาน ไปจนถึงการสร้าง compound complex sentence ที่ซับซ้อน
ความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ โดยเริ่มจากการเข้าใจโครงสร้างพื้นฐาน จากนั้นค่อยๆ พัฒนาไปสู่การใช้ประโยคที่มีความหลากหลายและเหมาะสมกับบริบทการสื่อสาร การผสมผสานระหว่างโครงสร้างและจุดประสงค์ของประโยคจะทำให้งานเขียนของคุณมีชีวิตชีวาและสื่อความหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พิชิตเส้นทางเรียน IELTS ที่บ้านกับ AI พิเศษจาก PREP! เรียนออนไลน์กับ IELTS course คุณภาพสูง ที่รวมเทคโนโลยี AI ช่วยตรวจการบ้านอย่างละเอียดและฝึกฝนอย่างชาญฉลาด
สมัครเลยที่นี่ หรือโทร HOTLINE +6624606789 เพื่อขอคำแนะนำ! ดาวน์โหลดแอป PREP English วันนี้ เพื่อสัมผัสประสบการณ์เรียนออนไลน์ที่บ้าน ช่วยให้คุณมั่นใจในการพิชิต IELTS พร้อมความช่วยเหลือจาก Teacher Bee AI ที่จะช่วยตอบทุกคำถามของคุณ!

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
เนื้อหาแบบพรีเมียม
ดูทั้งหมดค้นหาบทความการศึกษา
แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน
กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
