วิธีตอบคำถาม "Talk About Your Favorite Food" ใน IELTS Speaking ให้ได้คะแนนสูง

คุณเคยรู้สึกตัวสั่นและใจเต้นรัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ examiner ในห้องสอบ IELTS Speaking หรือไม่? แล้วเมื่อพวกเขาถามเกี่ยวกับ talk about your favorite food คุณกลับไม่รู้จะตอบอย่างไรให้ได้คะแนนสูง แม้ว่าจะเป็นคำถามที่ดูง่ายและคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน

การตอบคำถามเกี่ยวกับ อาหาร ที่ ชอบ เป็น ภาษา อังกฤษ ไม่ได้หมายถึงแค่การบอกชื่ออาหารธรรมดาๆ แต่เป็นโอกาสทองในการแสดงศักยภาพทางภาษาของคุณต่อ examiner

ความจริงที่หลายผู้เข้าสอบไม่ทราบคือ คำถามนี้เป็นหนึ่งในหัวข้อที่ปรากฏบ่อยที่สุดในทุก Part ของ IELTS Speaking ตั้งแต่การสนทนาสั้นๆ ใน Part 1 ไปจนถึงการพูดยาวใน Part 2 และการอภิปรายเชิงลึกใน Part 3 ดังนั้น การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับหัวข้อนี้จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะมันไม่เพียงช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้น แต่ยังเป็นโอกาสในการใช้คำศัพท์เฉพาะด้าน เทคนิคการเล่าเรื่อง และไวยากรณ์ขั้นสูงที่จะช่วยยกระดับคะแนนของคุณ

การที่หลายคนตอบได้เพียงแค่ "I like pizza because it's delicious" แสดงให้เห็นถึงการขาดเทคนิคและยุทธศาสตร์ที่เหมาะสม ในขณะที่ผู้ที่ได้คะแนนสูงจะสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้สึก และรายละเอียดที่ชัดเจน พร้อมทั้งใช้ภาษาที่หลากหลายและซับซ้อน เชื่อมโยงกับความทรงจำส่วนตัว และอธิบายลักษณะของอาหารให้ผู้ฟังเห็นภาพได้อย่างชัดเจน

บทความนี้จะเปิดเผยเคล็ดลับและเทคนิคเฉพาะที่จะช่วยให้คุณเปลี่ยนคำตอบธรรมดาให้กลายเป็นคำตอบที่โดดเด่นและน่าประทับใจ พร้อมทั้งวิเคราะห์ตัวอย่างคำตอบระดับต่างๆ และแนะนำคำศัพท์เฉพาะที่จะทำให้คุณฟังดูเหมือนเจ้าของภาษา

มาเริ่มต้นการเดินทางสู่คะแนน IELTS ที่คุณใฝ่ฝันกันเลย โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจว่า examiner มองหาอะไรในคำตอบของคุณกันก่อน

I. ทำความเข้าใจโจทย์

1. ไม่ใช่แค่ "ชื่ออาหาร" แต่คือ "ความสามารถทางภาษา" ผ่านเรื่องราว

ความจริงที่หลายคนไม่รู้คือ เมื่อ examiner ถามเกี่ยวกับ favorite food พวกเขาไม่ได้สนใจว่าคุณชอบกินอะไร แต่มุ่งประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษของคุณผ่านการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอาหาร

การตอบที่ไม่ได้คะแนนสูง:

• I like fried chicken because it's delicious. (ฉันชอบไก่ทอดเพราะมันอร่อย)

• Pizza is my favorite because it tastes good. (พิซซ่าเป็นอาหารโปรดของฉันเพราะมันรสชาติดี)

• I love ice cream because it's sweet. (ฉันรักไอศกรีมเพราะมันหวาน)

การตอบที่ได้คะแนนสูงต้องมี:

• ประสบการณ์ส่วนตัวที่เชื่อมโยงกับอาหาร

• การอธิบายรายละเอียดที่ชัดเจนและมีมิติ

• การใช้ภาษาที่หลากหลายและซับซ้อน

2. เกณฑ์การให้คะแนน IELTS Speaking ที่เกี่ยวข้องโดยตรง

เกณฑ์การประเมิน IELTS แบ่งออกเป็น 4 ด้านหลัก ที่คุณต้องเข้าใจก่อนเริ่มตอบคำถามเกี่ยวกับ my favourite food

II. โครงสร้างคำตอบ 4 มิติ (The S.P.E.C. Framework) ตอบครบทุกมุม ได้คะแนนเต็ม Coherence

1. S - State: บอกชื่ออาหารและประเภทให้ชัดเจน (What is it?)

เริ่มต้นด้วยการแนะนำอาหารที่คุณเลือกอย่างชัดเจน อย่าตอบแบบคร่าวๆ แต่ให้รายละเอียดเฉพาะเจาะจง

วิธีการเริ่มต้นที่ดี:

• My favorite food is carbonara, which is a traditional Italian pasta dish. (อาหารโปรดของฉันคือคาโบนาร่า ซึ่งเป็นเส้นพาสต้าแบบดั้งเดิมของอิตาลี)

• I'd have to say that som tam, Thailand's iconic green papaya salad, is my absolute favorite. (ฉันต้องบอกว่าส้มตำ ซึ่งเป็นยำมะละกอเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ของไทย เป็นอาหารโปรดสุดๆ ของฉัน)

• One dish that I absolutely adore is beef rendang, an authentic Indonesian curry. (อาหารจานหนึ่งที่ฉันชอบมากคือเรินดังเนื้อ แกงแท้ๆ ของอินโดนีเซีย)

การให้ข้อมูลเฉพาะเจาะจงจะช่วยให้ examiner เห็นว่าคุณมีความรู้และสามารถใช้ภาษาได้อย่างแม่นยำ

2. P - Personal Connection: ทำไมถึงชอบ? เล่าความเชื่อมโยงส่วนตัว (Why do you like it?)

ส่วนนี้คือหัวใจสำคัญของการตอบ talk about your favorite food คุณต้องอธิบายเหตุผลที่ลึกซึ้งกว่าแค่ "อร่อย"

เทคนิคการเชื่อมโยงส่วนตัว:

• เชื่อมโยงกับความทรงจำในวัยเด็ก

• เล่าถึงครอบครัวหรือบุคคลสำคัญ

• อธิบายความรู้สึกและอารมณ์ที่เกิดขึ้น

• เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและประเพณี

ตัวอย่าง: This dish reminds me of my grandmother's cooking, which always brought our family together during Sunday dinners, creating some of my most cherished childhood memories.

3. E - Experience: เล่าประสบการณ์หรือเหตุการณ์ที่น่าจดจำเกี่ยวกับอาหารจานนี้ (When/Where/With whom?)

การเล่าเรื่องราวจะทำให้คำตอบของคุณมีชีวิตชีวาและน่าสนใจ ระบุรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจง:

องค์ประกอบที่ควรมี:

• เวลาและสถานที่เฉพาะ (When/Where)

• บุคคลที่เกี่ยวข้อง (With whom)

• สถานการณ์หรือโอกาสพิเศษ (What occasion)

• ความรู้สึกในขณะนั้น (How you felt)

ตัวอย่าง: I first tried authentic carbonara during my trip to Rome last year, and I was amazed by how different it tasted from the versions I'd had before. The elderly Italian chef personally explained the traditional recipe to me, which made the experience even more memorable.

4. C - Characteristics: อธิบายลักษณะเด่น (รสชาติ, กลิ่น, หน้าตา) ให้เห็นภาพ (How does it taste/look/smell?)

ส่วนสุดท้ายคือการใช้คำศัพท์ที่หลากหลายเพื่ออธิบายลักษณะของอาหาร การอธิบายที่ดีต้องครอบคลุม:

III. อัปเกรดคลังศัพท์ (Lexical Resource) ให้โปร

1. กลุ่มคำศัพท์อธิบายรสชาติ (Taste & Flavor) ที่มากกว่า "Delicious"

การใช้คำศัพท์หลากหลายเป็นกุญแจสำคัญในการได้คะแนนสูง เมื่อคุณ write about your favorite food หรือพูดเกี่ยวกับ my fav food ต้องหลีกเลี่ยงการใช้คำพื้นๆ ซ้ำๆ

รสชาติพื้นฐาน (Sweet, Sour, Salty, Bitter, Umami)

รสชาติซับซ้อน (Savory, Tangy, Zesty, Rich, Mild)

2. กลุ่มคำศัพท์อธิบายลักษณะและเนื้อสัมผัส (Appearance & Texture)

การอธิบายเนื้อสัมผัสและลักษณะภายนอกของอาหารจะทำให้คำตอบของคุณสมจริงและน่าสนใจมากขึ้น

เนื้อสัมผัส (Creamy, Crunchy, Tender, Chewy)

หน้าตาและกลิ่น (Aromatic, Mouth-watering, Vibrant)

IV. ไวยากรณ์ (Grammar) ที่ต้องใช้

1. การใช้ Tenses เล่าเรื่องราวในอดีต (Past Simple) และเชื่อมโยงถึงปัจจุบัน (Present Perfect)

การใช้ tenses ที่หลากหลายจะแสดงให้เห็นถึงทักษะทางไวยากรณ์ของคุณ สำหรับการตอบ talk about your favorite food ควรใช้:

2. เทคนิคสร้างประโยคซับซ้อน (Complex Sentences) ด้วย 'which', 'because', 'although'

การใช้ relative clauses และ subordinate clauses จะช่วยเชื่อมโยงความคิดและทำให้คำตอบมีความต่อเนื่อง

เครื่องมือเชื่อมโยงที่สำคัญ:

• Which - เพิ่มข้อมูลเสริม: I love som tam, which is Thailand's most famous salad. (ฉันรักส้มตำ ซึ่งเป็นยำที่มีชื่อเสียงที่สุดของไทย)

• Because - อธิบายเหตุผล: I prefer this dish because it reminds me of home. (ฉันชอบอาหารจานนี้เพราะมันทำให้นึกถึงบ้าน)

• Although - แสดงความขัดแย้ง: Although many people find it too spicy, I absolutely love the heat. (แม้ว่าหลายคนจะว่าเผ็ดเกินไป แต่ฉันชอบความเผ็ดนั้นมาก)

• When - ระบุเวลา: When I first tasted it, I knew it would become my favorite. (เมื่อฉันได้ลองครั้งแรก ฉันรู้ว่ามันจะกลายเป็นอาหารโปรด)

ตัวอย่างประโยคซับซ้อน: Although many people find this dish too spicy, I absolutely love the intense heat, which reminds me of my childhood in Thailand where we grew up eating extremely spicy food. (แม้ว่าหลายคนจะว่าอาหารจานนี้เผ็ดเกินไป แต่ฉันชอบความเผ็ดจัดนั้นมาก ซึ่งทำให้นึกถึงวัยเด็กในประเทศไทยที่เราเติบโตมากับอาหารเผ็ดจัดมาก)

V. ตัวอย่างคำตอบ Band 5 - 7 - 9 + พร้อมบทวิเคราะห์ 

1. ตัวอย่างคำตอบฉบับเต็ม

1. ตัวอย่างคำตอบฉบับเต็ม

Band 5.0 (คะแนนต่ำ): My favorite food is som tam. It's Thai food. I like it because it's spicy and sour. My mother makes it for me. It has papaya and tomatoes. It's very delicious. I eat it with rice. 

(อาหารโปรดของฉันคือส้มตำ มันเป็นอาหารไทย ฉันชอบเพราะมันเผ็ดและเปรี้ยว แม่ทำให้ฉัน มีมะละกอและมะเขือเทศ มันอร่อยมาก ฉันกินกับข้าว)

ปัญหาที่พบ:

• ประโยคสั้นและขาดการเชื่อมโยง

• คำศัพท์พื้นฐานและซ้ำซาก

• ไม่มีรายละเอียดหรือประสบการณ์ส่วนตัว

Band 7.0 (คะแนนดี): I'd have to say that som tam, or Thai green papaya salad, is definitely my favorite food. What I particularly love about it is the perfect balance between spicy, sour, and sweet flavors, which creates an incredible taste experience. I have fond memories of watching my grandmother prepare this dish when I was young, carefully pounding the ingredients in her wooden mortar. The fresh, crunchy texture of the papaya combined with the tangy lime dressing and aromatic herbs makes every bite absolutely refreshing, especially during Thailand's hot summer months. 

(ฉันต้องบอกว่าส้มตำ หรือยำมะละกอเขียวของไทย เป็นอาหารโปรดของฉันอย่างแน่นอน สิ่งที่ฉันชอบเป็นพิเศษคือความสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างรสเผ็ด เปรี้ยว และหวาน ซึ่งสร้างประสบการณ์รสชาติที่น่าทึ่ง ฉันมีความทรงจำอันดีของการดูคุณยายเตรียมอาหารจานนี้ตอนฉันยังเด็ก โดยตำส่วนผสมอย่างระมัดระวังในครกไม้ของท่าน เนื้อสัมผัสกรอบสดของมะละกอผสมกับน้ำยำมะนาวรสเปรี้ยวและสมุนไพรหอมกรุ่นทำให้ทุกคำสดชื่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนของไทย)

จุดเด่น:

• การใช้คำศัพท์หลากหลาย (tangy, aromatic, crunchy)

• การเชื่อมโยงกับประสบการณ์ส่วนตัว

• โครงสร้างประโยคที่ซับซ้อนขึ้น

Band 9.0 (คะแนนสูงสุด): If I had to choose my absolute favorite food, it would undoubtedly be som tam, Thailand's iconic green papaya salad, which represents not just a meal but a deeply rooted cultural tradition in my family. What makes this dish so extraordinary is the intricate harmony of contrasting flavors – the fiery heat from fresh chilies, the sharp tanginess of lime juice, the subtle sweetness from palm sugar, and the umami richness from fish sauce – all meticulously balanced to create what I can only describe as a symphony of taste. I have vivid childhood memories of my grandmother, who was renowned throughout our village for her exceptional som tam, teaching me the art of preparation, emphasizing how each ingredient must be added at precisely the right moment to achieve that perfect texture where the papaya remains delightfully crisp yet absorbs just enough of the dressing to carry the complex flavors throughout. 

(หากฉันต้องเลือกอาหารโปรดสุดๆ ของฉัน มันจะเป็นส้มตำอย่างไม่ต้องสงสัย ยำมะละกอเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ของไทย ซึ่งไม่ได้เป็นแค่มื้ออาหาร แต่เป็นประเพณีทางวัฒนธรรมที่หยั่งรากลึกในครอบครัวของฉัน สิ่งที่ทำให้อาหารจานนี้พิเศษคือความสามัคคีที่ซับซ้อนของรสชาติที่ตรงกันข้าม - ความร้อนแรงจากพริกสด ความเปรี้ยวจัดจากน้ำมะนาว ความหวานละมุนจากน้ำตาลปี๊บ และความกลมกล่อมจากน้ำปลา - ทั้งหมดถูกปรับสมดุลอย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างสิ่งที่ฉันอธิบายได้เพียงว่าเป็นซิมโฟนีแห่งรสชาติ ฉันมีความทรงจำในวัยเด็กที่ชัดเจนของคุณยาย ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วหมู่บ้านในเรื่องส้มตำที่เยี่ยมยอด สอนฉันในศิลปะการเตรียม โดยเน้นว่าส่วนผสมแต่ละอย่างต้องถูกเพิ่มในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่สมบูรณ์แบบ ที่มะละกอยังคงกรอบอย่างน่ารื่นรมย์แต่ดูดซับน้ำยำพอที่จะนำรสชาติซับซ้อนไปทั่ว)

2. การวิเคราะห์ตามเกณฑ์: Fluency & Coherence, Lexical Resource, Grammatical Range & Accuracy

คำตอบ Band 9.0 แสดงให้เห็นถึงการใช้ภาษาที่ซับซ้อนและแม่นยำ มีการเชื่อมโยงความคิดอย่างเป็นธรรมชาติ และใช้คำศัพท์ที่หลากหลาย การอธิบายรายละเอียดและการเล่าเรื่องราวส่วนตัวทำให้คำตอบมีความน่าเชื่อถือและน่าสนใจ

บทความแนะนำอ่านต่อ:

• การรวบรวม 5 บทสนทนาภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

VI. จากคำตอบที่ดีสู่คำตอบที่น่าจดจำ: การเชื่อมโยงอาหารเข้ากับวัฒนธรรมและตัวตน

การยกระดับคำตอบจากดีเป็นยอดเยี่ยมต้องอาศัยการเชื่อมโยงอาหารกับบริบททางวัฒนธรรมและประสบการณ์ส่วนตัว แทนที่จะพูดแค่ว่าอาหารอร่อย ลองใช้เทคนิคเหล่านี้:

เทคนิคการเชื่อมโยงขั้นสูง:

• Cultural Significance: เชื่อมโยงกับประเพณีและวัฒนธรรม

• Sensory Description: ใช้การอธิบายที่กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5

• Metaphorical Language: ใช้ภาษาเปรียบเทียบและอุปมาอุปไมย

• Personal Narrative: เล่าเรื่องราวที่มีอารมณ์และความหมาย

การใช้ภาษาเปรียบเทียบและอุปมาอุปไมยจะช่วยให้คำตอบมีมิติที่ลึกซึ้งมากขึ้น เช่น การเปรียบเทียบรสชาติกับดนตรี หรือการอธิบายกระบวนการทำอาหารเหมือนศิลปะ การใช้เทคนิคเหล่านี้จะทำให้คำตอบของคุณโดดเด่นและน่าจดจำ

VII. คำถามที่พบบ่อยและข้อสงสัยเชิงลึก (Advanced FAQs)

1. จำเป็นต้องเล่าความจริง 100% หรือไม่ว่านี่คืออาหารที่ชอบที่สุดจริงๆ?

คำตอบคือไม่จำเป็น IELTS Speaking เป็นการทดสอบความสามารถทางภาษา ไม่ใช่การสอบสวนข้อเท็จจริง

แนวทางที่แนะนำ:

• เลือกอาหารที่สามารถพูดถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• ไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารโปรดจริงๆ

• สิ่งสำคัญคือความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ

• มุ่งเน้นที่การถ่ายทอดความคิดอย่างชัดเจนและน่าสนใจ

2. คำว่า 'Authentic' กับ 'Traditional' ในบริบทของอาหาร แตกต่างกันอย่างไร?

การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้คุณใช้คำศัพท์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น และแสดงความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรมอาหาร

3. เราจะจัดกลุ่มคำศัพท์เกี่ยวกับอาหารเพื่อการจดจำที่ดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง?

การจัดกลุ่มคำศัพท์อย่างเป็นระบบจะช่วยให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น:

จัดกลุ่มตามหมวดหมู่:

• รสชาติ: sweet, sour, bitter, umami, pungent

• วิธีการปรุง: grilled, steamed, fried, baked, roasted

• วัตถุดิบ: herbs, spices, proteins, vegetables, grains

• เนื้อสัมผัส: crunchy, smooth, tender, creamy, chewy

การจัดกลุ่มอย่างเป็นระบบจะช่วยให้จดจำและเรียกใช้คำศัพท์ได้ง่าย รวมทั้งสามารถสร้างการเชื่อมโยงระหว่างคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกัน

4. การตอบเรื่องอาหารใน IELTS Speaking Part 1 และ Part 3 แตกต่างจากการตอบใน Part 2 อย่างไร?

การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้คุณปรับเทคนิคการตอบให้เหมาะสมกับแต่ละ Part

VIII. สรุปข้อผิดพลาดที่ควรเลี่ยงเพื่อไม่ให้ถูกตัดคะแนนในหัวข้อนี้

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดและวิธีการแก้ไข:

ข้อผิดพลาดด้านเนื้อหา:

• การตอบสั้นเกินไป: ขยายคำตอบด้วย S.P.E.C. Framework

• ขาดประสบการณ์ส่วนตัว: เล่าเรื่องราวจากประสบการณ์จริง

• ไม่มีรายละเอียดเฉพาะ: ระบุชื่อ สถานที่ เวลา อย่างชัดเจน

ข้อผิดพลาดด้านภาษา:

• ใช้คำศัพท์ซ้ำๆ: หลีกเลี่ยงการใช้ "delicious" หรือ "good" ซ้ำ

• ประโยคสั้นขาดการเชื่อมโยง: ใช้ linking words และ complex sentences

• ไวยากรณ์เดียวซ้ำๆ: ผสมผสาน Present Simple, Past Simple, Present Perfect

ข้อผิดพลาดด้านการนำเสนอ:

• พูดเร็วเกินไป: ควบคุมจังหวะและให้เวลาในการคิด

• ไม่มีการหยุดพัก: ใช้ natural pauses เพื่อจัดระเบียบความคิด

• เสียงเรียบเสมอ: เปลี่ยนระดับเสียงเพื่อแสดงอารมณ์และความหมาย

กลยุทธ์การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด:

แทนที่คำศัพท์พื้นฐาน:

เทคนิคการเพิ่มความยาวอย่างมีประสิทธิภาพ:

• การให้ตัวอย่าง: For instance, when I visited Italy...

• การเปรียบเทียบ: Unlike other pasta dishes I've tried...

• การอธิบายผลกระทบ: This experience has influenced my cooking style ever since.

• การคาดการณ์: I'm planning to learn how to make this dish myself.

อีกข้อผิดพลาดสำคัญคือการไม่ใช้ประสบการณ์ส่วนตัว การเล่าเรื่องจากประสบการณ์จริงจะทำให้คำตอบฟังดูธรรมชาติและน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ อย่าลืมใช้ไวยากรณ์ที่หลากหลาย การใช้แค่ Present Simple ตลอดเวลาจะไม่ได้คะแนนสูง

เคล็ดลับสุดท้ายสำหรับความสำเร็จ:

การเตรียมตัวที่มีประสิทธิภาพ:

• ฝึกบันทึกเสียงตัวเอง: ฟังและปรับปรุงการออกเสียงและจังหวะ

• จับเวลาการตอบ: Part 2 ต้องพูด 1-2 นาทีพอดี

• เตรียมหัวข้อสำรอง: มีอาหาร 2-3 อย่างที่สามารถพูดได้อย่างคล่องแคล่ว

• ศึกษาคำศัพท์ใหม่ทุกวัน: เพิ่ม 5-10 คำเกี่ยวกับอาหารต่อสัปดาห์

การเตรียมตัวสำหรับ IELTS Speaking โดยเฉพาะคำถามเกี่ยวกับ talk about your favorite food ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการประยุกต์ใช้เทคนิคที่หลากหลาย ด้วยโครงสร้าง S.P.E.C. Framework, คำศัพท์ที่หลากหลาย, และไวยากรณ์ที่ถูกต้อง คุณจะสามารถมั่นใจได้ว่าคะแนนของคุณจะอยู่ในระดับที่ต้องการ

จำไว้ว่า IELTS ไม่ได้ประเมินความรู้เกี่ยวกับอาหาร แต่ประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การมีเทคนิคที่ดี ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ และมีความมั่นใจในตัวเองจะนำคุณไปสู่เป้าหมายคะแนน IELTS Speaking ที่ต้องการได้อย่างแน่นอน