ค้นหาบทความการศึกษา

Adverb of Time วิธีใช้คำกริยาวิเศษณ์แสดงเวลาในภาษาอังกฤษ

ในยุคที่การสื่อสารภาษาอังกฤษกลายเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับทุกคน การเรียนรู้ adverb of time กลับเป็นจุดอับปางที่ทำให้หลายคนสื่อสารได้ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อต้องบอกเวลาให้คนฟังเข้าใจว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อไหร่ หรือดำเนินต่อไปนานแค่ไหน ความผิดพลาดเล็กๆ ในการใช้คำเหล่านี้อาจทำให้ความหมายผิดเพี้ยนไปอย่างสิ้นเชิง

Adverb of time หรือ คำ วิเศษณ์ ภาษา อังกฤษ ที่ใช้ บอก เวลา เป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การเชี่ยวชาญเรื่องนี้จะช่วยให้คุณพูดและเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างแม่นยำและเป็นธรรมชาติ

การใช้ คำ บอก เวลา ไม่ใช่แค่เรื่องของไวยากรณ์ แต่เป็นศิลปะของการสื่อสาร เมื่อคุณเข้าใจลึกถึงความแตกต่างระหว่าง "for" กับ "since" หรือรู้ว่าเมื่อไหร่ควรใช้ adverb of time past simple คุณจะสามารถสร้างประโยคที่ไม่เพียงถูกหลักไวยากรณ์ แต่ยังสื่อความหมายได้อย่างชัดเจนและโน้มน้าวใจ ไม่ว่าจะเป็นการบรรยายเหตุการณ์ในอดีต การวางแผนอนาคต หรือการบอกเล่าความถี่ของกิจกรรมประจำวัน adverb of time examples ที่เลือกใช้อย่างเหมาะสมจะทำให้ผู้ฟังเกิดภาพในใจและเข้าใจบริบทได้ทันที

บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกมิติของ adverb of time ตั้งแต่หลักการพื้นฐานไปจนถึงเทคนิคระดับสูง พร้อมตัวอย่างประโยคและแบบฝึกหัดที่จะทำให้คุณใช้งานได้อย่างมั่นใจ มาเริ่มต้นการเดินทางสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญ adverb of time กันเลย

Adverb of Time คำกริยาวิเศษณ์แสดงเวลา พร้อมตัวอย่างการใช้
Adverb of Time คำกริยาวิเศษณ์แสดงเวลา พร้อมตัวอย่างการใช้
  1. I. คำกริยาวิเศษณ์บอกเวลา (Adverb of Time) คืออะไร? 
  2. II. ตำแหน่งของ Adverb of Time ในประโยค
    1. 1. ท้ายประโยค
    2. 2. ต้นประโยค
    3. 3. กลางประโยค
  3. III. ประเภทของ Adverb of Time และตัวอย่างที่ใช้บ่อย
    1. 1. บอกช่วงเวลาที่เจาะจง
    2. 2. บอกความถี่ 
    3. 3. บอกระยะเวลา (Duration) และจุดเริ่มต้นของเวลา
  4. IV. เจาะลึกการใช้ Adverb of Time กับ Tenses ต่างๆ 
    1. 1. Adverb of Time กับ Past Simple Tense (สำคัญมาก!)
    2. 2. Adverb of Time กับ Present Perfect Tense
    3. 3. Adverb of Time กับ Future Simple Tense
  5. V. เทคนิคการใช้ Adverb of Time
    1. 1. ลำดับการวาง Adverb of Time หลายตัวในประโยคเดียว
    2. 2. ความแตกต่างเชิงลึกระหว่างคำที่คล้ายกัน: still, yet, และ already
    3. 3. การใช้ Adverbial Phrases of Time (วลีที่ทำหน้าที่เหมือน Adverb บอกเวลา)
  6. VI. แบบฝึกหัดทดสอบความเข้าใจ Adverb of Time
  7. VII. คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Adverb of Time
    1. 1. ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่าง 'for' และ 'since' คืออะไร?
    2. 2. คำบอกเวลาเหล่านี้ (ago, lately, soon) ควรใช้กับ Tense กลุ่มไหนเป็นหลัก?
    3. 3. เราสามารถใช้คำว่า 'yesterday' กับ Present Perfect Tense ได้หรือไม่?
    4. 4. ระหว่างการวาง 'Yesterday' ไว้ต้นประโยคกับท้ายประโยคให้ความรู้สึกต่างกันอย่างไร?

I. คำกริยาวิเศษณ์บอกเวลา (Adverb of Time) คืออะไร? 

Adverb of time หรือ คำ วิเศษณ์ ภาษา อังกฤษ ที่ใช้บอกเวลา คือคำหรือกลุ่มคำที่ใช้บอกว่าการกระทำหรือเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อไหร่ บ่อยแค่ไหน หรือนานเท่าไหร่ คำประเภทนี้จะตอบคำถาม When? (เมื่อไหร่) How often? (บ่อยแค่ไหน) และ How long? (นานเท่าไหร่)

ตัวอย่าง: 

  • I studied English yesterday. (ฉันเรียนภาษาอังกฤษเมื่อวานนี้) 

  • คำว่า yesterday เป็น adverb of time ที่บอกว่าการเรียนเกิดขึ้นเมื่อไหร่

การใช้ adverb of time ช่วยให้ประโยคมีความหมายที่ชัดเจนและสมบูรณ์มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเราต้องการ บอก เวลา ให้ผู้ฟังเข้าใจได้ทันที ยกตัวอย่างการเปรียบเทียบ:

ประโยคที่ไม่มี Adverb of Time

ประโยคที่มี Adverb of Time

I finished my homework. 

(ฉันทำการบ้านเสร็จ)

I finished my homework yesterday. 

(ฉันทำการบ้านเสร็จเมื่อวานนี้)

She goes to the gym. 

(เธอไปโรงออกกำลังกาย)

She goes to the gym every morning. 

(เธอไปโรงออกกำลังกายทุกเช้า)

We will meet. 

(เราจะพบกัน)

We will meet tomorrow at 3 PM. 

(เราจะพบกันพรุ่งนี้เวลา 3 โมงเย็น)

II. ตำแหน่งของ Adverb of Time ในประโยค

1. ท้ายประโยค

ตำแหน่งท้ายประโยคเป็นตำแหน่งที่นิยมใช้มากที่สุดสำหรับ adverb of time เพราะเป็นการบอกข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากกริยาและกรรมหลัก นี่คือ adverb of time examples ที่เห็นได้บ่อย:

  • She arrived at the office early this morning. (เธอมาถึงออฟฟิศเช้าตรูนี้)

  • They played football in the park yesterday. (พวกเขาเล่นฟุตบอลในสวนสาธารณะเมื่อวานนี้)

  • I will call you later tonight. (ฉันจะโทรหาคุณเย็นนี้)

Adverb of Time คำกริยาวิเศษณ์แสดงเวลา พร้อมตัวอย่างการใช้
ตำแหน่งของ Adverb of Time ในประโยค

2. ต้นประโยค

เมื่อต้องการเน้นเรื่องเวลาเป็นพิเศษ เราสามารถวาง adverb of time ไว้ต้นประโยคได้ วิธีนี้มักใช้เมื่อเวลาเป็นข้อมูลที่สำคัญที่สุดในประโยค:

  • Tomorrow, we will have an important meeting. (พรุ่งนี้เราจะมีการประชุมสำคัญ)

  • Last week, I visited my grandmother in Bangkok. (สัปดาห์ที่แล้วฉันไปเยี่ยมคุณยายที่กรุงเทพฯ)

  • Recently, the weather has been very hot. (เมื่อเร็วๆ นี้อากาศร้อนมาก)

3. กลางประโยค

คำ บอก เวลาบางประเภทที่บอกความถี่มักจะอยู่กลางประโยค โดยเฉพาะหลังจาก auxiliary verbs หรือก่อน main verbs:

  • I always wake up at 6 AM. (ฉันตื่นเวลา 6 โมงเช้าเสมอ)

  • She has never been to Japan. (เธอไม่เคยไปญี่ปุ่น)

  • They often visit their parents on weekends. (พวกเขาไปเยี่ยมพ่อแม่บ่อยๆ ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์)

III. ประเภทของ Adverb of Time และตัวอย่างที่ใช้บ่อย

Adverb of Time คำกริยาวิเศษณ์แสดงเวลา พร้อมตัวอย่างการใช้
 ประเภทของ Adverb of Time 

1. บอกช่วงเวลาที่เจาะจง

ประเภทนี้บอกเวลาที่แน่นอนและชัดเจน มักใช้เพื่อระบุจุดเวลาที่เฉพาะเจาะจง:

คำศัพท์

ความหมาย

ตัวอย่างประโยค

Today  

/təˈdeɪ/

วันนี้

I have a dentist appointment today. 

(ฉันมีนัดหมายกับหมอฟันวันนี้)

Yesterday  

/ˈjestədeɪ/

เมื่อวานนี้

We watched a movie yesterday evening. 

(เราดูหนังเมื่อวานตอนเย็น)

Tomorrow  

/təˈmɒroʊ/

พรุ่งนี้

The exam will be held tomorrow morning. 

(การสอบจะจัดขึ้นพรุ่งนี้เช้า)

Last week  

/læst wiːk/

สัปดาห์ที่แล้ว

He traveled to Chiang Mai last week. 

(เขาเดินทางไปเชียงใหม่สัปดาห์ที่แล้ว)

Next year 

/nekst jɪr/

ปีหน้า

Our company will expand to Europe next year. 

(บริษัทของเราจะขยายไปยุโรปปีหน้า)

2. บอกความถี่ 

คำประเภทนี้บอกว่าการกระทำเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน โดยไม่ระบุเวลาที่แน่นอน:

คำศัพท์

ความหมาย

ตัวอย่างประโยค

Always  

/ˈɔːlweɪz/

เสมอ

She always drinks coffee in the morning. 

(เธอดื่มกาแฟตอนเช้าเสมอ)

Often   

/ˈɔːfən/

บ่อยๆ

We often go shopping on Saturdays. 

(เราไปช้อปปิ้งบ่อยๆ ในวันเสาร์)

Sometimes  

/ˈsʌmtaɪmz/

บางครั้ง

I sometimes work late at night. 

(บางครั้งฉันทำงานดึก)

Usually

 /ˈjuːʒuəli/

ปกติแล้ว

They usually have lunch at 12 o'clock. 

(ปกติแล้วพวกเขากินข้าวเที่ยงเวลา 12 โมง)

Never  

/ˈnevə/

ไม่เคย

He never forgets to call his mother.

 (เขาไม่เคยลืมโทรหาแม่)

3. บอกระยะเวลา (Duration) และจุดเริ่มต้นของเวลา

ประเภทนี้ใช้บอกว่าการกระทำดำเนินต่อไปนานเท่าไหร่ หรือเริ่มต้นจากเมื่อไหร่:

  • For (เป็นเวลา): I have lived in Thailand for five years. (ฉันอาศัยอยู่ในไทยมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว)

  • Since (ตั้งแต่): She has been studying English since 2020. (เธอเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ปี 2020)

  • All day (ทั้งวัน): We worked in the garden all day yesterday. (เมื่อวานนี้เราทำงานในสวนทั้งวัน)

IV. เจาะลึกการใช้ Adverb of Time กับ Tenses ต่างๆ 

1. Adverb of Time กับ Past Simple Tense (สำคัญมาก!)

การใช้ adverb of time past simple มีกฎเหล็กที่ต้องจำ ประเภทของ adverb of time ที่ต้องใช้คู่กับ Past Simple มักจะเป็นคำที่บอกเวลาที่แน่นอนในอดีต:

  • Yesterday: I finished my report yesterday. (ฉันทำรายงานเสร็จเมื่อวานนี้)

  • Last night: They went to a concert last night. (เมื่อคืนพวกเขาไปดูคอนเสิร์ต)

  • Two days ago: She called me two days ago. (เธอโทรหาฉันเมื่อสองวันก่อน)

  • In 2019: We moved to this house in 2019. (เราย้ายมาบ้านนี้ในปี 2019)

กฎเหล็ก: ห้ามใช้คำเหล่านี้กับ Present Perfect โดยเด็ดขาด เพราะ Present Perfect ใช้กับการกระทำที่ยังมีผลต่อปัจจุบัน ไม่ใช่เวลาที่จบสิ้นแล้วในอดีต

2. Adverb of Time กับ Present Perfect Tense

Present Perfect มักจะใช้กับ adverb of time ที่ไม่ระบุจุดเวลาที่แน่นอน หรือบอกถึงช่วงเวลาที่ยังคงดำเนินต่อไป:

Adverb

ตัวอย่าง

การแปล

for

I have worked here for three years.

ฉันทำงานที่นี่มา 3 ปีแล้ว

since

She has been a teacher since 2018.

เธอเป็นครูมาตั้งแต่ปี 2018

already

We have already finished our homework.

เราทำการบ้านเสร็จแล้ว

yet

Have you seen the new movie yet?

คุณดูหนังเรื่องใหม่แล้วหรือยัง

just

They have just arrived at the airport.

พวกเขาเพิ่งมาถึงสนามบินเพิ่งๆ นี้

3. Adverb of Time กับ Future Simple Tense

คำที่ใช้กับอนาคตมักจะบอกเวลาที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า หรือแผนการในอนาคต:

  • Tomorrow: I will visit my friend tomorrow afternoon. (พรุ่งนี้บ่ายฉันจะไปเยี่ยมเพื่อน)

  • Next week: We will start our vacation next week. (สัปดาห์หน้าเราจะเริ่มวันหยุด)

  • Soon: The results will be announced soon. (ผลลัพธ์จะประกาศเร็วๆ นี้)

  • Later: I'll call you back later this evening. (เย็นนี้ฉันจะโทรกลับ)

V. เทคนิคการใช้ Adverb of Time

1. ลำดับการวาง Adverb of Time หลายตัวในประโยคเดียว

เมื่อใช้ adverb of time หลายตัวในประโยคเดียว จะมีลำดับที่ต้องปฏิบัติตาม โดยเรียงจากเฉพาะเจาะจงไปทั่วไป:

รูปแบบ: เวลาที่แน่นอน → วัน → วันที่ → เดือน → ปี

  • I will meet you at 2PM on Monday, January 15th, 2024. (ฉันจะพบคุณเวลา 2 โมงเย็นวันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2024)

  • She was born at 3:30 AM on Tuesday, March 10th, 1995. (เธอเกิดเวลา 3:30 นาฬิกาวันอังคารที่ 10 มีนาคม 1995)

2. ความแตกต่างเชิงลึกระหว่างคำที่คล้ายกัน: still, yet, และ already

คำทั้งสามนี้มักทำให้ผู้เรียนสับสน แต่มีความหมายและการใช้งานที่แตกต่างกัน:

  • Still: ใช้กับสิ่งที่ยังคงดำเนินต่อไป (I am still working on this project. - ฉันยังคงทำโปรเจ็กต์นี้อยู่)

  • Yet: ใช้ในประโยคปฏิเสธและคำถาม หมายถึง "ยัง" (Have you finished yet? - คุณทำเสร็จแล้วหรือยัง)

  • Already: ใช้ในประโยคบอกเล่า หมายถึง "แล้ว" (I have already eaten lunch. - ฉันกินข้าวเที่ยงแล้ว)

3. การใช้ Adverbial Phrases of Time (วลีที่ทำหน้าที่เหมือน Adverb บอกเวลา)

วลีเหล่านี้ทำหน้าที่เช่นเดียวกับ adverb of time แต่ให้ข้อมูลที่รายละเอียดมากขึ้น:

  • At the moment: I'm busy at the moment. (ตอนนี้ฉันยุ่งอยู่)

  • In the past: In the past, people didn't have smartphones. (ในอดีตผู้คนไม่มีสมาร์ทโฟน)

  • From time to time: We meet from time to time to catch up. (เราพบกันเป็นครั้งคราวเพื่อคุยกัน)

Adverb of Time คำกริยาวิเศษณ์แสดงเวลา พร้อมตัวอย่างการใช้
การใช้ Adverbial Phrases of Time (วลีที่ทำหน้าที่เหมือน Adverb บอกเวลา)

VI. แบบฝึกหัดทดสอบความเข้าใจ Adverb of Time

แบบฝึกหัด 1: เลือก Adverb of Time ที่ถูกต้อง

คำแนะนำ: เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดในแต่ละข้อ โดยพิจารณาทั้ง tense และความหมายของประโยค

  1. I _______ my grandmother last weekend. a) visited b) have visited c) will visit d) am visiting

  2. She has been working at this company _______ 2018. a) for b) since c) ago d) during

  3. _______, we will go to the beach if the weather is nice. a) Yesterday b) Last week c) Tomorrow d) Ago

  4. I _______ eat breakfast at 7 AM. a) never b) tomorrow c) yesterday d) next week

  5. They finished their project two hours _______. a) since b) for c) ago d) already

  6. Have you _______ been to Japan? a) since b) ever c) ago d) tomorrow

  7. I will call you _______ this evening. a) yesterday b) last night c) ago d) later

  8. We _______ go shopping on Saturdays. a) yesterday b) usually c) ago d) tomorrow

แบบฝึกหัด 2: จัดเรียงคำให้เป็นประโยคที่ถูกต้อง

คำแนะนำ: จัดเรียงคำให้เป็นประโยคที่สมบูรณ์และมี adverb of time อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

  1. studied / I / English / yesterday / evening

  2. always / She / coffee / drinks / morning / in / the

  3. will / We / next / travel / month / to / Japan

  4. for / have / They / here / lived / years / five

  5. often / My / visits / grandmother / weekends / us / on

  6. finished / homework / I / my / already / have

  7. never / been / has / She / to / Thailand

  8. soon / The / will / train / arrive

เฉลยแบบฝึกหัด 1:

  1. a) visited - ใช้ Past Simple กับ "last weekend" (เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แล้ว)

  2. b) since - ใช้ "since" กับจุดเวลาเริ่มต้น "2018" (ตั้งแต่ปี 2018)

  3. c) Tomorrow - ใช้กับ Future Simple "will go" (พรุ่งนี้เราจะไปชายหาดถ้าอากาศดี)

  4. a) never - Adverb of frequency ที่เหมาะสมกับ Present Simple (ฉันไม่เคยกินข้าวเช้าเวลา 7 โมง)

  5. c) ago - ใช้กับ Past Simple "finished" (พวกเขาทำโปรเจ็กต์เสร็จเมื่อสองชั่วโมงก่อน)

  6. b) ever - ใช้ "ever" ในประโยคคำถาม Present Perfect (คุณเคยไปญี่ปุ่นหรือไม่)

  7. d) later - ใช้กับ Future "will call" (ฉันจะโทรหาคุณเย็นนี้)

  8. b) usually - Adverb of frequency กับ Present Simple (เรามักจะไปช้อปปิ้งวันเสาร์)

แบบฝึกหัด 2:

  1. I studied English yesterday evening. (ฉันเรียนภาษาอังกฤษเมื่อวานตอนเย็น)

  2. She always drinks coffee in the morning. (เธอดื่มกาแฟตอนเช้าเสมอ)

  3. We will travel to Japan next month. (เราจะเดินทางไปญี่ปุ่นเดือนหน้า)

  4. They have lived here for five years. (พวกเขาอาศัยอยู่ที่นี่มาห้าปีแล้ว)

  5. My grandmother often visits us on weekends. (คุณยายมาเยี่ยมเราบ่อยๆ ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์)

  6. I have already finished my homework. (ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว)

  7. She has never been to Thailand. (เธอไม่เคยไปประเทศไทย)

  8. The train will arrive soon. (รถไฟจะมาถึงเร็วๆ นี้)

VII. คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Adverb of Time

1. ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่าง 'for' และ 'since' คืออะไร?

For ใช้กับระยะเวลา (period of time) ตัวอย่าง: for two hours, for three days, for a long time Since ใช้กับจุดเริ่มต้นของเวลา (point in time) ตัวอย่าง: since 2020, since yesterday, since I was a child

เคล็ดลับจำง่าย: ถ้าตามหลังด้วยตัวเลขที่บอกระยะเวลา ใช้ "for" แต่ถ้าตามด้วยจุดเวลาเริ่มต้น ใช้ "since"

2. คำบอกเวลาเหล่านี้ (ago, lately, soon) ควรใช้กับ Tense กลุ่มไหนเป็นหลัก?

  • Ago: ใช้กับ Past Simple เท่านั้น (I graduated three years ago. - ฉันจบการศึกษาเมื่อสามปีก่อน)

  • Lately: ใช้กับ Present Perfect (I have been very busy lately. - เมื่อเร็วๆ นี้ฉันยุ่งมาก)

  • Soon: ใช้กับ Future Tense (The train will arrive soon. - รถไฟจะมาถึงเร็วๆ นี้)

3. เราสามารถใช้คำว่า 'yesterday' กับ Present Perfect Tense ได้หรือไม่?

ไม่ได้ โดยเด็ดขาต เพราะ "yesterday" เป็นเวลาที่เฉพาะเจาะจงในอดีตที่จบสิ้นแล้ว ซึ่งขัดแย้งกับหลักการของ Present Perfect ที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน

ถูกต้อง: I went to the market yesterday. (ฉันไปตลาดเมื่อวานนี้) ผิด: I have gone to the market yesterday.

4. ระหว่างการวาง 'Yesterday' ไว้ต้นประโยคกับท้ายประโยคให้ความรู้สึกต่างกันอย่างไร?

การวางที่ต้นประโยคเน้นย้ำเวลามากกว่า มักใช้เมื่อต้องการเปรียบเทียบกับวันอื่น: Yesterday, I was very tired, but today I feel much better. (เมื่อวานฉันเหนื่อยมาก แต่วันนี้รู้สึกดีขึ้นมาก)

การวางท้ายประโยคเป็นการบอกข้อมูลเพิ่มเติมธรรมดา: I finished my homework yesterday. (ฉันทำการบ้านเสร็จเมื่อวานนี้)

การเชี่ยวชาญ adverb of time ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการเข้าใจหลักการที่ถูกต้อง เริ่มจากการจำตำแหน่งการวางในประโยค ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ท้ายประโยค แล้วจึงค่อยๆ ฝึกใช้กับ tenses ต่างๆ โดยเฉพาะการใช้ adverb of time past simple ที่มีกฎเกณฑ์ชัดเจน

จุดสำคัญที่สุดคือการเข้าใจว่าแต่ละประเภทของ คำ บอก เวลา ใช้กับสถานการณ์ไหน และ tense ไหน เมื่อเข้าใจหลักการแล้ว การสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณจะชัดเจนและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำให้ผู้ฟังเข้าใจเนื้อหาและกรอบเวลาของสิ่งที่คุณต้องการสื่อได้อย่างแม่นยำ

ที่ PREP คุณจะได้เรียนรู้แกรมม่าและคำศัพท์ภาษาอังกฤษผ่านวิธีการที่ทันสมัย เช่น Context-based Learning, Task-based Learning และ Guided Discovery ช่วยให้คุณเข้าใจและจำได้ง่ายขึ้น

PREP ยังมี Mindmap ให้คุณสามารถทบทวนและค้นหาความรู้ที่เรียนมาได้ทุกเมื่อ

ด้วยการสนับสนุนจาก AI Prep คุณจะพัฒนาการออกเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่เสียงพยัญชนะไปจนถึงประโยคเต็ม

การฝึกฟังและจดตามคำบอกจะช่วยเสริมคำศัพท์ใหม่ๆ พัฒนาทักษะการฟัง และทำความคุ้นเคยกับสำเนียงเจ้าของภาษา

ดาวน์โหลดแอป PREP ตอนนี้ เพื่อเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่บ้าน กับโปรแกรมฝึกสอบออนไลน์คุณภาพสูง

ติดต่อ HOTLINE +6624606789 หรือคลิกที่นี่เพื่อสมัครเรียน!

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 ตัวอักษร
Loading...

แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล

TH30

อ่านมากที่สุด

ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน

กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

bg contact

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล

facebookyoutubeinstagram
logo footer Prep
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
get prep on Google Playget Prep on app store
หลักสูตร
เชื่อมต่อกับเรา
mail icon - footerfacebook icon - footer
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย