ค้นหาบทความการศึกษา

สรุปหลักการใช้ Prepositions of Time (คำบุพบทบอกเวลา) ที่ต้องรู้

การใช้คำบุพบทบอกเวลาในภาษาอังกฤษมักสร้างความสับสนให้ผู้เรียนชาวไทย เพราะแค่บอกเวลาเดียวกัน แต่บางครั้งต้องใช้ in บางครั้งต้องใช้ on และบางครั้งต้องใช้ at หลายคนใช้ผิดโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่เป็นพื้นฐานสำคัญในการสื่อสารภาษาอังกฤษ
Prepositions of time คือคำบุพบทที่ช่วยบอกช่วงเวลาหรือตอบคำถาม "เมื่อไหร่" ในประโยคภาษาอังกฤษ คำบุพบทบอกเวลา เหล่านี้มีหลักการใช้ที่ชัดเจน โดยเฉพาะการใช้ in on at ที่เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดที่ผู้เรียนทุกคนต้องเข้าใจ
การใช้ prepositions of time ในภาษาอังกฤษ มีหลักการที่น่าสนใจ ซึ่งสามารถเข้าใจได้ง่ายผ่านแนวคิด "ขนาดของเวลา" โดย in ใช้กับช่วงเวลาที่กว้างใหญ่ เช่น ปี ฤดูกาล เดือน (in 2023, in summer, in January) ขณะที่ on ใช้กับวันเฉพาะเจาะจง (on Monday, on Christmas Day, on my birthday) และ at ใช้กับจุดเวลาที่แม่นยำที่สุด (at 6 pm, at noon, at midnight)
นอกจากนี้ prepositions of time ยังรวมถึงคำบุพบทอื่นๆ เช่น for (ระยะเวลา), since (จุดเริ่มต้น), during (ช่วงเหตุการณ์), by (ภายในกำหนด), until (จนถึงเวลา), before (ก่อนเวลา) และ after (หลังเวลา) ซึ่งแต่ละคำมี preposition of time rules เฉพาะตัว ความรู้นี้ไม่เพียงช่วยให้คุณเข้าใจ in on at ใช้ยังไง แต่ยังช่วยให้คุณเข้าใจระบบการใช้คำบุพบทเวลาทั้งหมด
ด้วยความรู้เรื่อง prepositions of time ที่ถูกต้อง คุณจะสามารถสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในบทความนี้ เราจะนำเสนอหลักการใช้งานพร้อม preposition of time examples ที่ชัดเจน เหมือนได้ทำ prepositions of time exercises ไปในตัว
มาเริ่มทำความเข้าใจ at in on prepositions of time และคำบุพบทบอกเวลาอื่นๆ กันเลย คุณจะพบว่าหลักการนี้ไม่ยากอย่างที่คิด!

การใช้คำบุพบทบอกเวลาในภาษาอังกฤษพร้อมตัวอย่าง
การใช้คำบุพบทบอกเวลาในภาษาอังกฤษพร้อมตัวอย่าง
  1. I. Prepositions of Time คืออะไร? 
  2. II. ตารางสรุปการใช้ In, On, At บอกเวลา
    1. 1. สรุปการใช้ "In" (กรอบเวลากว้าง)
    2. 2. สรุปการใช้ "On" (วัน/วันที่เจาะจง)
    3. 3. สรุปการใช้ "At" (จุดเวลาแม่นยำ) 
    4. 4. ตารางเปรียบเทียบ In vs On vs At
  3. III. คำบุพบทบอกเวลาสำคัญอื่นๆ
    1. 1. "For" (ระยะเวลา) vs "Since" (จุดเริ่มต้น)
    2. 2. During, By, Until/Till
    3. 3. Before และ After 
  4. IV. ข้อควรจำ: ไม่ใช้ Preposition กับ Last, Next, This, Every
  5. V. ตารางสรุป Prepositions of Time ที่ต้องรู้
  6. VI. คำถามน่ารู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Prepositions of Time
    1. 1. มี Prepositions of Time คำอื่นอีกไหม? (ตัวอย่างสั้นๆ)
    2. 2. จริงไหมที่ไม่ต้องใช้ Preposition หน้าคำบอกเวลาเสมอไป?
    3. 3. นอกจากบอกเวลา คำบุพบทใช้บอกอะไรได้อีก? (ประเภทหลักๆ)
    4. 4. Prepositions of Time ต่างจาก Prepositions of Place อย่างไร? (ข้อแตกต่างหลัก)
  7. VII. สรุป

I. Prepositions of Time คืออะไร? 

Prepositions of time คือคำบุพบทที่ช่วยบอกช่วงเวลาหรือตอบคำถาม "เมื่อไหร่" ในประโยคภาษาอังกฤษ การใช้ in on at อย่างถูกต้องเป็นพื้นฐานสำคัญในการสื่อสารที่ชัดเจน ไม่คลุมเครือ ช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อใด คำบุพบทบอกเวลา เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสอบภาษาอังกฤษและการสื่อสารในชีวิตประจำวัน

การใช้คำบุพบทบอกเวลาในภาษาอังกฤษพร้อมตัวอย่าง
คำบุพบทบอกเวลาคืออะไร

II. ตารางสรุปการใช้ In, On, At บอกเวลา

Prepositions of time พื้นฐานที่ใช้บอกเวลามี 3 คำหลักคือ in, on และ at ซึ่งแต่ละคำมีหลักการใช้ที่แตกต่างกัน ถ้าเข้าใจว่า in on at ใช้ยังไง ก็จะช่วยให้เราสื่อสารได้ถูกต้อง มาดูความแตกต่างผ่านตารางต่อไปนี้

1. สรุปการใช้ "In" (กรอบเวลากว้าง)

"In" ใช้กับช่วงเวลาที่กว้างกว่า "on" และ "at" ดังนี้

สถานการณ์ที่ใช้ "In"

ตัวอย่าง

ปี (years)

in 2023, in 1995

เดือน (months)

in January, in December

ฤดูกาล (seasons)

in summer, in winter

ศตวรรษ/ทศวรรษ

in the 21st century, in the 1990s

ช่วงเวลาของวัน

in the morning, in the evening

ระยะเวลา

in an hour, in two weeks

2. สรุปการใช้ "On" (วัน/วันที่เจาะจง)

"On" ใช้กับวันที่เจาะจงและวันในสัปดาห์ ดังนี้

สถานการณ์ที่ใช้ "On"

ตัวอย่าง

วันในสัปดาห์

on Monday, on Wednesday

วันที่

on April 1st, on December 25th

วันพิเศษ + Day

on Christmas Day, on New Year's Day

วัน + ช่วงเวลา

on Friday evening, on Sunday morning

วันเฉพาะ

on my birthday, on that day

3. สรุปการใช้ "At" (จุดเวลาแม่นยำ) 

"At" ใช้กับจุดเวลาที่เฉพาะเจาะจงมากที่สุด นี่คือตัวอย่าง preposition of time examples ที่ชัดเจน:

สถานการณ์ที่ใช้ "At"

ตัวอย่าง

เวลาแน่นอน

at 5 o'clock, at 10:30 am

จุดเฉพาะของวัน

at noon, at midnight, at dawn

เทศกาล (ไม่มีคำว่า Day)

at Christmas, at Easter

มื้ออาหาร

at breakfast, at lunchtime

สำนวนเวลา

at the moment, at present

จุดเวลาในปฏิทิน

at the weekend (British), at the beginning of May

4. ตารางเปรียบเทียบ In vs On vs At

เปรียบเทียบ at in on prepositions of time ได้ดังนี้:

Preposition

หลักการใช้

ตัวอย่างที่ถูกต้อง

ความหมาย

In

ช่วงเวลากว้าง (มหภาค)

in 2023, in July, in the morning

การอยู่ภายในช่วงเวลาที่ยาวนาน

On

วัน/วันที่เจาะจง (กลาง)

on Monday, on April 5th

การเกิดขึ้นในวันที่เฉพาะเจาะจง

At

จุดเวลาแม่นยำ (จุลภาค)

at 3 pm, at midnight

การเกิดขึ้น ณ จุดเวลาที่แน่นอน

บทความแนะนำอ่านต่อ:

III. คำบุพบทบอกเวลาสำคัญอื่นๆ

นอกจาก in, on, at แล้ว ยังมี prepositions of time อื่นๆ ที่สำคัญและใช้บ่อย มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1. "For" (ระยะเวลา) vs "Since" (จุดเริ่มต้น)

for และ since เป็นคำบุพบทที่มักสับสนกันได้ง่าย แต่มี preposition of time rules ที่แตกต่างกัน:

Preposition

ความหมาย/ใช้เมื่อไหร่

ตัวอย่าง

For

ระยะเวลา (นานเท่าไหร่)

I've studied for three hours.

We've lived here for five years.

Since

จุดเริ่มต้น (เริ่มเมื่อไหร่)

I've studied since 9 am.

We've lived here since 2018.

2. During, By, Until/Till

  • During: ใช้กับช่วงเวลาหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น during the meeting (ระหว่างการประชุม), during summer (ในช่วงฤดูร้อน)

  • By: ใช้กับกำหนดเวลาสิ้นสุดหรือเส้นตาย เช่น by next Friday (ภายในวันศุกร์หน้า), by the end of this month (ภายในสิ้นเดือนนี้)

  • Until/Till: ใช้กับเวลาที่สิ้นสุดการกระทำ เช่น until midnight (จนถึงเที่ยงคืน), till the end of the year (จนถึงสิ้นปี)

3. Before และ After 

  • Before: ใช้กับเวลาหรือเหตุการณ์ที่เกิดก่อน เช่น before lunch (ก่อนอาหารกลางวัน), before I go to bed (ก่อนฉันเข้านอน)

  • After: ใช้กับเวลาหรือเหตุการณ์ที่เกิดหลัง เช่น after the exam (หลังการสอบ), after 6 pm (หลัง 6 โมงเย็น)

IV. ข้อควรจำ: ไม่ใช้ Preposition กับ Last, Next, This, Every

เมื่อใช้คำบอกเวลาเฉพาะ 4 กลุ่มนี้ เราไม่ต้องใส่ prepositions of time นำหน้า เพราะคำเหล่านี้บอกเวลาได้ชัดเจนอยู่แล้ว:

I saw him last night (ไม่ใช่ in last night) We'll meet next week (ไม่ใช่ on next week) He's coming this month (ไม่ใช่ in this month) She visits her parents every year (ไม่ใช่ in every year)

V. ตารางสรุป Prepositions of Time ที่ต้องรู้

นี่คือตารางสรุป prepositions of time ในภาษาอังกฤษ ทั้งหมดที่ต้องรู้เพื่อใช้อ้างอิงอย่างรวดเร็ว:

การใช้คำบุพบทบอกเวลาในภาษาอังกฤษพร้อมตัวอย่าง
คำบุพบทบอกเวลาอื่น ๆ

Preposition

ใช้เมื่อไหร่

ตัวอย่าง

In

ช่วงเวลากว้าง: ปี เดือน ฤดู ทศวรรษ ช่วงวัน

in 2023, in April, in summer

On

วัน/วันที่เจาะจง

on Monday, on June 1st, on my birthday

At

จุดเวลาแม่นยำ

at 8 am, at noon, at midnight

For

ระยะเวลา

for two hours, for a week

Since

จุดเริ่มต้น

since Monday, since 1999

During

ช่วงเหตุการณ์

during the meeting, during the war

By

ภายในกำหนดเวลา

by tomorrow, by the end of the month

Until/Till

จนถึงเวลา

until 5 pm, till next week

Before

ก่อนเวลา/เหตุการณ์

before dinner, before sunset

After

หลังเวลา/เหตุการณ์

after school, after the movie

VI. คำถามน่ารู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Prepositions of Time

มาดูคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ prepositions of time พร้อมคำตอบสั้นๆ เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

การใช้คำบุพบทบอกเวลาในภาษาอังกฤษพร้อมตัวอย่าง
Q&A เกี่ยวกับ Prepositions of Time

1. มี Prepositions of Time คำอื่นอีกไหม? (ตัวอย่างสั้นๆ)

มีค่ะ เช่น throughout (ตลอดช่วงเวลา: throughout the day), within (ภายในเวลา: within 24 hours), between (ระหว่าง: between 2 and 4 pm) และ from...to... (จาก...ถึง...: from Monday to Friday)

2. จริงไหมที่ไม่ต้องใช้ Preposition หน้าคำบอกเวลาเสมอไป?

จริงค่ะ นอกจากไม่ใช้กับ last, next, this, every แล้ว ยังไม่ใช้กับ adverbs of time เช่น yesterday, today, tomorrow, tonight และคำระบุความถี่ เช่น daily, weekly, monthly

3. นอกจากบอกเวลา คำบุพบทใช้บอกอะไรได้อีก? (ประเภทหลักๆ)

นอกจากเวลา คำบุพบทยังใช้บอก:

  • สถานที่ (Place): in Bangkok, on the table, at school

  • ทิศทาง (Direction): to the park, towards home

  • วิธีการ (Method): by car, with a knife

  • เหตุผล (Reason): for health, because of the rain

4. Prepositions of Time ต่างจาก Prepositions of Place อย่างไร? (ข้อแตกต่างหลัก)

Prepositions of time ตอบคำถาม "เมื่อไหร่" (when) ส่วน prepositions of place ตอบคำถาม "ที่ไหน" (where) คำบุพบทหลายตัวใช้ได้ทั้งสองแบบ แต่ความหมายต่างกัน เช่น at the station (สถานที่) vs at noon (เวลา), in the room (สถานที่) vs in April (เวลา)

VII. สรุป

การใช้ prepositions of time ให้ถูกต้องเป็นพื้นฐานสำคัญในการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างแม่นยำ การฝึกทำ prepositions of time exercises จะช่วยให้คุณจดจำและเข้าใจหลักการได้ดียิ่งขึ้น กฎหลักๆ คือ ใช้ in สำหรับช่วงเวลากว้าง on สำหรับวันเฉพาะ และ at สำหรับจุดเวลาที่แน่นอน คุณอาจใช้ preposition of time worksheet เพื่อทบทวนความรู้ แนะนำให้ฝึกใช้คำบุพบทเหล่านี้ในประโยคจริงเพื่อให้เกิดความเคยชินและใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ การรู้หลักการใช้ prepositions of time จะช่วยให้การสื่อสารของคุณชัดเจนและเป็นมืออาชีพมากขึ้น 

หากคุณต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพิ่มเติมเพื่อเตรียมตัวสำหรับการสอบ IELTS เราขอแนะนำ คอร์ส IELTS ออนไลน์ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการสอบครั้งนี้

Hien Hoang
Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 อักขระ
Loading...
เข้าสู่ระบบ
เพื่อสัมผัสเนื้อหาพรีเมียมที่ปรับให้เหมาะกับคุณ

เนื้อหาแบบพรีเมียมเนื้อหาแบบพรีเมียม

ดูทั้งหมด

แผนที่เฉพาะบุคคล

discount 30% IELTS

ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน

กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

bg contact

เชื่อมต่อกับ Prep

facebookyoutubeinstagram
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
หลักสูตร
คุณสมบัติเด่น
ห้องฝึกการเขียน IELTS AI
ห้องฝึกพูด IELTS AI
Teacher Bee AI
เชื่อมต่อกับเรา
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย