ค้นหาบทความการศึกษา
Made of vs Made from ใช้ยังไงให้ถูกต้อง
เมื่อคุณพูดว่า "โต๊ะทำจากไม้" หรือ "กระดาษทำจากไม้" ในภาษาอังกฤษ คุณจะใช้ made of หรือ made from? ความผิดพลาดเล็กๆ นี้สามารถเปลี่ยนความหมายทั้งประโยคและทำให้คะแนน IELTS หรือ TOEIC ของคุณลดลงได้โดยไม่รู้ตัว
บทความนี้จะแก้ปัญหา made of vs made from อย่างถี่ถ้วน พร้อมเทคนิคจำง่ายที่จะทำให้คุณเลือกใช้ made of made from ได้อย่างแม่นยำในทุกสถานการณ์
ปัญหา made from made of ไม่ใช่แค่เรื่องไวยากรณ์ธรรมดา แต่เป็นการเข้าใจความแตกต่างเชิงความหมายที่ลึกซึ้งของภาษาอังกฤษ การเลือกใช้ made of and made from ที่ถูกต้องแสดงถึงความเข้าใจในกระบวนการเปลี่ยนแปลงของวัสดุ ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ (physical change) ไปจนถึงการแปรสภาพทางเคมี (chemical transformation)
ความซับซ้อนของ make from made of ยังขยายไปสู่แนวคิดเกี่ยวกับการรับรู้ (perception) การจัดหมวดหมู่ (categorization) และการเชื่อมโยงความหมาย (semantic relationship) ที่นักภาษาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญ NLP ใช้ในการวิเคราะห์ภาษาธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลต่อคะแนนสอบ แต่ยังสะท้อนความสามารถในการคิดเชิงวิเคราะห์และการสื่อสารที่แม่นยำในสภาพแวดล้อมทางวิชาการและวิชาชีพ
บทความนี้จะนำเสนอกรอบการคิด (framework) ที่ชัดเจนผ่านตารางเปรียบเทียบ เทคนิค "Visibility Test" และตัวอย่างประโยคจริงที่ครอบคลุมทุกบริบท คุณจะได้รับความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง made of กับ made from พร้อมทักษะการประยุกต์ใช้ในการสอบมาตรฐานและการสื่อสารในชีวิตจริง
มาเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจแก่นแท้ของความแตกต่างที่จะเปลี่ยนวิธีคิดและการใช้ภาษาอังกฤษของคุณไปตลอดกาล

I. Made of vs. Made from คืออะไร?
ความแตกต่างหลักของ made of vs made from อยู่ที่ลักษณะการเปลี่ยนแปลงของวัสดุต้นทาง เมื่อเราพูดถึงการสร้างสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นมา วัสดุต้นทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงในระดับที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดว่าเราควรใช้ of หรือ from
1. Made of: เมื่อวัสดุ "ไม่เปลี่ยนรูป"
Made of ใช้เมื่อวัสดุต้นทางยังคงรูปแบบดั้งเดิมและสามารถมองเห็นหรือจดจำได้อย่างชัดเจนในผลิตภัณฑ์สุดท้าย การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เช่น การตัด การขึ้นรูป หรือการประกอบ
ตัวอย่างการใช้ made of:
-
This table is made of wood. (โต๊ะตัวนี้ทำจากไม้)
-
The ring is made of gold. (แหวนนี้ทำจากทอง)
-
The house is made of brick. (บ้านหลังนี้สร้างด้วยอิฐ)
2. Made from: เมื่อวัสดุ "แปรสภาพ"
Made from ใช้เมื่อวัสดุต้นทางมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิงจนไม่สามารถมองเห็นหรือจดจำรูปแบบเดิมได้ การเปลี่ยนแปลงอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเคมี การหมัก การแปรรูป หรือกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน
ตัวอย่างการใช้ made from:
-
Cheese is made from milk. (ชีสทำมาจากนม)
-
Wine is made from grapes. (ไวน์ทำมาจากองุ่น)
-
Paper is made from wood. (กระดาษทำมาจากไม้)

II. ตารางเปรียบเทียบและตัวอย่าง
หลักเกณฑ์ |
Made of |
Made from |
ลักษณะการเปลี่ยนแปลง |
เปลี่ยนแปลงทางกายภาพ |
เปลี่ยนแปลงทางเคมี/สิ้นเชิง |
การมองเห็นวัสดุต้นทาง |
มองเห็นได้ชัดเจน |
มองไม่เห็น/จำไม่ได้ |
ตัวอย่างชัดเจน |
The chair is made of plastic. (เก้าอี้ทำจากพลาสติก) |
Butter is made from cream. (เนยทำมาจากครีม) |
การใช้ในชีวิตประจำวัน |
เฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับ อาคาร |
อาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์แปรรูป |
คำถามทดสอบ |
"มองเห็นวัสดุต้นทางไหม?" |
"วัสดุต้นทางเปลี่ยนไปแล้วไหม?" |
การเปรียบเทียบ made of made from ในบริบทต่างๆ จะช่วยให้เข้าใจการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น:
ในครัวและอาหาร:
-
The spoon is made of stainless steel. (ช้อนทำจากสแตนเลส)
-
Bread is made from flour. (ขนมปังทำมาจากแป้ง)
-
The cutting board is made of bamboo. (เขียงทำจากไผ่)
-
Yogurt is made from milk. (โยเกิร์ตทำมาจากนม)
ในบ้านและเฟอร์นิเจอร์:
-
The door is made of oak wood. (ประตูทำจากไม้โอ๊ก)
-
The carpet is made from recycled plastic bottles. (พรมทำมาจากขวดพลาสติกรีไซเคิล)
III. หลักการจำง่ายๆ และข้อควรระวังที่คนมักพลาด
1. ทริค "มองเห็น vs. มองไม่เห็น"
เทคนิคที่ดีที่สุดในการจำ made of vs made from คือการใช้ "Visibility Test" หรือการทดสอบด้วยการมองเห็น ถามตัวเองว่า "เมื่อมองดูผลิตภัณฑ์สุดท้าย ฉันยังเห็นรูปแบบของวัสดุต้นทางหรือไม่?"
-
หากมองเห็นได้ → ใช้ made of
-
หากมองไม่เห็นแล้ว → ใช้ made from
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้:
-
The necklace is made of pearls. (สร้อยคอทำจากไข่มุก - เห็นไข่มุกชัดเจน)
-
Ice cream is made from milk and cream. (ไอศกรีมทำมาจากนมและครีม - ไม่เห็นนมเดิมแล้ว)
2. ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข
นักเรียนไทยมักมีข้อผิดพลาดในการใช้ made from made of ดังนี้:
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย |
การแก้ไขที่ถูกต้อง |
เหตุผล |
❌ Paper is made of wood |
✅ Paper is made from wood |
ไม้ถูกแปรรูปจนไม่เห็นรูปแบบเดิม |
❌ The table is made from wood |
✅ The table is made of wood |
ยังเห็นลักษณะของไม้อยู่ |
❌ Wine is made of grapes |
✅ Wine is made from grapes |
องุ่นถูกหมักจนเปลี่ยนสภาพสิ้นเชิง |
สาเหตุหลักของความผิดพลาดคือการแปลตรงจากภาษาไทยที่ใช้ "ทำจาก" ครอบจุดทั้งสองแนวคิด ดังนั้นต้องฝึกคิดถึงกระบวนการผลิตแทนการแปลตรงๆ
บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม:
Phrasal Verbs Make รวมคำฮิต ตัวอย่างเข้าใจทันที!
IV. รู้จัก Made with, Made out of และ Made by
เมื่อเข้าใจ made of and made from แล้ว ยังมีรูปแบบอื่นๆ ที่ควรรู้เพื่อการใช้ภาษาอังกฤษที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

1. Made with: เมื่อพูดถึง "ส่วนผสม"
Made with ใช้เมื่อต้องการเน้นส่วนผสมหรือวัสดุที่ใช้ในการทำ โดยเฉพาะเมื่อมีส่วนผสมหลายอย่าง
ตัวอย่าง:
-
This cake is made with chocolate and vanilla. (เค้กนี้ทำด้วยช็อกโกแลตและวานิลลา)
-
The sauce is made with fresh herbs. (ซอสนี้ทำด้วยสมุนไพรสด)
2. Made out of: เมื่อเน้นการเปลี่ยนแปลงที่ "น่าทึ่ง" หรือ "ไม่คาดคิด"
Made out of ใช้เมื่อต้องการเน้นการสร้างสรรค์หรือการนำวัสดุมาใช้ในลักษณะที่แปลกใหม่หรือไม่คาดคิด
ตัวอย่าง:
-
She made a dress out of newspaper. (เธอทำชุดจากหนังสือพิมพ์)
-
He built a house out of recycled materials. (เขาสร้างบ้านจากวัสดุรีไซเคิล)
3. Made by: เมื่อต้องการบอก "ผู้สร้าง"
Made by ใช้เมื่อต้องการบอกว่าใครเป็นคนสร้างหรือทำ ไม่ใช่เรื่องวัสดุ
ตัวอย่าง:
-
This painting was made by Picasso. (ภาพนี้วาดโดยปิกัสโซ)
-
The software was made by our team. (ซอฟต์แวร์นี้สร้างโดยทีมของเรา)
เมื่อเราเข้าใจหลักการสำคัญและส่วนขยายความของ make from made of แล้ว ต่อไปจะเป็นการตอบคำถามเฉพาะทางที่พบบ่อย เพื่อให้ผู้อ่านนำไปใช้ได้โดยไม่สับสนและครอบคลุมทุกมิติการใช้งานในชีวิตจริง
บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม:
การใช้ Whether กับ If ในภาษาอังกฤษ
Tool, Device กับ Equipment: ความต่างที่ต้องรู้
V. คำถามที่พบบ่อย (FAQ) และเกร็ดความรู้เพิ่มเติม
1. "Made of" และ "Made from" ใช้แทนกันได้เสมอหรือไม่?
โดยทั่วไป made of vs made from ไม่สามารถใช้แทนกันได้ เพราะมีความหมายที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามในบางบริบท โดยเฉพาะในการพูดแบบไม่เป็นทางการ คนเจ้าของภาษาอาจใช้แทนกันได้โดยไม่เกิดความสับสน แต่สำหรับการเรียนและการสอบ ควรยึดตามหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน
2. "Made in" แตกต่างจากกลุ่มนี้อย่างไร?
Made in ใช้เพื่อบอกสถานที่หรือประเทศที่ผลิต ไม่ใช่วัสดุที่ใช้ทำ เช่น Made in Thailand (ผลิตในประเทศไทย) หรือ Made in Germany (ผลิตในเยอรมนี) ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับ Made of vs Made from โดยตรง
3. มีคำบุพบท (Preposition) อื่นๆ ที่ใช้กับ 'Made' ในลักษณะเดียวกันอีกไหม?
นอกจาก of, from, with, out of, by แล้ว ยังมี into ที่ใช้ในบางกรณี เช่น The metal was made into coins. (โลหะถูกทำเป็นเหรียญ) ซึ่งเน้นการเปลี่ยนรูปไปเป็นสิ่งใหม่
4. ระหว่าง "Made out of" กับ "Made from" อะไรสื่อถึงการเปลี่ยนแปลงที่สิ้นเชิงมากกว่ากัน?
Made from สื่อถึงการเปลี่ยนแปลงที่สิ้นเชิงมากกว่า made out of เพราะ made out of ยังคงเน้นที่วัสดุต้นทาง ในขณะที่ made from เน้นกระบวนการแปรรูปที่ทำให้วัสดุต้นทางหายไปจากรูปแบบเดิมอย่างสิ้นเชิง
คำศัพท์และไวยากรณ์ |
การออกเสียง (IPA) |
ความหมาย |
ตัวอย่างประโยค |
made of |
/meɪd ʌv/ |
ทำจาก (มองเห็นวัสดุเดิม) |
The chair is made of plastic. (เก้าอี้ทำจากพลาสติก) |
made from |
/meɪd frʌm/ |
ทำมาจาก (วัสดุเปลี่ยนสภาพ) |
Cheese is made from milk. (ชีสทำมาจากนม) |
made with |
/meɪd wɪð/ |
ทำด้วย (ส่วนผสม) |
The cake is made with chocolate. (เค้กทำด้วยช็อกโกแลต) |
made out of |
/meɪd aʊt ʌv/ |
ทำจาก (แบบสร้างสรรค์) |
She made a bag out of old clothes. (เธอทำกระเป๋าจากเสื้อผ้าเก่า) |
made by |
/meɪd baɪ/ |
ทำโดย (ผู้สร้าง) |
This song was made by a famous artist. (เพลงนี้ทำโดยศิลปินดัง) |
การเข้าใจ made of vs made from ไม่ใช่เรื่องยากหากเราเข้าใจหลักการพื้นฐานคือการมองการเปลี่ยนแปลงของวัสดุ เทคนิค "Visibility Test" จะช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ในขณะที่การรู้จักรูปแบบขยายอย่าง made with, made out of และ made by จะทำให้การใช้ภาษาอังกฤษของเราสมบูรณ์และแม่นยำยิ่งขึ้น
จำไว้ว่าการฝึกใช้ในประโยคจริงและการอ่านตัวอย่างมากมายจะช่วยให้เราคุ้นเคยและใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้การเข้าใจไวยากรณ์เหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยยกระดับทักษะภาษาอังกฤษของคุณในการสอบมาตรฐานต่างๆ
หากคุณต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น Prepedu มีหลักสูตร IELTS course ที่ครอบคลุมทุกทักษะ ตั้งแต่ไวยากรณ์พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคขั้นสูง พร้อมระบบ AI ที่ช่วยวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนและแนะนำแผนการเรียนที่เหมาะกับระดับของคุณ เพื่อให้คุณบรรลุเป้าหมายคะแนน IELTS ที่ต้องการอย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
เนื้อหาแบบพรีเมียม
ดูทั้งหมดค้นหาบทความการศึกษา
แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน
กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
