ค้นหาบทความการศึกษา

Parallel Structure คืออะไร? เข้าใจแล้ว ไม่ต้องท่องศัพท์อีก

หากคุณเคยรู้สึกว่าประโยคภาษาอังกฤษที่เขียนออกมาฟังดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือผู้อ่านดูเหมือนจะเข้าใจไม่ชัดเจน แม้ว่าไวยากรณ์จะถูกต้องแล้วก็ตาม ปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่คำศัพท์หรือ tense แต่อาจเป็นเพราะการขาดความเข้าใจในเรื่อง parallel structure หรือโครงสร้างคู่ขนานที่เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างประโยคที่มีพลังและน่าเชื่อถือ

Parallel Structure คืออะไร และทำไมจึงเป็นหลักไวยากรณ์ที่จะเปลี่ยนการเขียนของคุณจากระดับมือใหม่สู่ระดับผู้เชี่ยวชาญได้ในทันที โครงสร้างคู่ขนาน คือศิลปะของการจัดเรียงคำ วลี และประโยคให้มีรูปแบบที่สอดคล้องกัน

ในโลกของการสื่สารภาษาอังกฤษสมัยใหม่ parallel structure ไม่ใช่แค่กฎไวยากรณ์ธรรมดา แต่เป็นเครื่องมือทรงพลังที่เชื่อมโยงหลายแนวคิดสำคัญ การเข้าใจ part of speech และวิธีการจับคู่ให้เหมาะสมจะนำไปสู่การใช้ parallel form ที่มีประสิทธิภาพ เมื่อคุณเชี่ยวชาญเทคนิคนี้ คุณจะสามารถสร้างประโยคที่มีจังหวะไพเราะ เพิ่มความชัดเจนในการสื่อสาร และสร้างผลกระทบที่แข็งแกร่งต่อผู้อ่าน Parallel แปลว่า "ขนาน" ซึ่งสะท้อนถึงการวางโครงสร้างให้วิ่งไปในทิศทางเดียวกันอย่างสมดุล การทำความเข้าใจเรื่อง and parallel structure จะช่วยให้คุณใช้คำเชื่อมได้อย่างเชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นในการเขียนอีเมลทางธุรกิจ การทำ parallel structure test หรือแม้แต่การสนทนาในชีวิตประจำวัน

บทความนี้จะพาคุณสำรวจทุกมิติของ parallel structure ตั้งแต่หลักการพื้นฐานไปจนถึงเทคนิคขั้นสูง พร้อมด้วย parallel structure exercises with answers และ parallelism grammar exercises ที่จะช่วยให้คุณฝึกฝนอย่างเป็นระบบ คุณจะได้เรียนรู้ว่า parallel แปลว่าอะไรในบริบทต่างๆ และจะใช้ parallelism worksheet อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

มาเริ่มต้นการเดินทางสู่การเชี่ยวชาญ parallel structure ที่จะเปลี่ยนแปลงทักษะภาษาอังกฤษของคุณไปตลอดกาล

Parallel Structure คืออะไร? วิธีใช้และตัวอย่างในภาษาอังกฤษ
Parallel Structure คืออะไร? วิธีใช้และตัวอย่างในภาษาอังกฤษ
  1. I. โครงสร้างคู่ขนาน (Parallel Structure) คืออะไร?
  2. II. หลักการใช้ Parallel Structure ที่ต้องรู้
    1. 1. การใช้คำประเภทเดียวกัน (Matching Parts of Speech) – หัวใจสำคัญของโครงสร้างคู่ขนาน
    2. 2. การใช้วลีและอนุประโยคแบบขนาน: เทคนิคขั้นสูง
    3. 3. การใช้กับ Conjunctions: ศิลปะของการเชื่อมประโยค
  3. III. ตัวอย่างการใช้ Parallel Structure ที่ถูกต้องและผิดพลาด
  4. IV. การวิเคราะห์ข้อผิดพลาดและวิธีแก้ไข
    1. 1. ข้อผิดพลาดระดับพื้นฐานที่พบบ่อย
    2. 2. ข้อผิดพลาดระดับกลางที่ต้องระวัง
    3. 3. การวิเคราะห์ประโยคซับซ้อน
  5. V. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
    1. 1. "Parallelism" กับ "Parallel Structure" มีความแตกต่างกันหรือไม่?
    2. 2. การใช้ Parallel Structure จำเป็นในทุกประโยคหรือไม่?
    3. 3. Part of Speech อื่นๆ ที่ต้องคำนึงถึงในการสร้าง Parallel Structure
  6. VI. แบบฝึกหัด Parallel Structure พร้อมเฉลย

I. โครงสร้างคู่ขนาน (Parallel Structure) คืออะไร?

Parallel Structure คืออะไร ในเชิงลึก? โครงสร้างคู่ขนานคือการจัดเรียงคำ วลี หรือประโยคให้มีรูปแบบทางไวยากรณ์ที่เหมือนกันหรือสอดคล้องกัน เพื่อสร้างความสมดุลและจังหวะที่ไพเราะในการเขียนและการพูด

คำว่า parallel แปลว่า "ขนาน" หรือ "คู่กัน" ในทางเรขาคณิต เส้นขนานคือเส้นที่วิ่งไปในทิศทางเดียวกันโดยไม่มีวันตัดกัน ในทางไวยากรณ์ parallel แปลว่า การจัดโครงสร้างให้วิ่งไปในรูปแบบเดียวกันอย่างสอดคล้อง

ตัวอย่างที่เห็นผลชัดเจน:

  • ❌ ผิด: "I like swimming, to run, and cycling" (ผสม gerund, infinitive, และ gerund)

  • ✅ ถูก: "I like swimming, running, and cycling" (ใช้ gerund ทั้งหมด)

Parallel Structure คืออะไร? วิธีใช้และตัวอย่างในภาษาอังกฤษ
โครงสร้างคู่ขนาน (Parallel Structure)

ประโยคที่สองฟังเป็นธรรมชาติและจำง่ายกว่า เพราะสมองเราชอบรูปแบบที่มีความสม่ำเสมอ

II. หลักการใช้ Parallel Structure ที่ต้องรู้

1. การใช้คำประเภทเดียวกัน (Matching Parts of Speech) – หัวใจสำคัญของโครงสร้างคู่ขนาน

หลักการสำคัญที่สุดของ parallel structure คือการใช้ part of speech หรือชนิดของคำประเภทเดียวกัน เพื่อให้เกิดความสอดคล้องทางไวยากรณ์

ชนิดคำ

ตัวอย่างผิด

ตัวอย่างถูก

คำนาม

I like reading, writing, and to paint.

I like reading, writing, and painting.

คำกริยา

She runs, swims, and cycling daily.

She runs, swims, and cycles daily.

คำคุณศัพท์

The food is delicious, healthy, and costs little.

The food is delicious, healthy, and affordable.

คำวิเศษณ์

He speaks clearly, confidently, and with enthusiasm.

He speaks clearly, confidently, and enthusiastically.

Parallel Structure คืออะไร? วิธีใช้และตัวอย่างในภาษาอังกฤษ
การใช้คำประเภทเดียวกัน (Matching Parts of Speech)

การใช้คำกริยาให้มีความสอดคล้องของ Tense เป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เมื่อใช้กริยาหลายตัวในประโยคเดียวกัน ต้องใช้ Tense เดียวกันเพื่อรักษาโครงสร้างคู่ขนาน

2. การใช้วลีและอนุประโยคแบบขนาน: เทคนิคขั้นสูง

Gerund Phrases vs. Infinitive Phrases: นี่คือจุดที่นักเรียนผิดพลาดบ่อยที่สุด

สถานการณ์

รูปแบบที่ใช้

ตัวอย่าง

หลัง "enjoy, avoid, consider"

Gerund Phrases

I enjoy reading books, watching movies, and listening to music

หลัง "want, plan, hope"

Infinitive Phrases

I want to study abroad, to learn new skills, and to meet new people

หลัง "like, love, hate"

ทั้งสองแบบได้ แต่ต้องใช้แบบเดียวกัน

I like swimming, running, and cycling (Gerund) หรือ I like to swim, to run, and to cycle (Infinitive)

Parallel Structure คืออะไร? วิธีใช้และตัวอย่างในภาษาอังกฤษ
Gerund Phrases vs. Infinitive Phrases

Prepositional Phrases: การใช้บุพบทวลีแบบขนาน

✅ ถูก: "She is interested in music, in art, and in literature" 

✅ ถูกแบบย่อ: "She is interested in music, art, and literature" 

❌ ผิด: "She is interested in music, art, and to study literature"

3. การใช้กับ Conjunctions: ศิลปะของการเชื่อมประโยค

Coordinating Conjunctions (and parallel structure เป็นรูปแบบพื้นฐาน)

การใช้ "and" ต้องแน่ใจว่าสิ่งที่เชื่อมมีสถานะทางไวยากรณ์เท่าเทียมกัน:

ประเภท

ตัวอย่างถูก

ตัวอย่างผิด

Subject

Tom and Jerry are friends

Tom and to be friends with Jerry

Verb

I washed and dried the dishes

I washed and was drying the dishes

Object

Buy milk, bread, and eggs

Buy milk, bread, and to get eggs

Correlative Conjunctions: เทคนิคระดับสูง

"Not only...but also", "Either...or", "Neither...nor", "Both...and" ต้องการความระมัดระวังพิเศษ:

✅ ถูก: "She is not only intelligent but also hardworking" 

❌ ผิด: "She not only is intelligent but also hardworking"

หลักการ: สิ่งที่ตามหลัง "not only" และ "but also" ต้องมีโครงสร้างเดียวกัน

บทความแนะนำอ่านต่อ:

III. ตัวอย่างการใช้ Parallel Structure ที่ถูกต้องและผิดพลาด

ประโยคผิดหลัก vs. ประโยคถูกต้องตาม Parallel Structure

ประเภท

ประโยคผิด

ประโยคถูก

คำอธิบาย

Nouns

My hobbies are reading, to write, and painting

My hobbies are reading, writing, and painting

ใช้ Gerund ทั้งหมด

Verbs

Yesterday I walked, ran, and was swimming

Yesterday I walked, ran, and swam

ใช้ Past Tense ทั้งหมด

Adjectives

The movie was interesting, exciting, and had good acting

The movie was interesting, exciting, and well-acted

ใช้คำคุณศัพท์ทั้งหมด

Gerunds vs Infinitives

I enjoy cooking and to bake

I enjoy cooking and baking

ใช้ Gerund ทั้งคู่

Correlative Conjunctions

Not only she is smart but also beautiful

Not only is she smart but also beautiful

โครงสร้างหลัง not only และ but also ต้องเหมือนกัน

การวิเคราะห์ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยจะช่วยให้เข้าใจหลักการได้ชัดเจนขึ้น สาเหตุหลักของข้อผิดพลาดมักเกิดจากการผสมผสานรูปแบบทางไวยากรณ์ที่แตกต่างกันในประโยคเดียว

IV. การวิเคราะห์ข้อผิดพลาดและวิธีแก้ไข

1. ข้อผิดพลาดระดับพื้นฐานที่พบบ่อย

ประเภทข้อผิดพลาด

ตัวอย่างผิด

การแก้ไข

เหตุผลที่ผิด

Mixed Gerunds/Infinitives

I enjoy reading, to write, and painting

I enjoy reading, writing, and painting

ผสม gerund และ infinitive

Mixed Tenses

Yesterday I walked, run, and was swimming

Yesterday I walked, ran, and swam

ผสม past simple และ past continuous

Mixed Word Forms

The solution is simple, effective, and costs little

The solution is simple, effective, and economical

ผสมคำคุณศัพท์และประโยค

Incomplete Parallels

She likes dancing more than to sing

She likes dancing more than singing

การเปรียบเทียบต้องใช้รูปแบบเดียวกัน

2. ข้อผิดพลาดระดับกลางที่ต้องระวัง

การใช้ Articles และ Prepositions:

❌ ผิด: "I'm interested in the music, art, and the literature" 

✅ ถูก: "I'm interested in music, art, and literature" (ไม่ใส่ article) 

✅ ถูกด้วย: "I'm interested in the music, the art, and the literature" (ใส่ article ทุกตัว)

การใช้ Determiners:

❌ ผิด: "Buy some apples, bananas, and the oranges" 

✅ ถูก: "Buy some apples, some bananas, and some oranges" 

✅ ถูกด้วย: "Buy apples, bananas, and oranges"

3. การวิเคราะห์ประโยคซับซ้อน

ประโยคที่มี Dependent Clauses:

❌ ผิด: "I know that she is smart, hardworking, and will succeed" 

✅ ถูก: "I know that she is smart, that she is hardworking, and that she will succeed" 

✅ ถูกแบบย่อ: "I know that she is smart, hardworking, and successful"

การเข้าใจ parallel structure จะช่วยในการเขียนรายงาน การนำเสนอ และการสื่อสารในที่ทำงาน เมื่อคุณสามารถใช้โครงสร้างคู่ขนานได้อย่างเชี่ยวชาญ การสื่อสารของคุณจะมีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือสูงขึ้น

V. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. "Parallelism" กับ "Parallel Structure" มีความแตกต่างกันหรือไม่?

ในทางเทคนิคแล้ว parallelism และ parallel structure มีความหมายเหมือนกันในบริบทของไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ทั้งสองคำหมายถึงการจัดเรียงองค์ประกอบของประโยคให้มีรูปแบบทางไวยากรณ์ที่สอดคล้องกัน อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างเล็กน้อยในการใช้งาน

Parallelism มักใช้ในบริบทที่กว้างขึ้น รวมถึงด้านวรรณกรรมและเชิงวาทศิลป์ เป็นการอ้างถึงเทคนิคการเขียนที่สร้างจังหวะและผลกระทบทางอารมณ์ ในขณะที่ parallel structure มักใช้เฉพาะในบริบททางไวยากรณ์และการเขียนเชิงวิชาการ

สำหรับนักเรียนที่เรียนภาษาอังกฤษ การใช้คำไหนก็ได้จะไม่เป็นปัญหา เพราะครูและผู้สอนส่วนใหญ่เข้าใจว่าหมายถึงสิ่งเดียวกัน สิ่งสำคัญคือการเข้าใจหลักการและสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

2. การใช้ Parallel Structure จำเป็นในทุกประโยคหรือไม่?

ไม่จำเป็น ต้องใช้ parallel structure ในทุกประโยค แต่มีสถานการณ์เฉพาะที่การใช้จะช่วยเพิ่มความชัดเจนและความเป็นมืออาชีพอย่างมาก

สถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้:

  • เมื่อมีการแจกแจงรายการ (lists) เช่น "I bought apples, oranges, and bananas"

  • เมื่อใช้คำเชื่อมแบบ correlative conjunctions เช่น "not only...but also", "either...or"

  • เมื่อทำการเปรียบเทียบ เช่น "She prefers reading to watching TV"

  • ในการเขียนเชิงวิชาการและการสอบมาตรฐาน เช่น IELTS, TOEIC

ข้อยกเว้นที่สามารถยืดหยุ่นได้:

  • ประโยคสั้นที่มีความหมายชัดเจนแล้ว

  • การเขียนแบบสร้างสรรค์ที่ต้องการสร้างจังหวะพิเศษ

  • การเขียนแบบสนทนาที่เน้นความเป็นธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม แม้ไม่จำเป็นในทุกสถานการณ์ การมีความเข้าใจและใช้ parallel structure อย่างสม่ำเสมอจะทำให้การเขียนดูเป็นระเบียบและแสดงถึงความชำนาญในภาษาอังกฤษ

3. Part of Speech อื่นๆ ที่ต้องคำนึงถึงในการสร้าง Parallel Structure

นอกจาก part of speech พื้นฐานที่เรียนกันทั่วไปแล้ว ยังมีองค์ประกอบทางไวยากรณ์อื่นๆ ที่สำคัญไม่แพ้กัน

Phrases ประเภทต่างๆ:

  • Prepositional phrases เช่น "in the morning, in the afternoon, and in the evening"

  • Participial phrases เช่น "Running quickly, jumping high, and swimming fast"

  • Infinitive phrases เช่น "to study hard, to work diligently, and to succeed eventually"

Clauses ที่ต้องระวัง:

  • Independent clauses เช่น "She studied hard, she practiced daily, and she achieved her goal"

  • Dependent clauses เช่น "I know that she is smart, that she is hardworking, and that she will succeed"

โครงสร้างพิเศษ:

  • Passive voice structures เช่น "The report was written, reviewed, and approved"

  • Conditional structures เช่น "If you study hard, if you practice regularly, and if you stay focused"

  • Question structures เช่น "Where are you going? What are you doing? When will you return?"

Articles และ Determiners:

  • การใช้ a, an, the ให้สอดคล้องกัน เช่น "a book, a pen, and a notebook" หรือ "the book, the pen, and the notebook"

  • Possessive adjectives เช่น "my book, my car, and my house"

การเข้าใจองค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยให้คุณสร้าง parallel structure ที่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

VI. แบบฝึกหัด Parallel Structure พร้อมเฉลย

แบบฝึกหัดที่ 1: เลือกคำ/วลีที่ถูกต้อง (parallel structure multiple choice)

คำถาม: Choose the correct option to complete the sentence with proper parallel structure:

"The company is looking for employees who are hardworking, reliable, and _______." a) have good communication skills b) communicate well c) communicative d) good at communicating

เฉลย: c) communicative (ใช้คำคุณศัพท์เหมือนกับ hardworking และ reliable)

แบบฝึกหัดที่ 2: แก้ไขประโยคให้ถูกต้อง

คำถาม: แก้ไขประโยคต่อไปนี้ให้มี parallel structure ที่ถูกต้อง: "She likes dancing, to sing, and plays the piano."

เฉลย: "She likes dancing, singing, and playing the piano." (ใช้ Gerund ทั้งหมด)

แบบฝึกหัดที่ 3: สร้างประโยคจากคำที่กำหนด

คำถาม: ใช้คำต่อไปนี้สร้างประโยคที่มี parallel structure: swim, run, cycle

เฉลยตัวอย่าง: "Every morning, I swim for 30 minutes, run for 20 minutes, and cycle for 10 minutes."

โครงสร้างคู่ขนาน เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะยกระดับทักษะภาษาอังกฤษของคุณ การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอด้วย parallel structure exercises with answers และ parallel structure test จะช่วยให้คุณเชี่ยวชาญหลักการนี้ได้อย่างรวดเร็ว

การเข้าใจและใช้ parallel structure อย่างถูกต้องจะทำให้การสื่อสารของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะในการเขียนรายงาน การนำเสนอ หรือการสนทนาในชีวิตประจำวัน ความชัดเจนและความเป็นมืออาชีพที่เกิดขึ้นจะช่วยสร้างความประทับใจและความน่าเชื่อถือให้กับคุณ

หากคุณต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างเป็นระบบและได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ PREP พร้อมช่วยคุณเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบ IELTS, TOEIC และการสื่อสารภาษาอังกฤษในระดับมืออาชีพ

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 ตัวอักษร
Loading...
เข้าสู่ระบบ
เพื่อสัมผัสเนื้อหาพรีเมียมที่ปรับให้เหมาะกับคุณ

เนื้อหาแบบพรีเมียมเนื้อหาแบบพรีเมียม

ดูทั้งหมด

แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล

TH30

อ่านมากที่สุด

ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน

กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

bg contact

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล

facebookyoutubeinstagram
logo footer Prep
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
get prep on Google Playget Prep on app store
หลักสูตร
เชื่อมต่อกับเรา
mail icon - footerfacebook icon - footer
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย