โครงสร้างข้อสอบ IELTS อัปเดตล่าสุด รู้ครบก่อนสอบจริง
การเตรียมตัวสอบ IELTS อย่างมีประสิทธิภาพไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อผู้สอบหลายคนมักจะเตรียมตัวแบบงมเงยาโดยไม่เข้าใจโครงสร้างข้อสอบ IELTS อย่างแท้จริง ผลที่ตามมาคือการใช้เวลาและทรัพยากรไปโดยเปล่าประโยชน์ ขณะที่คะแนนที่ได้ยังคงต่ำกว่าเป้าหมาย
โครงสร้างข้อสอบ IELTS (IELTS exam structure) เป็นสิ่งแรกที่ผู้เตรียมสอบต้องเข้าใจ การรู้โครงสร้างข้อสอบ IELTS จะช่วยให้คุณวางแผนการเตรียมตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้อธิบายIELTS academic test format และIELTS general training format พร้อมรายละเอียดทุกทักษะ
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกรายละเอียดของโครงสร้างข้อสอบ IELTS พร้อมกลยุทธ์การเตรียมตัวที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายคะแนนที่ตั้งไว้ได้อย่างมั่นใจ มาเริ่มต้นการเดินทางสู่ความสำเร็จในการสอบ IELTS กันเลย
I. ภาพรวมข้อสอบ IELTS
1. IELTS คืออะไร?
IELTS คือ International English Language Testing System ซึ่งเป็นการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับระดับสากล การสอบนี้พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง British Council, IDP: IELTS Australia และ Cambridge Assessment English ตั้งแต่ปี 1989
ข้อสอบ IELTS คือ เครื่องมือวัดความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ผลคะแนนจากการสอบ ieltsได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัย หน่วยงานราชการ และองค์กรต่างๆ ในกว่า 140 ประเทศ ทำให้เป็นประตูสู่โอกาสในการศึกษาต่อ การทำงาน และการย้ายถิ่นฐานในต่างประเทศ
2. ภาพรวมโครงสร้างข้อสอบ IELTS
การสอบ IELTS แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ Academic และ General Training โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่าจะเลือกสอบแบบ Academic ขณะที่ผู้ที่ต้องการไปทำงานหรือย้ายถิ่นฐานจะเลือกแบบ General Training
IELTS test มีให้เลือกทั้งแบบ Paper-based และ Computer-delivered โดยทั้งสองแบบให้ผลคะแนนที่เทียบเท่ากัน แต่การสอบแบบคอมพิวเตอร์จะได้ผลเร็วกว่า (13 วันเทียบกับ 13 วัน)
|
ประเภทการสอบ |
Academic |
General Training |
|
วัตถุประสงค์ |
ศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา |
ทำงาน/อพยพ |
|
Reading |
บทความวิชาการ |
ข้อความในชีวิตประจำวัน |
|
Writing Task 1 |
อธิบายกราฟ/ตาราง |
เขียนจดหมาย |
IELTS มี กี่ พาร์ ท? การ IELTS test ประกอบด้วย 4 ทักษะหลัก คือ Listening (30 นาที), Reading (60 นาที), Writing (60 นาที) และ Speaking (11-14 นาที) รวมเวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาทีถึง 3 ชั่วโมง
บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม:
เตรียมสอบ IELTS GT ให้พร้อมกับหนังสือ Preparation and Practice for IELTS General Training!
II. IELTS มี กี่ พาร์ ท? ภาพรวมโครงสร้างข้อสอบ
IELTS มี กี่ พาร์ ท? การสอบ IELTS แบ่งเป็น 4 ทักษะหลัก:
|
ทักษะ |
เวลา |
จำนวนข้อ/ส่วน |
คะแนน |
|
Listening |
30 นาที + 10 นาทีถ่ายคำตอบ |
4 ส่วน (40 ข้อ) |
0-9 |
|
Reading |
60 นาที |
3 ส่วน (40 ข้อ) |
0-9 |
|
Writing |
60 นาที |
2 Task |
0-9 |
|
Speaking |
11-14 นาที |
3 Part |
0-9 |
|
Overall Band |
- |
- |
0-9 |
1. ทักษะการฟัง (IELTS Listening)
IELTS listening เป็นส่วนแรกของการสอบที่ใช้เวลา 30 นาที ประกอบด้วย 4 ส่วนย่อยและมีคำถามทั้งหมด 40 ข้อ แต่ละส่วนจะเล่นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ทำให้ผู้สอบต้องตั้งใจฟังอย่างเต็มที่ตั้งแต่เริ่มต้น
|
Section |
สถานการณ์ |
จำนวนผู้พูด |
ประเภทคำถาม |
|
1 |
สนทนาในชีวิตประจำวัน |
2 คน |
Form filling, Note completion |
|
2 |
การบรรยายเดี่ยว |
1 คน |
|
|
3 |
สนทนาวิชาการ |
2-4 คน |
Flow-chart completion |
|
4 |
การบรรยายวิชาการ |
1 คน |
ประเภทคำถามที่พบบ่อยในโครงสร้างข้อสอบ IELTS ส่วนฟัง ได้แก่ การกรอกแบบฟอร์ม การเติมคำในตาราง Multiple choice การจับคู่ข้อมูล และการติดป้ายแผนที่หรือแผนผัง กลยุทธ์สำคัญคือการอ่านคำถามล่วงหน้าและทำนายคำตอบที่เป็นไปได้
2. ทักษะการอ่าน (IELTS Reading)
IELTS reading ใช้เวลา 60 นาทีและมีคำถาม 40 ข้อ แบ่งออกเป็น 3 บทความ โดยแต่ละบทความจะมีความยาวประมาณ 750-900 คำ IELTS Academic test format จะใช้บทความจากวารสารวิชาการ หนังสือเรียน และสิ่งพิมพ์ทางวิชาการ
|
ประเภทคำถาม |
วิธีทำ |
เคล็ดลับ |
|
เปรียบเทียบข้อความ |
อ่านอย่างละเอียด |
|
|
เลือกคำตอบที่ถูกต้อง |
กำจัดตัวเลือกที่ผิด |
|
|
จับคู่หัวข้อกับย่อหน้า |
หาใจความสำคัญ |
|
|
Summary Completion |
เติมคำลงในบทสรุป |
ใช้ Skimming และ Scanning |
แหล่งข้อมูลของบทความมาจากสื่อต่างๆ เช่น The Economist, National Geographic และ Scientific American ระดับความซับซ้อนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากบทความที่ 1 ไปยังบทความที่ 3
3. ทักษะการเขียน (IELTS Writing)
IELTS writing แบ่งออกเป็น 2 Task ใช้เวลารวม 60 นาที โดย Task 1 ใช้เวลา 20 นาที (150 คำ) และ Task 2 ใช้เวลา 40 นาที (250 คำ) คะแนนของ Task 2 มีน้ำหนักมากกว่า Task 1 ในอัตราส่วน 2:1
Task 1: การวิเคราะห์และบรรยายข้อมูล
- Academic: อธิบายกราฟ แผนภูมิ ตาราง แผนที่ หรือแผนผัง
- General Training: เขียนจดหมายในสถานการณ์ต่างๆ (เป็นทางการ กึ่งทางการ หรือไม่เป็นทางการ)
Task 2: การเขียนเรียงความแสดงความคิดเห็น
ทั้งสองประเภทจะมีรูปแบบเรียงความเดียวกัน แบ่งเป็น Argumentative essay, Discussion essay, Problem-solution essay และ Two-part questions
|
เกณฑ์การให้คะแนน |
คำอธิบาย |
น้ำหนัก |
|
Task Achievement/Response |
ตอบโจทย์ครบถ้วน |
25% |
|
Coherence and Cohesion |
ความเชื่อมโยงของเนื้อหา |
25% |
|
Lexical Resource |
การใช้คำศัพท์ |
25% |
|
Grammatical Range and Accuracy |
ไวยากรณ์และความถูกต้อง |
25% |
4. ทักษะการพูด (IELTS Speaking)
IELTS speaking เป็นการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับผู้ตรวจสอบ ใช้เวลา 11-14 นาที แบ่งออกเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วนมีวัตถุประสงค์และรูปแบบการทดสอบที่แตกต่างกัน
|
Part |
เวลา |
เนื้อหา |
เป้าหมาย |
|
1 |
4-5 นาที |
แนะนำตัว คำถามทั่วไป |
ความคุ้นเคยกับการพูด |
|
2 |
3-4 นาทีรวมเตรียมตัว |
พูดตามหัวข้อที่กำหนด |
ความสามารถในการพูดต่อเนื่อง |
|
3 |
4-5 นาที |
สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น |
การวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็น |
เกณฑ์การให้คะแนนประกอบด้วย Fluency and Coherence (ความคล่องแคล่วและความเชื่อมโยง) Lexical Resource (คำศัพท์) Grammatical Range and Accuracy (ไวยากรณ์) และ Pronunciation (การออกเสียง) แต่ละด้านมีน้ำหนักเท่ากันที่ 25%
III. เกณฑ์การให้คะแนน IELTS
โครงสร้างข้อสอบ IELTS ใช้ระบบคะแนน Band 0-9
|
Band Score |
ระดับความสามารถ |
คำอธิบาย |
|
9 |
Expert User |
ใช้ภาษาได้อย่างเชี่ยวชาญ |
|
8 |
Very Good User |
ใช้ภาษาได้ดีมาก มีข้อผิดพลาดเล็กน้อย |
|
7 |
Good User |
ใช้ภาษาได้ดี มีข้อผิดพลาดบ้างในบางสถานการณ์ |
|
6 |
Competent User |
ใช้ภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยทั่วไป |
|
5 |
Modest User** |
ใช้ภาษาได้บางส่วน เข้าใจความหมายโดยรวม |
ตัวอย่างการคำนวณ: หากคุณได้คะแนน Listening 6.5, Reading 6.0, Writing 6.0, Speaking 7.0 คะแนนรวมจะเป็น (6.5+6.0+6.0+7.0)/4 = 6.375 ซึ่งจะปัดขึ้นเป็น 6.5
IV. กลยุทธ์การเตรียมตัวสอบ IELTS จากความเข้าใจในโครงสร้าง
1. การวางแผนการเรียนและตั้งเป้าหมายคะแนน
การเตรียมสอบ IELTS ที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากการประเมินระดับปัจจุบันของตนเองอย่างตรงไปตรงมา คุณสามารถทำ Diagnostic Test หรือ Mock Test เพื่อหาจุดแข็งและจุดอ่อนในแต่ละทักษะ จากนั้นกำหนดเป้าหมายคะแนนที่สมเหตุสมผลตามความต้องการของสถาบันหรือองค์กรที่คุณสมัคร
|
ระดับเริ่มต้น |
เป้าหมาย |
ระยะเวลาแนะนำ |
ชั่วโมงต่อวัน |
|
Band 4.0-4.5 |
Band 6.0 |
6-9 เดือน |
2-3 ชั่วโมง |
|
Band 5.0-5.5 |
Band 6.5 |
4-6 เดือน |
1.5-2 ชั่วโมง |
|
Band 6.0 |
Band 7.0 |
3-4 เดือน |
1-2 ชั่วโมง |
|
Band 6.5 |
Band 8.0 |
4-6 เดือน |
2-3 ชั่วโมง |
ตัวอย่าง:
- Listening: 7.0
- Reading: 6.5
- Writing: 6.0
- Speaking: 7.0
- Overall: (7.0 + 6.5 + 6.0 + 7.0) ÷ 4 = 6.5
บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม:
เช็กลิสต์ของที่ต้องมีก่อนเข้าห้องสอบแบบครบจบในที่เดียว!
ตารางสอบ IELTS ปี 2025 พร้อมวันสอบ
รวมเว็บทำข้อสอบ IELTS พร้อมเฉลย
V. ข้อมูลเสริมและคำถามที่พบบ่อย
1. การสอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์ให้ผลเร็วกว่าแบบกระดาษจริงหรือไม่?
ใช่ การสอบแบบ Computer-delivered ได้ผลภายใน 3-5 วันทำการ ขณะที่แบบ Paper-based ใช้เวลา 13 วัน คุณภาพคะแนนเท่าเทียมกัน การเลือกรูปแบบขึ้นอยู่กับความถนัดส่วนบุคคล หากคุ้นเคยกับการพิมพ์คีย์บอร์ดควรเลือกแบบคอมพิวเตอร์ หากชอบเขียนด้วยลายมือและทำเครื่องหมายในข้อสอบควรเลือกแบบกระดาษ
|
ประเภทการสอบ |
เวลาได้ผล |
ข้อดี |
|
Computer-delivered |
3-5 วัน |
พิมพ์ง่าย นับคำอัตโนมัติ |
|
Paper-based |
13 วัน |
เขียนด้วยมือ ทำเครื่องหมายได้ |
2. "Not Given" ในข้อสอบ Reading แตกต่างจาก "False" อย่างไร?
"False" หมายถึงข้อความขัดแย้งกับเนื้อหาในบทความอย่างชัดเจน มีหลักฐานโต้แย้งได้โดยตรง ส่วน "Not Given" คือไม่มีข้อมูลใดๆ ในบทความที่จะยืนยันหรือปฏิเสธข้อความในข้อสอบ
ตัวอย่าง: บทความระบุ "การออกกำลังกายช่วยลดความเครียด" หากข้อสอบถามว่า "การออกกำลังกายเพิ่มความเครียด" คำตอบคือ "False" แต่หากถามว่า "การออกกำลังกายควรทำทุกวัน" ซึ่งบทความไม่ได้กล่าวถึงความถี่ คำตอบจะเป็น "Not Given"
3. ทักษะย่อยสำคัญสำหรับ Writing Task 1 Academic และ General Training
Academic Task 1 เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงตัวเลข ต้องใช้ทักษะการอ่านกราฟ การเปรียบเทียบข้อมูล การระบุแนวโน้ม และการใช้ภาษาทางการ General Training Task 1 เน้นการเขียนจดหมาย ต้องใช้ทักษะการระบุวัตถุประสงค์ การเลือกภาษาที่เหมาะสมกับผู้รับ และการจัดโครงสร้างจดหมาย
|
Academic Task 1 |
General Training Task 1 |
|
วิเคราะห์กราฟ/ตาราง |
เขียนจดหมายตามสถานการณ์ |
|
ใช้ภาษาเป็นทางการ |
เลือกระดับความเป็นทางการ |
|
บรรยายแนวโน้มข้อมูล |
สื่อสารตามวัตถุประสงค์ |
4. การสมดุลระหว่าง Fluency และ Accuracy ใน Speaking
สำหรับเป้าหมาย Band 6.0 ลงมา ควรเน้น Fluency ก่อน เพราะการพูดติดขัดกระทบคะแนนมากกว่าข้อผิดพลาดเล็กน้อย สำหรับ Band 7.0 ขึ้นไป ต้องสมดุลทั้งสองด้าน โดยฝึก Self-correction และใช้ Paraphrasing เมื่อลืมคำศัพท์ การฝึกควรเริ่มจากสร้างความมั่นใจในการพูด จากนั้นค่อยเพิ่มความซับซ้อนของไวยากรณ์และคำศัพท์
โครงสร้างข้อสอบ IELTS ประกอบด้วย 4 ทักษะ: Listening (30 นาที + 10 นาที), Reading (60 นาที), Writing (60 นาที), Speaking (11-14 นาที) รวมเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที การสอบแบ่งเป็น Academic สำหรับเรียนต่อ และ General Training สำหรับทำงาน/อพยพ
Listening และ Speaking มีรูปแบบเหมือนกันทั้ง 2 ประเภท แต่ Reading และ Writing Task 1 แตกต่างกัน Academic มุ่งเน้นเนื้อหาเชิงวิชาการและการอธิบายกราฟ ขณะที่ General Training เน้นเนื้อหาชีวิตประจำวันและการเขียนจดหมาย
คะแนน IELTS เป็น Band 0-9 โดย Listening และ Reading แปลงจากจำนวนข้อถูก ส่วน Writing และ Speaking ให้คะแนนตามเกณฑ์ 4 ด้าน คะแนนรวมเป็นค่าเฉลี่ยของ 4 ทักษะ การเข้าใจโครงสร้างข้อสอบอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณวางแผนการเตรียมตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายคะแนนที่ต้องการ
เตรียมสอบ IELTS อย่างเป็นระบบกับ PREP Edu การเข้าใจโครงสร้างข้อสอบ IELTS เป็นเพียงจุดเริ่มต้น PREP มีคอร์สเรียน IELTS ออนไลน์ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณเตรียมตัวครบทุกทักษะอย่างเป็นระบบ ด้วยหลักสูตรที่ครอบคลุมทั้ง Listening, Reading, Writing และ Speaking พร้อมระบบ Virtual Writing Room ที่ตรวจงานเขียนและให้คำแนะนำแบบเจาะลึก และ Virtual Speaking Room ที่ช่วยฝึกการพูดพร้อมให้คะแนนตามเกณฑ์ IELTS จริง นอกจากนี้ยังมี Teacher Bee AI ที่คอยตอบคำถามและให้คำปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ระบบจะวิเคราะห์จุดอ่อนของคุณและสร้างแผนการเรียนที่เหมาะสม มาเริ่มต้นเตรียมสอบอย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจในการสอบกับเตรียมสอบ IELTS ที่ PREP วันนี้

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
เนื้อหาแบบพรีเมียม
ดูทั้งหมดแผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
















