To V กับ Ving ใช้ยังไงให้ถูกต้อง? รวมคำอธิบายและตัวอย่าง!

หลายคนมักเจอปัญหาเวลาต้องเลือกใช้ to study หรือ studying ในประโยคภาษาอังกฤษ ความสับสนนี้เกิดขึ้นบ่อยมากจนทำให้การสื่อสารผิดพลาดและสูญเสียความมั่นใจในการใช้ภาษา แม้แต่ผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษมานานก็ยังพลาดได้ง่ายๆ

บทความนี้จะอธิบายการใช้ To V กับ Ving อย่างละเอียด ครอบคลุมทั้ง gerund และ to infinitive พร้อมเทคนิคการจำแม่นและตัวอย่างประโยคที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน

ความเข้าใจเรื่อง ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ในส่วนของ verb รูปแบบต่างๆ เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะส่งผลต่อทักษะการสื่อสารทั้งหมด การใช้ to verb และ ving ผิดไม่เพียงแต่ทำให้ประโยคฟังดูแปลกเท่านั้น แต่ยังอาจเปลี่ยนความหมายไปโดยสิ้นเชิง

ในระบบ ing verbs และ verb ing มีหลักการเฉพาะที่ต้องเข้าใจ ตั้งแต่การใช้หลังกริยาแต่ละประเภท การใช้หลังคำบุพบท ไปจนถึงการทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในประโยค ขณะที่ to infinitive มักใช้เพื่อแสดงวัตถุประสงค์ ความต้องการ หรือการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ความแตกต่างเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องท่องจำอย่างกึ่งๆ กลางๆ แต่เป็นระบบที่มีลอจิกและรูปแบบที่สามารถเรียนรู้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อเข้าใจหลักการแล้ว การเลือกใช้รูปแบบที่ถูกต้องจะกลายเป็นสัญชาตญาณและช่วยยกระดับการใช้ภาษาอังกฤษของคุณอย่างเห็นได้ชัด

คู่มือฉบับนี้จะพาคุณเรียนรู้ทีละขั้นตอน ตั้งแต่หลักการพื้นฐานไปจนถึงเทคนิคระดับแอดวานซ์ พร้อมตัวอย่างประโยคจริงและเคล็ดลับการจำที่ทำให้คุณใช้งานได้อย่างมั่นใจ

มาเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจพื้นฐานของ To V และ Ving กันก่อน เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเรียนรู้ต่อไป

I. To V (Infinitive) และ V-ing (Gerund) คืออะไร?

1. To Infinitive (to + Verb ช่อง 1)

To infinitive คือการนำคำว่า "to" มาวางหน้า verb ช่องที่ 1 เพื่อแสดงความต้องการ เป้าหมาย หรือวัตถุประสงค์ในอนาคต โครงสร้างนี้มักใช้เมื่อต้องการบอกถึงสิ่งที่ยังไม่ได้ทำหรือกำลังจะทำ

ตัวอย่างประโยค:

• I want to learn Spanish this year. (ฉันอยากเรียนภาษาสเปนในปีนี้)

• She decided to quit her job. (เธอตัดสินใจลาออกจากงาน)

• We need to finish this project by Friday. (เราจำเป็นต้องทำโปรเจกต์นี้ให้เสร็จภายในวันศุกร์)

2. Gerund (Verb + ing)

Gerund หรือ ing verbs คือการเติม "-ing" หลัง verb เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นคำนามในประโยค สามารถเป็นได้ทั้งประธาน กรรม หรือส่วนประกอบอื่นของประโยค รูปแบบนี้มักแสดงถึงการกระทำที่เป็นประสบการณ์ ความชอบ หรือกิจกรรมทั่วไป

II. กริยาตัวไหนต้องตามด้วย To V หรือ Ving?

1. กริยาที่ต้องตามด้วย V-ing (Gerund) เสมอ

กลุ่มกริยาเหล่านี้แสดงถึงการกระทำที่เป็นประสบการณ์ ความรู้สึก หรือกิจกรรมที่เกิดขึ้นแล้ว:

คำกริยาอื่นๆ ในกลุ่มนี้ ได้แก่:

• admit (ยอมรับ)

• consider (พิจารณา)

• deny (ปฏิเสธ)

• mind (รังเกียจ)

• postpone (เลื่อน)

2. กริยาที่ต้องตามด้วย To V (Infinitive) เสมอ

กลุ่มนี้มักแสดงถึงความต้องการ ความตั้งใจ หรือการวางแผนในอนาคต:

3. กริยาที่ใช้ได้ทั้ง To V และ V-ing โดยที่ความหมายไม่เปลี่ยน

กริยาบางตัวสามารถใช้ได้ทั้งสองรูปแบบโดยความหมายเหมือนกัน:

Start และ Begin:

• I started to learn French. / I started learning French. (ฉันเริ่มเรียนภาษาฝรั่งเศส)

• She began to cry. / She began crying. (เธอเริ่มร้องไห้)

Like และ Love:

• He likes to swim. / He likes swimming. (เขาชอบว่ายน้ำ)

• They love to dance. / They love dancing. (พวกเขารักการเต้นรำ)

4. กริยาที่ใช้ได้ทั้ง To V และ V-ing แต่ความหมายเปลี่ยน

กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ต้องระวังมากที่สุดเพราะความหมายจะแตกต่างกันสิ้นเชิง:

III. เจาะลึกการใช้งานในบริบทอื่นๆ

1. การใช้ V-ing ทันทีหลังคำบุพบท (Prepositions)

หลักสำคัญคือหลังคำบุพบทต้องใช้ verb ing เสมอ ไม่มีข้อยกเว้น:

ตัวอย่างคำบุพบทที่พบบ่อย:

• after: After finishing homework, I watched TV. (หลังจากทำการบ้านเสร็จ ฉันดูทีวี)

• before: Before leaving home, check the weather. (ก่อนออกจากบ้าน ตรวจสอบสภาพอากาศ)

• without: She left without saying goodbye. (เธอไปโดยไม่ลาลา)

• by: You can improve by practicing daily. (คุณสามารถพัฒนาได้โดยการฝึกทุกวัน)

2. การใช้ V-ing เป็นประธาน (Subject) และกรรม (Object) ของประโยค

เมื่อต้องการใช้ verb เป็นประธานหรือกรรมของประโยค ต้องใช้รูป gerund เสมอ:

เป็นประธาน:

• Reading books improves vocabulary. (การอ่านหนังสือช่วยพัฒนาคำศัพท์)

• Learning ving is essential for English grammar. (การเรียนรู้ ving เป็นสิ่งสำคัญสำหรับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ)

เป็นกรรม:

• My hobby is collecting stamps. (งานอดิเรกของฉันคือการสะสมแสตมป์)

• His dream is becoming a doctor. (ความฝันของเขาคือการเป็นหมอ)

3. การใช้ To V เพื่อบอกวัตถุประสงค์ 

To infinitive ใช้เพื่อแสดงวัตถุประสงค์หรือเหตุผลของการกระทำ:

• I went to the library to study. (ฉันไปห้องสมุดเพื่อเรียน)

• She saved money to buy a car. (เธอเก็บเงินเพื่อซื้อรถ)

• We exercise to stay healthy. (เราออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี)

บทความแนะนำอ่านต่อ:

เข้าใจ Transitive and Intransitive Verbs ใน 5 นาที

แยกให้ชัด Gerund และ To Infinitive ใช้ยังไงให้ไม่สับสน

Verb Infinitive คืออะไร ใช้อย่างไรให้ถูกต้อง

IV. เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

1. ความแตกต่างระหว่าง Gerund และ Present Participle

แม้ว่าทั้งสองจะมีรูปแบบ V-ing เหมือนกัน แต่หน้าที่ต่างกัน:

2. การใช้กับกริยารับรู้: see, hear, feel + V หรือ V-ing?

กริยารับรู้มีกฎพิเศษในการใช้ To V กับ Ving:

Bare Infinitive (V1) - การกระทำที่สมบูรณ์:

• I saw him cross the street. (ฉันเห็นเขาข้ามถนน - เห็นการกระทำทั้งหมด)

• We heard her sing the entire song. (เราได้ยินเธอร้องเพลงทั้งเพลง)

Present Participle (V-ing) - การกระทำที่กำลังดำเนินอยู่:

• I saw him crossing the street. (ฉันเห็นเขากำลังข้ามถนน - เห็นขณะที่กำลังทำ)

• We heard her singing in the shower. (เราได้ยินเธอกำลังร้องเพลงในห้องน้ำ)

V. ถาม-ตอบข้อสงสัยยอดฮิต (FAQs)

1. Gerund กับ Present Participle มีวิธีสังเกตความแตกต่างในประโยคอย่างไร?

วิธีง่ายๆ ในการแยกแยะคือดูหน้าที่ในประโยค หาก V-ing ทำหน้าที่เป็นประธาน กรรม หรือตามหลังคำบุพบท นั่นคือ gerund แต่หากทำหน้าที่ขยายคำนามหรือเป็นส่วนหนึ่งของกาล นั่นคือ Present Participle

2. มีหลักการหรือ "ความรู้สึก" ในการจำกลุ่มคำกริยาที่ใช้กับ To V หรือ V-ing ให้ง่ายขึ้นไหม?

กริยาที่ตามด้วย to verb มักเป็นกริยาที่เกี่ยวกับอนาคต ความต้องการ หรือเป้าหมาย ส่วนกริยาที่ตามด้วย ving มักเป็นกริยาที่เกี่ยวกับประสบการณ์ ความรู้สึก หรือกิจกรรมที่เกิดขึ้นแล้ว

3. การใช้ to + V กับการใช้ V รูปแบบปกติ (Bare Infinitive) หลังคำกริยาบางตัว ต่างกันอย่างไร?

Bare Infinitive ใช้หลัง modal verbs (can, will, must) และกริยาบางตัว (let, make, help) โดยไม่มี "to" ส่วน to infinitive ใช้กับกริยาส่วนใหญ่ที่แสดงความต้องการหรือเป้าหมาย

4. เราจำเป็นต้องท่องจำลิสต์คำกริยาทั้งหมดเพื่อจะใช้งานได้ถูกต้องหรือไม่?

การท่องจำลิสต์เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่การเข้าใจหลักการและฝึกใช้ในบริบทจริงจะช่วยให้จำได้นานและใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า การอ่านและฟังภาษาอังกฤษเป็นประจำจะช่วยให้คุ้นเคยกับรูปแบบเหล่านี้

การเชี่ยวชาญ To V กับ Ving ต้องอาศัยการเข้าใจหลักการพื้นฐาน การจำกลุ่มกริยาที่สำคัญ และการฝึกใช้ในสถานการณ์จริง จุดสำคัญที่ต้องจำได้แก่ กริยาที่ตามด้วย to verb มักแสดงความต้องการและเป้าหมาย ขณะที่กริยาที่ตามด้วย ving มักแสดงประสบการณ์และกิจกรรม

การใช้ ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ให้ถูกต้องจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นในการสอบหรือการใช้งานในชีวิตประจำวัน ความเข้าใจเรื่อง gerund และ to infinitive เป็นรากฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในระดับที่สูงขึ้น

ฝึกฝนให้มากและใช้งานจริงในการสนทนาหรือการเขียน คุณจะพบว่าการใช้ verb รูปแบบต่างๆ เหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องธรรมชาติในเวลาไม่นาน

การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง To V (Infinitive) และ Ving (Gerund) และวิธีการใช้งานอย่างถูกต้องจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถสร้างประโยคได้อย่างแม่นยำและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในภาษาอังกฤษ ทั้ง To V และ Ving สามารถใช้แทนคำนามในประโยคได้ แต่การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับกริยาหรือโครงสร้างที่นำหน้า กริยาบางตัวตามด้วย To V เท่านั้น เช่น want, plan, decide, hope, expect, refuse, promise เช่น "I want to study abroad" (ฉันอยากเรียนต่อต่างประเทศ) ขณะที่บางกริยาตามด้วย Ving เท่านั้น เช่น enjoy, finish, avoid, consider, suggest, mind, keep เช่น "She enjoys reading books" (เธอชอบอ่านหนังสือ) นอกจากนี้ มีกริยาบางตัวที่สามารถตามด้วยทั้ง To V และ Ving ได้ โดยอาจมีความหมายเหมือนกัน เช่น start, begin, continue หรือความหมายแตกต่างกัน เช่น remember, forget, stop การเข้าใจความแตกต่างนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง

การเรียนรู้กฎการใช้ To V และ Ving ในบริบทต่างๆ เช่น การใช้ To V เพื่อแสดงวัตถุประสงค์ ความตั้งใจ หรือความคาดหวัง และการใช้ Ving เพื่อแสดงการกระทำที่เกิดขึ้นจริงหรือประสบการณ์จะช่วยเพิ่มความเข้าใจ นอกจากนี้ การฝึกฝนการใช้โครงสร้างพิเศษ เช่น "It is + adjective + to V" (เป็นเรื่อง...ที่จะ...), "be used to + Ving" (คุ้นเคยกับการ...), "look forward to + Ving" (รอคอยที่จะ...) จะทำให้ผู้เรียนสามารถใช้ทั้งสองรูปแบบได้อย่างหลากหลายและเป็นธรรมชาติ การเชี่ยวชาญการใช้ To V และ Ving อย่างถูกต้องเป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยเพิ่มคะแนนในเกณฑ์ Grammatical Range and Accuracy ของการสอบ IELTS ทุกส่วน

การแยกแยะและใช้ To V กับ Ving อย่างถูกต้องเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญสำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษ Prepedu จัดทำแผนตารางเรียน IELTS ออนไลน์ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งและความชำนาญในการใช้โครงสร้างไวยากรณ์นี้ หลักสูตร Grammar Foundation อธิบายกฎการใช้ To V และ Ving ผ่านตัวอย่างจริงและบริบทที่เข้าใจง่าย พร้อมแบบฝึกหัดที่ช่วยฝึกการจำแนกและเลือกใช้อย่างถูกต้อง หลักสูตร Writing พัฒนาทักษะการใช้ทั้งสองโครงสร้างในบริบทที่เหมาะสม เช่น การแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล และการเสนอแนะ ขณะที่หลักสูตร Speaking ฝึกความคล่องแคล่วในการเลือกใช้ To V และ Ving อย่างถูกต้องและรวดเร็วในการสนทนา ระบบ Virtual Writing Room และ Virtual Speaking Room ตรวจจับข้อผิดพลาดในการใช้โครงสร้างนี้และให้คำอธิบายที่ชัดเจนพร้อมตัวอย่างที่ถูกต้อง ทีมอาจารย์มืออาชีพให้ความสำคัญกับการแก้ไขข้อผิดพลาดอย่างละเอียดเพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจและไม่ทำผิดซ้ำ ส่งผลให้คะแนนไวยากรณ์พัฒนาอย่างมีนัยสำคัญ