ไขข้อข้องใจ Infinitive คืออะไร? ทำความรู้จักใน 1 นาที

หยุดสับสนกับไวยากรณ์ที่ทำให้คุณพูดภาษาอังกฤษผิดไปทุกวัน! หลายคนเรียนภาษาอังกฤษมาหลายปี แต่ยังไม่เข้าใจว่าเมื่อไหร่ต้องใช้ "to" หน้ากริยา เมื่อไหร่ไม่ต้องใช้ ทำให้การสื่อสารติดขัดและฟังดูไม่เป็นธรรมชาติ ปัญหานี้เกิดจากการไม่เข้าใจ Infinitive อย่างแท้จริง

Infinitive คือรูปพื้นฐานของกริยาที่เป็นหัวใจสำคัญของภาษาอังกฤษ Verb infinitive คือ โครงสร้างที่คุณใช้ทุกวันแต่อาจไม่รู้ตัว ความเข้าใจที่ถูกต้องจะเปลี่ยนระดับการสื่อสารของคุณทันที

การที่ infinitive verb คือ ส่วนประกอบสำคัญในประโยคภาษาอังกฤษ ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่ามันซับซ้อน ความจริงแล้ว inf คือ รูปแบบกริยาที่มีกฎง่ายๆ แต่ต้องเข้าใจให้ถูก เมื่อคุณเชี่ยวชาญ v infinitive คือ อะไร คุณจะสามารถแยกแยะได้ว่าเมื่อไหร่ต้องพูด "I want to go" และเมื่อไหร่พูด "I can go" โดยไม่สับสน

สาเหตุที่ v.infinitive คือ หัวข้อที่นักเรียนมักทำผิด เพราะในภาษาไทยไม่มีโครงสร้างแบบนี้ ทำให้เราต้องเรียนรู้รูปแบบการใช้ที่แตกต่าง การที่ v infinitive ปรากฏในทุกบทสนทนา ทุกข้อสอบ และทุกสถานการณ์การใช้ภาษาอังกฤษ จึงทำให้การเข้าใจเรื่องนี้อย่างถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

บทความนี้จะพาคุณเข้าใจ infinitive ทั้ง 2 รูปแบบ รู้จักหน้าที่ 5 ประการที่สำคัญ เรียนรู้กฎการใช้ที่ชัดเจน และตอบคำถามที่พบบ่อยที่สุด คุณจะได้เคล็ดลับการใช้งานจริงที่ทำให้การสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณฟังดูเป็นธรรมชาติและถูกต้องตามหลักไวยากรณ์

เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงระดับภาษาอังกฤษของคุณได้เลยจากการทำความเข้าใจ Infinitive ในรายละเอียดต่อไปนี้

I. รูปแบบพื้นฐานของ Infinitive

Infinitive คือรูปพื้นฐานของกริยาที่ยังไม่ได้ผันตามกาล บุรุษ หรือจำนวน โดยมีอยู่ 2 รูปแบบหลักที่คุณต้องเข้าใจ

1. Infinitive มี to

รูปแบบนี้เป็นที่รู้จักมากที่สุด เพราะ verb infinitive คือ กริยาที่มี "to" นำหน้า เช่น to eat (กิน), to learn (เรียนรู้), to understand (เข้าใจ) โครงสร้างนี้ปรากฏในประโยคทั่วไปอย่างแพร่หลาย

2. Infinitive ไม่มี to

Infinitive verb คือกริยาในรูปพื้นฐานที่ไม่มี "to" นำหน้า ซึ่งใช้ในสถานการณ์เฉพาะเจาะจง เช่น eat (กิน), learn (เรียน), go (ไป) รูปแบบนี้มักทำให้ผู้เรียนสับสนเพราะดูเหมือนกริยาธรรมดา แต่จริงๆ แล้วเป็น Infinitive

II. หน้าที่ของ Infinitive ในประโยค

Inf คือ รูปแบบกริยาที่สามารถทำหน้าที่ได้หลากหลายในประโยค ไม่ใช่แค่กริยาเท่านั้น ดังตารางหน้าที่ต่อไปนี้

III. เจาะลึกโครงสร้างและตำแหน่งการใช้ Infinitive ที่พบบ่อย

การเข้าใจโครงสร้างและตำแหน่งที่ infinitive คือ ส่วนสำคัญจะช่วยให้คุณใช้ได้อย่างถูกต้องและธรรมชาติ

1. ใช้ตามหลัง คำกริยา (Verb) กลุ่มที่ต้องมี to-infinitive ตามหลัง

กริยาเหล่านี้ต้องตามด้วย to-infinitive เสมอ ไม่สามารถใช้รูปแบบอื่นได้ เช่น I want go ผิด ต้องเป็น I want to go

2. ใช้ตามหลัง คำคุณศัพท์ (Adjective) เพื่อให้ข้อมูลเพิ่ม

คำคุณศัพท์หลายตัวต้องตามด้วย infinitive เพื่อให้ความหมายสมบูรณ์ เช่น:

• Easy to understand - ง่ายต่อการเข้าใจ: This book is easy to understand. (หนังสือเล่มนี้เข้าใจง่าย)

• Ready to start - พร้อมเริ่ม: We are ready to start the project. (เราพร้อมเริ่มโปรเจกต์)

• Excited to learn - ตื่นเต้นที่จะเรียน: Students are excited to learn new topics. (นักเรียนตื่นเต้นที่จะเรียนหัวข้อใหม่)

3. ใช้ในโครงสร้าง 'too...to' และ 'enough...to' ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน

4. กฎเหล็กของการใช้ Bare Infinitive (กริยาไม่เติม to)

ตามหลัง Modal Verbs (can, will, must, should, etc.)

Modal verbs ทุกตัวต้องตามด้วย bare infinitive เท่านั้น ไม่มีข้อยกเว้น

• You can speak English fluently. (คุณพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง) 

• We should leave now. (เราควรไปแล้ว)

ตามหลัง Verbs of Perception (see, hear, feel, watch)

กริยาที่เกี่ยวกับการรับรู้ต้องใช้ bare infinitive เช่น 

• I saw him leave the building. (ฉันเห็นเขาออกจากอาคาร) 

ตามหลังกริยาพิเศษ: make, let, help

• Make someone do something - บังคับให้ทำ: The teacher made us study harder. (อาจารย์บังคับให้เราเรียนหนักขึ้น)

• Let someone do something - อนุญาตให้ทำ: My parents let me go out tonight. (พ่อแม่ให้ฉันออกไปเที่ยวคืนนี้)

• Help someone do something - ช่วยทำ: Could you help me carry this box? (ช่วยฉันยกกล่องนี้ได้ไหม)

IV. Infinitive รูปแบบซับซ้อน

เมื่อเข้าใจพื้นฐานแล้ว เรามาดูรูปแบบขั้นสูงของ infinitive คือ อะไรบ้าง

1. Perfect Infinitive (to have + V.3): เมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีต

รูปแบบนี้ใช้เมื่อการกระทำของ infinitive เกิดขึ้นก่อนการกระทำหลัก เช่น I'm sorry to have kept you waiting. (ขอโทษที่ให้คุณรอ)

2. Passive Infinitive (to be + V.3): เมื่อประธานเป็นผู้ถูกกระทำ

Passive infinitive ใช้เมื่อต้องการเน้นว่าประธานเป็นผู้รับการกระทำ เช่น:

• The document needs to be reviewed carefully. (เอกสารต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด) 

• This problem has to be solved immediately. (ปัญหานี้ต้องได้รับการแก้ไขทันที)

บทความแนะนำอ่านต่อ:

• To V กับ Ving ใช้ยังไงให้ถูกต้อง?

V. คำถามที่พบบ่อยและข้อควรรู้เพิ่มเติม

1. Infinitive ต้องมี 'to' นำหน้าเสมอไปหรือไม่?

ไม่จริง infinitive มี 2 รูปแบบคือ to-infinitive และ bare infinitive ขึ้นอยู่กับบริบทและกริยาที่นำหน้า เช่น I can swim (bare) vs I want to swim (to-infinitive)

2. "Split Infinitive" ที่เคยได้ยินคืออะไร และผิดไวยากรณ์จริงหรือ?

Split infinitive คือการแทรกคำระหว่าง "to" และ กริยา เช่น "to boldly go" แทนที่จะเป็น "to go boldly" ในปัจจุบันไวยากรณ์นี้ยอมรับได้แล้ว โดยเฉพาะในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน

3. นอกจาก want, need แล้ว มีคำกริยากลุ่มไหนอีกบ้างที่ต้องตามด้วย Infinitive with to?

4. Infinitive กับ Gerund (V-ing) ใช้ต่างกันอย่างไรในสถานการณ์ที่คล้ายกัน?

V infinitive คือ รูปแบบที่เน้นการกระทำในอนาคตหรือจุดประสงค์ ส่วน Gerund เน้นการกระทำที่เป็นนามธรรมหรือประสบการณ์ เช่น:

• I like to swim (ฉันชอบว่ายน้ำ - กิจกรรมเฉพาะ)

• I like swimming (ฉันชอบการว่ายน้ำ - กิจกรรมโดยทั่วไป)

การเข้าใจว่า infinitive คืออะไรและใช้อย่างไรจะช่วยให้คุณสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างแม่นยำและธรรมชาติมากขึ้น จำไว้ว่า infinitive มี 2 รูปแบบหลัก คือ to-infinitive และ bare infinitive ซึ่งแต่ละรูปแบบมีกฎการใช้ที่แตกต่างกัน

หน้าที่ 5 ประการของ infinitive ในประโยคทำให้คุณสามารถสร้างประโยคที่หลากหลายและซับซ้อนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าที่เป็นประธาน กรรม หรือส่วนขยายต่างๆ การฝึกฝนการใช้ infinitive อย่างสม่ำเสมอจะช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ PREP พร้อมเป็นพี่เลี้ยงที่จะช่วยให้คุณเชี่ยวชาญ infinitive และไวยากรณ์อื่นๆ จนสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์

การเรียน IELTS ออนไลน์ไม่เคยง่ายขนาดนี้มาก่อนกับ PREP - แพลตฟอร์มการเรียนและฝึกสอบอัจฉริยะด้วย AI ด้วยเทคโนโลยี AI พิเศษจาก PREP คุณสามารถเรียนออนไลน์ที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมผ่านการฝึกอบรมที่เหมาะสมในการเรียน IELTS อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นักเรียนยังได้รับการช่วยเหลือจาก Teacher Bee AI ผู้ช่วยเสมือนที่จะช่วยตอบคำถามและร่วมเดินทางไปกับคุณตลอดกระบวนการเรียนรู้แบบตัวต่อตัว