Phrasal Verbs Run พร้อมใช้ เข้าใจใน 3 นาที!

คุณเคยสับสนกับการใช้ phrasal verbs run ในภาษาอังกฤษหรือไม่? การที่คำว่า "run" เมื่อมาผสมกับคำบุพบทต่างๆ จะให้ความหมายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำให้หลายคนรู้สึกงงงวยและไม่กล้าใช้ในการสนทนาจริง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ

บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ phrasal verbs run แบบครบถ้วน ตั้งแต่ phrasal verb คือ อะไร ไปจนถึงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน เพื่อให้คุณเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมั่นใจ

Phrasal verb การ ใช้ในภาษาอังกฤษถือเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะ phrasal verbs run ที่ปรากฏในบทสนทนาและการเขียนของเจ้าของภาษาถึง 85% ของเวลา การเข้าใจ phrasal verb คือ อะไร จะช่วยยกระดับความสามารถในการฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างมีนัยสำคัญ

ตัวอย่างเช่น run into ไม่ได้หมายถึงการ "วิ่งเข้าไป" แต่หมายถึง "บังเอิญเจอ" หรือ run out of ที่หมายถึง "หมด" ไม่ใช่ "วิ่งออกจาก" การเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถตีความและใช้ phrasal verb ตัวอย่างประโยค ได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้การสื่อสารมีความแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษทั้งในด้านการศึกษาและการทำงาน

ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้ 8 phrasal verbs กับ 'run' ที่ใช้บ่อยที่สุด พร้อมตัวอย่างประโยคและเทคนิคการจำแบบง่ายๆ รวมถึงการแยกแยะ separable และ inseparable phrasal verbs ที่จะช่วยให้คุณใช้ไวยากรณ์ได้ถูกต้อง

มาเริ่มต้นการเรียนรู้ด้วยการทำความเข้าใจพื้นฐานของ phrasal verbs กันก่อน เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเรียนรู้ต่อไป

I. Phrasal Verb คืออะไร?

Phrasal verb คือ การรวมกันระหว่างกริยา (verb) กับคำบุพบท (preposition) หรือกริยาวิเศษณ์ (adverb) ที่เมื่อนำมาประกอบกันแล้ว จะให้ความหมายที่แตกต่างไปจากคำเดิมอย่างสิ้นเชิง phrasal verb คือ อะไร ที่ทำให้ภาษาอังกฤษดูซับซ้อนแต่น่าสนใจในเวลาเดียวกัน

โครงสร้างหลักที่ต้องรู้: 

Verb + Adverb/Preposition

โครงสร้างของ phrasal verb การ ใช้ จะมีรูปแบบพื้นฐานดังนี้:

สิ่งที่ทำให้ phrasal verb คือ อะไร ที่พิเศษคือความหมายที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น run (วิ่ง) + into (เข้าไป) ≠ วิ่งเข้าไป แต่หมายถึง บังเอิญเจอ ซึ่งต่างจากความหมายตรงตัวอย่างสิ้นเชิง

II. เจาะลึก 8 Phrasal Verbs กับ 'Run' ที่ใช้บ่อยที่สุดในชีวิตประจำวัน

การศึกษา phrasal verbs run แบบเจาะลึกจะช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ในสถานการณ์จริงได้อย่างมั่นใจ ต่อไปนี้เป็น 8 phrasal verbs ที่มีความสำคัญและใช้บ่อยที่สุด

1. Run into: การ "เจอ" แบบไม่ได้นัดหมาย

run into เป็นหนึ่งใน phrasal verbs run ที่ใช้บ่อยที่สุด มีความหมายหลัก 2 แบบ คือ การบังเอิญเจอใครสักคนหรือการชนกับสิ่งของ

2. Run out of: เมื่อบางสิ่งบางอย่าง "หมด" ไป

Phrasal verb นี้ใช้เมื่อต้องการบอกว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งหมดไปหรือใกล้จะหมด เป็นการแสดงถึงสถานะของการขาดแคลน

การใช้ run out of ในชีวิตประจำวัน มักจะเกี่ยวข้องกับ:

• อาหารและเครื่องดื่ม เช่น We're running out of milk. (นมของเราใกล้หมดแล้ว)

• เวลา เช่น I'm running out of time. (เวลาของฉันใกล้หมดแล้ว)

• เงิน เช่น She ran out of money. (เธอเงินหมด)

3. Run down: ความหมายหลากหลายตั้งแต่ "วิจารณ์" จนถึง "สภาพแย่"

Phrasal verb run down เป็นคำที่มีความหมายหลากหลายมากที่สุดใน phrasal verbs run กลุ่มนี้ ขึ้นอยู่กับบริบทของประโยค

4. Run over: "ทับ/ชน" หรือ "ทบทวน" อย่างรวดเร็ว

run over มีความหมายที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โดยมักใช้ในสองบริบทหลัก คือ การขับรถทับสิ่งของหรือการทบทวนข้อมูลอย่างรวดเร็ว

การใช้ run over ในชีวิตประจำวัน:

• การจราจร: The car ran over a cat. (รถคันนั้นทับแมว)

• การทบทวน: Let's run over the main points again. (มาทบทวนประเด็นหลักอีกครั้ง)

• เวลาเกิน: The meeting ran over by 30 minutes. (การประชุมเกินเวลาไป 30 นาที)

5. Run off: การ "หนี" หรือการ "พิมพ์/สำเนา"

run off แปล ได้หลายความหมาย ขึ้นอยู่กับบริบทที่ใช้ โดยความหมายหลักจะเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วหรือการผลิตสิ่งของ

6. Run for: การ "ลงสมัคร" รับเลือกตั้ง

Run for แปล ว่า ลงสมัครรับเลือกตั้งหรือแข่งขันเพื่อตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง เป็น phrasal verb ที่ใช้ในบริบททางการเมืองและการแข่งขันเป็นหลัก

การใช้ run for ในประโยค มักจะตามด้วยตำแหน่งหรือหน้าที่:

• She's running for president. (เธอลงสมัครเป็นประธานาธิบดี)

• He ran for mayor last year. (เขาลงสมัครเป็นนายกเทศมนตรีเมื่อปีที่แล้ว)

• Are you running for class representative? (คุณจะลงสมัครเป็นตัวแทนชั้นเรียนไหม)

7. Run on: "พูดไม่หยุด" หรือการใช้ "พลังงาน"

Run on คือ phrasal verb ที่มีความหมายเกี่ยวข้องกับการดำเนินต่อเนื่องหรือการใช้พลังงานในการทำงาน ความหมายจะขึ้นอยู่กับบริบทของประโยค

8. Run away: การ "หลบหนี" จากสถานการณ์หรือสถานที่

run away เป็น phrasal verb ที่แสดงถึงการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกหนีจากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ บุคคล หรือสถานการณ์

การใช้ run away ในบริบทต่างๆ:

• เด็กหนีออกจากบ้าน: The teenager ran away from home. (วัยรุ่นคนนั้นหนีออกจากบ้าน)

• หลีกหนีจากปัญหา: You can't run away from your responsibilities. (คุณหนีจากความรับผิดชอบไม่ได้)

• สัตว์หนี: The dog ran away when it heard thunder. (สุนัขหนีไปเมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้อง)

บทความแนะนำอ่านต่อ:

• Phrasal verb กับ Cut – 9 คำกริยาวลีภาษาอังกฤษทั่วไปที่ใช้กับ Cut
• 8 Phrasal verb กับ Hit ที่พบบ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษ

III. ยกระดับความเข้าใจสู่ขั้นสูง

การเข้าใจ phrasal verbs run ในระดับสูงต้องมีความรู้เกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างความหมายตรงตัวและความหมายแฝง รวมถึงการจัดวาง object ในประโยค

1. ความหมายตรงตัว (Literal) vs. ความหมายแฝง (Figurative)

phrasal verb ตัวอย่างประโยค มักจะมีทั้งความหมายตรงตัวและความหมายแฝงที่ต้องอาศัยบริบทในการตีความ การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้คุณใช้ phrasal verbs run ได้อย่างถูกต้อง

ตัวอย่างความหมายตรงตัวและแฝง:

• run up (ตรงตัว): วิ่งขึ้นบันได - He ran up the stairs. (เขาวิ่งขึ้นบันได)

• run up (แฝง): ทำให้หนี้สินเพิ่มขึ้น - She ran up a huge credit card bill. (เธอทำให้หนี้บัตรเครดิตพุ่งสูงขึ้น)

2. Phrasal Verb แบบแยกได้ (Separable) และแยกไม่ได้ (Inseparable)

การจัดวาง object ใน phrasal verbs run เป็นประเด็นสำคัญที่ผู้เรียนมักเกิดความสับสน โดย phrasal verbs จะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก

การจำแนกประเภทนี้จะช่วยให้คุณสร้างประโยคได้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์

การนำ phrasal verbs run ไปใช้ในชีวิตจริงต้องอาศัยการฝึกฝนและการทำความเข้าใจบริบท เริ่มจากการจำความหมายพื้นฐาน แล้วค่อยๆ ขยายไปสู่การใช้ในสถานการณ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น

กลยุทธ์ในการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ:

• ฝึกใช้ phrasal verb ตัวอย่างประโยค ในบริบทที่คุ้นเคย

• สังเกตการใช้ใน media ภาษาอังกฤษ เช่น ภาพยนตร์ ข่าว

• ฝึกสร้างประโยคที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์ส่วนตัว

การเชี่ยวชาญ phrasal verbs run จะช่วยยกระดับความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณให้เข้าใกล้ระดับเจ้าของภาษามากขึ้น

IV. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Phrasal Verbs (FAQs)

1. Phrasal Verb กับ Verb + Preposition ทั่วไปแตกต่างกันอย่างไร?

phrasal verb คือ การรวมกันของคำที่ให้ความหมายใหม่ที่แตกต่างจากความหมายเดิมของแต่ละคำ ในขณะที่ verb + preposition ทั่วไป จะยังคงความหมายเดิมของแต่ละคำไว้

ตัวอย่างเปรียบเทียบ:

• phrasal verb: look after (ดูแล) - ความหมายใหม่ที่แตกต่างจาก look และ after

• verb + preposition: look at (มองที่) - ยังคงความหมายเดิมของทั้งสองคำ

2. Phrasal Verb กับ 'Run' กลุ่มไหนบ้างที่มักจะสื่อความหมายในเชิงลบ?

Phrasal verbs run ที่มีความหมายในเชิงลบ ได้แก่:

• run down (วิจารณ์อย่างรุนแรง)

• run out of (หมด/ขาดแคลน)

• run away (หนี/หลีกหนี)

• run over (ชน/ทับ)

การเข้าใจกลุ่มความหมายเหล่านี้จะช่วยให้คุณใช้คำได้เหมาะสมกับบริบท

3. ระหว่าง 'Run into' กับ 'Come across' ใช้แทนกันได้ทุกกรณีหรือไม่?

Run into และ come across มีความหมายคล้ายกันในแง่ของการบังเอิญเจอ แต่มีความแตกต่างในการใช้:

4. การใช้ Phrasal Verb จำเป็นต้องมีกรรม (Object) ตามหลังเสมอไปหรือไม่?

การใช้ object กับ phrasal verbs ขึ้นอยู่กับประเภทของ phrasal verb นั้นๆ โดยแบ่งได้เป็น:

ประเภทที่ต้องมี object (Transitive):

• run into someone/something

• run out of something

• run over something

ประเภทที่ไม่ต้องมี object (Intransitive):

• run away

• run off (ในความหมายหนี)

การเรียนรู้ phrasal verbs run อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยกระบวนการที่เป็นระบบและการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจโครงสร้างพื้นฐาน แล้วค่อยๆ เพิ่มความซับซ้อนในการใช้งาน

เทคนิคสำคัญในการเรียนรู้: จัดกลุ่มตามความหมายและบริบทการใช้งาน ฝึกสร้างประโยคที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์ส่วนตัว สังเกตการใช้ในสื่อภาษาอังกฤษเพื่อเข้าใจบริบทที่แท้จริง

การเชี่ยวชาญ phrasal verbs run จะเปิดประตูสู่การใช้ภาษาอังกฤษที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความมั่นใจในการใช้คำศัพท์กลุ่มนี้จะช่วยให้คุณสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่วและเข้าใจเจ้าของภาษาได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด