เดือนภาษาอังกฤษ รวมชื่อ 12 เดือนและตัวย่อที่ควรรู้
คุณเคยสับสนกับการอ่านปฏิทินภาษาอังกฤษ งงกับการเขียนวันที่ในอีเมลธุรกิจ หรือไม่แน่ใจว่าควรใช้ตัวย่อเดือนแบบไหนในเอกสารสำคัญไหม? ความไม่มั่นใจเหล่านี้อาจส่งผลต่อการสื่อสารระดับสากลและอาจทำให้พลาดโอกาสสำคัญในการเรียนหรือการทำงานได้โดยไม่รู้ตัว
การเรียนรู้เรื่องเดือนภาษาอังกฤษเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญในการสื่อสารสากล บทความนี้รวบรวมความรู้เกี่ยวกับเดือนภาษาอังกฤษทั้ง 12 เดือน พร้อมตัวย่อที่ถูกต้องและวิธีการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ
ในชีวิตประจำวัน เราพบเจอการใช้เดือนภาษาอังกฤษแทบทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการจองตั๋วเครื่องบิน การนัดหมายกับชาวต่างชาติ การอ่านกำหนดการหรือปฏิทินกิจกรรม รวมถึงการเขียนอีเมลในที่ทำงาน การเข้าใจรูปแบบการเขียนวันที่แบบ British และ American ก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน นอกจากนี้ การรู้จักตัวย่อเดือนย่อภาษาอังกฤษแบบมาตรฐาน 3 ตัวอักษรจะช่วยให้คุณอ่านและเขียนเอกสารได้อย่างมืออาชีพมากขึ้น การเข้าใจหลักไวยากรณ์เกี่ยวกับการใช้เดือน เช่น การใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ และการใช้บุพบท 'in' และ 'on' อย่างถูกต้อง ล้วนเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยยกระดับทักษะภาษาอังกฤษของคุณได้อย่างมาก
บทความนี้จะแนะนำข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับเดือนอังกฤษ ทั้งชื่อเต็ม คำอ่าน IPA ที่ถูกต้อง ตัวย่อที่นิยมใช้ รวมถึงเกร็ดความรู้เรื่องที่มาของชื่อเดือน นอกจากนี้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีการใช้ในสถานการณ์จริง กฎไวยากรณ์ที่สำคัญ และความแตกต่างในการเขียนวันที่ระหว่าง British และ American English
พร้อมแล้วหรือยังที่จะเรียนรู้เรื่องเดือนภาษาอังกฤษอย่างครบถ้วน? มาเริ่มต้นทำความรู้จักกับชื่อเดือนและความหมายที่น่าสนใจของแต่ละเดือนกันเลย!

I. รายชื่อเดือนภาษาอังกฤษทั้ง 12 เดือน พร้อมตัวย่อ
12 เดือนภาษาอังกฤษ แต่ละเดือนมีชื่อเฉพาะและมีที่มาที่น่าสนใจ ตารางด้านล่างแสดง สื่อเดือนภาษาอังกฤษ 12 เดือนพร้อมคําอ่าน และข้อมูลเพิ่มเติม:
เดือนภาษาอังกฤษ |
ตัวย่อ 3 ตัวอักษร |
ความหมาย/ที่มา |
January /ˈdʒænjuəri/ |
Jan |
มาจากเทพเจ้าโรมัน Janus เทพแห่งการเริ่มต้นและการเปลี่ยนแปลง |
February /ˈfɛbruəri/ |
Feb |
มาจากคำละติน Februarius เกี่ยวข้องกับพิธีชำระล้างประจำปี |
March /mɑːrtʃ/ |
Mar |
มาจากเทพเจ้าโรมัน Mars เทพแห่งสงคราม |
April /ˈeɪprəl/ |
Apr |
อาจมาจากคำละติน aperire ที่แปลว่า "เปิด" เหมือนดอกไม้ที่เบ่งบาน |
May /meɪ/ |
May* |
มาจากเทพีโรมัน Maia เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ |
June /dʒuːn/ |
Jun |
มาจากเทพีโรมัน Juno เทพีแห่งการแต่งงาน |
July /dʒuˈlaɪ/ |
Jul |
ตั้งชื่อตามจูเลียส ซีซาร์ (Julius Caesar) |
August /ˈɔːɡəst/ |
Aug |
ตั้งชื่อตามจักรพรรดิออกุสตุส (Augustus) |
September /sɛpˈtɛmbər/ |
Sep |
มาจากคำละติน septem แปลว่า "เจ็ด" (เดิมเป็นเดือนที่ 7 ในปฏิทินโรมัน) |
October /ɒkˈtoʊbər/ |
Oct |
มาจากคำละติน octo แปลว่า "แปด" (เดิมเป็นเดือนที่ 8 ในปฏิทินโรมัน) |
November /noʊˈvɛmbər/ |
Nov |
มาจากคำละติน novem แปลว่า "เก้า" (เดิมเป็นเดือนที่ 9 ในปฏิทินโรมัน) |
December /dɪˈsɛmbər/ |
Dec |
มาจากคำละติน decem แปลว่า "สิบ" (เดิมเป็นเดือนที่ 10 ในปฏิทินโรมัน) |
*หมายเหตุ: May เป็นเดือนเดียวที่มีเพียง 3 ตัวอักษร จึงใช้เหมือนชื่อเต็ม
จุดสำคัญที่ต้องจำ:
- เดือนเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งหมดต้องเขียนขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ
- เดือนย่อภาษาอังกฤษ รูปแบบมาตรฐานคือ 3 ตัวอักษร
- ตัวย่อแต่ละเดือนมาจากตัวอักษร 3 ตัวแรกของชื่อเต็ม

II. การใช้เดือนภาษาอังกฤษในการเขียนวันที่
เดือน ทั้ง 12 เป็น ภาษา อังกฤษ มีรูปแบบการเขียนวันที่แตกต่างกันระหว่าง British English และ American English:
รูปแบบการเขียนวันที่ที่ถูกต้อง
British English (UK): วัน เดือน ปี
-
15 March 2024
-
15 Mar 2024
-
15/03/2024 หรือ 15.03.2024
American English (US): เดือน วัน, ปี
-
March 15, 2024
-
Mar. 15, 2024
-
03/15/2024

สังเกตว่าใน British English เขียนวันก่อนเดือน ส่วน American English เขียนเดือนก่อนวัน และมีเครื่องหมายคอมม่า (,) คั่นระหว่างวันกับปี เมื่อเขียนเป็นตัวเลข ก็จะสลับตำแหน่งของเดือนและวันด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างประโยคและการใช้งานชื่อเดือนและตัวย่อในบริบทต่างๆ
-
The meeting is scheduled for March 15th. / The meeting is scheduled for Mar 15th.
-
My birthday is in August.
-
We went on holiday last Dec.
-
The report is due by Jan 31, 2025. (US) / 31 Jan 2025 (UK)
-
Classes start on the first Monday of Sept.
-
The conference will be held from 3 to 5 Apr 2024.
บทความแนะนำอ่านต่อ:
5 นาทีเรียนรู้การอ่านและเขียนวัน เดือน และปีในภาษาอังกฤษ
III. เกฎไวยากรณ์สำคัญเกี่ยวกับเดือนภาษาอังกฤษ
การใช้เดือน ทั้ง 12 เป็น ภาษา อังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์จะช่วยให้การสื่อสารของคุณดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น มีกฎง่ายๆ ไม่กี่ข้อที่ควรจำเกี่ยวกับการใช้เดือนในภาษาอังกฤษ
1. การใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ (Capitalization)
เดือนทั้ง 12 ภาษาอังกฤษ และตัวย่อต้องขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ:
ถูกต้อง: January, Feb, Mar ไม่ถูกต้อง: january, feb, mar
2. การใช้บุพบท (Prepositions)
การใช้ 'in' กับเดือน:
- The wedding will be in December.
- I was born in May.
การใช้ 'on' กับวันที่:
- The meeting is on March 15th. (UK)
- The meeting is on March 15. (US)
3. การใช้ตัวย่อเดือน
เดือนทั้ง 12 เดือนภาษาอังกฤษ สามารถใช้ตัวย่อได้ในสถานการณ์ต่างๆ:
- ในปฏิทินและตารางงาน
- ในหัวข้ออีเมลที่มีพื้นที่จำกัด
- ในเอกสารที่ต้องการความกระชับ

IV. ไขข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เดือนภาษาอังกฤษ
นอกจากข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับชื่อเดือนและตัวย่อแล้ว ยังมีคำถามน่าสนใจอื่นๆ ที่พบบ่อยเกี่ยวกับเดือนภาษาอังกฤษทั้ง 12 เดือน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเข้าใจและความมั่นใจในการใช้งาน
1. ชื่อเดือนภาษาอังกฤษมีที่มาอย่างไร?
ชื่อเดือนในภาษาอังกฤษมีที่มาที่น่าสนใจ โดยส่วนใหญ่มาจากปฏิทินโรมันโบราณ:
-
January มาจากเทพเจ้า Janus เทพแห่งการเริ่มต้นและประตู (มองทั้งอดีตและอนาคต)
-
March, May และ June มาจากเทพเจ้าโรมัน (Mars, Maia และ Juno ตามลำดับ)
-
July และ August ตั้งชื่อตามบุคคลสำคัญของโรม (Julius Caesar และจักรพรรดิ Augustus)
-
September ถึง December มาจากคำละตินที่หมายถึงเลข 7-10 ตามลำดับ (เพราะในปฏิทินโรมันเดิม มีนาคมเป็นเดือนแรกของปี)
ความรู้เกี่ยวกับประวัติของเดือนเป็นภาษาอังกฤษช่วยให้เข้าใจและจำชื่อเดือนได้ง่ายขึ้น
2. ตัวย่อเดือนต้องมีจุด (.) ต่อท้ายเสมอไปหรือไม่?
ไม่จำเป็นเสมอไป การใช้จุดหลังตัวย่อเดือนขึ้นอยู่กับรูปแบบการเขียน (Style Guide) และความนิยมในแต่ละประเทศ:
-
British English (UK): มักไม่ใส่จุดหลังตัวย่อเดือน (Jan, Feb, Mar)
-
American English (US): นิยมใส่จุดหลังตัวย่อ (Jan., Feb., Mar.)
ข้อแนะนำคือ ควรใช้รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งอย่างสม่ำเสมอในเอกสารเดียวกัน และหากไม่แน่ใจ การใช้ตัวย่อ 3 ตัวอักษรโดยไม่มีจุดก็เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน
3. เดือนต่างๆ ในภาษาอังกฤษถูกจัดกลุ่มตามฤดูกาล (Seasons) อย่างไรในบริบทตะวันตก?
ในประเทศตะวันตก โดยเฉพาะในซีกโลกเหนือ 12เดือนภาษาอังกฤษจะถูกจัดกลุ่มตามฤดูกาล 4 ฤดู ดังนี้:
-
Spring (ฤดูใบไม้ผลิ): March, April, May
-
Summer (ฤดูร้อน): June, July, August
-
Autumn/Fall (ฤดูใบไม้ร่วง): September, October, November
-
Winter (ฤดูหนาว): December, January, February
ความเข้าใจเกี่ยวกับฤดูกาลและเดือนที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้คุณเข้าใจบริบททางวัฒนธรรมและการอ้างอิงในภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น
4. การเขียนวันที่แบบ British English (UK) และ American English (US) ต่างกันอย่างไรเมื่อมีชื่อเดือน?
ความแตกต่างระหว่างการเขียนวันที่แบบ British และ American English เป็นสิ่งสำคัญที่ควรทราบเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน:
British English (UK):
-
15 March 2024
-
15 Mar 2024
-
15/03/2024 (วัน/เดือน/ปี)
American English (US):
-
March 15, 2024
-
Mar. 15, 2024
-
03/15/2024 (เดือน/วัน/ปี)
ความแตกต่างนี้อาจทำให้เกิดความสับสนได้โดยเฉพาะเมื่อวันที่และเดือนเป็นตัวเลขที่น้อยกว่า 13 (เช่น 05/06/2024 อาจหมายถึง 5 มิถุนายน หรือ 6 พฤษภาคม ขึ้นอยู่กับว่าใช้รูปแบบใด) ดังนั้น ในการสื่อสารระดับสากล การใช้ชื่อเดือนแทนตัวเลขจะช่วยลดความสับสนได้
การเรียนรู้ เดือนทั้ง12 ภาษาอังกฤษ เป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญในการสื่อสารภาษาอังกฤษ การจำ เดือนภาษาอังกฤษทั้ง 12 เดือน พร้อมตัวย่อที่ถูกต้องจะช่วยให้การสื่อสารของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จุดสำคัญที่ต้องจำ:
- ชื่อเต็มและตัวย่อของ 12 months ทั้งหมด
- การใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ขึ้นต้นเสมอ
- ความแตกต่างระหว่างรูปแบบ British และ American
- การใช้บุพบท in และ on อย่างถูกต้อง
- ประวัติและที่มาของแต่ละเดือน
การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการใช้ เดือนภาษาอังกฤษ ในชีวิตประจำวันจะช่วยให้คุณเชี่ยวชาญและใช้งานได้อย่างมั่นใจ การเข้าใจเรื่อง months จะเปิดโอกาสในการเรียนรู้และการทำงานในระดับสากล ทำให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่นและมืออาชีพ
หากคุณต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างครอบคลุม รวมถึงการใช้คำศัพท์พื้นฐานอย่างเดือนภาษาอังกฤษในบริบทการสอบ IELTS IELTS PREP กับ PREP Edu จะช่วยให้คุณเรียนรู้การใช้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ หลักสูตรของเรามุ่งเน้นการพัฒนาทักษะทั้ง 4 ด้าน พร้อมการสอนคำศัพท์และไวยากรณ์ที่จำเป็นสำหรับการสอบ IELTS เรามีแผนการเรียนที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้เรียนแต่ละระดับ พร้อมเทคนิคการสอบและการฝึกฝนที่จะช่วยให้คุณมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นในการสอบหรือการสื่อสารในชีวิตจริง ทีมครูผู้เชี่ยวชาญจะคอยให้คำแนะนำและติดตามความก้าวหน้าของคุณตลอดการเรียน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายคะแนน IELTS ที่ต้องการ

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
เนื้อหาแบบพรีเมียม
ดูทั้งหมดแผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
