ฝึกพูดบทสนทนา ถาม ทาง เข้าใจง่าย ใช้ได้จริงทุกที่

คุณเคยเจอสถานการณ์ที่ชาวต่างชาติเดินเข้ามาถามทางเป็นภาษาอังกฤษ แต่คุณกลับตอบไม่ออกหรือตอบแล้วเขาไม่เข้าใจหรือไม่? หรือบางครั้งเมื่อคุณเดินทางไปต่างประเทศ การสื่อสารเพื่อขอทางกลับกลายเป็นเรื่องยากลำบากที่ทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นใจ การเรียนรู้ทักษะนี้จึงกลายเป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในโลกที่เชื่อมโยงกัน

การเดินทางในต่างประเทศหรือการสื่อสารกับชาวต่างชาติมักต้องใช้ทักษะในการ ถาม ทาง และการให้ทิศทาง การเรียนรู้ บทสนทนา ถาม ทาง เป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปยังจุดหมายได้อย่างถูกต้อง บทความนี้จะนำเสนอ ประโยคบอกทางภาษาอังกฤษ คำศัพท์ที่จำเป็น และตัวอย่าง บทสนทนาเกี่ยวกับการบอกทาง ในสถานการณ์ต่างๆ อย่างครบถ้วน

บทความนี้จะนำเสนอเทคนิคการบอก ทางอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่คำศัพท์พื้นฐาน โครงสร้างประโยค ไปจนถึงบทสนทนา direction ในสถานการณ์จริงที่จะช่วยให้คุณมั่นใจในการสื่อสารและสร้างประสบการณ์เชิงบวกให้กับผู้ที่มาขอความช่วยเหลือ

มาเริ่มต้นการเรียนรู้ทักษะที่จะเปลี่ยนความไม่มั่นใจให้กลายเป็นความภาคภูมิใจในการช่วยเหลือผู้อื่นกันเถอะ!

  1. I. คำศัพท์และวลีสำคัญสำหรับการบอกทาง
    1. 1. คำศัพท์เกี่ยวกับทิศทาง
    2. 2. คำศัพท์เกี่ยวกับสถานที่และจุดสังเกต
  2. II. ประโยค ถาม ทาง และการตอบ
    1. 1. ประโยคถามทางพื้นฐาน
    2. 2. ประโยคบอกทางภาษาอังกฤษ พื้นฐาน
    3. 3. การบอกระยะทางและเวลา
  3. III. โครงสร้างประโยคบอกทาง ภาษาอังกฤษ
    1. 1. ประโยคคำสั่ง (Imperative Sentences) พื้นฐาน
    2. 2. การใช้บุพบทบอกตำแหน่งและทิศทาง
    3. 3. การบอกระยะทางและเวลาโดยประมาณ
    4. 4. การอธิบายเส้นทางที่มีหลายขั้นตอน
  4. IV. บทสนทนา ถาม ทาง ในสถานการณ์ต่างๆ
    1. 1. บทสนทนาถามทางไปสถานี
    2. 2. บทสนทนาถามทางในห้างสรรพสินค้า
    3. 3. บทสนทนาถามทางไปโรงแรม
    4. 4. บทสนทนาบอกทางแบบละเอียด
  5. V. เรียนรู้บบทสนทนาเกี่ยวกับการบอกทางผ่านวิดีโอ
10 บทสนทนาเกี่ยวกับการบอกทางที่พบบ่อยที่สุด
10 บทสนทนาเกี่ยวกับการบอกทางที่พบบ่อยที่สุด

I. คำศัพท์และวลีสำคัญสำหรับการบอกทาง

1. คำศัพท์เกี่ยวกับทิศทาง 

การใช้คำศัพท์พื้นฐานเกี่ยวกับทิศทางเป็นรากฐานสำคัญของบอกทาง ภาษาอังกฤษ ที่มีประสิทธิภาพ

คำศัพท์

การออกเสียง (IPA)

ความหมาย

ตัวอย่างประโยค

Turn left

/tɜːn left/

เลี้ยวซ้าย

Turn left at the next corner

(เลี้ยวซ้ายที่หัวมุมถัดไป)

Turn right

/tɜːn raɪt/

เลี้ยวขวา

Turn right after the bank 

(เลี้ยวขวาหลังผ่านธนาคาร)

Go straight

/ɡəʊ streɪt/

ตรงไป

Go straight for two blocks 

(ตรงไปสองช่วงตึก)

Make a U-turn

/meɪk ə ˈjuː tɜːn/

กลับรถ

Make a U-turn at the traffic lights 

(กลับรถที่ไฟแดง)

Continue

/kənˈtɪnjuː/

ดำเนินต่อไป

Continue until you see the hospital

 (ดำเนินต่อไปจนเห็นโรงพยาบาล)

Head north

/hed nɔːθ/

มุ่งหน้าไปทางเหนือ

Head north for about 1 kilometer 

(มุ่งหน้าไปทางเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร)

Bear left

/beə left/

เอียงซ้าย

Bear left when the road forks 

(เอียงซ้ายเมื่อถนนแยก)

Veer right

/vɪə raɪt/

โค้งขวา

Veer right after the roundabout 

(โค้งขวาหลังวงเวียน)

Keep going

/kiːp ˈɡəʊɪŋ/

เดินต่อไป

Keep going until you reach the end 

(เดินต่อไปจนถึงสุดทาง)

Follow the road

/ˈfɒləʊ ðə rəʊd/

ตามถนนไป

Follow the road for 500 meters 

(ตามถนนไปประมาณ 500 เมตร)

Take the path

/teɪk ðə pɑːθ/

เดินตามทางเดิน

Take the path on your left 

(เดินตามทางเดินทางซ้าย)

Cross the street

/krɒs ðə striːt/

ข้ามถนน

Cross the street at the pedestrian crossing 

(ข้ามถนนที่ทางข้ามคนเดิน)

Walk along

/wɔːk əˈlɒŋ/

เดินตาม

Walk along the river for 10 minutes 

(เดินตามแม่น้ำ 10 นาที)

Turn around

/tɜːn əˈraʊnd/

หันกลับ

Turn around and go back 

(หันกลับและไปทางเดิม)

Proceed to

/prəˈsiːd tuː/

ดำเนินไปยัง

Proceed to the main entrance 

(ดำเนินไปยังทางเข้าหลัก)

บอกทาง ภาษาอังกฤษ พร้อมบทสนทนา Giving Directions ที่ใช้ได้จริง
คำศัพท์เกี่ยวกับทิศทาง 

เลี้ยว ซ้าย เลี้ยว ขวา ภาษา อังกฤษเป็นคำศัพท์พื้นฐานที่คุณจะได้ใช้บ่อยที่สุดในการให้ข้อมูลเส้นทาง การออกเสียงที่ชัดเจนและการใช้คำเหล่านี้ในบริบทที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจ directions ที่คุณให้ได้อย่างถูกต้อง

บทความแนะนำอ่านต่อ:

2. คำศัพท์เกี่ยวกับสถานที่และจุดสังเกต

การอ้างอิงจุดสังเกตเป็นเทคนิคสำคัญที่ทำให้บทสนทนาเกี่ยวกับการบอกทาง ภาษาอังกฤษมีความแม่นยำมากขึ้น เมื่อเราระบุสถานที่ที่ผู้ฟังสามารถมองเห็นหรือจดจำได้ง่าย จะช่วยลดความสับสนในการนำทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คำศัพท์

การออกเสียง (IPA)

ความหมาย

ตัวอย่างประโยค

Intersection

/ˌɪntəˈsekʃn/

สี่แยก

Stop at the intersection 

(หยุดที่สี่แยก)

Corner

/ˈkɔːnə/

หัวมุม

The shop is on the corner 

(ร้านอยู่ที่หัวมุม)

Bus stop

/bʌs stɒp/

ป้ายรถเมล์

Walk past the bus stop 

(เดินผ่านป้ายรถเมล์)

Traffic lights

/ˈtræfɪk laɪts/

ไฟจราจร

Turn left at the traffic lights 

(เลี้ยวซ้ายที่ไฟจราจร)

Roundabout

/ˈraʊndəbaʊt/

วงเวียน

Take the second exit at the roundabout 

(ออกทางออกที่สองที่วงเวียน)

Pedestrian crossing

/pəˈdestrɪən ˈkrɒsɪŋ/

ทางข้ามคนเดิน

Use the pedestrian crossing 

(ใช้ทางข้ามคนเดิน)

Overpass

/ˈəʊvəpɑːs/

สะพานลอย

Go over the overpass 

(ข้ามสะพานลอย)

Underpass

/ˈʌndəpɑːs/

อุโมงค์ใต้ดิน

Walk through the underpass 

(เดินผ่านอุโมงค์ใต้ดิน)

Landmark

/ˈlændmɑːk/

จุดสังเกต

Look for the big landmark 

(มองหาจุดสังเกตใหญ่)

Shopping mall

/ˈʃɒpɪŋ mɔːl/

ห้างสรรพสินค้า

The office is behind the shopping mall 

(สำนักงานอยู่หลังห้างสรรพสินค้า)

Gas station

/ɡæs ˈsteɪʃn/

ปั๊มน้ำมัน

Turn right at the gas station 

(เลี้ยวขวาที่ปั๊มน้ำมัน)

Bridge

/brɪdʒ/

สะพาน

Cross the bridge over the river 

(ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำ)

Park

/pɑːk/

สวนสาธารณะ

The museum is opposite the park 

(พิพิธภัณฑ์อยู่ตรงข้ามสวนสาธารณะ)

Hospital

/ˈhɒspɪtl/

โรงพยาบาล

Walk past the hospital entrance 

(เดินผ่านทางเข้าโรงพยาบาล)

Subway entrance

/ˈsʌbweɪ ˈentrəns/

ทางเข้ารถไฟใต้ดิน

The subway entrance is near the fountain 

(ทางเข้ารถไฟใต้ดินอยู่ใกล้น้ำพุ)

บทความแนะนำอ่านต่อ:

II. ประโยค ถาม ทาง และการตอบ

การเรียนรู้ ประโยค ถาม ทาง และวิธีการตอบเป็นทักษะสำคัญในการสื่อสาร

1. ประโยคถามทางพื้นฐาน

เมื่อต้องการถามทาง ใช้ประโยคเหล่านี้:

การถามทางทั่วไป:

  • Excuse me, where is the train station? (ขอโทษคะ สถานีรถไฟอยู่ที่ไหน)
  • Can you tell me how to get to the museum? (ช่วยบอกวิธีไปพิพิธภัณฑ์ได้ไหม)
  • I'm looking for the post office. (ฉันกำลังมองหาไปรษณีย์)
  • Could you help me find this address? (ช่วยหาที่อยู่นี้ได้ไหม)

การถามระยะทาง:

  • How far is it from here? (ห่างจากที่นี่แค่ไหน)
  • Is it within walking distance? (เดินไปถึงไหม)
  • How long does it take to get there? (ใช้เวลานานแค่ไหนถึงที่นั่น)
  • Is it close to here? (อยู่ใกล้ที่นี่ไหม)

การถามเกี่ยวกับการเดินทาง:

  • Which way should I go? (ฉันควรไปทางไหน)
  • Am I going in the right direction? (ฉันกำลังไปถูกทางไหม)
  • Is this the right way to the airport? (นี่ทางไปสนามบินใช่ไหม)
  • Do I need to take a bus? (ฉันต้องนั่งรถบัสไหม)

2. ประโยคบอกทางภาษาอังกฤษ พื้นฐาน

เมื่อต้องการให้ทิศทาง ใช้ ประโยคบอกทางภาษาอังกฤษ เหล่านี้:

การบอกทิศทางตรง:

  • Go straight ahead. (เดินตรงไป)
  • Keep walking straight. (เดินตรงต่อไป)
  • Continue on this road. (ดำเนินต่อบนถนนนี้)
  • Walk down this street. (เดินไปตามถนนนี้)

การบอกทางเลี้ยว:

  • Turn left at the traffic lights. (เลี้ยวซ้ายที่ไฟจราจร)
  • Take the first right. (เลี้ยวขวาทางแรก)
  • Make a left turn at the corner. (เลี้ยวซ้ายที่หัวมุม)
  • Turn right after the bank. (เลี้ยวขวาหลังผ่านธนาคาร)

การบอกจุดสังเกต:

  • It's next to the supermarket. (อยู่ข้างๆ ซูเปอร์มาร์เก็ต)
  • You'll see it on your left. (คุณจะเห็นมันทางซ้ายมือ)
  • It's opposite the library. (อยู่ตรงข้ามห้องสมุด)
  • Look for the red building. (มองหาอาคารสีแดง)

3. การบอกระยะทางและเวลา

เมื่อบอกระยะทางหรือเวลาในการเดินทาง:

การบอกระยะทาง:

  • It's about 500 meters away. (ห่างประมาณ 500 เมตร)
  • It's just around the corner. (แค่เลี้ยวมุมนี้)
  • It's a five-minute walk. (เดินห้านาทีถึง)
  • It's quite far from here. (ค่อนข้างไกลจากที่นี่)

การบอกเวลา:

  • It takes about 10 minutes on foot. (ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที)
  • You'll get there in 15 minutes. (คุณจะถึงที่นั่นใน 15 นาที)
  • It's a two-minute drive. (ขับรถสองนาทีถึง)
  • It will take you half an hour by bus. (นั่งรถบัสครึ่งชั่วโมง)
บอกทาง ภาษาอังกฤษ พร้อมบทสนทนา Giving Directions ที่ใช้ได้จริง
ประโยคถามทางอย่างสุภาพ

III. โครงสร้างประโยคบอกทาง ภาษาอังกฤษ

1. ประโยคคำสั่ง (Imperative Sentences) พื้นฐาน

ประโยคบอกทาง ภาษาอังกฤษในรูปแบบคำสั่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ง่ายต่อการเข้าใจและการใช้งาน

โครงสร้าง

รูปแบบ

ตัวอย่าง

การใช้งาน

กริยา + ทิศทาง

[Verb] + [Direction]

Go straight (ตรงไป)

คำสั่งพื้นฐาน

กริยา + ทิศทาง + สถานที่

[Verb] + [Direction] + [Place]

Turn left at the bank (เลี้ยวซ้ายที่ธนาคาร)

ระบุจุดอ้างอิง

กริยา + ระยะทาง

[Verb] + [Distance]

Walk 200 meters (เดิน 200 เมตร)

ระบุระยะทางชัดเจน

กริยา + ทิศทาง + ระยะทาง

[Verb] + [Direction] + [Distance]

Go straight for 3 blocks (ตรงไป 3 ช่วงตึก)

รายละเอียดครบถ้วน

Go straight on street เป็นรูปแบบที่ใช้บ่อยที่สุด ตัวอย่าง Go straight on this street for about 200 meters (ตรงไปตามถนนสายนี้ประมาณ 200 เมตร) หรือ Turn left at the traffic lights (เลี้ยวซ้ายที่ไฟจราจร) ประโยคเหล่านี้ให้ข้อมูลที่จำเป็นโดยไม่ซับซ้อน

2. การใช้บุพบทบอกตำแหน่งและทิศทาง

บุพบทมีบทบาทสำคัญในการทำให้บอก ทางมีความแม่นยำและชัดเจน

ประเภทบุพบท

โครงสร้าง

ตัวอย่าง

การใช้งาน

บุพบทตำแหน่ง

It's + [Preposition] + [Reference]

It's on your right (อยู่ทางขวามือ)

บอกตำแหน่งสัมพัทธ์

บุพบทการเคลื่อนที่

[Verb] + [Preposition] + [Object]

Walk past the hospital (เดินผ่านโรงพยาบาล)

อธิบายการเคลื่อนที่

บุพบทกับระยะทาง

[Verb] + [Preposition] + [Distance]

Continue for 500 meters (ดำเนินต่อไป 500 เมตร)

ระบุระยะทางการเดิน

บุพบทกับทิศทาง

Head + [Preposition] + [Direction]

Head towards the mountain (มุ่งหน้าไปทางภูเขา)

ชี้ทิศทางหลัก

การใช้ on your left/right บอกตำแหน่งที่ชัดเจน เช่น The bank is on your right (ธนาคารอยู่ทางขวามือของคุณ) คำว่า past ใช้เมื่อต้องการให้เดินผ่าน เช่น Walk past the post office (เดินผ่านไปรษณีย์) ส่วน across ใช้กับการข้าม เช่น Go across the bridge (ข้ามสะพาน)

3. การบอกระยะทางและเวลาโดยประมาณ

การให้ข้อมูลเกี่ยวกับระยะทางและเวลาช่วยให้ผู้ฟังประมาณการเดินทางได้

วิธีบอกระยะทาง

โครงสร้าง

ตัวอย่าง

หน่วยเมตริก

ระยะทางแน่นอน

[Distance] + away

It's 300 meters away (ห่างไป 300 เมตร)

เมตร, กิโลเมตร

เวลาการเดิน

[Time] + walk

It's a 5-minute walk (เดินประมาณ 5 นาที)

นาที, ชั่วโมง

ระยะทางประมาณ

About + [Distance]

About 1 kilometer from here (ประมาณ 1 กิโลเมตรจากที่นี่)

การประมาณ

ระยะทางสั้น

Not far/Close

It's not far from here (ไม่ไกลจากที่นี่)

ไม่ระบุตัวเลข

ระยะทางไกล

Quite a way/Far

It's quite a long way (ค่อนข้างไกล)

เตือนความไกล

การบอกระยะทางและเวลาโดยประมาณ
การบอกระยะทางและเวลาโดยประมาณ

วิธี เดินทาง ภาษา อังกฤษที่ดีควรรวมข้อมูลเวลา เช่น It's about a 5-minute walk (เดินประมาณ 5 นาที) หรือระยะทาง เช่น It's not far from here (ไม่ไกลจากที่นี่) การบอกว่า It's quite a long way ช่วยเตือนว่าเส้นทางค่อนข้างไกล

4. การอธิบายเส้นทางที่มีหลายขั้นตอน

บทสนทนา direction ที่ซับซ้อนมักต้องการการอธิบายหลายขั้นตอน

ลำดับขั้นตอน

คำเชื่อม

โครงสร้าง

ตัวอย่าง

ขั้นตอนแรก

First

First, + [instruction]

First, go straight for 200 meters 

(ขั้นแรก ตรงไป 200 เมตร)

ขั้นตอนถัดไป

Then/Next

Then, + [instruction]

Then, turn right at the corner 

(จากนั้น เลี้ยวขวาที่หัวมุม)

ขั้นตอนหลังจากนั้น

After that

After that, + [instruction]

After that, walk for 5 minutes 

(หลังจากนั้น เดิน 5 นาที)

ขั้นตอนสุดท้าย

Finally

Finally, + [instruction]

Finally, you'll see the building

(สุดท้าย คุณจะเห็นตึก)

การเริ่มต้นด้วย First และตามด้วย Then, After that ช่วยจัดลำดับขั้นตอน เช่น First, go straight for two blocks. Then, turn right. After that, you'll see the cinema on your left (ขั้นแรกตรงไปสองช่วงตึก จากนั้นเลี้ยวขวา หลังจากนั้นคุณจะเห็นโรงหนังทางซ้าย)

บทความที่แนะนำ:

บทสนทนาบนแท็กซี่ ภาษาอังกฤษ พูดได้มั่นใจทุกการเดินทาง

คำศัพท์บอกทิศทางภาษาอังกฤษ ที่ต้องรู้!

รายการคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับถนนหนทาง

IV. บทสนทนา ถาม ทาง ในสถานการณ์ต่างๆ

การฝึกฝน บทสนทนา ถาม ทาง ในสถานการณ์จริงช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสาร

1. บทสนทนาถามทางไปสถานี

สถานการณ์: นักท่องเที่ยวถามทางไปสถานีรถไฟ

Tourist: Excuse me, could you help me? (ขอโทษคะ ช่วยหน่อยได้ไหม)

Local: Of course. What do you need? (ได้เลยครับ ต้องการอะไร)

Tourist: I'm trying to find the train station. Is it far from here? (ฉันกำลังมองหาสถานีรถไฟ ไกลจากที่นี่ไหม)

Local: No, it's quite close. It's about a 10-minute walk. (ไม่ครับ ค่อนข้างใกล้ เดินประมาณ 10 นาที)

Tourist: Great! Which way should I go? (ดีเลย ฉันควรไปทางไหน)

Local: Go straight down this street until you reach the traffic lights. (เดินตรงไปตามถนนนี้จนถึงไฟจราจร)

Tourist: Okay, straight ahead to the traffic lights. (โอเค ตรงไปถึงไฟจราจร)

Local: Yes. Then turn left and walk for about two blocks. You'll see the station on your right. (ใช่ครับ จากนั้นเลี้ยวซ้ายและเดินประมาณสองช่วงตึก คุณจะเห็นสถานีทางขวามือ)

Tourist: Turn left at the lights, then two blocks and it's on the right? (เลี้ยวซ้ายที่ไฟ จากนั้นสองช่วงตึกและอยู่ทางขวาใช่ไหม)

Local: Exactly! You can't miss it. There's a big sign. (ถูกต้อง พลาดไม่ได้แน่ มีป้ายใหญ่)

Tourist: Thank you so much for your help! (ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือ)

Local: You're welcome. Have a safe trip! (ยินดีครับ เดินทางปลอดภัย)

2. บทสนทนาถามทางในห้างสรรพสินค้า

นี่คือตัวอย่าง บทสนทนาเกี่ยวกับการบอกทาง ในห้างสรรพสินค้า:

Customer: Excuse me, where can I find the restrooms? (ขอโทษค่ะ ห้องน้ำอยู่ที่ไหน)

Staff: The restrooms are on the third floor. (ห้องน้ำอยู่ชั้นสาม)

Customer: How do I get there from here? (ฉันไปจากที่นี่ได้ยังไง)

Staff: Take the escalator over there up to the third floor. (ขึ้นบันไดเลื่อนโน่นไปชั้นสาม)

Customer: And then? (แล้วต่อไป)

Staff: When you reach the third floor, turn right. The restrooms will be next to the food court. (เมื่อถึงชั้นสาม เลี้ยวขวา ห้องน้ำจะอยู่ข้างๆ ศูนย์อาหาร)

Customer: So escalator up, turn right, next to food court? (บันไดเลื่อนขึ้น เลี้ยวขวา ข้างศูนย์อาหารใช่ไหม)

Staff: That's correct. You'll see the signs as well. (ถูกต้องค่ะ คุณจะเห็นป้ายด้วย)

Customer: Perfect. Thank you! (สมบูรณ์แบบ ขอบคุณ)

3. บทสนทนาถามทางไปโรงแรม

สถานการณ์: แท็กซี่คนขับถามทางไปโรงแรม

Driver: What's the name of your hotel? (โรงแรมของคุณชื่ออะไรครับ)

Passenger: The Grand Hotel on Riverside Avenue. (โรงแรมแกรนด์ที่ถนนริเวอร์ไซด์อเวนิว)

Driver: Do you know the exact address? (คุณรู้ที่อยู่แน่นอนไหมครับ)

Passenger: Yes, it's 123 Riverside Avenue. (รู้ค่ะ เลขที่ 123 ถนนริเวอร์ไซด์อเวนิว)

Driver: Okay. Is it near any landmarks? (โอเค อยู่ใกล้จุดสังเกตอะไรไหมครับ)

Passenger: I think it's close to the river and opposite a big shopping mall. (ฉันคิดว่าใกล้แม่น้ำและอยู่ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าใหญ่)

Driver: Ah yes, I know where that is. We'll take the highway and exit at River Road. (อ๋อ รู้จักครับ เราจะขึ้นทางด่วนและออกที่ถนนริเวอร์โรด)

Passenger: How long will it take? (ใช้เวลานานแค่ไหน)

Driver: About 20 minutes, depending on traffic. (ประมาณ 20 นาที ขึ้นอยู่กับการจราจร)

Passenger: That sounds good. Thank you. (ฟังดูดี ขอบคุณค่ะ)

4. บทสนทนาบอกทางแบบละเอียด

นี่คือ บอกทาง ภาษาอังกฤษ แบบละเอียด:

Person A: Can you tell me how to get to the city library? (ช่วยบอกวิธีไปห้องสมุดเมืองได้ไหม)

Person B: Sure. Do you have a car or are you walking? (ได้ครับ คุณมีรถหรือจะเดิน)

Person A: I'm walking. (ฉันเดิน)

Person B: Okay, it's about a 15-minute walk from here. First, go straight down Main Street. (โอเค เดินประมาณ 15 นาทีจากที่นี่ อันดับแรก เดินตรงไปตามถนนเมน)

Person A: Main Street, got it. (ถนนเมน เข้าใจแล้ว)

Person B: Walk past the post office on your left and continue until you see a large park. (เดินผ่านไปรษณีย์ทางซ้ายมือและดำเนินต่อจนเห็นสวนสาธารณะใหญ่)

Person A: So past the post office, then a park. (ผ่านไปรษณีย์ แล้วก็สวนสาธารณะ)

Person B: Exactly. At the park, turn right onto Park Avenue. (ถูกต้อง ที่สวนสาธารณะ เลี้ยวขวาเข้าถนนพาร์คอเวนิว)

Person A: Right at the park onto Park Avenue. (ขวาที่สวนสาธารณะเข้าถนนพาร์คอเวนิว)

Person B: Yes. Follow Park Avenue for about five minutes. The library will be on your left, between a cafe and a bookstore. (ใช่ ตามถนนพาร์คอเวนิวประมาณห้านาที ห้องสมุดจะอยู่ทางซ้ายมือ ระหว่างคาเฟ่กับร้านหนังสือ)

Person A: Perfect! So it's: straight on Main Street, past the post office, right at the park, then left side on Park Avenue between a cafe and bookstore. (สมบูรณ์แบบ คือ: ตรงบนถนนเมน ผ่านไปรษณีย์ ขวาที่สวนสาธารณะ แล้วฝั่งซ้ายบนถนนพาร์คอเวนิวระหว่างคาเฟ่และร้านหนังสือ)

Person B: That's right! You can't miss it. It's a beautiful old building. (ถูกต้อง พลาดไม่ได้ เป็นอาคารเก่าที่สวยงาม)

Person A: Thank you so much for the detailed directions! (ขอบคุณมากสำหรับทิศทางที่ละเอียด)

บอกทาง ภาษาอังกฤษ พร้อมบทสนทนา Giving Directions ที่ใช้ได้จริง
บอกทางที่มีรายละเอียดซับซ้อน

V. เรียนรู้บบทสนทนาเกี่ยวกับการบอกทางผ่านวิดีโอ

เพื่อให้ได้ความรู้และฝึกฝนบทสนทนาภาษาอังกฤษสำหรับการบอกเส้นทางอย่างเป็นธรรมชาติ PREP ได้รวบรวมวิดีโอเกี่ยวกับการถามและการบอกเส้นทาง ลองดูนะ!

Asking for and Giving Directions:

Location & Directions! | Mini Math Movies | Scratch Garden:

Asking and giving directions in English | English conversation | Learn English | Sunshine English:

การเรียนรู้ บทสนทนา ถาม ทาง เป็นทักษะที่มีประโยชน์ทั้งในการเดินทางและชีวิตประจำวัน ความเข้าใจใน ประโยค ถาม ทาง และ ประโยคบอกทางภาษาอังกฤษ ช่วยให้คุณสามารถสื่อสารได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการ ถาม ทาง เมื่อหลงทางหรือการช่วยเหลือผู้อื่นที่ต้องการทิศทาง

การฝึกฝนผ่าน บทสนทนาเกี่ยวกับการบอกทาง ในสถานการณ์จริง การดูแผนที่ และการใช้ บอกทาง ภาษาอังกฤษ ในชีวิตประจำวันช่วยเสริมสร้างความชำนาญ การเตรียมตัวสำหรับการสอบ IELTS โดยเฉพาะหัวข้อ บทสนทนา ถาม ทาง ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการใช้คำศัพท์ที่หลากหลาย

จำไว้ว่าการถามและบอกทางเป็นทักษะที่พัฒนาได้ด้วยการฝึกฝน การเรียนรู้ บทสนทนา ถาม ทาง จากสถานการณ์จริงและการใช้ในชีวิตประจำวันช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้น ทักษะนี้ไม่เพียงช่วยในการเดินทางเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการสื่อสารภาษาอังกฤษในหลายสถานการณ์

หากคุณต้องการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างครบถ้วน รวมถึงการพูดและเขียนเกี่ยวกับการให้ทิศทางและหัวข้อในชีวิตประจำวันอื่นๆ เพื่อเตรียมสอบระดับสากล ติวสอบ IELTS ออนไลน์ ของ PREP English เป็นทางเลือกที่เหมาะสม โปรแกรม IELTS Foundation Program สร้างรากฐานผ่านหลักสูตร Vocabulary Foundation ที่ครอบคลุมคำศัพท์ในชีวิตประจำวันรวมถึงการบอกทางอย่างเป็นระบบ เมื่อพัฒนาสู่ระดับ IELTS Basic และ Intermediate คุณจะฝึกฝนการพูดและฟังในทั้งสี่ทักษะ โดยมี Virtual Speaking Room ที่ใช้ AI ตรวจสอบการออกเสียงและให้ข้อเสนอแนะทันที พร้อมแบบฝึกหัด Listening และ Speaking ที่ครอบคลุมหัวข้อการถามทางและสถานการณ์ในชีวิตจริง สำหรับผู้ที่ต้องการคะแนนสูง โปรแกรม IELTS Advance เสริมสร้างการใช้คำศัพท์ขั้นสูงและความคล่องแคล่วที่จำเป็นสำหรับ 7.0+ เริ่มต้นเรียนกับ PREP วันนี้เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 ตัวอักษร
Loading...

แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล

TH30

อ่านมากที่สุด

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล

facebookyoutubeinstagram
Logo footer Prep light layout
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
get prep on Google Playget Prep on app store
หลักสูตร
เชื่อมต่อกับเรา
mail icon - footerfacebook icon - footer
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย
DMCA protect