ทำความเข้าใจ Cohesion and Coherence คืออะไร แบบง่ายๆ

หลายคนเขียนภาษาอังกฤษได้ แต่ทำไมผู้อ่านอ่านแล้วไม่เข้าใจ หรือรู้สึกสับสน นั่นเป็นเพราะงานเขียนขาดสิ่งสำคัญสองอย่างที่เป็นเหมือนกาวเชื่อมและเส้นด้ายแดงที่ร้อยเรื่องราวให้เป็นหนึ่งเดียว การขาดไปจะทำให้แม้ไวยากรณ์ถูกต้องแต่ความหมายยังคงกระจัดกระจาย

Cohesion and coherence คือ เครื่องมือสำคัญที่จะเปลี่ยนงานเขียนจากชุดประโยคที่กระจัดกระจายให้กลายเป็นงานเขียนที่ไหลลื่น เข้าใจง่าย และสื่อความหมายได้อย่างชัดเจน

ในโลกของการเขียนที่มีประสิทธิภาพ cohesion คือ การเชื่อมโยงโครงสร้างภาษาระดับพื้นผิวที่ช่วยให้ประโยคต่างๆ ไหลต่อเนื่องกัน เหมือนการใช้เชือกผูกลูกปัดให้เป็นสร้อยที่สวยงาม ส่วน coherence คือการจัดระเบียบความคิดและความหมายให้เป็นเหตุเป็นผลและสมเหตุสมผล ทำให้ผู้อ่านสามารถติดตามแนวคิดได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

การเข้าใจ cohesion แปล และประยุกต์ใช้เทคนิคการสร้าง cohesive devices ต่างๆ เช่น การใช้สรรพนาม การใช้คำเชื่อม และการสร้าง lexical chains จะช่วยให้นักเขียนสามารถสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประโยคได้อย่างเป็นธรรมชาติ ขณะที่การเชี่ยวชาญ coherence จะช่วยจัดระเบียบเนื้อหาให้มีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง มีจุดเด่นชัดเจน และสร้างประสบการณ์การอ่านที่น่าพึงพอใจ Cohesion ร่วมกับ coherence จึงเป็นรากฐานที่ขาดไม่ได้สำหรับการเขียนที่มีคุณภาพในทุกระดับ

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจความแตกต่างและความเชื่อมโยงระหว่างสองแนวคิดสำคัญนี้ พร้อมเทคนิคการประยุกต์ใช้ในการเขียนจริง ตัวอย่างที่เห็นภาพ และคำตอบของคำถามที่พบบ่อย

มาเริ่มต้นการเดินทางสู่การเขียนที่มีประสิทธิภาพกันเถอะ โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจแก่นแท้ของทั้งสองแนวคิดกันก่อน

Cohesion and Coherence คืออะไร ความแตกต่างและการใช้
Cohesion and Coherence คืออะไร ความแตกต่างและการใช้

I. Cohesion คืออะไร?

Cohesion คือ การเชื่อมโยงประโยคในงานเขียนผ่านเครื่องมือทางภาษาที่มองเห็นได้ ทำหน้าที่เป็นกาวเชื่อมระหว่างประโยคให้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การใช้ cohesion ทำให้งานเขียนมีความต่อเนื่องและราบรื่น

ความหมายของ Cohesion แบบเห็นภาพ: การเชื่อมโยงระดับพื้นผิว

Cohesion ทำงานในระดับที่มองเห็นได้ชัดเจนผ่านการใช้คำหรือวลีเชื่อมระหว่างประโยค เหมือนการใช้เชือกผูกลูกปัดแต่ละเม็ดให้เป็นสร้อยเดียวกัน

เครื่องมือสร้าง Cohesion (Cohesive Devices) ที่ใช้บ่อยที่สุด

ประเภท

คำอธิบาย

ตัวอย่าง

Pronoun Reference

การใช้สรรพนามแทนคำนาม

he, she, it, they, this, that

Conjunctions

คำเชื่อมแสดงความสัมพันธ์

however, therefore, furthermore

Synonyms/Lexical Chains

คำพ้องความหมายหรือคำเกี่ยวข้อง

students → pupils → learners

Cohesion and Coherence คืออะไร ความแตกต่างและการใช้
เครื่องมือสร้าง Cohesion (Cohesive Devices) ที่ใช้บ่อยที่สุด

1. การใช้สรรพนาม (Pronoun Reference)

  • ลดความซ้ำซ้อนในการเขียน

  • สร้างการเชื่อมโยงกับประโยคก่อนหน้า

  • ช่วยให้ผู้อ่านติดตามได้ว่าอ้างอิงถึงอะไร

2. การใช้คำเชื่อม

ประเภทการเชื่อม

คำเชื่อม

วัตถุประสงค์

การแสดงผล

therefore, consequently

แสดงความเป็นเหตุเป็นผล

การเพิ่มเติม

furthermore, moreover

เพิ่มข้อมูลเสริม

การแสดงความขัดแย้ง

however, nevertheless

แสดงความคิดตรงข้าม

3. การใช้คำพ้องความหมายหรือคำที่เกี่ยวข้อง

การสร้าง lexical chains ช่วยให้งานเขียนมีความเป็นเอกภาพทางความหมาย เช่น:

  • การศึกษา: education → teaching → learning → academic

  • การเขียน: writing → composing → authoring → drafting

ตัวอย่างเปรียบเทียบ: ประโยคที่ "ขาด" และ "มี" Cohesion

ขาด Cohesion

มี Cohesion

John bought a car. The vehicle was expensive. John liked the color.

John bought a car. However, the vehicle was expensive. Nevertheless, he liked its color.

ความคิดเห็นของเขามีประโยชน์ ความคิดเห็นนี้ช่วยให้เราเข้าใจปัญหา

ความคิดเห็นของเขามีประโยชน์ นอกจากนี้ มันยังช่วยให้เราเข้าใจปัญหาดีขึ้น

II. Coherence คืออะไร?

Coherence คือการเชื่อมโยงที่เกิดขึ้นในระดับความหมายและความคิด ทำให้งานเขียนมีความสมเหตุสมผลและผู้อ่านสามารถติดตามความคิดได้อย่างราบรื่น

ความหมายของ Coherence แบบเจาะลึก: การเชื่อมโยงระดับความคิด

Coherence เป็นการจัดระเบียบความคิดให้มีความต่อเนื่องและเป็นเหตุเป็นผล เหมือนการเรียงภาพต่อกันให้เป็นเรื่องราวที่สมบูรณ์

องค์ประกอบสำคัญที่สร้าง Coherence

1. การเรียงลำดับความคิดอย่างมีตรรกะ

รูปแบบการเรียงลำดับที่นิยม:

  • สาเหตุ → ผล: อธิบายต้นเหตุก่อน แล้วตามด้วยผลที่เกิดขึ้น

  • ทั่วไป → เฉพาะ: เริ่มจากแนวคิดกว้างๆ แล้วลงรายละเอียด

  • ง่าย → ยาก: นำเสนอเนื้อหาง่ายก่อน แล้วค่อยเพิ่มความซับซ้อน

  • ตามเวลา: เรียงตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

2. การมีประเด็นหลักที่ชัดเจน

องค์ประกอบ

หน้าที่

ตัวอย่าง

Topic Sentence

แนะนำประเด็นหลักของย่อหน้า

การออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน

Supporting Details

ให้รายละเอียดสนับสนุน

ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

Concluding Sentence

สรุปและเชื่อมโยงความคิด

ดังนั้นการออกกำลังกายจึงควรเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน

Cohesion and Coherence คืออะไร ความแตกต่างและการใช้
Coherence - การเชื่อมโยงที่เกิดขึ้นในระดับความหมายและความคิด

บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม: วิธีการเขียน Topic Sentence ใน IELTS Writing Task 2!

3. ความสอดคล้องของเนื้อหา

ความสอดคล้องที่ต้องรักษา:

  • ระดับภาษา: ใช้ภาษาระดับเดียวกันตลอดงานเขียน

  • จุดยืน: รักษาทัศนคติที่สม่ำเสมอ

  • คำศัพท์เทคนิค: ใช้คำศัพท์เฉพาะอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างเปรียบเทียบ: ย่อหน้าที่ "สับสน" และ "สมเหตุสมผล"

  • ย่อหน้าที่สับสน: การออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อสุขภาพ อาหารเช้าสำคัญมาก คนส่วนใหญ่ไม่นอนหลับลึก ดังนั้นควรกินผลไม้เป็นประจำ

  • ย่อหน้าที่สมเหตุสมผล: การรักษาสุขภาพที่ดีต้องเริ่มต้นจากพฤติกรรมพื้นฐานสามประการ ประการแรก การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย ประการที่สอง การนอนหลับเพียงพอทำให้ร่างกายได้พักผ่อน ประการสุดท้าย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะให้วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น

III. เปรียบเทียบ Cohesion vs. Coherence

ตารางสรุปความแตกต่างระหว่าง cohesion and coherence คือ

หัวข้อเปรียบเทียบ

Cohesion

Coherence

ระดับการทำงาน

โครงสร้างภาษา

ความหมายและความคิด

เครื่องมือ

คำเชื่อม สรรพนาม คำพ้องความหมาย

การจัดระเบียบความคิด ตรรกะ

ผลที่ได้

งานเขียนราบรื่น ไม่สะดุด

งานเขียนเข้าใจง่าย มีเหตุผล

การสร้าง

เชื่อมประโยคเข้าด้วยกัน

เชื่อมความคิดให้สมเหตุสมผล

การวัดผล

วัดได้ง่าย ดูจากเครื่องมือภาษา

วัดได้ยาก ต้องพิจารณาความหมายรวม

ทำไมงานเขียนที่ดีต้องมีทั้งสองอย่าง: อุปมาเหมือนบ้านที่แข็งแรง

งานเขียนที่มีคุณภาพเหมือนบ้านที่แข็งแรงและอยู่สบาย:

  • Cohesion = เล็บตะปูและกาว ยึดไม้แต่ละแผ่นเข้าด้วยกัน ทำให้โครงสร้างแน่นหนา

  • Coherence = แบบแปลนที่ดี จัดวางห้องอย่างมีเหตุผล ทำให้เดินทางสะดวก

หากมีแต่เล็บตะปูดีแต่ไม่มีแบบแปลน → บ้านแข็งแรงแต่ใช้งานไม่ได้ หากมีแบบแปลนดีแต่ไม่มีเล็บตะปูแข็งแรง → บ้านพังทลายได้

บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม:

Task Response ใน IELTS Writing คืออะไร

สร้างความคิดเชิงตรรกะในการนำเสนอแนวคิดใน IELTS Writing Task 2

IV. เทคนิคการสร้าง Cohesion and Coherence อย่างมืออาชีพ

เคล็ดลับเพิ่ม Cohesion ให้การอ่านลื่นไหลไม่สะดุด

เทคนิคขั้นสูงสำหรับ Cohesion:

  • การทำซ้ำอย่างมีจุดมุ่งหมาย: ทำซ้ำคำหรือวลีสำคัญเพื่อสร้างจังหวะและเน้นย้ำ

  • โครงสร้างประโยคคล้ายกัน: ใช้รูปแบบประโยคเดียวกันในย่อหน้าเพื่อสร้างความสม่ำเสมอ

  • Lexical Chains ขั้นสูง: เชื่อมโยงด้วยคำศัพท์ในครอบครัวเดียวกัน เช่น analyze → analysis → analytical

เคล็ดลับสร้าง Coherence ให้เนื้อหาน่าติดตามและเข้าใจง่าย

กลยุทธ์สำหรับ Coherence มืออาชีพ:

เทคนิค

วิธีการ

ประโยชน์

Topic Sentences ที่ชัดเจน

เริ่มย่อหน้าด้วยประโยคหัวข้อที่ชัดเจน

ผู้อ่านเตรียมตัวรับข้อมูลได้

Transition Sentences

ใช้ประโยคเชื่อมระหว่างย่อหน้า

สร้างสะพานเชื่อมความคิด

Parallel Structure

ใช้รูปแบบเดียวกันในการนำเสนอ

ผู้อ่านติดตามได้ง่าย

V. คำถามที่พบบ่อย

1. Cohesion and Coherence มีความหมายเหมือนกันหรือไม่?

ไม่เหมือนกัน แม้ว่าทั้งสองจะช่วยสร้างการเชื่อมโยงในงานเขียน แต่ทำงานในระดับที่ต่างกัน:

  • cohesion and coherence คือ สองกลไกที่แยกออกจากกันได้

  • cohesion แปล ว่าการยึดติดหรือการเกาะเกี่ยวกัน = เชื่อมโยงที่เห็นได้ชัด

  • Coherence = ความสอดคล้องหรือเป็นเหตุเป็นผล = เชื่อมโยงความคิด

2. เราสามารถเขียนงานที่มี Cohesion แต่ไม่มี Coherence ได้หรือไม่?

เป็นไปได้ ตัวอย่างงานเขียนที่มี Cohesion แต่ขาด Coherence:

"ฉันชอบกินผลไม้ อย่างไรก็ตาม ฝนกำลังตก นอกจากนี้ คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ยาก ดังนั้น เราควรออกกำลังกาย"

  • มี: คำเชื่อมครบถ้วน (อย่างไรก็ตาม, นอกจากนี้, ดังนั้น)

  • ขาด: ความสมเหตุสมผลระหว่างประโยค

3. นอกจากคำเชื่อมและสรรพนามแล้ว เครื่องมือ Cohesion (Cohesive Devices) มีกลุ่มไหนที่น่าสนใจอีกบ้าง?

Cohesive Devices กลุ่มอื่นๆ ที่นักเขียนควรรู้จัก:

กลุ่ม

คำอธิบาย

ตัวอย่าง

Ellipsis

การละคำที่เข้าใจได้จากบริบท

John likes apples. Mary does too.

Substitution

การใช้คำแทนเพื่อหลีกเลี่ยงการทำซ้ำ

If you don't have a pen, use mine.

Collocation

คำที่มักปรากฏร่วมกัน

heavy rain, strong wind, make a decision

Reiteration

การทำซ้ำคำเพื่อเน้นย้ำ

ต้องระมัดระวังไม่ให้เกินไป

4. การเขียนเชิงวิชาการ (Academic Writing) กับการเขียนคอนเทนต์ออนไลน์ (Online Content) ใช้ Cohesion และ Coherence ต่างกันอย่างไร?

ประเภทการเขียน

Cohesion

Coherence

Academic Writing

คำเชื่อมทางการ: consequently, furthermore, nevertheless

อ้างอิงชัดเจน, ลำดับความคิดเป็นระบบ

Online Content

คำเชื่อมสนทนา: นอกจากนี้, ยิ่งไปกว่านั้น, อย่างไรก็ตาม

ตอบสนองความต้องการผู้อ่าน, น่าสนใจ

การเขียนเชิงวิชาการ:

  • เน้น cohesion ที่เป็นทางการและซับซ้อน

  • Coherence ต้องมีการอ้างอิงที่แม่นยำ

การเขียนคอนเทนต์ออนไลน์:

  • ใช้ cohesion ที่เข้าใจง่ายและเป็นกันเอง

  • Coherence เน้นความน่าสนใจและประโยชน์ต่อผู้อ่าน

Cohesion and coherence คือ รากฐานสำคัญของการเขียนที่มีประสิทธิภาพ งานเขียนที่ดีต้องมีทั้งสององค์ประกอบทำงานร่วมกัน:

  • Cohesion = กาวเชื่อมประโยคผ่านเครื่องมือภาษาที่มองเห็นได้

  • Coherence = เชื่อมโยงความหมายและความคิดให้เป็นเหตุเป็นผล

การฝึกฝนการใช้ cohesion and Coherence ต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการและการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ นักเขียนที่เชี่ยวชาญสามารถสร้างงานเขียนที่ทั้งราบรื่นและมีเหตุผล ทำให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลอย่างเต็มที่และเกิดความพึงพอใจ

หากคุณต้องการพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการสอบ IELTS Writing PREP มี คอร์สเรียน IELTS ออนไลน์ ที่ครอบคลุมการฝึกเขียนแบบครบถ้วน ตั้งแต่การใช้ Cohesive Devices การสร้าง Coherence ไปจนถึงเทคนิคการเขียนเชิงวิชาการ ระบบ AI จะช่วยตรวจสอบและให้คำแนะนำการปรับปรุงงานเขียนของคุณแบบเฉพาะบุคคล ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะสามารถเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้คะแนนตามเป้าหมายในการสอบ IELTS นักเรียนของ PREP Education มักได้คะแนน Writing ที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากการสอนที่เน้นการใช้ Cohesion และ Coherence อย่างถูกวิธี

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 ตัวอักษร
Loading...

แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล

TH30

อ่านมากที่สุด

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล

facebookyoutubeinstagram
logo footer Prep
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
get prep on Google Playget Prep on app store
หลักสูตร
เชื่อมต่อกับเรา
mail icon - footerfacebook icon - footer
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย