ทำความเข้าใจ Cohesion and Coherence คืออะไร แบบง่ายๆ
หลายคนเขียนภาษาอังกฤษได้ แต่ทำไมผู้อ่านอ่านแล้วไม่เข้าใจ หรือรู้สึกสับสน นั่นเป็นเพราะงานเขียนขาดสิ่งสำคัญสองอย่างที่เป็นเหมือนกาวเชื่อมและเส้นด้ายแดงที่ร้อยเรื่องราวให้เป็นหนึ่งเดียว การขาดไปจะทำให้แม้ไวยากรณ์ถูกต้องแต่ความหมายยังคงกระจัดกระจาย
Cohesion and coherence คือ เครื่องมือสำคัญที่จะเปลี่ยนงานเขียนจากชุดประโยคที่กระจัดกระจายให้กลายเป็นงานเขียนที่ไหลลื่น เข้าใจง่าย และสื่อความหมายได้อย่างชัดเจน
ในโลกของการเขียนที่มีประสิทธิภาพ cohesion คือ การเชื่อมโยงโครงสร้างภาษาระดับพื้นผิวที่ช่วยให้ประโยคต่างๆ ไหลต่อเนื่องกัน เหมือนการใช้เชือกผูกลูกปัดให้เป็นสร้อยที่สวยงาม ส่วน coherence คือการจัดระเบียบความคิดและความหมายให้เป็นเหตุเป็นผลและสมเหตุสมผล ทำให้ผู้อ่านสามารถติดตามแนวคิดได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
การเข้าใจ cohesion แปล และประยุกต์ใช้เทคนิคการสร้าง cohesive devices ต่างๆ เช่น การใช้สรรพนาม การใช้คำเชื่อม และการสร้าง lexical chains จะช่วยให้นักเขียนสามารถสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประโยคได้อย่างเป็นธรรมชาติ ขณะที่การเชี่ยวชาญ coherence จะช่วยจัดระเบียบเนื้อหาให้มีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง มีจุดเด่นชัดเจน และสร้างประสบการณ์การอ่านที่น่าพึงพอใจ Cohesion ร่วมกับ coherence จึงเป็นรากฐานที่ขาดไม่ได้สำหรับการเขียนที่มีคุณภาพในทุกระดับ
บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจความแตกต่างและความเชื่อมโยงระหว่างสองแนวคิดสำคัญนี้ พร้อมเทคนิคการประยุกต์ใช้ในการเขียนจริง ตัวอย่างที่เห็นภาพ และคำตอบของคำถามที่พบบ่อย
มาเริ่มต้นการเดินทางสู่การเขียนที่มีประสิทธิภาพกันเถอะ โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจแก่นแท้ของทั้งสองแนวคิดกันก่อน
- I. Cohesion คืออะไร?
- II. Coherence คืออะไร?
- III. เปรียบเทียบ Cohesion vs. Coherence
- IV. เทคนิคการสร้าง Cohesion and Coherence อย่างมืออาชีพ
- V. คำถามที่พบบ่อย- 1. Cohesion and Coherence มีความหมายเหมือนกันหรือไม่?
- 2. เราสามารถเขียนงานที่มี Cohesion แต่ไม่มี Coherence ได้หรือไม่?
- 3. นอกจากคำเชื่อมและสรรพนามแล้ว เครื่องมือ Cohesion (Cohesive Devices) มีกลุ่มไหนที่น่าสนใจอีกบ้าง?
- 4. การเขียนเชิงวิชาการ (Academic Writing) กับการเขียนคอนเทนต์ออนไลน์ (Online Content) ใช้ Cohesion และ Coherence ต่างกันอย่างไร?
 
 
I. Cohesion คืออะไร?
Cohesion คือ การเชื่อมโยงประโยคในงานเขียนผ่านเครื่องมือทางภาษาที่มองเห็นได้ ทำหน้าที่เป็นกาวเชื่อมระหว่างประโยคให้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การใช้ cohesion ทำให้งานเขียนมีความต่อเนื่องและราบรื่น
ความหมายของ Cohesion แบบเห็นภาพ: การเชื่อมโยงระดับพื้นผิว
Cohesion ทำงานในระดับที่มองเห็นได้ชัดเจนผ่านการใช้คำหรือวลีเชื่อมระหว่างประโยค เหมือนการใช้เชือกผูกลูกปัดแต่ละเม็ดให้เป็นสร้อยเดียวกัน
เครื่องมือสร้าง Cohesion (Cohesive Devices) ที่ใช้บ่อยที่สุด
| ประเภท | คำอธิบาย | ตัวอย่าง | 
| Pronoun Reference | การใช้สรรพนามแทนคำนาม | he, she, it, they, this, that | 
| Conjunctions | คำเชื่อมแสดงความสัมพันธ์ | however, therefore, furthermore | 
| Synonyms/Lexical Chains | คำพ้องความหมายหรือคำเกี่ยวข้อง | students → pupils → learners | 
 
1. การใช้สรรพนาม (Pronoun Reference)
- 
ลดความซ้ำซ้อนในการเขียน 
- 
สร้างการเชื่อมโยงกับประโยคก่อนหน้า 
- 
ช่วยให้ผู้อ่านติดตามได้ว่าอ้างอิงถึงอะไร 
2. การใช้คำเชื่อม
| ประเภทการเชื่อม | คำเชื่อม | วัตถุประสงค์ | 
| การแสดงผล | therefore, consequently | แสดงความเป็นเหตุเป็นผล | 
| การเพิ่มเติม | furthermore, moreover | เพิ่มข้อมูลเสริม | 
| การแสดงความขัดแย้ง | however, nevertheless | แสดงความคิดตรงข้าม | 
3. การใช้คำพ้องความหมายหรือคำที่เกี่ยวข้อง
การสร้าง lexical chains ช่วยให้งานเขียนมีความเป็นเอกภาพทางความหมาย เช่น:
- 
การศึกษา: education → teaching → learning → academic 
- 
การเขียน: writing → composing → authoring → drafting 
ตัวอย่างเปรียบเทียบ: ประโยคที่ "ขาด" และ "มี" Cohesion
| ขาด Cohesion | มี Cohesion | 
| John bought a car. The vehicle was expensive. John liked the color. | John bought a car. However, the vehicle was expensive. Nevertheless, he liked its color. | 
| ความคิดเห็นของเขามีประโยชน์ ความคิดเห็นนี้ช่วยให้เราเข้าใจปัญหา | ความคิดเห็นของเขามีประโยชน์ นอกจากนี้ มันยังช่วยให้เราเข้าใจปัญหาดีขึ้น | 
II. Coherence คืออะไร?
Coherence คือการเชื่อมโยงที่เกิดขึ้นในระดับความหมายและความคิด ทำให้งานเขียนมีความสมเหตุสมผลและผู้อ่านสามารถติดตามความคิดได้อย่างราบรื่น
ความหมายของ Coherence แบบเจาะลึก: การเชื่อมโยงระดับความคิด
Coherence เป็นการจัดระเบียบความคิดให้มีความต่อเนื่องและเป็นเหตุเป็นผล เหมือนการเรียงภาพต่อกันให้เป็นเรื่องราวที่สมบูรณ์
องค์ประกอบสำคัญที่สร้าง Coherence
1. การเรียงลำดับความคิดอย่างมีตรรกะ
รูปแบบการเรียงลำดับที่นิยม:
- 
สาเหตุ → ผล: อธิบายต้นเหตุก่อน แล้วตามด้วยผลที่เกิดขึ้น 
- 
ทั่วไป → เฉพาะ: เริ่มจากแนวคิดกว้างๆ แล้วลงรายละเอียด 
- 
ง่าย → ยาก: นำเสนอเนื้อหาง่ายก่อน แล้วค่อยเพิ่มความซับซ้อน 
- 
ตามเวลา: เรียงตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 
2. การมีประเด็นหลักที่ชัดเจน
| องค์ประกอบ | หน้าที่ | ตัวอย่าง | 
| Topic Sentence | แนะนำประเด็นหลักของย่อหน้า | การออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน | 
| Supporting Details | ให้รายละเอียดสนับสนุน | ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ | 
| Concluding Sentence | สรุปและเชื่อมโยงความคิด | ดังนั้นการออกกำลังกายจึงควรเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน | 
 
บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม:
3. ความสอดคล้องของเนื้อหา
ความสอดคล้องที่ต้องรักษา:
- 
ระดับภาษา: ใช้ภาษาระดับเดียวกันตลอดงานเขียน 
- 
จุดยืน: รักษาทัศนคติที่สม่ำเสมอ 
- 
คำศัพท์เทคนิค: ใช้คำศัพท์เฉพาะอย่างต่อเนื่อง 
ตัวอย่างเปรียบเทียบ: ย่อหน้าที่ "สับสน" และ "สมเหตุสมผล"
- 
ย่อหน้าที่สับสน: การออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อสุขภาพ อาหารเช้าสำคัญมาก คนส่วนใหญ่ไม่นอนหลับลึก ดังนั้นควรกินผลไม้เป็นประจำ 
- 
ย่อหน้าที่สมเหตุสมผล: การรักษาสุขภาพที่ดีต้องเริ่มต้นจากพฤติกรรมพื้นฐานสามประการ ประการแรก การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย ประการที่สอง การนอนหลับเพียงพอทำให้ร่างกายได้พักผ่อน ประการสุดท้าย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะให้วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น 
III. เปรียบเทียบ Cohesion vs. Coherence
ตารางสรุปความแตกต่างระหว่าง cohesion and coherence คือ
| หัวข้อเปรียบเทียบ | Cohesion | Coherence | 
| ระดับการทำงาน | โครงสร้างภาษา | ความหมายและความคิด | 
| เครื่องมือ | คำเชื่อม สรรพนาม คำพ้องความหมาย | การจัดระเบียบความคิด ตรรกะ | 
| ผลที่ได้ | งานเขียนราบรื่น ไม่สะดุด | งานเขียนเข้าใจง่าย มีเหตุผล | 
| การสร้าง | เชื่อมประโยคเข้าด้วยกัน | เชื่อมความคิดให้สมเหตุสมผล | 
| การวัดผล | วัดได้ง่าย ดูจากเครื่องมือภาษา | วัดได้ยาก ต้องพิจารณาความหมายรวม | 
ทำไมงานเขียนที่ดีต้องมีทั้งสองอย่าง: อุปมาเหมือนบ้านที่แข็งแรง
งานเขียนที่มีคุณภาพเหมือนบ้านที่แข็งแรงและอยู่สบาย:
- 
Cohesion = เล็บตะปูและกาว ยึดไม้แต่ละแผ่นเข้าด้วยกัน ทำให้โครงสร้างแน่นหนา 
- 
Coherence = แบบแปลนที่ดี จัดวางห้องอย่างมีเหตุผล ทำให้เดินทางสะดวก 
หากมีแต่เล็บตะปูดีแต่ไม่มีแบบแปลน → บ้านแข็งแรงแต่ใช้งานไม่ได้ หากมีแบบแปลนดีแต่ไม่มีเล็บตะปูแข็งแรง → บ้านพังทลายได้
บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม:
- Task Response ใน IELTS Writing คืออะไร
- สร้างความคิดเชิงตรรกะในการนำเสนอแนวคิดใน IELTS Writing Task 2
IV. เทคนิคการสร้าง Cohesion and Coherence อย่างมืออาชีพ
เคล็ดลับเพิ่ม Cohesion ให้การอ่านลื่นไหลไม่สะดุด
เทคนิคขั้นสูงสำหรับ Cohesion:
- 
การทำซ้ำอย่างมีจุดมุ่งหมาย: ทำซ้ำคำหรือวลีสำคัญเพื่อสร้างจังหวะและเน้นย้ำ 
- 
โครงสร้างประโยคคล้ายกัน: ใช้รูปแบบประโยคเดียวกันในย่อหน้าเพื่อสร้างความสม่ำเสมอ 
- 
Lexical Chains ขั้นสูง: เชื่อมโยงด้วยคำศัพท์ในครอบครัวเดียวกัน เช่น analyze → analysis → analytical 
เคล็ดลับสร้าง Coherence ให้เนื้อหาน่าติดตามและเข้าใจง่าย
กลยุทธ์สำหรับ Coherence มืออาชีพ:
| เทคนิค | วิธีการ | ประโยชน์ | 
| Topic Sentences ที่ชัดเจน | เริ่มย่อหน้าด้วยประโยคหัวข้อที่ชัดเจน | ผู้อ่านเตรียมตัวรับข้อมูลได้ | 
| Transition Sentences | ใช้ประโยคเชื่อมระหว่างย่อหน้า | สร้างสะพานเชื่อมความคิด | 
| Parallel Structure | ใช้รูปแบบเดียวกันในการนำเสนอ | ผู้อ่านติดตามได้ง่าย | 
V. คำถามที่พบบ่อย
1. Cohesion and Coherence มีความหมายเหมือนกันหรือไม่?
ไม่เหมือนกัน แม้ว่าทั้งสองจะช่วยสร้างการเชื่อมโยงในงานเขียน แต่ทำงานในระดับที่ต่างกัน:
- 
cohesion and coherence คือ สองกลไกที่แยกออกจากกันได้ 
- 
cohesion แปล ว่าการยึดติดหรือการเกาะเกี่ยวกัน = เชื่อมโยงที่เห็นได้ชัด 
- 
Coherence = ความสอดคล้องหรือเป็นเหตุเป็นผล = เชื่อมโยงความคิด 
2. เราสามารถเขียนงานที่มี Cohesion แต่ไม่มี Coherence ได้หรือไม่?
เป็นไปได้ ตัวอย่างงานเขียนที่มี Cohesion แต่ขาด Coherence:
"ฉันชอบกินผลไม้ อย่างไรก็ตาม ฝนกำลังตก นอกจากนี้ คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ยาก ดังนั้น เราควรออกกำลังกาย"
- 
มี: คำเชื่อมครบถ้วน (อย่างไรก็ตาม, นอกจากนี้, ดังนั้น) 
- 
ขาด: ความสมเหตุสมผลระหว่างประโยค 
3. นอกจากคำเชื่อมและสรรพนามแล้ว เครื่องมือ Cohesion (Cohesive Devices) มีกลุ่มไหนที่น่าสนใจอีกบ้าง?
Cohesive Devices กลุ่มอื่นๆ ที่นักเขียนควรรู้จัก:
| กลุ่ม | คำอธิบาย | ตัวอย่าง | 
| Ellipsis | การละคำที่เข้าใจได้จากบริบท | John likes apples. Mary does too. | 
| Substitution | การใช้คำแทนเพื่อหลีกเลี่ยงการทำซ้ำ | If you don't have a pen, use mine. | 
| Collocation | คำที่มักปรากฏร่วมกัน | heavy rain, strong wind, make a decision | 
| Reiteration | การทำซ้ำคำเพื่อเน้นย้ำ | ต้องระมัดระวังไม่ให้เกินไป | 
4. การเขียนเชิงวิชาการ (Academic Writing) กับการเขียนคอนเทนต์ออนไลน์ (Online Content) ใช้ Cohesion และ Coherence ต่างกันอย่างไร?
| ประเภทการเขียน | Cohesion | Coherence | 
| Academic Writing | คำเชื่อมทางการ: consequently, furthermore, nevertheless | อ้างอิงชัดเจน, ลำดับความคิดเป็นระบบ | 
| Online Content | คำเชื่อมสนทนา: นอกจากนี้, ยิ่งไปกว่านั้น, อย่างไรก็ตาม | ตอบสนองความต้องการผู้อ่าน, น่าสนใจ | 
การเขียนเชิงวิชาการ:
- 
เน้น cohesion ที่เป็นทางการและซับซ้อน 
- 
Coherence ต้องมีการอ้างอิงที่แม่นยำ 
การเขียนคอนเทนต์ออนไลน์:
- 
ใช้ cohesion ที่เข้าใจง่ายและเป็นกันเอง 
- 
Coherence เน้นความน่าสนใจและประโยชน์ต่อผู้อ่าน 
Cohesion and coherence คือ รากฐานสำคัญของการเขียนที่มีประสิทธิภาพ งานเขียนที่ดีต้องมีทั้งสององค์ประกอบทำงานร่วมกัน:
- 
Cohesion = กาวเชื่อมประโยคผ่านเครื่องมือภาษาที่มองเห็นได้ 
- 
Coherence = เชื่อมโยงความหมายและความคิดให้เป็นเหตุเป็นผล 
การฝึกฝนการใช้ cohesion and Coherence ต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการและการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ นักเขียนที่เชี่ยวชาญสามารถสร้างงานเขียนที่ทั้งราบรื่นและมีเหตุผล ทำให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลอย่างเต็มที่และเกิดความพึงพอใจ
หากคุณต้องการพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการสอบ IELTS Writing PREP มี คอร์สเรียน IELTS ออนไลน์ ที่ครอบคลุมการฝึกเขียนแบบครบถ้วน ตั้งแต่การใช้ Cohesive Devices การสร้าง Coherence ไปจนถึงเทคนิคการเขียนเชิงวิชาการ ระบบ AI จะช่วยตรวจสอบและให้คำแนะนำการปรับปรุงงานเขียนของคุณแบบเฉพาะบุคคล ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะสามารถเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้คะแนนตามเป้าหมายในการสอบ IELTS นักเรียนของ PREP Education มักได้คะแนน Writing ที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากการสอนที่เน้นการใช้ Cohesion และ Coherence อย่างถูกวิธี

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
เนื้อหาแบบพรีเมียม
ดูทั้งหมดแผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล




















