สร้างความคิดเชิงตรรกะในการนำเสนอแนวคิดใน IELTS Writing Task 2 – เทคนิคเด็ดคว้าคะแนนสูง

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้สอบ IELTS Writing Task 2 ทำคะแนนได้สูงคือการใช้ความคิดเชิงตรรกะในการนำเสนอแนวคิดใน IELTS Writing Task 2 แล้วทำอย่างไรให้ทุกประโยคและทุกย่อหน้าในงานเขียนของคุณมีตรรกะที่ชัดเจน ในบทความนี้ PREP จะมาแบ่งปันเคล็ดลับเด็ดๆ ให้กับ Preppies เพื่อช่วยให้พัฒนาทักษะนี้ได้อย่างเต็มที่ อ่านเลยเพื่อก้าวสู่การเป็น writing genius ใน Writing Task 2 ไปพร้อมกัน!

I. วิธีพัฒนาความคิดเชิงตรรกะ (logical thinking) ใน IELTS Writing Task 2

การใช้ความคิดเชิงตรรกะในการนำเสนอแนวคิดใน IELTS Writing Task 2 จะถูกประเมินผ่านเกณฑ์ Coherence & Cohesion ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่วัดความสมเหตุสมผลของการอธิบายและการจัดระเบียบไอเดียในบทความ

ดังนั้น หนึ่งในวิธีสำคัญที่ช่วยพัฒนาทักษะนี้คือ การสร้างความสอดคล้องในเนื้อหาไอเดียและ ความเชื่อมโยงที่ลงตัวในแต่ละประโยค ย่อหน้า และโครงสร้างของบทความโดยรวม

1. โครงสร้างการพัฒนาไอเดียมาตรฐาน

การสร้างโครงสร้างการพัฒนาไอเดียมาตรฐาน เป็นวิธีที่ช่วยให้การนำเสนอเหตุผลใน IELTS Writing Task 2 มีความเป็นตรรกะและชัดเจน โดยประกอบด้วยประโยคที่มีบทบาทพื้นฐานในการสร้างและพัฒนา ไอเดียอย่างครบถ้วน ซึ่งบทบาทเหล่านี้ได้แก่:

Topic sentence -> Main Idea -> Supporting Ideas/Examples
สร้างโครงสร้างการพัฒนา ไอเดียที่เป็นมาตรฐาน

เมื่อเข้าใจและสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานนี้ได้ ขั้นตอนต่อไปคือการเรียงลำดับการพัฒนา ไอเดียให้มีความสมเหตุสมผลและสอดคล้องกัน โดยไอเดียที่นำเสนอควรถูกจัดเรียงให้สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางตรรกะและความสัมพันธ์ระหว่างกัน ตัวอย่างเช่น:

ตัวอย่างคำถาม:

Overpopulation of urban areas has led to numerous problems. Identify one or two serious ones and suggest solutions.
(ประชากรล้นในเขตเมืองก่อให้เกิดปัญหามากมาย ระบุหนึ่งหรือสองปัญหาร้ายแรง และเสนอวิธีแก้ไข)

การพัฒนาไอเดีย:

• Main Idea: Overpopulation causes more problems for transportation
  (ประชากรล้นส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการขนส่งมากขึ้น)

• Supporting Ideas:

  1. Increasing population leads to more vehicles
     (ประชากรที่เพิ่มขึ้นนำไปสู่จำนวนยานพาหนะที่มากขึ้น)

  2. More vehicles lead to high traffic density
     (ยานพาหนะที่มากขึ้นนำไปสู่ความหนาแน่นจราจรที่สูงขึ้น)

  3. Higher traffic density is the main cause for traffic congestion
     (ความหนาแน่นจราจรที่สูงขึ้นเป็นสาเหตุหลักของปัญหารถติด)

ตัวอย่างนี้บรรลุเป้าหมาย 2 อย่าง:

1. ความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงแน่นแฟ้นระหว่าง ideas:
   ไอเดียสนับสนุนมีความเชื่อมโยงกับไอเดียก่อนหน้าอย่างชัดเจน โดยแสดงให้เห็นถึงการพัฒนา ไอเดียเป็นลำดับขั้นตอนไอเดียที่ตามมาถูกพัฒนามาจาก ไอเดียก่อนหน้า เพื่อให้ข้อมูลมีความต่อเนื่อง

2. ความเกี่ยวข้องโดยตรงกับคำถาม:
   ไอเดียเริ่มต้นตอบโจทย์หลัก (overpopulation โดยใช้การ paraphrase เป็น increasing population) และความคิดต่อมาให้รายละเอียดเฉพาะเจาะจง จนสุดท้ายสรุปปัญหาของการขนส่ง คือ “traffic congestion”

นอกจากนี้ เมื่อเขียนเรียงความ นักเรียนสามารถประเมินความสมเหตุสมผลของการนำเสนอไอเดียใน IELTS Writing Task 2 ด้วยการตอบคำถามดังนี้:

• ระดับประโยค: ไอเดียในประโยคนี้สัมพันธ์กับประโยคก่อนหน้าอย่างไร?

• ระดับย่อหน้า: ย่อหน้านี้มีการลำดับไอเดียที่สมเหตุสมผลและสอดคล้องกันหรือไม่?

2. ตรวจสอบความคิดเชิงตรรกะในการนำเสนอแนวคิดใน IELTS Writing Task 2 ระดับประโยค

ลำดับไอเดียสมเหตุสมผลหรือยัง
ไอเดียเหล่านี้เข้าใจง่ายและโน้มน้าวใจได้หรือยัง → ตรวจสอบโดยเฉพาะว่าแต่ละประโยคทำหน้าที่ของตนได้ดีหรือไม่ และปรากฏในลำดับที่เหมาะสม (topic sentence, main idea, และ supporting ideas)

การเชื่อมโยงระหว่างไอเดียแน่นแฟ้นและพัฒนามาอย่างสมบูรณ์หรือไม่?
→ ตรวจสอบโดยเฉพาะว่าไอเดียสนับสนุนตอบหรืออธิบาย main idea ได้ชัดเจนหรือไม่ และ main idea สอดคล้องกับประเด็นหลักและคีย์เวิร์ดของคำถามหรือไม่

การเชื่อมโยงระหว่างประโยคเพียงพอและเหมาะสมหรือไม่?
→ ตรวจสอบโดยเฉพาะว่ามีการใช้คำเชื่อม (cohesive devices) อย่างเหมาะสมหรือไม่

3. ตรวจสอบความคิดเชิงตรรกะในการนำเสนอแนวคิดใน IELTS Writing Task 2 ระดับย่อหน้า

• แต่ละย่อหน้าตอบคำถามเฉพาะส่วนของคำถามได้หรือไม่?
  → ตรวจสอบโดยเฉพาะว่าย่อหน้าแต่ละส่วนระบุหัวข้อหลัก (main topic) ได้อย่างถูกต้องโดยไม่ซ้ำซ้อนหรือพูดถึงหัวข้อหลักหลายประเด็นในย่อหน้าเดียว

4. เรียนรู้จากตัวอย่างการเขียน

นอกจากนี้ การพัฒนาความคิดเชิงตรรกะในการนำเสนอแนวคิดใน IELTS Writing Task 2 สามารถทำได้โดยการเรียนรู้จากตัวอย่างการเขียน (Sample Writing) โดยเฉพาะนักเรียนสามารถอ้างอิงวิธี Box of Thoughts ซึ่งตัวอย่างเรียงความแต่ละชิ้นจะถูกวิเคราะห์และนำเสนอในรูปแบบตารางที่ชัดเจน โดยแต่ละกล่องมีบทบาทที่แตกต่างกัน ดังนี้:

• Task and task analysis (วิเคราะห์โจทย์และคำถาม)

• Analyze INTRODUCTION & OVERVIEW (วิเคราะห์บทนำและภาพรวม)

• Analyze BODY PARAGRAPHS (วิเคราะห์ย่อหน้าเนื้อหา)

• Analyze CONCLUSION (วิเคราะห์บทสรุป)

• GLOSSARY (คำศัพท์ใหม่, การใช้ collocations, และโครงสร้างไวยากรณ์ที่พบบ่อย)

ด้วยวิธี Box of Thoughts นักเรียนสามารถเรียนรู้และเข้าใจโครงสร้างรวมถึงกระบวนการคิดเชิงตรรกะของตัวอย่างเรียงความได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการระบุบทบาทของแต่ละประโยค การเชื่อมโยงระหว่างประโยค และการจัดระเบียบและพัฒนาไอเดียให้ครบถ้วนสมบูรณ์

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดูบทความต่อไปนี้:

• เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ด้วยเทคนิค Brainstorm ใน IELTS Writing Task 2
• เคล็ดลับการเขียน IELTS Writing Task 2 ให้ได้คะแนนสูง

II. สรุป

เพื่อให้การนำเสนอไอเดียในเรียงความอย่างสมเหตุสมผล นักเรียนต้องใช้โครงสร้างการพัฒนาไอเดียมาตรฐาน และรักษาความต่อเนื่องและครบถ้วนในการพัฒนาไอเดีย

กระบวนการคิดสำหรับการนำเสนอไอเดียนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับทักษะการพูด (Speaking Skills) ได้เช่นกัน โดยเฉพาะในคำตอบของนักเรียน การนำเสนอไอเดียควรถูกจัดระเบียบและพัฒนาให้มีความสอดคล้องและสมเหตุสมผล สิ่งนี้จะช่วยให้การระดมไอเดีย (Brainstorming) ง่ายขึ้น และช่วยพัฒนาความคล่องแคล่วและความต่อเนื่อง (Fluency and Coherence)

บทความนี้ได้เสนอแนวทางเพื่อช่วย Preppies พัฒนาความคิดเชิงตรรกะในการนำเสนอแนวคิดใน IELTS Writing Task 2 หวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ Preppies บรรลุคะแนน Band สูงสุดใน IELTS Writing!