Post Language Selector บทความได้รับการแปลเป็นหลายภาษาแล้ว:
thTHenENviVI

ค้นหาบทความการศึกษา

Active Vocabulary และ Passive Vocabulary: เคล็ดลับเปลี่ยนคำศัพท์ในหัวให้พูดได้คล่อง

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นความรู้สำคัญหากคุณต้องการเชี่ยวชาญในทุกด้านของการสอบภาษาอังกฤษ ดังนั้น ในบทความนี้ PREP จะมอบภาพรวมเกี่ยวกับ Active Vocabulary และ Passive Vocabulary ให้กับ Preppies มาดูรายละเอียดในบทความนี้กันเลย!

Active Vocabulary และ Passive Vocabulary: วิธีเปลี่ยนคำศัพท์ให้ใช้งานได้จริง
Active Vocabulary และ Passive Vocabulary: วิธีเปลี่ยนคำศัพท์ให้ใช้งานได้จริง

I. ความหมายและความแตกต่างระหว่าง Active Vocabulary และ Passive Vocabulary

ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้เรียนในการใช้คำศัพท์ คำศัพท์สามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ Active Vocabulary และ Passive Vocabulary

Active Vocabulary คือคำศัพท์ที่ผู้เรียนเข้าใจและใช้งานได้อย่างชำนาญและสม่ำเสมอในทักษะการพูดและการเขียน ซึ่งเป็นองค์ประกอบความรู้สำคัญในข้อสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS

ในกระบวนการใช้ภาษาอังกฤษหรือภาษาใหม่ คำศัพท์ Active และ Passive ของผู้เรียนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เนื่องจากผู้เรียนมักเรียนรู้คำศัพท์ใหม่อย่างต่อเนื่องและอาจลืมคำศัพท์ที่ไม่ค่อยได้ใช้

Active Vocabulary และ Passive Vocabulary: วิธีเปลี่ยนคำศัพท์ให้ใช้งานได้จริง
ความแตกต่างระหว่าง Active Vocabulary และ Passive Vocabulary

II. วิธีเปลี่ยน Passive Vocabulary ให้กลายเป็น Active Vocabulary

1. พัฒนาการเรียนรู้คำศัพท์อย่างคัดสรร

เพื่อให้การเรียนรู้คำศัพท์มีประสิทธิภาพ ผู้เรียนควรเลือกเรียนคำศัพท์อย่างคัดสรร โดยเน้นหัวข้อคำศัพท์ที่ใช้บ่อยที่สุด ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังเรียนสาขาเศรษฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัย การเรียนรู้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ Economics, Finance, และ Business อย่างตั้งใจจะช่วยให้คุณสามารถนำไปใช้ได้บ่อยขึ้น ทั้งในการเรียน การวิจัย และการใช้งานในชีวิตจริง

มีหลากหลายวิธีในการเรียนรู้คำศัพท์ แต่หนึ่งในวิธีที่เป็นแบบดั้งเดิมแต่ยังคงมีประสิทธิภาพสูงคือ การจดบันทึกและการนำไปใช้ (Note-taking and Application)

  • ผู้เรียนสามารถใช้สมุดโน้ตหรือแฟลชการ์ดเพื่อบันทึกคำศัพท์ ความหมาย และตัวอย่างการใช้งาน

  • ทบทวนคำศัพท์อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการลืม

การทบทวนคำศัพท์จะมีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อผู้เรียน นำคำศัพท์ไปใช้ในงานเขียนหรือการพูด ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อคำศัพท์นั้น

นอกจากนี้ การเรียนรู้คำศัพท์ผ่านช่องทางโซเชียล เช่น YouTube, Facebook หรือการอ่านข่าวภาษาอังกฤษในเว็บไซต์อย่าง BBC หรือ CNN ก็เป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพ

  • วิธีนี้ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจวิธีการใช้คำศัพท์ในบริบทของชีวิตประจำวันและสังคม

  • เป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการเปลี่ยน Passive Vocabulary ให้กลายเป็น Active Vocabulary

2. เชื่อมโยงคำศัพท์กับบริบทในชีวิตประจำวันเพื่อเพิ่มการจดจำคำศัพท์

หนึ่งในวิธีที่จะจดจำและนำคำศัพท์ไปใช้ได้คือการเชื่อมโยงคำศัพท์กับบริบทที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่นคำว่า "plastic surgery" มักเชื่อมโยงกับภาพของการปรับปรุงรูปลักษณ์ผ่านการแก้ไขใบหน้าหรือร่างกาย โดยการจดจำภาพที่เชื่อมโยงกับวลีนี้ ผู้เรียนสามารถเรียกคืนความจำและใช้งานคำนี้ได้อย่างถูกต้อง

ข้อดีของการเรียนรู้คำศัพท์ผ่านการเชื่อมโยงกับบริบทคือช่วยกำจัดกระบวนการคิดแปลระหว่างภาษาอังกฤษและภาษาของตนเอง เมื่อผู้เรียนคิดในเชิงภาพ พวกเขาจะสามารถสร้างคำภาษาอังกฤษเพิ่มเติมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องแปลกลับเป็นภาษาแม่

การเชื่อมโยงคำศัพท์กับบริบทหรือภาพที่คุ้นเคยช่วยให้ผู้เรียนสามารถสร้างความเชื่อมโยงได้ง่าย ทำให้การเปลี่ยนจาก Passive Vocabulary ไปสู่ Active Vocabulary เป็นไปได้อย่างสะดวก

ตัวอย่าง: คำว่า "meticulous" หมายถึง "พิถีพิถัน และให้ความสำคัญกับรายละเอียดทุกอย่าง"

ผู้เรียนสามารถนึกถึงแม่ของพวกเขา ซึ่งเป็นคนที่รักความสะอาด ขอให้พวกเขาทำความสะอาดชั้นวางในครัวและจัดระเบียบอุปกรณ์ในครัวอย่างพิถีพิถัน:

"My mom is a neat person. She always asks me to clean the kitchen shelves and organize utensils meticulously."

Active Vocabulary และ Passive Vocabulary: วิธีเปลี่ยนคำศัพท์ให้ใช้งานได้จริง
เชื่อมโยงคำศัพท์กับบริบทในชีวิตประจำวันเพื่อเพิ่มการจดจำคำศัพท์

ด้วยการเชื่อมโยงคำศัพท์กับบริบท ผู้เรียนสามารถจดจำคำว่า "meticulous" ได้ง่ายขึ้นและใช้งานได้อย่างถูกต้อง

3. ทบทวนคำศัพท์อย่างสม่ำเสมอ

การเรียนรู้คำศัพท์จะไม่มีประสิทธิภาพหากผู้เรียนไม่มีนิสัยในการทบทวนหรือใช้งานคำศัพท์เหล่านั้นเป็นประจำ ซึ่งจะนำไปสู่การลืมคำศัพท์ทีละเล็กละน้อยจนในที่สุดไม่สามารถจำคำศัพท์ได้อีกเลย

ผู้เรียนจำเป็นต้องเสริมสร้างการทบทวนคำศัพท์ผ่านวิธีการเรียนภาษาอังกฤษหลากหลายรูปแบบ เช่น

  • ใช้ แฟลชการ์ด

  • เขียน โน้ตสั้นๆ ติดรอบพื้นที่เรียนรู้

  • เขียน ย่อหน้าสั้นๆ เป็นประจำ (การเขียนไดอารี่หรือบันทึกความคิดก็เป็นตัวเลือกที่ดี)

  • ฝึกพูดกับตัวเอง โดยใช้คำศัพท์เหล่านั้นและหาวิธีเชื่อมโยงคำศัพท์เข้ากับบริบทที่เหมาะสมเพื่อช่วยจดจำ

เพียงแค่เพิ่มการป้อนข้อมูลทางภาษา (Language Input) และจินตนาการบริบทการใช้งานนั้นไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนคำศัพท์ Passive Vocabulary ให้กลายเป็น Active Vocabulary

  • หากเรียนรู้คำศัพท์แล้วไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ ความทรงจำเกี่ยวกับคำนั้นจะไม่ได้รับการเสริมสร้างในสมอง

  • ผลที่ตามมาคือ ผู้เรียนจะไม่สามารถเรียกคืนคำศัพท์ได้โดยไม่มีปัจจัยกระตุ้น เช่น ได้ยินหรือเห็นคำนั้น หรือในกรณีที่แย่ที่สุดคือ ลืมคำศัพท์ไปโดยสิ้นเชิง

ผลการสอบ IELTS แสดงให้เห็นว่า ผู้เรียนมักได้คะแนน Reading และ Listening สูงกว่า Writing และ Speaking สาเหตุคือ Passive Vocabulary ของพวกเขามักสูงกว่า Active Vocabulary

ดังนั้น ผู้เรียนควรสร้างแรงจูงใจให้ตัวเองในการเรียนคำศัพท์โดยมีเป้าหมายไม่เพียงแค่จดจำและเข้าใจ แต่ยังต้องสามารถนำคำศัพท์ไปใช้งานได้สำเร็จ

การทบทวนคำศัพท์เป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเปลี่ยน Passive Vocabulary ให้กลายเป็น Active Vocabulary ได้อย่างง่ายดาย

บทความนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Active Vocabulary และ Passive Vocabulary พร้อมทั้งแนะนำวิธีง่ายๆ ในการเปลี่ยน Passive Vocabulary ให้กลายเป็น Active Vocabulary
PREP ขอให้คุณพัฒนาคำศัพท์ได้มากที่สุดเพื่อนำไปใช้ในการสอบ IELTS!

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 อักขระ
Loading...
เข้าสู่ระบบ
เพื่อสัมผัสเนื้อหาพรีเมียมที่ปรับให้เหมาะกับคุณ

เนื้อหาแบบพรีเมียมเนื้อหาแบบพรีเมียม

ดูทั้งหมด

แผนที่เฉพาะบุคคล

discount 30% IELTS

อ่านมากที่สุด

ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน

กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

bg contact

เชื่อมต่อกับ Prep

facebookyoutubeinstagram
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
หลักสูตร
คุณสมบัติเด่น
ห้องฝึกการเขียน IELTS AI
ห้องฝึกพูด IELTS AI
Teacher Bee AI
เชื่อมต่อกับเรา
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย