6 ขั้นตอนในการพัฒนาคำศัพท์และการออกเสียงภาษาอังกฤษผ่านการอ่าน

Preppies ทุกคน! ในบทความนี้ ผู้เชี่ยวชาญจาก PREP จะมาแบ่งปันเคล็ดลับที่หลายคนสนใจเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ นั่นคือ การอ่านหนังสือและการทำแบบฝึกหัดการอ่านสามารถช่วยพัฒนาคำศัพท์และการออกเสียงภาษาอังกฤษได้ไหม ถ้าทำได้ ต้องทำอย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด มาค้นหา 6 ขั้นตอนในการพัฒนาคำศัพท์และการออกเสียงภาษาอังกฤษผ่านการอ่านกับ PREP กันเถอะ!

I. พัฒนาคำศัพท์และการออกเสียงภาษาอังกฤษผ่านการอ่านหนังสือและการทำแบบฝึกหัดมีประสิทธิภาพสูง 

ก่อนอื่น มาลองเปรียบเทียบกับเจ้าของภาษาดู: ตามการวิจัย นักเรียนระดับชั้นมัธยมปลายเกรด 12 ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษรู้คำศัพท์ประมาณ 50,000 คำ (White, Graves, Slater, 1990) ใช่แล้ว! เป็นตัวเลขที่มีถึง 5 หลักเลยทีเดียว! และในแต่ละปี พวกเขายังเรียนรู้คำศัพท์ใหม่เพิ่มอีกประมาณ 3,000-4,000 คำ

ยิ่งไปกว่านั้น คำศัพท์ของพวกเขาไม่ได้มีแค่คำเดี่ยว ๆ แต่ยังรวมถึงคำรูปแบบต่าง ๆ เช่น รูปกริยา (verb forms) รูปคำคุณศัพท์ (adjective forms) เป็นต้น

แน่นอนว่าเราไม่จำเป็นต้องรู้คำศัพท์มากมายขนาดนั้นเพื่อผ่านการสอบระดับมัธยมปลายหรือการสอบอย่าง IELTS, TOEFL ฯลฯ แต่ตัวเลขจำนวนมหาศาลนี้แสดงให้เราเห็นถึง ความสำคัญของการอ่าน อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม การท่องจำคำศัพท์จากรายการคำศัพท์ยาว ๆ หลังจากอ่านตามแนวทางแบบดั้งเดิม อาจไม่ช่วยให้เราเรียนรู้คำศัพท์ได้เร็วเท่ากับเจ้าของภาษา!

II. วิธีพัฒนาคำศัพท์และการออกเสียงภาษาอังกฤษผ่านการอ่าน

การพัฒนาคำศัพท์และการออกเสียงภาษาอังกฤษผ่านการอ่านสามารถทำได้ 2 วิธีดังนี้:

วิธีที่ 1: อ่านเพื่อความชอบและความบันเทิง

วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ "ขี้เกียจ" ท่องจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ (english vocabulary)! ในการเรียนรู้คำศัพท์ด้วยวิธีนี้ เราจะอาศัย การเข้าใจความหมายของคำศัพท์ผ่านบริบท เป็นหลัก ซึ่งหมายความว่าเราต้องรู้ความหมายของคำศัพท์รอบ ๆ คำใหม่เพื่อช่วยให้เราคาดเดาความหมายได้

จากงานวิจัย ระบุว่าจำนวนคำศัพท์พื้นฐานที่เราต้องรู้ในขั้นต้นคือประมาณ 3,000 คำหลัก (Restrepo Ramos, F. D., 2015) ดังนั้น วิธีนี้ ไม่ควรใช้กับผู้เริ่มต้น หรือผู้ที่มีระดับความรู้ภาษาอังกฤษในระดับเบื้องต้นถึงระดับกลาง

วิธีที่ 2: อ่านเพื่อเรียนรู้คำศัพท์

แล้วสำหรับวิธีที่สองล่ะ? อ่า... แทนที่จะพึ่งพาแต่บริบทอย่างเดียว เราสามารถนำ กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า มาใช้ได้ นั่นคือ การใช้พจนานุกรม เพื่อช่วยพัฒนาคำศัพท์ของเรา

เมื่อเราใช้พจนานุกรม เราไม่เพียงแต่จะได้รู้ความหมายของคำศัพท์เท่านั้น แต่ยังได้เรียนรู้วิธีการออกเสียงและดูตัวอย่างการใช้ในประโยคจริงอีกด้วย เจ๋งไปเลยใช่ไหม? และวิธีนี้สามารถใช้ได้แม้ว่าเราจะเพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ!

III. 6 ขั้นตอนในการพัฒนาคำศัพท์และการออกเสียงภาษาอังกฤษผ่านการอ่าน

ไม่ว่าจะเป็นการอ่านเพื่อความชอบหรือการอ่านเพื่อเรียนรู้ วิธีการทั้งสองสามารถช่วยพัฒนาคำศัพท์และการออกเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เราควรเรียนรู้คำศัพท์อย่างไรให้ได้ผลดีที่สุดในทุกระดับความสามารถ Preppies มาดูขั้นตอนเหล่านี้กันเลย:

ขั้นตอนที่ 1: เลือกสื่อการอ่านที่เหมาะสมกับระดับความสามารถของคุณ

• วิธีที่ 1: ค้นหาสื่อที่เหมาะสมโดยใช้คำค้นหา เช่น “B1 reading,” “B2 reading,” บน Google ขึ้นอยู่กับระดับความสามารถของเรา
  ข้อดี: เนื้อหาการอ่านจะมีคำศัพท์ที่เหมาะสมกับระดับของเรา
  ข้อเสีย: อาจไม่ค่อยน่าสนใจสำหรับเรา และอาจขาดความเป็นธรรมชาติ

• วิธีที่ 2: เลือกบทความจริงจากเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ เช่น nytimes.com หรือ nationalgeographic.comข้อดี: บทความเหล่านี้เป็นของจริงและไม่ได้ปรับแต่งให้เหมาะสมกับระดับใดระดับหนึ่ง
  ข้อเสีย: บางครั้งบทความอาจยากเกินไป เนื่องจากผู้เขียนไม่ได้คำนึงถึงระดับภาษาอังกฤษของผู้อ่าน

• วิธีที่ 3: พิจารณาเว็บไซต์ Happy News ซึ่งรวบรวมข่าวเชิงบวก เราสามารถอ่านสรุปข่าวสั้น ๆ 1-2 ประโยค หรือคลิกลิงก์เพื่ออ่านบทความต้นฉบับ

ขั้นตอนที่ 2: ติดตามเว็บไซต์ข่าวหรือเพจมีมบน Facebook

วิธีนี้ได้รับความนิยมมาก เพราะเป็นธรรมชาติและใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย นอกจากนี้ เรามีโอกาสเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ผ่านส่วนความคิดเห็น

ตัวอย่างเพจที่แนะนำ:

• The Language Nerds: มีมเกี่ยวกับภาษา พร้อมหัวข้อที่น่าสนใจมากมาย

• Interesting Engineering: เว็บไซต์เฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

• National Geographic Asia: เว็บไซต์ข้อมูลที่ครอบคลุมเรื่องราวหลากหลายด้าน

• Humans of New York: สัมภาษณ์และเล่าเรื่องราวชีวิตของผู้คน

บทความจากเพจเหล่านี้อาจยาว แต่จะเต็มไปด้วยเนื้อหาที่มีความหมายและช่วยให้เราเข้าใจมุมมองชีวิตของผู้คนต่าง ๆ ซึ่งเมื่อบทความมีอิทธิพลทางอารมณ์มาก คำศัพท์ที่เราเรียนรู้จากเนื้อหาเหล่านี้จะจำได้ง่ายและติดทนนาน

ขั้นตอนที่ 2: อ่านผ่านบทความทั้งหมดเพื่อเข้าใจภาพรวม

อ่านบทความทั้งเรื่องอย่างรวดเร็ว เพื่อจับความหมายรวมของเนื้อหาในลักษณะที่สนุกสนานและเข้าใจง่าย หากบทความนั้นยากเกินไปหรือไม่เข้าใจเลย... ก็ข้ามไปอ่านบทความอื่นแทน

ขั้นตอนที่ 3: อ่านบทความรอบที่สอง

สำหรับคำที่คุณไม่เข้าใจอย่างสมบูรณ์ ลองใช้ Context Clue หรือการเดาความหมายของคำจากบริบทในประโยค

ขั้นตอนที่ 4: ถ้ายังไม่เข้าใจ ใช้พจนานุกรมช่วย

ขึ้นอยู่กับระดับภาษาอังกฤษของคุณ คุณสามารถเลือกใช้พจนานุกรม อังกฤษ-ไทย เช่น Cambridge Dictionary หรือ Google Translate

สิ่งสำคัญในขั้นตอนที่ 3 และ 4 คือการเลือกคำศัพท์ที่สำคัญหรือจำเป็นต่อการเข้าใจเนื้อหา แทนที่จะพยายามทำความเข้าใจทุกคำในบทความ วิธีนี้ช่วยให้การอ่านลื่นไหลและไม่สะดุดโดยไม่จำเป็น การตัดสินว่าคำใดสำคัญหรือจำเป็น สามารถประเมินได้หลังจากการอ่านผ่านรอบแรก

ขั้นตอนที่ 5: จดคำศัพท์ใหม่ในสมุดโน้ต พร้อมความหมายและตัวอย่างประโยคต้นฉบับ

เพื่อจดจำคำศัพท์ใหม่ให้แม่นยำ เราควรจดลงในสมุดโน้ต พร้อมคำแปลและตัวอย่างประโยคจากบทความต้นฉบับ หลังจากนั้นควรนำคำศัพท์เหล่านี้มาทบทวนอย่างสม่ำเสมอในกระบวนการเรียนภาษาอังกฤษ อุดมคติที่สุดคือ เมื่อเห็นคำศัพท์นั้น เราควรนึกออกทันทีว่าเคยเจอในบทความไหน และมีความหมายอย่างไร

ขั้นตอนที่ 6: ฝึกออกเสียงคำศัพท์
นอกจากนี้ เราควรฝึกการออกเสียงคำศัพท์เหล่านี้ด้วย เราสามารถใช้สัญลักษณ์เสียง (Phonetic Transcriptions) และการออกเสียงมาตรฐานที่มีให้ใน Cambridge Dictionary เป็นแบบอย่าง การเรียนรู้การออกเสียงช่วยแก้ไขปัญหาได้สองข้อ ได้แก่

1. เพิ่มช่องทางในการจดจำ: การเพิ่ม "ช่องทางเสียง" จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการจดจำคำศัพท์ได้ดีขึ้น

2. เตรียมพร้อมสำหรับการพูดและการฟังในอนาคต: การฝึกออกเสียงจะทำให้เรารู้วิธีการออกเสียงคำศัพท์ ซึ่งช่วยให้เราจำแนกคำเหล่านี้ได้เมื่อฟังในแบบฝึกหัด Listening

IV. สรุป

บทความนี้ได้แบ่งปัน 6 ขั้นตอนในการพัฒนาคำศัพท์และการออกเสียงภาษาอังกฤษผ่านการอ่าน หวังว่าความรู้ที่ Mentor จาก PREP ได้แชร์ไว้ จะช่วยให้คุณเพิ่มพูนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ (english vocabulary) และออกเสียงได้อย่างถูกต้องได้เร็วขึ้น หากคุณมีเคล็ดลับเพิ่มเติมหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวิธีพัฒนาคำศัพท์และการออกเสียงภาษาอังกฤษ อย่าลืมแชร์ไว้ในคอมเมนต์ เพื่อให้เพื่อน ๆ Preppies ได้นำไปเป็นแนวทางนะ!

PREP – แพลตฟอร์มการเรียนและฝึกสอบอัจฉริยะที่ใช้ AI ช่วยให้คุณเรียนไวยากรณ์และคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้น ด้วยวิธีการ Context-based Learning, Task-based Learning และ Guided Discovery ที่ทำให้การเรียนสนุกและเข้าใจได้เร็วขึ้น
PREP ยังมี Mindmap ให้คุณใช้สำหรับการทบทวนและค้นหาความรู้ที่เรียนมาได้อย่างสะดวก
ด้วยการสนับสนุนจาก AI คุณจะพัฒนาการออกเสียงตั้งแต่คำเดี่ยวจนถึงประโยคที่สมบูรณ์
นอกจากนี้ วิธีการฟังและจดตามคำบอกจะช่วยเสริมคำศัพท์ใหม่ และทำให้คุณคุ้นเคยกับสำเนียงเจ้าของภาษา
ดาวน์โหลดแอป PREP วันนี้เพื่อเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่บ้าน
ติดต่อ HOTLINE +6624606789 หรือคลิกที่นี่เพื่อสมัครเรียนทันที!