ค้นหาบทความการศึกษา
ความแตกต่างระหว่าง TOEIC กับ IELTS เลือกสอบแบบไหนดีกว่า
ในยุคที่ความสามารถทางภาษาอังกฤษกลายเป็นตัวกำหนดโอกาสในชีวิต การเลือกข้อสอบที่เหมาะสมระหว่าง TOEIC และ IELTS กลับกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้หลายคนลังเลและเสียเวลาในการตัดสินใจ คำถามที่ว่า "ควรสอบอะไรดี?" ไม่ใช่แค่เรื่องของการเลือกข้อสอบ แต่เป็นการเลือกเส้นทางชีวิต
บทความนี้จะเจาะลึกความแตกต่างระหว่าง TOEIC กับ IELTS อย่างครบถ้วน เพื่อช่วยให้คุณเลือกข้อสอบที่ตรงกับเป้าหมายและสร้างคุณค่าสูงสุดให้กับอนาคตของคุณ
การเข้าใจความแตกต่างของการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษแต่ละประเภทมีความสำคัญมากกว่าที่คิด TOEIC (Test of English for International Communication) ถูกออกแบบมาเพื่อวัดทักษะการสื่อสารในสภาพแวดล้อมการทำงานสากล โดยเฉพาะในบริบทธุรกิจและองค์กรข้ามชาติ ขณะที่ IELTS (International English Language Testing System) มุ่งเน้นการวัดความสามารถทางภาษาแบบองค์รวมสำหรับการศึกษาต่อและการใช้ชีวิตในต่างประเทศ
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาไม่ได้จำกัดอยู่แค่รูปแบบการสอบ แต่รวมถึงวัตถุประสงค์การใช้งาน ค่าใช้จ่าย ระยะเวลาในการเตรียมตัว และการยอมรับในสถาบันหรือองค์กรเป้าหมาย การทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของแต่ละข้อสอบจะช่วยให้การลงทุนเวลาและทรัพยากรในการเตรียมตัวเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ผ่านการวิเคราะห์เชิงลึกในหลายมิติ คุณจะได้รับข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับโครงสร้างการสอบ เนื้อหา ระบบการให้คะแนน และกลยุทธ์การเตรียมตัวที่เหมาะสมกับแต่ละข้อสอบ พร้อมทั้งตารางเปรียบเทียบที่ชัดเจนและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
มาเริ่มต้นการเดินทางสู่การตัดสินใจที่ชาญฉลาดด้วยการทำความเข้าใจเป้าหมายของคุณเป็นอันดับแรก

- I. เป้าหมาย ใช้ผลสอบเพื่ออะไร?
- II. TOEIC Listening & Reading ปะทะ IELTS Academic & General Training
- III. สิ่งที่คะแนน TOEIC และ IELTS บอกเกี่ยวกับทักษะภาษาของคุณ
- IV. วางแผนเตรียมตัวสำหรับผู้เริ่มต้น
- V. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
- 1. จริงหรือไม่? ที่ผลสอบ TOEIC สามารถใช้สมัครเรียนต่อในบางหลักสูตรได้
- 2. "Band Score" ของ IELTS คืออะไร และระดับคะแนน 7.0 ถือว่าเก่งมากน้อยแค่ไหน?
- 3. การสอบภาษาอังกฤษที่ใช้ในไทย สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มหลักๆ อะไรได้บ้าง?
- 4. ระหว่างการสอบพูดของ IELTS กับ TOEIC Speaking (เวอร์ชันที่ไม่แพร่หลาย) มีความแตกต่างกันในด้านการประเมินผลอย่างไร?
I. เป้าหมาย ใช้ผลสอบเพื่ออะไร?
1. เพื่อการทำงานในองค์กรเอกชนและรัฐวิสาหกิจ
TOEIC กลายเป็นมาตรฐานหลักในองค์กรไทยเนื่องจากเนื้อหาที่เน้นการใช้ภาษาในสภาพแวดล้อมการทำงาน บริษัทชั้นนำและหน่วยงานรัฐจำนวนมากกำหนดเกณฑ์คะแนน TOEIC สำหรับการสมัครงาน การเลื่อนตำแหน่ง และการส่งพนักงานไปฝึกอบรมต่างประเทศ
การสอบ โท อิ ค มีจุดแข็งในการวัดความสามารถทางภาษาที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับงานประจำวัน เช่น การอ่านอีเมลธุรกิจ การฟังการนำเสนอ และการเข้าใจเอกสารทางการ
2. เพื่อการศึกษาต่อต่างประเทศและการย้ายถิ่นฐาน
IELTS vs TOEIC ในบริบทการศึกษาต่อแสดงให้เห็นความแตกต่างชัดเจน IELTS ได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยกว่า 11,000 แห่งทั่วโลก รวมถึงประเทศออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ และอังกฤษที่ใช้ IELTS เป็นเกณฑ์หลักสำหรับวีซ่านักเรียนและการย้ายถิ่นฐาน
การสอบ IELTS วัดความสามารถครบ 4 ทักษะ ซึ่งสะท้อนความพร้อมในการใช้ชีวิตและศึกษาในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก

II. TOEIC Listening & Reading ปะทะ IELTS Academic & General Training
1. ทักษะที่ใช้ในการสอบ
IELTS กับ TOEIC แตกต่างกันในระดับพื้นฐานของการวัดทักษะ การเปรียบเทียบ TOEIC vs IELTS ในด้านนี้แสดงให้เห็นถึงปรัชญาการออกแบบข้อสอบที่แตกต่างกัน
ทักษะ |
TOEIC |
IELTS |
Listening |
✓ |
✓ |
Reading |
✓ |
✓ |
Writing |
✗ (แยกต่างหาก) |
✓ |
Speaking |
✗ (แยกต่างหาก) |
✓ |
TOEIC มาตรฐานวัดเฉพาะทักษะรับ (Receptive Skills) ขณะที่ IELTS วัดทักษะการสื่อสารแบบครบวงจร
2. เนื้อหาและบริบทของข้อสอบ
เนื้อหาของ TOEIC IELTS มีความเฉพาะเจาะจงที่แตกต่างกัน TOEIC เน้นสถานการณ์ในสำนักงาน การประชุม การเดินทางเพื่อธุรกิจ และการสื่อสารในองค์กร ส่วน IELTS Academic เน้นเนื้อหาวิชาการ บทความวิจัย และหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาระดับสูง
บทความแนะนำอ่านต่อ:
IELTS Academic vs General ต่างกันอย่างไร?
3. รูปแบบการสอบและโครงสร้างข้อสอบ
การเปรียบเทียบโครงสร้างข้อสอบแสดงให้เห็นความแตกต่างในการจัดสรรเวลาและรูปแบบคำถาม:
องค์ประกอบ |
TOEIC |
IELTS Academic |
ระยะเวลาสอบ |
2 ชั่วโมง |
2 ชั่วโมง 45 นาที |
Listening |
45 นาที |
30 นาที |
Reading |
75 นาที |
60 นาที |
Writing |
- |
60 นาที |
Speaking |
- |
11-14 นาที |
รูปแบบคำถาม |
Multiple Choice |
หลากหลาย |
4. ระบบการให้คะแนนและเกณฑ์วัดผล
TOEIC ใช้ระบบคะแนน 10-990 โดยแบ่งเป็น Listening (5-495) และ Reading (5-495) ขณะที่ IELTS ใช้ระบบ Band Score 0-9 โดยแต่ละทักษะได้คะแนนแยกและมีคะแนนรวม (Overall Band Score)
5. ค่าใช้จ่าย, ศูนย์สอบ และอายุของผลสอบ
ค่าสอบ TOEIC อยู่ที่ประมาณ 1,200 บาท ส่วน IELTS อยู่ที่ 7,750 บาท ความถี่ในการจัดสอบและจำนวนศูนย์สอบ TOEIC มีมากกว่า IELTS ในประเทศไทย ผลสอบทั้งสองมีอายุ 2 ปี
เกณฑ์เปรียบเทียบ |
TOEIC |
IELTS |
เป้าหมายหลัก |
การทำงาน |
การศึกษา/ย้ายถิ่น |
ทักษะที่วัด |
Listening + Reading |
4 ทักษะครบ |
เนื้อหา |
ธุรกิจ/การทำงาน |
วิชาการ/ชีวิตทั่วไป |
ค่าสอบ |
~1,200 บาท |
~7,750 บาท |
ความยาก |
ปานกลาง |
สูง |
การยอมรับ |
ในประเทศ/เอเชีย |
สากล |
III. สิ่งที่คะแนน TOEIC และ IELTS บอกเกี่ยวกับทักษะภาษาของคุณ
1. TOEIC: มาตรวัด "ความคล่องแคล่วในการสื่อสารเชิงหน้าที่" (Functional Proficiency) ในบริบทการทำงาน
คะแนน TOEIC สะท้อนความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อปฏิบัติงานเฉพาะเจาะจง ผู้ที่ได้คะแนน TOEIC สูงมักมีความแข็งแกร่งในการเข้าใจการสื่อสารในสำนักงาน การอ่านเอกสารทางการ และการตีความข้อมูลในรูปแบบธุรกิจ
2. IELTS: มาตรวัด "ความสามารถทางภาษาแบบองค์รวม" (Holistic Communicative Competence) สำหรับการใช้ชีวิตและศึกษาต่อ
คะแนน IELTS แสดงความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในบริบทที่หลากหลาย ทั้งการแสดงความคิดเห็น การวิเคราะห์ การนำเสนอแนวคิดเชิงวิชาการ และการปรับตัวกับสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
เมื่อพูดถึง TOEFL TOEIC IELTS ในภาพรวม TOEFL มีตำแหน่งเฉพาะสำหรับการสมัครเรียนในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา การเปรียบเทียบ TOEFL vs IELTS แสดงให้เห็นว่า TOEFL เน้นการใช้ภาษาแบบอเมริกันและมีรูปแบบการสอบที่เป็น Computer-based ขณะที่ TOEFL IELTS มีการยอมรับที่คาบเกี่ยวกันในหลายประเทศ
IV. วางแผนเตรียมตัวสำหรับผู้เริ่มต้น
1. กลยุทธ์พิชิต TOEIC: เน้นคลังศัพท์ธุรกิจ, การบริหารเวลา และเทคนิคการเดาอย่างมีหลักการ
การเตรียมตัวสอบ TOEIC ต้องมุ่งเน้นไปที่คำศัพท์ธุรกิจและการฝึกทำข้อสอบแบบจับเวลา เทคนิคสำคัญประกอบด้วย:
-
การสร้างฐานคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับงานออฟฟิศ การเงิน การขาย และการจัดการ
-
การฝึกอ่านอย่างรวดเร็วเพื่อจับประเด็นสำคัญ
-
การเรียนรู้รูปแบบการฟังแบบต่างๆ ทั้งการสนทนาและการนำเสนอ
2. กลยุทธ์พิชิต IELTS: สร้างความแข็งแกร่งครบ 4 ทักษะ, พัฒนาแนวคิด และการใช้ภาษาเชิงวิชาการ
การเตรียมสอบ IELTS ต้องการการพัฒนาแบบรอบด้าน โดยเฉพาะ:
-
การฝึกเขียนเรียงความและรายงานเชิงวิชาการ
-
การพัฒนาทักษะการพูดที่สามารถแสดงความคิดเห็นและวิเคราะห์ประเด็น
-
การอ่านบทความยาวและการทำความเข้าใจเนื้อหาที่ซับซ้อน

V. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. จริงหรือไม่? ที่ผลสอบ TOEIC สามารถใช้สมัครเรียนต่อในบางหลักสูตรได้
จริง แต่มีข้อจำกัด มหาวิทยาลัยบางแห่งในเอเชียและโปรแกรมภาษาบางหลักสูตรยอมรับคะแนน TOEIC แต่ส่วนใหญ่ต้องการ TOEIC Speaking และ Writing เพิ่มเติม
2. "Band Score" ของ IELTS คืออะไร และระดับคะแนน 7.0 ถือว่าเก่งมากน้อยแค่ไหน?
Band Score เป็นระบบการให้คะแนนแบบ 9 ระดับ คะแนน 7.0 ถือเป็นระดับ "Good User" ซึ่งแสดงความสามารถในการใช้ภาษาได้ดีในสถานการณ์ส่วนใหญ่ แม้จะมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยบ้าง
3. การสอบภาษาอังกฤษที่ใช้ในไทย สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มหลักๆ อะไรได้บ้าง?
การสอบแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก: กลุ่มเพื่อการทำงาน (TOEIC) กลุ่มเพื่อการศึกษา (IELTS, TOEFL) และกลุ่มวัดระดับทั่วไป (CU-TEP, TU-GET)
4. ระหว่างการสอบพูดของ IELTS กับ TOEIC Speaking (เวอร์ชันที่ไม่แพร่หลาย) มีความแตกต่างกันในด้านการประเมินผลอย่างไร?
IELTS Speaking ประเมินผ่านการสนทนากับผู้สอบจริง โดยดูทั้งความคล่องแคล่ว ความถูกต้องทางไวยากรณ์ การใช้คำศัพท์ และการออกเสียง ส่วน TOEIC Speaking เป็นการบันทึกเสียงตอบคำถามผ่านคอมพิวเตอร์ เน้นการใช้ภาษาในบริบทการทำงานมากกว่า
การตัดสินใจระหว่าง TOEIC กับ IELTS ขึ้นอยู่กับเป้าหมายชัดเจนของแต่ละบุคคล หากมุ่งหวังความก้าวหน้าในอาชีพและการทำงานในประเทศไทยหรือเอเชีย TOEIC จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมทั้งในด้านค่าใช้จ่ายและประโยชน์ใช้สอย
ในทางกลับกัน หากวางแผนศึกษาต่อต่างประเทศหรือการย้ายถิ่นฐาน IELTS จะเปิดโอกาสให้กว้างขวางกว่า แม้จะต้องลงทุนเวลาและค่าใช้จ่ายมากกว่า แต่จะได้รับการพัฒนาทักษะภาษาแบบครบครันที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
การเลือกข้อสอบที่เหมาะสมคือการลงทุนในอนาคตของตัวเอง ควรพิจารณาทั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้การตัดสินใจนำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับแผนชีวิตของคุณ
Prepedu – แพลตฟอร์มเรียน & ฝึกสอบอัจฉริยะที่ใช้ AI ช่วยให้คุณเรียนรู้ไวยากรณ์และคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้อย่างง่ายดาย ด้วยวิธีการ Context-based Learning, Task-based Learning และ Guided Discovery ที่ทำให้การเรียนรู้เข้าใจง่ายและน่าสนใจยิ่งขึ้น
การเตรียมตัวสอบ IELTS ที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยแผนการเรียนรู้ที่เป็นระบบและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง หากคุณต้องการยกระดับทักษะภาษาอังกฤษและบรรลุเป้าหมายคะแนนที่ตั้งไว้ การเรียน IELTS และ TOEIC เรียนกับ PREP จะช่วยให้คุณเข้าถึงหลักสูตรที่ออกแบบมาเป็นพิเศษตามระดับความสามารถ ด้วยระบบการเรียนการสอนที่ผสมผสานเทคโนโลยี AI
ดาวน์โหลดแอป PREP วันนี้ เพื่อเริ่มเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์จากที่บ้าน
ติดต่อ HOTLINE +6624606789 หรือคลิกที่นี่เพื่อสมัครเรียนทันที!

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
เนื้อหาแบบพรีเมียม
ดูทั้งหมดค้นหาบทความการศึกษา
แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน
กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
