TOEIC IELTS Conversion แปลงคะแนนยังไงให้ไม่งง

การเทียบคะแนน TOEIC กับ IELTS เป็นเรื่องที่หลายคนอยากรู้ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ ยังไม่มีตาราง TOEIC IELTS Score Comparison แบบเป็นทางการจากผู้จัดสอบ ไม่ว่าจะเป็น ETS หรือ IELTS Partners ทั้งหมดที่มีในปัจจุบันเป็นเพียง การประมาณค่า (Estimated Conversion) เท่านั้น เพราะรูปแบบข้อสอบ จุดประสงค์ และทักษะที่วัดแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง บทความนี้จะช่วยอธิบายการ TOEIC IELTS Comparison อย่างละเอียด พร้อมตารางเทียบคะแนน TOEIC to IELTS ที่อ้างอิงจาก CEFR และข้อมูลสถิติ เพื่อให้คุณใช้ประกอบการวางแผนเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ควรใช้แทนเกณฑ์อย่างเป็นทางการในการสมัครงานหรือเรียนต่อ หากคุณกำลังสงสัยว่า TOEIC กับ IELTS สอบแบบไหนดีกว่า บทความนี้มีข้อมูลครบจบในที่เดียว!

I. รู้จัก TOEIC vs IELTS ก่อนเทียบ: สอบอะไร? วัดอะไรต่างกัน?

ก่อนจะเข้าใจตารางเทียบคะแนน TOEIC IELTS Conversion เราจำเป็นต้องเข้าใจ TOEIC IELTS Comparison พื้นฐานของการสอบทั้งสองประเภทก่อน

1. TOEIC Listening & Reading (L&R): เน้นภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารใน "ที่ทำงาน"

1.1. รูปแบบข้อสอบและคะแนน (เต็ม 990)

TOEIC (Test of English for International Communication) วัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในบริบทการทำงาน ข้อสอบ TOEIC L&R ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ Listening (100 ข้อ) และ Reading (100 ข้อ) คะแนนเต็ม 990 คะแนน ข้อสอบเป็นแบบปรนัยทั้งหมด

1.2. กลุ่มเป้าหมายหลัก (คนทำงาน, นักศึกษาเตรียมสมัครงานในไทย)

TOEIC เป็นที่นิยมในหมู่คนทำงานในองค์กรไทยหรือบริษัทในเอเชีย หลายบริษัทในประเทศไทยกำหนดคะแนน TOEIC ขั้นต่ำในการรับสมัครงาน เช่น บริษัทระดับ Top Tier มักกำหนดที่ 700-850 คะแนนขึ้นไป

2. IELTS (Academic & General Training): วัดครบ 4 ทักษะ

2.1. รูปแบบข้อสอบและคะแนน (Band 0-9)

IELTS (International English Language Testing System) ครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ มี 2 รูปแบบ คือ Academic (สำหรับการศึกษาต่อ) และ General Training (สำหรับการย้ายถิ่นฐานหรือทำงาน) ใช้ระบบคะแนนเป็น Band Score 0-9 โดยผลคะแนนแสดงเป็นทศนิยม 0.5

บทความแนะนำอ่านต่อ: เข้าใจความแตกต่างระหว่าง IELTS Academic กับ General Training เพื่อการเลือกที่เหมาะสม

2.2. กลุ่มเป้าหมายหลัก (เรียนต่อ, ย้ายถิ่นฐาน, งานที่ต้องการทักษะครบ)

IELTS เป็นที่นิยมในหมู่คนที่ต้องการศึกษาต่อหรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา และบางมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา

II. TOEIC IELTS Conversion: เทียบคะแนน TOEIC กับ IELTS

1. คำเตือนสำคัญ: ตารางนี้คือ "ค่าประมาณ" ไม่ใช่การแปลงคะแนนทางการ

การเทียบคะแนนระหว่าง TOEIC และ IELTS (TOEIC IELTS Conversion) เป็นเพียง "ค่าประมาณ" เท่านั้น ไม่ใช่การแปลงคะแนนอย่างเป็นทางการ เพราะทั้งสองการทดสอบวัดทักษะและมีรูปแบบที่แตกต่างกัน

2. ตาราง TOEIC IELTS Score Comparison

3. ที่มาของข้อมูลและการเทียบเคียง

ตารางนี้อ้างอิงจาก:

1. กรอบ CEFR 
2. ข้อมูลสถิติของผู้เข้าสอบ 
3. เกณฑ์การรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชั้นนำ และ 
4. การศึกษาเปรียบเทียบจากสถาบันภาษา

III. ถอดรหัสคะแนน: TOEIC 800 และคะแนนอื่นๆ เทียบเท่า IELTS Band ไหน?

1. เจาะลึก TOEIC 800 คะแนน: เกณฑ์นี้บอกระดับภาษาอังกฤษด้านไหน?

คะแนน TOEIC 800 แสดงถึงความสามารถระดับดีมากในทักษะการฟังและการอ่านภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ ผู้ที่ได้คะแนนนี้สามารถเข้าใจบทสนทนาที่ซับซ้อนในสถานการณ์ทำงาน และอ่านเอกสารทางธุรกิจได้อย่างคล่องแคล่ว

2. เทียบระดับความสามารถ: เมื่อ TOEIC 800 ปะทะ IELTS

คะแนน TOEIC 800 โดยทั่วไปเทียบเท่ากับ IELTS Band ประมาณ 6.5-7.0 ซึ่งอยู่ในระดับ B2-C1 ตาม CEFR หมายความว่า:

• ผู้ที่ได้ TOEIC 800 สามารถใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• ในทางกลับกัน ผู้ที่ได้ IELTS 6.5-7.0 มีความสามารถครบทั้ง 4 ทักษะ

IV. ทำไมแปลงคะแนนเป๊ะๆ ไม่ได้? TOEIC IELTS Conversion ข้อจำกัด

1. จุดประสงค์และเนื้อหาต่างกันสุดขั้ว (โลกทำงาน vs โลกวิชาการ/ทั่วไป)

TOEIC เน้นสถานการณ์ทางธุรกิจ ขณะที่ IELTS มีเนื้อหาที่หลากหลายกว่า โดยเฉพาะ IELTS Academic ที่มีเนื้อหาทางวิชาการและต้องการความสามารถในการวิเคราะห์

2. ทักษะที่วัดไม่เหมือนกัน (เน้นทักษะการรับสาร vs วัดครบ 4 ด้าน)

TOEIC L&R วัดเฉพาะทักษะการฟังและการอ่าน ขณะที่ IELTS วัดทั้ง 4 ทักษะ ทำให้คนที่ได้คะแนน TOEIC สูงอาจไม่ได้ IELTS Band สูงเช่นกันหากทักษะการพูดและการเขียนไม่แข็งแรง

3. ไม่มีมาตรฐานกลางจากผู้จัดสอบโดยตรง (ETS vs IELTS Partners)

ผู้จัดสอบทั้งสองไม่ได้ให้การรับรองตารางเทียบคะแนนอย่างเป็นทางการ ตารางที่มีอยู่เป็นเพียงการประมาณการจากหน่วยงานภายนอก

V. เลือกใช้ให้ถูก: คะแนนไหนจำเป็นสำหรับเป้าหมายของคุณ?

1. สถานการณ์ที่ "ต้องมี" หรือ "ได้เปรียบ" ด้วยคะแนน TOEIC

• บริษัทญี่ปุ่น เกาหลี และบริษัทข้ามชาติในเอเชียหลายแห่งกำหนดคะแนน TOEIC ขั้นต่ำในการรับพนักงาน

• ตัวอย่าง: Toyota ประเทศไทย (650+ สำหรับวิศวกร), Samsung Electronics (750+ สำหรับผู้จัดการฝ่ายการตลาด)

• หลายหน่วยงานราชการไทยใช้คะแนน TOEIC ในการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง

2. สถานการณ์ที่ "จำเป็น" ต้องใช้คะแนน IELTS

2.1. เรียนต่อต่างประเทศ (ป.ตรี โท เอก)

• มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลกเกือบทั้งหมดยอมรับคะแนน IELTS

• เกณฑ์ทั่วไป: ปริญญาตรี (6.0-6.5), ปริญญาโท (6.5-7.0), ปริญญาเอก (7.0-7.5)

2.2. เรียนหลักสูตรนานาชาติในไทย

• จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย: IELTS 6.0-6.5 สำหรับหลักสูตรปริญญาตรีนานาชาติ

• มหาวิทยาลัยมหิดล: IELTS 5.5-6.0 สำหรับบางหลักสูตรปริญญาตรีนานาชาติ

2.3. สมัครงานบริษัทข้ามชาติ/องค์กรระหว่างประเทศ

• องค์การสหประชาชาติ: IELTS 7.0+ สำหรับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง

• บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก: มักต้องการ IELTS 7.0+ หรือเทียบเท่า

2.4. ยื่นขอวีซ่าบางประเภท

• ออสเตรเลีย: IELTS 6.0-7.0 สำหรับวีซ่าทำงานและย้ายถิ่นฐาน

• แคนาดา: IELTS 6.0-7.0 สำหรับโปรแกรม Express Entry

• นิวซีแลนด์: IELTS 6.5+ สำหรับวีซ่า Skilled Migrant

VI. คำถามไขข้อข้องใจเพิ่มเติม

1. คะแนน TOEIC ใช้ยื่นแทน IELTS ตอนสมัครเรียนต่อต่างประเทศได้จริงหรือ?

โดยทั่วไปแล้ว ไม่ได้ มหาวิทยาลัยในต่างประเทศส่วนใหญ่ไม่ยอมรับคะแนน TOEIC เนื่องจากไม่ได้วัดทักษะการพูดและการเขียน มีข้อยกเว้นบ้างในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ แต่มักกำหนดคะแนนขั้นต่ำที่สูงมาก

2. "Band Descriptor" ของ IELTS ที่ระดับ 6.5 หรือ 7.0 หมายถึงอะไร?

• IELTS 6.5 = "Competent User" ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมีความไม่แม่นยำในบางสถานการณ์

• IELTS 7.0 = "Good User" ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีในสถานการณ์ที่ซับซ้อน เข้าใจความหมายแฝงในบริบทที่ไม่คุ้นเคย

3. นอกจาก TOEIC/IELTS แล้ว มีการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษอื่นๆ ในไทยไหม?

มีหลายการสอบที่นิยมในประเทศไทย ได้แก่:

1. TOEFL iBT: เป็นที่ยอมรับในมหาวิทยาลัยทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา

2. CU-TEP: ใช้สำหรับสมัครเรียนต่อในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

3. TU-GET: ใช้สำหรับสมัครเรียนต่อในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

4. Duolingo English Test: เริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้น สามารถทำที่บ้านได้

4. หากต้องการเพียง "วัดระดับตัวเอง" ควรเลือกสอบ TOEIC หรือ IELTS?

• หากเป้าหมายคือทำงานในบริษัทไทยหรือเอเชีย เลือก TOEIC เพราะราคาสอบถูกกว่า (1,500-1,800 บาท)

• หากเป้าหมายคือศึกษาต่อหรือทำงานในต่างประเทศ เลือก IELTS เพราะให้ภาพรวมที่ครบถ้วนกว่า แม้ค่าสอบจะสูงกว่า (6,500-7,000 บาท)

มีการทดสอบฟรีหรือราคาถูกเพื่อประเมินเบื้องต้น เช่น EFSET, Cambridge Placement Test หรือแบบทดสอบออนไลน์จาก British Council

TOEIC IELTS Conversion เป็นเพียงจุดเริ่มต้น สิ่งที่สำคัญกว่าคือการเข้าใจว่าแต่ละการทดสอบวัดทักษะอะไร และทักษะไหนที่จำเป็นสำหรับเป้าหมายของคุณ

แทนที่จะกังวลเรื่องการแปลงคะแนน คุณควรถามตัวเองว่า:

1. เป้าหมายระยะยาวของฉันคืออะไร?

2. การทดสอบแบบไหนที่ได้รับการยอมรับในเส้นทางที่ฉันเลือก?

3. ฉันควรพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษด้านไหนเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น?

PREP พร้อมสนับสนุนเส้นทางการพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณ ไม่ว่าคุณจะเลือก TOEIC หรือ IELTS ด้วยหลักสูตรที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายคะแนนที่ต้องการ