ค้นหาบทความการศึกษา

หลักการใช้ Superlative (ขั้นสุด) ฉบับเข้าใจง่าย: คู่มือพร้อมตัวอย่าง

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมเราถึงบอกว่า "แอมะซอนเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก" แทนที่จะบอกแค่ว่า "แอมะซอนเป็นแม่น้ำที่ยาว"? หรือที่แมคโดนัลด์โฆษณาว่าขายเบอร์เกอร์อร่อยที่สุด ไม่ใช่แค่อร่อย? นั่นเพราะการเปรียบเทียบขั้นสุด หรือ superlative เป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสารที่ช่วยให้เราแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นได้อย่างเฉียบคมและชัดเจน เมื่อต้องการบอกว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็น "ที่สุด" เหนือทุกสิ่ง

Superlative คือรูปแบบของคำคุณศัพท์หรือคำวิเศษณ์ที่ใช้แสดงขั้นสูงสุดในการเปรียบเทียบ เมื่อต้องการบอกว่าสิ่งนั้นมีคุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม บทความนี้จะพาคุณเข้าใจ superlative หลักการใช้ อย่างถ่องแท้ พร้อม ประโยค superlative ตัวอย่าง

เมื่อพูดถึงการเปรียบเทียบในภาษาอังกฤษ เราต้องเข้าใจว่ามีอยู่สามระดับ คือ ระดับปกติ (Positive degree) ระดับขั้นกว่า (Comparative degree) และระดับขั้นสุด (Superlative degree) โดย superlative adjectives หรือคำคุณศัพท์ขั้นสุดนี้ เราใช้เมื่อต้องเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งกับสิ่งอื่นๆ ทั้งหมดในกลุ่มเดียวกัน (ตั้งแต่ 3 สิ่งขึ้นไป) หลักการสร้างก็ไม่ยาก คำสั้นๆ หนึ่งพยางค์เช่น tall, short, fast เราเติม -est ได้เป็น tallest, shortest, fastest ส่วนคำยาวตั้งแต่สองพยางค์ขึ้นไป เช่น beautiful, interesting, comfortable เราใช้ most นำหน้าเป็น most beautiful, most interesting, most comfortable

แต่เหมือนกฎทุกกฎ ย่อมมีข้อยกเว้น ขั้นกว่าขั้นสุด ของคำบางคำไม่เป็นไปตามหลักทั่วไป เช่น good กลายเป็น best, bad กลายเป็น worst, far กลายเป็น farthest หรือ furthest คำเหล่านี้ต้องจำเป็นพิเศษ

การเรียนรู้ superlative มีประโยชน์มากมาย ช่วยให้คุณสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดดเด่นในการสอบ TOEIC, IELTS, TOEFL และใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน จาก superlative worksheet ที่ทำในห้องเรียนสู่การพูดคุยจริงในสถานการณ์ต่างๆ

อยากรู้เทคนิคการสร้างและใช้ superlative ให้ถูกต้องและเป็นธรรมชาติ? ติดตามเนื้อหาต่อไปนี้ เราจะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมของการใช้ superlative พร้อมตัวอย่างที่ชัดเจนและใช้ได้จริง

การเปรียบเทียบขั้นสุดในภาษาอังกฤษ - โครงสร้างและตัวอย่างการใช้
การเปรียบเทียบขั้นสุดในภาษาอังกฤษ - โครงสร้างและตัวอย่างการใช้

I. Superlative คืออะไร?

Superlative คือรูปแบบของคำคุณศัพท์หรือคำวิเศษณ์ที่ใช้แสดงว่าสิ่งหนึ่งมีคุณสมบัติที่ "สูงสุด" หรือ "ต่ำสุด" เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งอื่นๆ ทั้งหมดในกลุ่มเดียวกัน (ตั้งแต่ 3 สิ่งขึ้นไป) Superlative degree หรือระดับขั้นสุดนี้ เป็นรูปแบบที่สูงกว่าระดับธรรมดา (positive degree) และระดับขั้นกว่า (comparative degree)

ระดับขั้น

ความหมาย

ตัวอย่าง

Positive

ระดับปกติ

tall (สูง)

Comparative

ขั้นกว่า (เปรียบเทียบ 2 สิ่ง)

taller (สูงกว่า)

Superlative

ขั้นสุด (เปรียบเทียบ 3 สิ่งขึ้นไป)

tallest (สูงที่สุด)

ตัวอย่าง ประโยค superlative ง่ายๆ:

  • Mount Everest is the tallest mountain in the world. (ภูเขาเอเวอเรสต์เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลก)

  • This is the most interesting book I've ever read. (นี่เป็นหนังสือที่น่าสนใจที่สุดที่ฉันเคยอ่าน)

การเปรียบเทียบขั้นสุดในภาษาอังกฤษ - โครงสร้างและตัวอย่างการใช้
การเปรียบเทียบขั้นสุด (Superlative) ในภาษาอังกฤษคืออะไร

II. กฎการสร้าง Superlative Adjective 

Superlative adjectives หรือคำคุณศัพท์ขั้นสุด มีหลักการสร้างที่แตกต่างกันตามลักษณะของคำ ลองดูวิธีการสร้าง superlative แต่ละแบบต่อไปนี้:

1. คำพยางค์เดียว: เติม -est ง่ายๆ

สำหรับคำคุณศัพท์ที่มีพยางค์เดียว เราเติม -est ต่อท้ายคำ โดยมีกฎการสะกดดังนี้:

กฎการสะกด

คำเดิม

Superlative

ตัวอย่างประโยค

คำทั่วไป: เติม -est

tall

tallest

He is the tallest boy in class.

ลงท้ายด้วย e: เติม -st

nice

nicest

This is the nicest gift I've received.

สระเสียงสั้น+พยัญชนะ: เพิ่มพยัญชนะและ -est

big

biggest

This is the biggest house in town.

ลงท้ายด้วย y: เปลี่ยน y เป็น i และเติม -est

dry

driest

The Sahara is the driest desert on Earth.

การเปรียบเทียบขั้นสุดในภาษาอังกฤษ - โครงสร้างและตัวอย่างการใช้
การเปรียบเทียบขั้นสุด: คำคุณศัพท์สั้น

2. คำหลายพยางค์: ใช้ 'most' นำหน้า

สำหรับคำคุณศัพท์ที่มีตั้งแต่ 2 พยางค์ขึ้นไป superlative หลักการใช้ คือการใช้คำว่า most นำหน้า:

คำเดิม

Superlative

ตัวอย่างประโยค

beautiful

most beautiful

She is the most beautiful woman I've ever met.

expensive

most expensive

This is the most expensive car in the showroom.

comfortable

most comfortable

That's the most comfortable chair in our house.

interesting

most interesting

This is the most interesting topic in the book.

หมายเหตุ: คำคุณศัพท์ 2 พยางค์บางคำอาจใช้ได้ทั้งแบบเติม -est หรือใช้ most นำหน้า (เช่น clever → cleverest หรือ most clever) แต่โดยทั่วไปแล้วการใช้หลักการข้างต้นจะปลอดภัยที่สุด

3. Irregular Adjectives

มีคำคุณศัพท์บางคำที่เปลี่ยนรูปแบบพิเศษในรูป superlative ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎทั่วไป คำเหล่านี้ต้องจำโดยตรง:

คำเดิม

Superlative

ตัวอย่างประโยค

good

best

She is the best student in our school.

bad

worst

This is the worst movie I've ever seen.

far

farthest/furthest

That's the farthest point from here.

little

least

She has the least experience among us.

much/many

most

They have the most money in town.

III. กฎการสร้าง Superlative Adverb 

การสร้าง superlative adverb มีหลักการคล้ายกับ adjective แต่มีจุดที่ต้องสังเกตเพิ่มเติม

1. Adverb ที่รูปเหมือน Adjective สั้นๆ

คำวิเศษณ์บางคำมีรูปเหมือนคำคุณศัพท์ (เช่น fast, hard, late) สามารถสร้างรูป superlative โดยเติม -est เช่นเดียวกับคำคุณศัพท์:

fast → fastest

hard → hardest

late → latest

ตัวอย่าง: He runs the fastest in our team. (เขาวิ่งเร็วที่สุดในทีมของเรา)

2. Adverb ที่ลงท้ายด้วย -ly (ส่วนใหญ่): ใช้ 'most' นำหน้า

คำวิเศษณ์ที่ลงท้ายด้วย -ly มักใช้ most นำหน้าเพื่อสร้างรูป superlative:

quickly → most quickly

carefully → most carefully

effectively → most effectively

ตัวอย่าง: She works most carefully among all employees. (เธอทำงานอย่างระมัดระวังที่สุดในบรรดาพนักงานทั้งหมด)

3. Irregular Adverbs

มีคำวิเศษณ์บางคำที่เปลี่ยนรูปพิเศษในรูป superlative เช่นเดียวกับคำคุณศัพท์:

คำเดิม

Superlative

ตัวอย่างประโยค

well

best

She sings the best in the choir.

badly

worst

He performed worst among the contestants.

far

farthest/furthest

She threw the ball furthest of all.

IV. วาง Superlative ในประโยคให้ถูกต้อง

1. การใช้ 'the' กับ Superlative Adjective

กฎสำคัญ: เมื่อใช้ superlative adjective ต้องมี "the" นำหน้าเสมอ เพราะเรากำลังระบุว่าสิ่งนั้นมีคุณสมบัติที่สุดใน "กลุ่ม" (เฉพาะเจาะจง)

  • She is the tallest girl in our class. ✓

  • She is tallest girl in our class. ✗

ยกเว้นในบางกรณี เช่น เมื่อใช้ superlative เป็น predicate adjective หลัง verb to be:

His smile is brightest when he sees his mother. (ยอมรับได้ แต่มี "the" จะดีกว่า)

2. โครงสร้างประโยคพื้นฐาน

โครงสร้างประโยคพื้นฐานเมื่อใช้ superlative มีดังนี้:

Superlative Adjective:

Subject + Verb + the + Superlative Adj. + Noun + (in/of + group).

ตัวอย่าง:

  • Tokyo is the largest city in Japan.

  • This is the most expensive hotel in town.

  • She is the best dancer of the group.

Superlative Adverb:

Subject + Verb + (the) + Superlative Adv. + (in/of + group).

ตัวอย่าง:

  • He runs the fastest in his class.

  • She speaks most clearly among all presenters.

  • This team performed the best of all competitors.

V. Superlative (ขั้นสุด) vs. Comparative (ขั้นกว่า)

ลักษณะ

Comparative (ขั้นกว่า)

Superlative (ขั้นสุด)

จำนวนสิ่งที่เปรียบเทียบ

เปรียบเทียบระหว่าง 2 สิ่ง

เปรียบเทียบตั้งแต่ 3 สิ่งขึ้นไป

การสร้างรูป (คำสั้น)

เติม -er (tall → taller)

เติม -est (tall → tallest)

การสร้างรูป (คำยาว)

ใช้ more นำหน้า (beautiful → more beautiful)

ใช้ most นำหน้า (beautiful → most beautiful)

คำเชื่อม

ใช้ than

ใช้ in หรือ of ตามด้วยกลุ่ม

การใช้ article

ไม่จำเป็นต้องมี the

ต้องมี the นำหน้า

ตัวอย่างประโยคเปรียบเทียบ:

  • Comparative: John is taller than Mike. (จอห์นสูงกว่าไมค์)

  • Superlative: John is the tallest boy in class. (จอห์นเป็นเด็กผู้ชายที่สูงที่สุดในชั้นเรียน)

VI. ข้อควรระวัง

1. Double Superlative - การใช้ทั้ง most และ -est พร้อมกัน

  • She is the most prettiest girl. ✗

  • She is the prettiest girl. หรือ She is the most pretty girl. ✓ 

2. ลืมใส่ "the" - การใช้ superlative adjective โดยไม่มี "the" นำหน้า

  • This is most expensive hotel in Bangkok. ✗ 

  • This is the most expensive hotel in Bangkok. ✓ 

3. ใช้ Superlative กับของเพียง 2 สิ่ง - ควรใช้ comparative แทน

  • Between these two books, this one is the best. ✗ 

  • Between these two books, this one is better. ✓ 

VII. คำถามที่พบบ่อย

เมื่อเข้าใจหลักการพื้นฐานและข้อควรระวังแล้ว ลองมาดูคำถามเพิ่มเติมที่น่าสนใจเกี่ยวกับ superlative กันบ้าง

1. ใช้ Superlative กับของแค่ 2 สิ่งได้จริงไหม?

โดยหลักไวยากรณ์ที่เคร่งครัด ไม่ควรใช้ superlative กับการเปรียบเทียบระหว่างสิ่งเพียง 2 สิ่ง ควรใช้ comparative (ขั้นกว่า) แทน เนื่องจาก superlative ถูกออกแบบมาเพื่อระบุสิ่งที่เป็นที่สุดในกลุ่มที่มีสมาชิกตั้งแต่ 3 ขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม ในภาษาพูดหรือบทสนทนาทั่วไป บางครั้งอาจพบการใช้ superlative ในการเปรียบเทียบระหว่าง 2 สิ่งได้ แต่ในการเขียนทางการหรือการสอบ ควรยึดตามหลักไวยากรณ์ที่ถูกต้อง

2. 'Farthest' กับ 'Furthest' ต่างกันอย่างไร?

ทั้ง 'farthest' และ 'furthest' คือรูป superlative ของ 'far' แต่มีความแตกต่างเล็กน้อยในการใช้:

  • Farthest มักใช้กับระยะทางทางกายภาพที่วัดได้จริง
    ตัวอย่าง: The farthest planet from the Sun is Neptune. (ดาวเนปจูนเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลจากดวงอาทิตย์ที่สุด)

  • Furthest สามารถใช้กับระยะทางจริงได้เช่นกัน แต่ยังใช้ในความหมายเชิงเปรียบเปรยหรือนามธรรม
    ตัวอย่าง: This is the furthest I'll go with this negotiation. (นี่คือจุดไกลสุดที่ฉันจะยอมในการเจรจานี้)

อย่างไรก็ตาม ในภาษาอังกฤษปัจจุบัน คำทั้งสองมักใช้แทนกันได้โดยไม่มีข้อผิดพลาดร้ายแรง

3. มีคำคุณศัพท์/คำวิเศษณ์ประเภทไหนที่ไม่ใช้รูป Superlative บ้าง?

คำคุณศัพท์บางประเภทที่เรียกว่า "Absolute Adjectives" ไม่ควรใช้ในรูป comparative หรือ superlative เนื่องจากความหมายของคำเหล่านี้บ่งบอกถึงสภาวะที่สมบูรณ์อยู่แล้ว ไม่สามารถมี "ระดับ" ได้ เช่น:

  • unique (เป็นเอกลักษณ์)

  • perfect (สมบูรณ์แบบ)

  • dead (ตาย)

  • complete (สมบูรณ์)

  • impossible (เป็นไปไม่ได้)

  • pregnant (ตั้งครรภ์)

การใช้ "most unique" หรือ "more perfect" จึงไม่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ที่เคร่งครัด แม้จะพบได้ในภาษาพูดทั่วไปก็ตาม

4. 'Absolute Adjective' คืออะไรและเกี่ยวกับการใช้ Superlative หรือไม่? (คำถามเชิงนิยาม)

Absolute Adjective คือคำคุณศัพท์ที่โดยความหมายแล้วบ่งบอกถึงคุณสมบัติที่สมบูรณ์หรือสิ้นสุดในตัวเอง ไม่สามารถมีระดับหรือขั้นได้ ตามที่กล่าวไว้ในข้อ 1.8.3

คำเหล่านี้โดยหลักการแล้วไม่ควรปรากฏในรูป superlative เพราะความหมายของคำเหล่านี้สื่อถึงความเป็น "ที่สุด" อยู่แล้ว เช่น สิ่งที่ "perfect" ก็สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว ไม่มี "more perfect" หรือ "most perfect" ได้

อย่างไรก็ตาม ในภาษาพูดและวรรณกรรม บางครั้งมีการใช้ absolute adjective ในรูป comparative หรือ superlative เพื่อเน้นย้ำหรือสร้างภาพพจน์พิเศษ แต่ในบริบทของไวยากรณ์ที่ถูกต้อง โดยเฉพาะในการสอบหรือการเขียนทางการ ควรหลีกเลี่ยง

VIII. สรุป

หลักการใช้ superlative ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงเข้าใจกฎพื้นฐานในการสร้างรูป (เติม -est หรือใช้ most) และใส่ "the" เมื่อใช้กับคำคุณศัพท์ ก็สามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้องแล้ว คุณสามารถฝึกฝนได้ง่ายๆ จากประโยคในชีวิตประจำวัน และเมื่อใช้บ่อยๆ ความมั่นใจก็จะเพิ่มขึ้นเอง จำไว้ว่า superlative ช่วยให้การสื่อสารของคุณชัดเจนและมีพลังมากขึ้น เพราะเป็นการบอกว่าอะไรคือ "ที่สุด" ในสิ่งที่คุณกำลังพูดถึง

หากคุณต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพิ่มเติมเพื่อเตรียมสอบ IELTS ขอแนะนำให้ลงทะเบียนใน คอร์ส IELTS เพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการสอบ

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 อักขระ
Loading...
เข้าสู่ระบบ
เพื่อสัมผัสเนื้อหาพรีเมียมที่ปรับให้เหมาะกับคุณ

เนื้อหาแบบพรีเมียมเนื้อหาแบบพรีเมียม

ดูทั้งหมด

แผนที่เฉพาะบุคคล

TH30

อ่านมากที่สุด

ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน

กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

bg contact

เชื่อมต่อกับ Prep

facebookyoutubeinstagram
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
หลักสูตร
คุณสมบัติเด่น
ห้องฝึกการเขียน IELTS AI
ห้องฝึกพูด IELTS AI
Teacher Bee AI
เชื่อมต่อกับเรา
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย
global sign trurst seal