สรุปความหมายและการใช้ Start ภาษาอังกฤษ

คุณรู้วิธีใช้ Start อย่างถูกต้องและคล่องแคล่วในการสื่อสารและการสอบภาษาอังกฤษหรือยัง วันนี้ PREP จะพาคุณมาดูรายละเอียดของโครงสร้าง Start ภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ความหมายจนถึงวิธีการใช้ พร้อมแบบฝึกหัดและคำตอบ ไปดูกันเลย

I. Start แปลว่าอะไร

Start ภาษาอังกฤษ ออกเสียงว่า /stɑːrt/ และสามารถใช้ได้ทั้งเป็นคำนามและคำกริยา

• ในฐานะคำกริยา start ภาษา ไทยหมายถึง "เริ่มทำบางอย่างหรือไปที่ไหนบางแห่ง หรือเริ่มเกิดขึ้น" เช่น

  • A new song will start on Tuesday nights. (เพลงใหม่จะเริ่มในคืนวันอังคาร)

  • Ticket prices start from 150 USD and go up to 230 USD. (ราคาตั๋วเริ่มต้นที่ 150 USD และสูงถึง 230 USD)

  • When does Anna start her plan? (Anna เริ่มแผนของเธอเมื่อไหร่)

  • Jenny started learning Math in 2006. (Jenny เริ่มเรียนคณิตศาสตร์ตั้งแต่ปี 2006)

  • Peter had just started to do the housework when the phone rang. (Peter เพิ่งเริ่มทำงานบ้านเมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น) (start ช่อง 2 คือ started)

• ในฐานะคำนาม Start หมายถึง "การเริ่มต้นบางสิ่ง หรือเป็นการเริ่มต้นของการแข่งขันหรือเกม" เช่น

  • Harry announced the start of a new campaign. (Harry ประกาศการเริ่มต้นแคมเปญใหม่)

  • John likes this prom from start to finish. (John ชอบงานนี้ตั้งแต่เริ่มจนจบ)

  • Rose stood near me at the start of the race. (Rose ยืนใกล้ฉันตอนเริ่มการแข่งขัน)

II. โครงสร้างการใช้ Start ภาษาอังกฤษ

1. Start + N

ใช้เมื่อต้องการสื่อถึงการเริ่มต้นบางสิ่ง เช่น

• John will start his new job next week. (John จะเริ่มงานใหม่ของเขาในสัปดาห์หน้า)

• Should we start this match? (เราควรเริ่มการแข่งขันนี้ไหม)

• The teacher allowed our team to start the experiment. (คุณครูอนุญาตให้ทีมของเราเริ่มทำการทดลอง)

2. Start + V-ing/To V

ใช้เมื่อต้องการสื่อถึงการเริ่มทำบางสิ่ง เช่น

• Jenny started to build/building her house in September. (Jenny เริ่มสร้างบ้านของเธอในเดือนกันยายน)

• Last month Anna started to learn/learning Japanese. (เดือนที่แล้ว Anna เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่น)

• Everyday at 5 am, it starts to rain/raining. (ทุกวันตอนตีห้าฝนจะเริ่มตก)

3. กรณีพิเศษของ Start

เมื่อเครื่องจักรหรือยานพาหนะเริ่มทำงานจะใช้คำว่า Start เช่น

• Anna’s phone didn’t seem to start no matter how hard she tried. (โทรศัพท์ของ Anna ดูเหมือนจะไม่เริ่มทำงานไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน)

• My phone can’t start because it is out of battery. (โทรศัพท์ของฉันไม่สามารถเริ่มทำงานได้เพราะแบตหมด)

III. Phrasal verbs ที่ใช้กับ Start ภาษาอังกฤษ

Phrasal verbs ที่ใช้กับ Start ภาษาอังกฤษ	ความหมาย	ตัวอย่าง
start again	เริ่มทำบางอย่างอีกครั้ง	She starts again with her gym routine after taking a break for a while.  เธอเริ่มออกกำลังกายอีกครั้งหลังจากพักไปสักพัก
start (something) off	เริ่มต้นทำบางสิ่ง	The company will start the new project off with a big meeting next week.  บริษัทจะเริ่มโครงการใหม่ด้วยการประชุมใหญ่ในสัปดาห์หน้า
start someone off	ช่วยให้ใครบางคนเริ่มทำบางสิ่ง	He started me off in my career by introducing me to his colleagues. เขาเริ่มให้ฉันทำงานโดยแนะนำให้รู้จักเพื่อนร่วมงานของเขา
start on something	เริ่มจัดการกับบางสิ่ง	We should start on our homework now if we don't want to finish late. เราควรเริ่มทำการบ้านตอนนี้ถ้าไม่อยากทำเสร็จช้า
start on at someone	เริ่มบ่นหรือว่าคนอื่นเกี่ยวกับบางสิ่งที่พวกเขาทำ	Mom started on at me about not cleaning my room.  แม่เริ่มบ่นฉันเรื่องไม่ทำความสะอาดห้อง
start out	เริ่มชีวิตหรืออาชีพในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง	He started out as a sales clerk before becoming a manager. เขาเริ่มต้นจากการเป็นพนักงานขายก่อนจะกลายเป็นผู้จัดการ
start over	เริ่มทำบางอย่างใหม่	After losing the data, we had to start the project over.  หลังจากข้อมูลหาย เราต้องเริ่มโครงการใหม่ทั้งหมด
start (something) up	เริ่มตั้งธุรกิจหรือองค์กรใหม่	They started up a new company specializing in technology. พวกเขาเริ่มตั้งบริษัทใหม่ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี

IV. ข้อควรระวังเมื่อใช้ Start ภาษาอังกฤษ

เมื่อใช้ Start ควรระวังสิ่งต่อไปนี้

• Start สามารถตามด้วยคำนามได้โดยตรง

• สามารถใช้ได้ทั้งกับ V-ing และ to V

• เมื่อประธานเป็นสิ่งของ Start จะตามด้วย to V

• โครงสร้าง "Start to V" เน้นว่าบางสิ่งเริ่มเกิดขึ้น

• ถ้า Start อยู่ในรูป continuous tense คำกริยาที่ตามมาควรเป็น "to V" แทน "V-ing" เช่น บรรยากาศกำลังเริ่มตึงเครียด

บทความที่แนะนำ:

ไขความลับการใช้ Expect ภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างที่ใช้ได้จริง

Recommend แปลว่าอะไร? ความหมาย วิธีใช้ และตัวอย่างประโยค

เข้าใจ Different from ภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปลและวิธีใช้

V. การแยกแยะระหว่าง Start และ Begin

เพื่อให้เข้าใจความแตกต่างระหว่าง Start และ Begin ดูตารางเปรียบเทียบต่อไปนี้

VI. แบบฝึกหัดการใช้ Start ภาษาอังกฤษพร้อมเฉลย

เพื่อให้เข้าใจการใช้ Start ได้ดีขึ้น ลองทำแบบฝึกหัดต่อไปนี้กับ PREP

1. แบบฝึกหัด

แบบฝึกหัดที่ 1: เติมประโยคต่อไปนี้ให้สมบูรณ์โดยใช้โครงสร้างเริ่มต้นตามคำที่กำหนดให้

1. Jenny/saved up/money/start/supermarket.

2. Anna/expected/start/new/strategy/would work out.

3. Come on/film/start/in 15 minutes.

4. Rose/is starting/perform/better/last time.

5. They/the/started/project/the/at/this/9am/morning. 

แบบฝึกหัดที่ 2: ผันคำกริยาที่เหมาะสมสำหรับประโยคต่อไปนี้

1. John is starting (understand) _____ what his teacher is conveying.

2. He started his (researcher) _____ in June.

3. Harry started (argue) _____ an hour ago.

4. They started (play)_____ soccer together last year.

5. This movie is fascinating from start (finish)_____.

2. เฉลย

การทำความเข้าใจความหมายและการใช้ Start ในภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถแสดงออกถึงการเริ่มต้น การก่อตั้ง หรือการเปิดการกระทำต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ คำว่า Start สามารถใช้ได้ทั้งในรูปแบบคำกริยาและคำนาม โดยมีโครงสร้างการใช้งานที่หลากหลาย เช่น "start doing something" (เริ่มทำอะไร), "start to do something" (เริ่มทำอะไร), "start something" (เริ่มต้นบางสิ่ง) และ "start with something" (เริ่มต้นด้วยบางสิ่ง) การเข้าใจว่าทั้ง "start doing" และ "start to do" สามารถใช้แทนกันได้โดยไม่มีความแตกต่างของความหมายจะช่วยให้ผู้เรียนมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น

การเรียนรู้วลีและสำนวนที่ใช้กับ Start เช่น "start from scratch" (เริ่มต้นจากศูนย์), "get off to a good/bad start" (เริ่มต้นได้ดี/ไม่ดี), "for a start" (อย่างแรก) จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Start กับคำที่มีความหมายใกล้เคียง เช่น Begin, Commence, Initiate ยังช่วยให้ผู้เรียนเลือกใช้คำศัพท์ได้อย่างเหมาะสมตามระดับความเป็นทางการและบริบท การฝึกฝนการใช้ Start ในประโยคที่หลากหลายทั้งในรูปแบบ Active และ Passive Voice จะทำให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่วและมั่นใจมากขึ้น

PREP English นำเสนอเตรียมสอบ IELTS ที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะการใช้คำศัพท์และโครงสร้างไวยากรณ์อย่างครบถ้วน ด้วยหลักสูตรที่จัดระดับตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง ผู้เรียนจะได้รับการฝึกฝนผ่านบทเรียนที่มีโครงสร้างชัดเจนและครอบคลุมคำศัพท์สำคัญที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวันและการสอบ IELTS เทคโนโลยี AI ช่วยประเมินและให้คำแนะนำแบบเฉพาะบุคคล ขณะที่ Virtual Speaking Room และ Virtual Writing Room ช่วยฝึกฝนทักษะพร้อมรับคำติชมทันทีตามเกณฑ์มาตรฐาน IELTS ทีมผู้สอนมืออาชีพพร้อมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนบรรลุเป้าหมายคะแนนที่ตั้งใจไว้อย่างมีประสิทธิภาพ