ค้นหาบทความการศึกษา
เข้าใจ Possessive Nouns ใช้แสดงความเป็นเจ้าของในภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง
การเรียนรู้ภาษาอังกฤษมักทำให้เราสับสนเมื่อต้องแสดงความเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะเมื่อเห็น apostrophe (') ปรากฏในตำแหน่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น "John's book", "students' projects" หรือ "children's toys" การใช้ที่ผิดพลาดมักทำให้ความหมายเปลี่ยนไปและสร้างความเข้าใจผิดในการสื่อสار
การเข้าใจ possessive nouns อย่างถูกต้องคือพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้คุณใช้ ความ เป็น เจ้าของ ภาษา อังกฤษ ได้อย่างชัดเจนและเป็นธรรมชาติ
ในภาษาไทย เราแสดงความเป็นเจ้าของด้วยคำว่า "ของ" เช่น "หนังสือของจอห์น" แต่ภาษาอังกฤษใช้ระบบที่ซับซ้อนกว่า โดยมีกฎการใช้ที่แตกต่างกันตามประเภทของคำนาม การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง singular possessive nouns worksheets กับ plural possessive with s จะช่วยให้คุณเลือกใช้รูปแบบที่ถูกต้อง การเปรียบเทียบ of vs s ยังเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะบางครั้งเราสามารถใช้ได้ทั้งสองแบบ แต่จะให้ความหมายที่แตกต่างกันเล็กน้อย
เมื่อคุณเข้าใจ possessive nouns chart และสามารถแยกแยะรูปแบบต่างๆ ได้อย่างชัดเจน การเขียนและการพูดภาษาอังกฤษของคุณจะดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น ความรู้นี้ยังช่วยในการอ่านทำความเข้าใจเอกสารทางวิชาการ บทความข่าว และเนื้อหาต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ การใช้ possessive แปล ที่ถูกต้องจะทำให้การสื่อสารของคุณมีประสิทธิภาพและสร้างความน่าเชื่อถือ
มาเริ่มต้นเรียนรู้กฎทองและเทคนิคการใช้ possessive nouns ที่จะเปลี่ยนความสามารถภาษาอังกฤษของคุณไปในทิศทางที่ดีขึ้น

- I. Possessive Nouns คืออะไร?
- II. กฎการสร้าง Possessive Nouns
- III. การใช้ Possessive Nouns ในสถานการณ์ต่างๆ
- IV. การเลือกใช้ระหว่าง 's กับ "of" เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
- V. ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข
- VI. ตัวอย่างประโยคและแนวทางการฝึกหัด
- VII. Possessive Nouns ขั้นสูง
- VIII. คำถามที่พบบ่อยและเกร็ดความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Possessive Nouns
I. Possessive Nouns คืออะไร?
1. ความหมายของ Possessive Nouns
-
Possessive nouns คือคำนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ ความเกี่ยวข้อง หรือความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างๆ ในภาษาอังกฤษ
-
เมื่อเราต้องการบอกว่าอะไรเป็นของใคร หรือสิ่งใดเกี่ยวข้องกับใคร เราจะใช้รูปแบบ possessive nouns เพื่อทำให้ประโยคชัดเจนและกระชับ
-
คำว่า "possessive แปล" ว่าการแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งหมายถึงการระบุความสัมพันธ์ของการครอบครองหรือการเกี่ยวข้องระหว่างสองสิ่งขึ้นไป
-
การใช้รูปแบบนี้จะช่วยให้ประโยคของเราสั้นลงและเข้าใจง่ายกว่าการใช้คำบุพบท "of" ในหลายสถานการณ์
2. บทบาทและประโยชน์ของการใช้ Possessive Nouns
-
การเข้าใจและใช้ possessive nouns อย่างถูกต้องจะช่วยให้การสื่อสารของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น
-
แทนที่จะพูดว่า "the book of John" เราสามารถพูดสั้นๆ ว่า "John's book" (หนังสือของจอห์น) ซึ่งฟังดูเป็นธรรมชาติและคล่องแคล่วกว่า
-
การใช้รูปแบบนี้ยังช่วยให้เราสามารถสร้างประโยคที่ซับซ้อนได้โดยไม่ทำให้ฟังดูยุ่งยาก
-
ตัวอย่าง: "my sister's friend's car" (รถของเพื่อนพี่สาวฉัน) ซึ่งแสดงความสัมพันธ์หลายชั้นได้อย่างชัดเจน
II. กฎการสร้าง Possessive Nouns
1. สำหรับคำนามเอกพจน์ (For Singular Nouns)
การเติม 's (Apostrophe S) ท้ายคำนามเอกพจน์ทั่วไป
-
กฎพื้นฐานที่สำคัญที่สุดคือการเติม 's ท้ายคำนามเอกพจน์ เพื่อสร้าง possessive nouns
-
ใช้ได้กับทุกคำนามเอกพจน์ ไม่ว่าจะลงท้ายด้วยตัวอักษรใดก็ตาม
คำนามเอกพจน์ |
Possessive Form |
ความหมาย |
ตัวอย่างประโยค |
boy |
boy's |
ของเด็กผู้ชาย |
The boy's book is on the table. (หนังสือของเด็กผู้ชายอยู่บนโต๊ะ) |
cat |
cat's |
ของแมว |
The cat's tail is long. (หางของแมวยาว) |
teacher |
teacher's |
ของครู |
The teacher's desk is clean. (โต๊ะของครูสะอาด) |
คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย s: ความสับสนและทางออก
-
คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย "s" มักสร้างความสับสน
-
กฎทั่วไปคือยังคงเติม 's ตามปกติ
-
ในบางกรณีสามารถใช้เฉพาะ ' ได้
รูปแบบที่ยอมรับได้ |
ตัวอย่าง |
การใช้งาน |
เติม 's |
James's car (รถของเจมส์) |
รูปแบบมาตรฐานที่นิยมใช้ |
เติมเฉพาะ ' |
James' car (รถของเจมส์) |
ใช้ได้ แต่น้อยกว่า |
2. สำหรับคำนามพหูพจน์ (For Plural Nouns)
คำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย s: การเติมเฉพาะ ' (Apostrophe)
-
การสร้าง plural possessive with s มีกฎที่ชัดเจน
-
เมื่อคำนามพหูพจน์ลงท้ายด้วย "s" แล้ว เราจะเติมเฉพาะ ' โดยไม่ต้องเติม "s" เพิ่ม
คำนามพหูพจน์ |
Possessive Form |
ตัวอย่างประโยค |
students |
students' |
The students' projects are creative. (โปรเจกต์ของนักเรียนสร้างสรรค์) |
dogs |
dogs' |
The dogs' toys are scattered. (ของเล่นของสุนัขกระจายอยู่) |
teachers |
teachers' |
The teachers' meeting is tomorrow. (การประชุมของครูคือพรุ่งนี้) |
คำนามพหูพจน์ที่ไม่ได้ลงท้ายด้วย s (รูป irregular): การเติม 's
คำนามพหูพจน์รูปพิเศษที่ไม่ลงท้ายด้วย "s" จะเติม 's เหมือนกับคำนามเอกพจน์
คำนามพหูพจน์พิเศษ |
Possessive Form |
ตัวอย่างประโยค |
children |
children's |
The children's games are fun. (เกมของเด็กๆ สนุก) |
men |
men's |
The men's clothes are expensive. (เสื้อผ้าของผู้ชายแพง) |
women |
women's |
The women's book club meets weekly. (ชมรมหนังสือของผู้หญิงประชุมทุกสัปดาห์) |

3. ตารางสรุปการสร้าง Possessive Nouns เบื้องต้น
นี่คือ possessive nouns chart ที่จะช่วยให้คุณจำกฎการสร้าง possessive nouns ได้ง่ายขึ้น:
ประเภทคำนาม |
วิธีการสร้าง |
ตัวอย่าง |
หมายเหตุ |
เอกพจน์ทั่วไป |
เติม 's |
dog → dog's |
ใช้ได้กับทุกคำนามเอกพจน์ |
เอกพจน์ลงท้าย s |
เติม 's หรือ ' |
class → class's / class' |
ทั้งสองรูปแบบใช้ได้ |
พหูพจน์ลงท้าย s |
เติมเฉพาะ ' |
cats → cats' |
ไม่เติม s เพิ่ม |
พหูพจน์ไม่ลงท้าย s |
เติม 's |
children → children's |
ปฏิบัติเหมือนเอกพจน์ |
บทความแนะนำอ่านต่อ:
III. การใช้ Possessive Nouns ในสถานการณ์ต่างๆ
1. การแสดงความเป็นเจ้าของร่วม (Joint Possession) และความเป็นเจ้าของแยกกัน (Separate Possession)
Possessive nouns สามารถแสดงความเป็นเจ้าของร่วมกันหรือแยกกันได้ ซึ่งจะส่งผลต่อความหมายของประโยคอย่างมาก
-
ความเป็นเจ้าของร่วม: ใส่ 's เฉพาะที่คำสุดท้าย
-
ตัวอย่าง: "Tom and Mary's house" (บ้านของทอมกับแมรี่ - บ้านหลังเดียวกัน)
-
-
ความเป็นเจ้าของแยกกัน: ใส่ 's ที่ทุกคำ
-
ตัวอย่าง: "Tom's and Mary's cars" (รถของทอมและรถของแมรี่ - คนละคัน)
-
2. Possessive Nouns กับคำนามประสม (Compound Nouns)
-
คำนามประสมจะเติม 's ที่คำสุดท้ายเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นคำใดในกลุ่มคำนามประสมนั้น
-
ตัวอย่าง:
-
"my sister-in-law's job" (งานของเมียพี่ชาย)
-
"the passer-by's comment" (ความเห็นของคนที่เดินผ่านไปมา)
-

3. การใช้ 's กับเวลา ระยะทาง และการวัด
-
Possessive nouns ยังใช้กับเวลา ระยะทาง และการวัดได้ด้วย
-
เป็นรูปแบบที่พบเห็นบ่อยในภาษาอังกฤษ
ประเภท |
ตัวอย่าง |
ความหมาย |
เวลา |
a day's work |
งานหนึ่งวัน |
ระยะเวลา |
two weeks' holiday |
วันหยุดสองสัปดาห์ |
มูลค่า |
a dollar's worth |
มูลค่าหนึ่งดอลลาร์ |
ระยะทาง |
a mile's distance |
ระยะทางหนึ่งไมล์ (1.6 กิโลเมตร) |
4. การละคำนามที่ถูกครอบครองเมื่อเป็นที่เข้าใจ (Implied Possession)
ในบางกรณี เราสามารถละคำนามที่ถูกครอบครองออกได้เมื่อเป็นที่เข้าใจแล้ว
-
ตัวอย่าง:
-
"at the baker's" (ที่ร้านขนมปัง - ละคำว่า shop)
-
"St. Paul's" (โบสถ์เซนต์ปอล - ละคำว่า Cathedral)
-
IV. การเลือกใช้ระหว่าง 's กับ "of" เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
1. หลักการทั่วไป: เมื่อไหร่ควรใช้ 's
การเข้าใจ of vs s จะช่วยให้คุณเลือกใช้รูปแบบที่เหมาะสมได้
-
การใช้ 's เหมาะสำหรับ:
-
สิ่งมีชีวิต
-
ความสัมพันธ์ส่วนตัว
-
สิ่งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับบุคคล
-
-
รูปแบบ 's มักใช้กับ:
-
คน: "John's car" (รถของจอห์น)
-
สัตว์: "the dog's tail" (หางของสุนัข)
-
ประเทศ เมือง: "Thailand's culture" (วัฒนธรรมของไทย)
-
องค์กร: "the company's policy" (นโยบายของบริษัท)
-
เวลา: "today's news" (ข่าววันนี้)
-
2. หลักการทั่วไป: เมื่อไหร่ควรใช้ "of"
-
การใช้ "of" เหมาะสำหรับ:
-
สิ่งไม่มีชีวิต
-
แนวคิดนามธรรม
-
การแสดงส่วนของสิ่งใหญ่
-
-
ตัวอย่างการใช้ "of":
-
"the cover of the book" (ปกของหนังสือ)
-
"the result of the exam" (ผลของการสอบ)
-
"the beauty of nature" (ความสวยงามของธรรมชาติ)
-
-
รูปแบบ "of" ยังใช้เมื่อต้องการเน้นสิ่งที่ถูกครอบครองมากกว่าเจ้าของ
3. กรณีที่สามารถใช้ได้ทั้งสองแบบ และความแตกต่างทางความหมายเล็กน้อย
-
บางกรณีสามารถใช้ได้ทั้งสองรูปแบบ แต่จะมีนัยยะที่แตกต่างกันเล็กน้อย
-
ตัวอย่าง:
-
"the car's engine" (เครื่องยนต์ของรถ - เน้นรถเป็นหลัก)
-
"the engine of the car" (เครื่องยนต์ของรถ - เน้นเครื่องยนต์เป็นหลัก)
-
V. ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข
1. การใส่ Apostrophe ผิดตำแหน่ง
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดคือการวาง apostrophe ผิดตำแหน่ง โดยเฉพาะกับ possessive nouns ที่เป็นพหูพจน์
ตัวอย่างข้อผิดพลาด:
-
ผิด: "student's books" (เมื่อหมายถึงหนังสือของนักเรียนหลายคน)
-
ถูก: "students' books"

2. สับสนระหว่าง Possessive Nouns (its) กับ Contractions (it's)
-
หลายคนสับสนระหว่าง "its" กับ "it's"
-
จำไว้ว่า:
-
"its" = ของมัน (possessive - ไม่มี apostrophe)
-
"it's" = it is หรือ it has (contraction - มี apostrophe)
-
3. การใช้ 's กับคำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย s อย่างไม่ถูกต้อง
-
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย: การเขียน "dogs's" แทน "dogs'"
-
จำไว้ว่า: คำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย "s" ใช้เฉพาะ apostrophe โดยไม่เติม "s" เพิ่ม
VI. ตัวอย่างประโยคและแนวทางการฝึกหัด
ตัวอย่างประโยคที่หลากหลายแสดงการใช้ Possessive Nouns ในบริบทต่างๆ
เพื่อให้คุณเข้าใจการใช้ possessive nouns ในบริบทต่างๆ นี่คือตัวอย่างประโยคที่ครอบคลุมสถานการณ์ต่างๆ:
ระดับพื้นฐาน:
-
"My mother's cooking is delicious." (อาหารที่แม่ทำอร่อย)
-
"The dog's bone is buried in the garden." (กระดูกของหมาถูกฝังไว้ในสวน)
ระดับกลาง:
-
"The children's laughter filled the playground." (เสียงหัวเราะของเด็กๆ ดังไปทั่วสนามเด็กเล่น)
-
"Yesterday's meeting was productive." (การประชุมเมื่อวานมีประสิทธิภาพ)
ระดับสูง:
-
"The committee's decision surprised everyone." (การตัดสินใจของคณะกรรมการทำให้ทุกคนประหลาดใจ)
-
"The week's events changed everything." (เหตุการณ์ของสัปดาห์นี้เปลี่ยนทุกอย่าง)
แนะนำแหล่งข้อมูลหรือประเภทแบบฝึกหัดเพื่อพัฒนาทักษะ
-
การฝึกฝนด้วย singular possessive nouns worksheets จะช่วยให้คุณเชี่ยวชาญการใช้ possessive nouns ได้เร็วขึ้น
-
แบบฝึกหัดควรเริ่มจาก:
-
การแปลงคำนามธรรมดาเป็น possessive form
-
การเขียนประโยคที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
-
-
การฝึกฝนที่มีประสิทธิภาพควรรวมถึง:
-
การอ่านออกเสียง
-
การเขียนประโยค
-
การแก้ไขข้อผิดพลาด
-
-
เป้าหมายคือให้คุณสามารถใช้ possessive nouns ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
VII. Possessive Nouns ขั้นสูง
1. Double Possessive หรือ Post-nominal Genitive
รูปแบบที่ซับซ้อนกว่าคือ "double possessive" ที่ใช้ทั้ง "of" และ 's ในประโยคเดียวกัน
ตัวอย่าง:
-
"a friend of my father's" (เพื่อนคนหนึ่งของพ่อ)
-
"a painting of Picasso's" (ภาพวาดหนึ่งของปิกัสโซ)
รูปแบบนี้ใช้เมื่อต้องการเน้นว่าเป็นหนึ่งในหลายๆ สิ่งที่บุคคลนั้นมี ไม่ใช่สิ่งเดียวหรือทั้งหมด
2. การใช้ Possessive กับ Gerunds
เมื่อใช้ possessive nouns กับ gerunds (คำกริยาที่เติม -ing ทำหน้าที่เป็นคำนาม) จะช่วยให้ประโยคชัดเจนขึ้น
-
ตัวอย่าง:
-
"I appreciate your understanding" (ฉันขอบคุณความเข้าใจของคุณ)
-
"John's singing annoyed me" (การร้องเพลงของจอห์นทำให้ฉันรำคาญ)
-
3. ความเป็นเจ้าของกับสถานที่และองค์กร
Possessive nouns ใช้กับสถานที่และองค์กรได้เช่นกัน
-
ตัวอย่าง:
-
"London's parks are beautiful" (สวนสาธารณะของลอนดอนสวยงาม)
-
"the company's policy is strict" (นโยบายของบริษัทเข้มงวด)
-
4. ข้อสังเกตทางประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของ Possessive Case
-
รูปแบบ possessive ในภาษาอังกฤษมีต้นกำเนิดจากภาษาเยอรมันโบราณ
-
Apostrophe ที่ใช้ในปัจจุบันเป็นการพัฒนาที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 16-17 เพื่อแทนที่ตัวอักษรที่หายไป
VIII. คำถามที่พบบ่อยและเกร็ดความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Possessive Nouns
1. จำเป็นต้องใช้ 's หรือ "of" เสมอไปหรือไม่เมื่อต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ?
ไม่จำเป็นเสมอไป ภาษาอังกฤษมีวิธีแสดง ความ เป็น เจ้าของ ภาษา อังกฤษ หลายรูปแบบ:
-
Possessive adjectives (my, your, his)
-
Possessive pronouns (mine, yours, his)
-
การใช้บริบทที่ทำให้เข้าใจได้เอง
2. รูปแบบการแสดงความเป็นเจ้าของในภาษาอังกฤษมีกี่แบบหลักๆ?
นอกจาก possessive nouns แล้ว ยังมี:
-
Possessive adjectives (คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ)
-
Possessive pronouns (สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ)
-
การใช้ preposition "of"
ทำให้มีทางเลือกในการสื่อสารที่หลากหลาย
3. Possessive Adjectives กับ Possessive Nouns ทำงานร่วมกันอย่างไร?
Possessive adjectives (my, your, his) และ possessive nouns (John's, the cat's) สามารถ:
-
ทำงานร่วมกันได้ในประโยคเดียวกัน ตัวอย่าง: "my friend's car" (รถของเพื่อนฉัน)
-
แทนที่กันได้ขึ้นอยู่กับบริบท ตัวอย่าง: "John's book" สามารถกลายเป็น "his book" เมื่อทราบแล้วว่าหมายถึงจอห์น
การเรียนรู้ possessive nouns ให้เชี่ยวชาญต้องจำกฎพื้นฐานให้แม่นยำ คือ เอกพจน์เติม 's, พหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย s เติมเฉพาะ ', และพหูพจน์ที่ไม่ลงท้ายด้วย s เติม 's
การเลือกใช้ระหว่าง of vs s ขึ้นอยู่กับบริบทและประเภทของความสัมพันธ์ที่ต้องการแสดง โดยทั่วไป 's ใช้กับสิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ์ส่วนตัว ส่วน "of" ใช้กับสิ่งไม่มีชีวิตและแนวคิดนามธรรม

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
บทความที่เกี่ยวข้อง
ค้นหาบทความการศึกษา
แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน
กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
