เข้าใจ Possessive Nouns ใช้แสดงความเป็นเจ้าของในภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง
การเรียนรู้ภาษาอังกฤษมักทำให้เราสับสนเมื่อต้องแสดงความเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะเมื่อเห็น apostrophe (') ปรากฏในตำแหน่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น "John's book", "students' projects" หรือ "children's toys" การใช้ที่ผิดพลาดมักทำให้ความหมายเปลี่ยนไปและสร้างความเข้าใจผิดในการสื่อสار
การเข้าใจ possessive nouns อย่างถูกต้องคือพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้คุณใช้ ความ เป็น เจ้าของ ภาษา อังกฤษ ได้อย่างชัดเจนและเป็นธรรมชาติ
ในภาษาไทย เราแสดงความเป็นเจ้าของด้วยคำว่า "ของ" เช่น "หนังสือของจอห์น" แต่ภาษาอังกฤษใช้ระบบที่ซับซ้อนกว่า โดยมีกฎการใช้ที่แตกต่างกันตามประเภทของคำนาม การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง singular possessive nouns worksheets กับ plural possessive with s จะช่วยให้คุณเลือกใช้รูปแบบที่ถูกต้อง การเปรียบเทียบ of vs s ยังเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะบางครั้งเราสามารถใช้ได้ทั้งสองแบบ แต่จะให้ความหมายที่แตกต่างกันเล็กน้อย
เมื่อคุณเข้าใจ possessive nouns chart และสามารถแยกแยะรูปแบบต่างๆ ได้อย่างชัดเจน การเขียนและการพูดภาษาอังกฤษของคุณจะดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น ความรู้นี้ยังช่วยในการอ่านทำความเข้าใจเอกสารทางวิชาการ บทความข่าว และเนื้อหาต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ การใช้ possessive แปล ที่ถูกต้องจะทำให้การสื่อสารของคุณมีประสิทธิภาพและสร้างความน่าเชื่อถือ
มาเริ่มต้นเรียนรู้กฎทองและเทคนิคการใช้ possessive nouns ที่จะเปลี่ยนความสามารถภาษาอังกฤษของคุณไปในทิศทางที่ดีขึ้น
- I. Possessive Nouns คืออะไร?
- II. กฎการสร้าง Possessive Nouns
- III. การใช้ Possessive Nouns ในสถานการณ์ต่างๆ
- IV. การเลือกใช้ระหว่าง 's กับ "of" เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
- V. ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข
- VI. ตัวอย่างประโยคและแนวทางการฝึกหัด
- VII. Possessive Nouns ขั้นสูง
- VIII. คำถามที่พบบ่อยและเกร็ดความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Possessive Nouns
I. Possessive Nouns คืออะไร?
1. ความหมายของ Possessive Nouns
-
Possessive nouns คือคำนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ ความเกี่ยวข้อง หรือความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างๆ ในภาษาอังกฤษ
-
เมื่อเราต้องการบอกว่าอะไรเป็นของใคร หรือสิ่งใดเกี่ยวข้องกับใคร เราจะใช้รูปแบบ possessive nouns เพื่อทำให้ประโยคชัดเจนและกระชับ
-
คำว่า "possessive แปล" ว่าการแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งหมายถึงการระบุความสัมพันธ์ของการครอบครองหรือการเกี่ยวข้องระหว่างสองสิ่งขึ้นไป
-
การใช้รูปแบบนี้จะช่วยให้ประโยคของเราสั้นลงและเข้าใจง่ายกว่าการใช้คำบุพบท "of" ในหลายสถานการณ์
2. บทบาทและประโยชน์ของการใช้ Possessive Nouns
-
การเข้าใจและใช้ possessive nouns อย่างถูกต้องจะช่วยให้การสื่อสารของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น
-
แทนที่จะพูดว่า "the book of John" เราสามารถพูดสั้นๆ ว่า "John's book" (หนังสือของจอห์น) ซึ่งฟังดูเป็นธรรมชาติและคล่องแคล่วกว่า
-
การใช้รูปแบบนี้ยังช่วยให้เราสามารถสร้างประโยคที่ซับซ้อนได้โดยไม่ทำให้ฟังดูยุ่งยาก
-
ตัวอย่าง: "my sister's friend's car" (รถของเพื่อนพี่สาวฉัน) ซึ่งแสดงความสัมพันธ์หลายชั้นได้อย่างชัดเจน
II. กฎการสร้าง Possessive Nouns
1. สำหรับคำนามเอกพจน์ (For Singular Nouns)
การเติม 's (Apostrophe S) ท้ายคำนามเอกพจน์ทั่วไป
-
กฎพื้นฐานที่สำคัญที่สุดคือการเติม 's ท้ายคำนามเอกพจน์ เพื่อสร้าง possessive nouns
-
ใช้ได้กับทุกคำนามเอกพจน์ ไม่ว่าจะลงท้ายด้วยตัวอักษรใดก็ตาม
|
คำนามเอกพจน์ |
Possessive Form |
ความหมาย |
ตัวอย่างประโยค |
|
boy |
boy's |
ของเด็กผู้ชาย |
The boy's book is on the table. (หนังสือของเด็กผู้ชายอยู่บนโต๊ะ) |
|
cat |
cat's |
ของแมว |
The cat's tail is long. (หางของแมวยาว) |
|
teacher |
teacher's |
ของครู |
The teacher's desk is clean. (โต๊ะของครูสะอาด) |
คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย s: ความสับสนและทางออก
-
คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย "s" มักสร้างความสับสน
-
กฎทั่วไปคือยังคงเติม 's ตามปกติ
-
ในบางกรณีสามารถใช้เฉพาะ ' ได้
|
รูปแบบที่ยอมรับได้ |
ตัวอย่าง |
การใช้งาน |
|
เติม 's |
James's car (รถของเจมส์) |
รูปแบบมาตรฐานที่นิยมใช้ |
|
เติมเฉพาะ ' |
James' car (รถของเจมส์) |
ใช้ได้ แต่น้อยกว่า |
2. สำหรับคำนามพหูพจน์ (For Plural Nouns)
คำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย s: การเติมเฉพาะ ' (Apostrophe)
-
การสร้าง plural possessive with s มีกฎที่ชัดเจน
-
เมื่อคำนามพหูพจน์ลงท้ายด้วย "s" แล้ว เราจะเติมเฉพาะ ' โดยไม่ต้องเติม "s" เพิ่ม
|
คำนามพหูพจน์ |
Possessive Form |
ตัวอย่างประโยค |
|
students |
students' |
The students' projects are creative. (โปรเจกต์ของนักเรียนสร้างสรรค์) |
|
dogs |
dogs' |
The dogs' toys are scattered. (ของเล่นของสุนัขกระจายอยู่) |
|
teachers |
teachers' |
The teachers' meeting is tomorrow. (การประชุมของครูคือพรุ่งนี้) |
คำนามพหูพจน์ที่ไม่ได้ลงท้ายด้วย s (รูป irregular): การเติม 's
คำนามพหูพจน์รูปพิเศษที่ไม่ลงท้ายด้วย "s" จะเติม 's เหมือนกับคำนามเอกพจน์
|
คำนามพหูพจน์พิเศษ |
Possessive Form |
ตัวอย่างประโยค |
|
children |
children's |
The children's games are fun. (เกมของเด็กๆ สนุก) |
|
men |
men's |
The men's clothes are expensive. (เสื้อผ้าของผู้ชายแพง) |
|
women |
women's |
The women's book club meets weekly. (ชมรมหนังสือของผู้หญิงประชุมทุกสัปดาห์) |
3. ตารางสรุปการสร้าง Possessive Nouns เบื้องต้น
นี่คือ possessive nouns chart ที่จะช่วยให้คุณจำกฎการสร้าง possessive nouns ได้ง่ายขึ้น:
|
ประเภทคำนาม |
วิธีการสร้าง |
ตัวอย่าง |
หมายเหตุ |
|
เอกพจน์ทั่วไป |
เติม 's |
dog → dog's |
ใช้ได้กับทุกคำนามเอกพจน์ |
|
เอกพจน์ลงท้าย s |
เติม 's หรือ ' |
class → class's / class' |
ทั้งสองรูปแบบใช้ได้ |
|
พหูพจน์ลงท้าย s |
เติมเฉพาะ ' |
cats → cats' |
ไม่เติม s เพิ่ม |
|
พหูพจน์ไม่ลงท้าย s |
เติม 's |
children → children's |
ปฏิบัติเหมือนเอกพจน์ |
บทความแนะนำอ่านต่อ:
III. การใช้ Possessive Nouns ในสถานการณ์ต่างๆ
1. การแสดงความเป็นเจ้าของร่วม (Joint Possession) และความเป็นเจ้าของแยกกัน (Separate Possession)
Possessive nouns สามารถแสดงความเป็นเจ้าของร่วมกันหรือแยกกันได้ ซึ่งจะส่งผลต่อความหมายของประโยคอย่างมาก
-
ความเป็นเจ้าของร่วม: ใส่ 's เฉพาะที่คำสุดท้าย
-
ตัวอย่าง: "Tom and Mary's house" (บ้านของทอมกับแมรี่ - บ้านหลังเดียวกัน)
-
-
ความเป็นเจ้าของแยกกัน: ใส่ 's ที่ทุกคำ
-
ตัวอย่าง: "Tom's and Mary's cars" (รถของทอมและรถของแมรี่ - คนละคัน)
-
2. Possessive Nouns กับคำนามประสม (Compound Nouns)
-
คำนามประสมจะเติม 's ที่คำสุดท้ายเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นคำใดในกลุ่มคำนามประสมนั้น
-
ตัวอย่าง:
-
"my sister-in-law's job" (งานของเมียพี่ชาย)
-
"the passer-by's comment" (ความเห็นของคนที่เดินผ่านไปมา)
-
3. การใช้ 's กับเวลา ระยะทาง และการวัด
-
Possessive nouns ยังใช้กับเวลา ระยะทาง และการวัดได้ด้วย
-
เป็นรูปแบบที่พบเห็นบ่อยในภาษาอังกฤษ
|
ประเภท |
ตัวอย่าง |
ความหมาย |
|
เวลา |
a day's work |
งานหนึ่งวัน |
|
ระยะเวลา |
two weeks' holiday |
วันหยุดสองสัปดาห์ |
|
มูลค่า |
a dollar's worth |
มูลค่าหนึ่งดอลลาร์ |
|
ระยะทาง |
a mile's distance |
ระยะทางหนึ่งไมล์ (1.6 กิโลเมตร) |
4. การละคำนามที่ถูกครอบครองเมื่อเป็นที่เข้าใจ (Implied Possession)
ในบางกรณี เราสามารถละคำนามที่ถูกครอบครองออกได้เมื่อเป็นที่เข้าใจแล้ว
-
ตัวอย่าง:
-
"at the baker's" (ที่ร้านขนมปัง - ละคำว่า shop)
-
"St. Paul's" (โบสถ์เซนต์ปอล - ละคำว่า Cathedral)
-
IV. การเลือกใช้ระหว่าง 's กับ "of" เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
1. หลักการทั่วไป: เมื่อไหร่ควรใช้ 's
การเข้าใจ of vs s จะช่วยให้คุณเลือกใช้รูปแบบที่เหมาะสมได้
-
การใช้ 's เหมาะสำหรับ:
-
สิ่งมีชีวิต
-
ความสัมพันธ์ส่วนตัว
-
สิ่งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับบุคคล
-
-
รูปแบบ 's มักใช้กับ:
-
คน: "John's car" (รถของจอห์น)
-
สัตว์: "the dog's tail" (หางของสุนัข)
-
ประเทศ เมือง: "Thailand's culture" (วัฒนธรรมของไทย)
-
องค์กร: "the company's policy" (นโยบายของบริษัท)
-
เวลา: "today's news" (ข่าววันนี้)
-
2. หลักการทั่วไป: เมื่อไหร่ควรใช้ "of"
-
การใช้ "of" เหมาะสำหรับ:
-
สิ่งไม่มีชีวิต
-
แนวคิดนามธรรม
-
การแสดงส่วนของสิ่งใหญ่
-
-
ตัวอย่างการใช้ "of":
-
"the cover of the book" (ปกของหนังสือ)
-
"the result of the exam" (ผลของการสอบ)
-
"the beauty of nature" (ความสวยงามของธรรมชาติ)
-
-
รูปแบบ "of" ยังใช้เมื่อต้องการเน้นสิ่งที่ถูกครอบครองมากกว่าเจ้าของ
3. กรณีที่สามารถใช้ได้ทั้งสองแบบ และความแตกต่างทางความหมายเล็กน้อย
-
บางกรณีสามารถใช้ได้ทั้งสองรูปแบบ แต่จะมีนัยยะที่แตกต่างกันเล็กน้อย
-
ตัวอย่าง:
-
"the car's engine" (เครื่องยนต์ของรถ - เน้นรถเป็นหลัก)
-
"the engine of the car" (เครื่องยนต์ของรถ - เน้นเครื่องยนต์เป็นหลัก)
-
V. ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข
1. การใส่ Apostrophe ผิดตำแหน่ง
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดคือการวาง apostrophe ผิดตำแหน่ง โดยเฉพาะกับ possessive nouns ที่เป็นพหูพจน์
ตัวอย่างข้อผิดพลาด:
-
ผิด: "student's books" (เมื่อหมายถึงหนังสือของนักเรียนหลายคน)
-
ถูก: "students' books"
2. สับสนระหว่าง Possessive Nouns (its) กับ Contractions (it's)
-
หลายคนสับสนระหว่าง "its" กับ "it's"
-
จำไว้ว่า:
-
"its" = ของมัน (possessive - ไม่มี apostrophe)
-
"it's" = it is หรือ it has (contraction - มี apostrophe)
-
3. การใช้ 's กับคำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย s อย่างไม่ถูกต้อง
-
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย: การเขียน "dogs's" แทน "dogs'"
-
จำไว้ว่า: คำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย "s" ใช้เฉพาะ apostrophe โดยไม่เติม "s" เพิ่ม
VI. ตัวอย่างประโยคและแนวทางการฝึกหัด
ตัวอย่างประโยคที่หลากหลายแสดงการใช้ Possessive Nouns ในบริบทต่างๆ
เพื่อให้คุณเข้าใจการใช้ possessive nouns ในบริบทต่างๆ นี่คือตัวอย่างประโยคที่ครอบคลุมสถานการณ์ต่างๆ:
ระดับพื้นฐาน:
-
"My mother's cooking is delicious." (อาหารที่แม่ทำอร่อย)
-
"The dog's bone is buried in the garden." (กระดูกของหมาถูกฝังไว้ในสวน)
ระดับกลาง:
-
"The children's laughter filled the playground." (เสียงหัวเราะของเด็กๆ ดังไปทั่วสนามเด็กเล่น)
-
"Yesterday's meeting was productive." (การประชุมเมื่อวานมีประสิทธิภาพ)
ระดับสูง:
-
"The committee's decision surprised everyone." (การตัดสินใจของคณะกรรมการทำให้ทุกคนประหลาดใจ)
-
"The week's events changed everything." (เหตุการณ์ของสัปดาห์นี้เปลี่ยนทุกอย่าง)
แนะนำแหล่งข้อมูลหรือประเภทแบบฝึกหัดเพื่อพัฒนาทักษะ
-
การฝึกฝนด้วย singular possessive nouns worksheets จะช่วยให้คุณเชี่ยวชาญการใช้ possessive nouns ได้เร็วขึ้น
-
แบบฝึกหัดควรเริ่มจาก:
-
การแปลงคำนามธรรมดาเป็น possessive form
-
การเขียนประโยคที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
-
-
การฝึกฝนที่มีประสิทธิภาพควรรวมถึง:
-
การอ่านออกเสียง
-
การเขียนประโยค
-
การแก้ไขข้อผิดพลาด
-
-
เป้าหมายคือให้คุณสามารถใช้ possessive nouns ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
VII. Possessive Nouns ขั้นสูง
1. Double Possessive หรือ Post-nominal Genitive
รูปแบบที่ซับซ้อนกว่าคือ "double possessive" ที่ใช้ทั้ง "of" และ 's ในประโยคเดียวกัน
ตัวอย่าง:
-
"a friend of my father's" (เพื่อนคนหนึ่งของพ่อ)
-
"a painting of Picasso's" (ภาพวาดหนึ่งของปิกัสโซ)
รูปแบบนี้ใช้เมื่อต้องการเน้นว่าเป็นหนึ่งในหลายๆ สิ่งที่บุคคลนั้นมี ไม่ใช่สิ่งเดียวหรือทั้งหมด
2. การใช้ Possessive กับ Gerunds
เมื่อใช้ possessive nouns กับ gerunds (คำกริยาที่เติม -ing ทำหน้าที่เป็นคำนาม) จะช่วยให้ประโยคชัดเจนขึ้น
-
ตัวอย่าง:
-
"I appreciate your understanding" (ฉันขอบคุณความเข้าใจของคุณ)
-
"John's singing annoyed me" (การร้องเพลงของจอห์นทำให้ฉันรำคาญ)
-
3. ความเป็นเจ้าของกับสถานที่และองค์กร
Possessive nouns ใช้กับสถานที่และองค์กรได้เช่นกัน
-
ตัวอย่าง:
-
"London's parks are beautiful" (สวนสาธารณะของลอนดอนสวยงาม)
-
"the company's policy is strict" (นโยบายของบริษัทเข้มงวด)
-
4. ข้อสังเกตทางประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของ Possessive Case
-
รูปแบบ possessive ในภาษาอังกฤษมีต้นกำเนิดจากภาษาเยอรมันโบราณ
-
Apostrophe ที่ใช้ในปัจจุบันเป็นการพัฒนาที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 16-17 เพื่อแทนที่ตัวอักษรที่หายไป
บทความที่แนะนำ:
Abstract Nouns คืออะไร? ต่างจากคำนามทั่วไปยังไง
ความหมาย การใช้ Collective nouns ในภาษาอังกฤษ
VIII. คำถามที่พบบ่อยและเกร็ดความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Possessive Nouns
1. จำเป็นต้องใช้ 's หรือ "of" เสมอไปหรือไม่เมื่อต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ?
ไม่จำเป็นเสมอไป ภาษาอังกฤษมีวิธีแสดง ความ เป็น เจ้าของ ภาษา อังกฤษ หลายรูปแบบ:
-
Possessive adjectives (my, your, his)
-
Possessive pronouns (mine, yours, his)
-
การใช้บริบทที่ทำให้เข้าใจได้เอง
2. รูปแบบการแสดงความเป็นเจ้าของในภาษาอังกฤษมีกี่แบบหลักๆ?
นอกจาก possessive nouns แล้ว ยังมี:
-
Possessive adjectives (คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ)
-
Possessive pronouns (สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ)
-
การใช้ preposition "of"
ทำให้มีทางเลือกในการสื่อสารที่หลากหลาย
3. Possessive Adjectives กับ Possessive Nouns ทำงานร่วมกันอย่างไร?
Possessive adjectives (my, your, his) และ possessive nouns (John's, the cat's) สามารถ:
-
ทำงานร่วมกันได้ในประโยคเดียวกัน ตัวอย่าง: "my friend's car" (รถของเพื่อนฉัน)
-
แทนที่กันได้ขึ้นอยู่กับบริบท ตัวอย่าง: "John's book" สามารถกลายเป็น "his book" เมื่อทราบแล้วว่าหมายถึงจอห์น
การทำความเข้าใจ Possessive Nouns หรือคำนามแสดงความเป็นเจ้าของและวิธีการใช้งานอย่างถูกต้องจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถแสดงความเป็นเจ้าของของบุคคลหรือสิ่งของได้อย่างชัดเจนและแม่นยำในภาษาอังกฤษ Possessive Nouns ใช้เพื่อแสดงว่าบางสิ่งเป็นของใครหรือมีความสัมพันธ์กับใคร โดยมีกฎพื้นฐาน คือ สำหรับคำนามเอกพจน์ให้เติม 's เช่น "Tom's book" (หนังสือของทอม), "the dog's tail" (หางของสุนัข) สำหรับคำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย -s ให้เติมเครื่องหมาย ' เพียงอย่างเดียว เช่น "the students' classroom" (ห้องเรียนของนักเรียน), "my parents' house" (บ้านของพ่อแม่ฉัน) ส่วนคำนามพหูพจน์ที่ไม่ลงท้ายด้วย -s ให้เติม 's เช่น "children's toys" (ของเล่นของเด็กๆ), "men's shoes" (รองเท้าผู้ชาย)
การเรียนรู้กรณีพิเศษเพิ่มเติม เช่น คำนามที่ลงท้ายด้วย -s อยู่แล้วสามารถเติมได้ทั้ง 's หรือ ' เช่น "James's car" หรือ "James' car", การแสดงความเป็นเจ้าของของหลายคนร่วมกัน "John and Mary's house" (บ้านของจอห์นและแมรี่ร่วมกัน) เทียบกับ "John's and Mary's books" (หนังสือของจอห์นและหนังสือของแมรี่แยกกัน) จะช่วยเพิ่มความแม่นยำ นอกจากนี้ การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Possessive Nouns ('s) กับ Plural Nouns (s) เช่น "the teacher's desk" (โต๊ะของครู 1 คน) เทียบกับ "the teachers' desk" (โต๊ะของครูหลายคน) ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยหลีกเลี่ยงความสับสน การฝึกฝนการใช้ Possessive Nouns ในบริบทที่หลากหลายจะทำให้ผู้เรียนสามารถเขียนและพูดได้อย่างถูกต้อง
PREP Education พัฒนาเตรียมสอบ IELTS ออนไลน์ที่สอนหลักไวยากรณ์พื้นฐานอย่าง Possessive Nouns อย่างละเอียด หลักสูตร Grammar Foundation อธิบายกฎการเติม 's และ ' พร้อมตัวอย่างที่ครอบคลุมทุกกรณี รวมถึงกรณีพิเศษและข้อยกเว้น โดยใช้แบบฝึกหัดที่หลากหลายช่วยให้ผู้เรียนจำและประยุกต์ใช้ได้จริง หลักสูตร Writing เน้นความแม่นยำในการใช้ Possessive Nouns เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่ทำให้คะแนนด้าน Grammatical Range and Accuracy ลดลง โดยเฉพาะข้อผิดพลาดที่พบบ่อยเช่น การสับสนระหว่าง its (ของมัน) กับ it's (it is) หรือ your (ของคุณ) กับ you're (you are) หลักสูตร Reading ช่วยพัฒนาความเข้าใจในการอ่านโครงสร้างที่มี Possessive Nouns อย่างถูกต้อง ระบบตรวจสอบอัตโนมัติช่วยจับข้อผิดพลาดและให้คำอธิบายทันที อาจารย์ผู้สอนให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความแตกต่างในคะแนน IELTS ระหว่าง band 6.0 กับ 7.0 ขึ้นไป

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
เนื้อหาแบบพรีเมียม
ดูทั้งหมดแผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
















