ดูหนังฝึกภาษาอังกฤษ สนุก พร้อมพัฒนาทักษะจริง

คุณเคยรู้สึกหงุดหงิดไหมที่เรียนภาษาอังกฤษมาหลายปี แต่พอต้องฟังคนต่างชาติพูดจริงๆ กลับงงและตามไม่ทัน หรือพูดออกมาแล้วฟังดูไม่เป็นธรรมชาติ ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะการเรียนจากตำราเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการสื่อสารในชีวิตจริง คุณต้องการแหล่งเรียนรู้ที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยบทสนทนาจริง และที่สำคัญคือสนุกพอที่จะทำอย่างต่อเนื่อง

การใช้หนังฝึกภาษาอังกฤษคือคำตอบที่นักเรียนหลายล้านคนทั่วโลกพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง วิธีนี้ไม่ใช่แค่การดูหนังเพื่อความบันเทิง แต่เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่มีระบบและนำไปใช้ได้จริง

เมื่อคุณเลือกหนังที่เหมาะสมกับระดับภาษา ใช้เทคนิคการดูที่ถูกต้อง และฝึกฝนอย่างมีสติ คุณจะได้มากกว่าแค่ความบันเทิง คุณจะได้พัฒนาทักษะการฟังที่แม่นยำขึ้น เพราะได้ยินเสียงจากเจ้าของภาษาที่พูดด้วยความเร็วและสำเนียงที่หลากหลาย คุณจะได้เรียนรู้คำศัพท์และสำนวนในบริบทจริง ไม่ใช่แค่ท่องศัพท์แบบแยกเดี่ยวที่ลืมง่าย การได้เห็นว่าคำหนึ่งๆ ถูกใช้ในสถานการณ์ไหน ด้วยอารมณ์อย่างไร ทำให้จดจำได้ลึกและนำไปใช้ได้ถูกต้อง นอกจากนี้ คุณยังได้ฝึกการออกเสียงและสำเนียงโดยการเลียนแบบตัวละคร เข้าใจวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของเจ้าของภาษา ซึ่งช่วยให้การสื่อสารของคุณเป็นธรรมชาติและเหมาะสมมากขึ้น แต่ที่สำคัญที่สุดคือ หนังทำให้การเรียนรู้ไม่น่าเบื่อ คุณจะทำได้อย่างสม่ำเสมอโดยไม่รู้สึกว่ากำลังบังคับตัวเอง

บทความนี้จะแนะนำทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกหนังให้เหมาะกับระดับ เทคนิคการดูแบบมืออาชีพ ไปจนถึงรายชื่อหนังแนะนำที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ มาเริ่มเปลี่ยนเวลาดูหนังของคุณให้กลายเป็นเวลาเรียนที่มีคุณค่ากันเลย

  1. I. ทำไมการดูหนังถึงเป็นวิธีฝึกภาษาอังกฤษที่ได้ผลจริง?
  2. II. 4 สเต็ปเปลี่ยนการดูหนังให้เป็นการฝึกภาษาเต็มรูปแบบ
    1. 1. เลือกหนังให้ใช่ เหมาะกับระดับภาษาของคุณ
    2. 2. เทคนิคการใช้ Subtitle อย่างมือโปร
    3. 3. ดูอย่างแอคทีฟ: หยุด จด และพูดตาม
    4. 4. ทบทวนหลังดูจบ: ทำให้คำศัพท์อยู่กับเราไปตลอด
  3. III. แนะนำหนังฝึกภาษาอังกฤษบน Netflix (และแพลตฟอร์มอื่น) ตามแนวและระดับ
    1. 1. กลุ่มหนังสำหรับผู้เริ่มต้น
    2. 2. กลุ่มหนังสำหรับระดับกลาง
    3. 3. กลุ่มหนังสำหรับระดับสูง
  4. IV. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
    1. 1. เทคนิค "Shadowing" คืออะไรและช่วยพัฒนาการพูดได้อย่างไร?
    2. 2. หนังประเภทไหนที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงเริ่มต้นฝึกภาษา?
    3. 3. จำเป็นต้องเข้าใจทุกคำในหนังหรือไม่?
    4. 4. การฝึกภาษาจากการดูหนังกับการฟังเพลง แตกต่างกันอย่างไร?
หนังฝึกภาษาอังกฤษ ดูแล้วเก่งมากขึ้น
หนังฝึกภาษาอังกฤษ ดูแล้วเก่งมากขึ้น

I. ทำไมการดูหนังถึงเป็นวิธีฝึกภาษาอังกฤษที่ได้ผลจริง?

หนังฝึกภาษาอังกฤษสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เป็นธรรมชาติและน่าสนใจ ทำให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะหลายด้านไปพร้อมกันโดยไม่รู้สึกเครียด

1. เรียนรู้จากบทสนทนาที่เป็นธรรมชาติ

บทสนทนาในหนังสะท้อนการใช้ภาษาในชีวิตจริง ต่างจากตำราเรียนที่มักเป็นทางการเกินไป คุณจะได้ยินสำนวน คำแสลง และวิธีพูดที่เจ้าของภาษาใช้จริงในแต่ละสถานการณ์ ทำให้การสื่อสารของคุณฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

2. พัฒนาทักษะการฟังและสำเนียง

การได้ยินเสียงพูดจากเจ้าของภาษาอย่างต่อเนื่องช่วยฝึกหูให้คุ้นเคยกับจังหวะ ความเร็ว และการเน้นเสียงที่แตกต่างกัน คุณจะเริ่มจับรูปแบบการออกเสียงและสามารถเลียนแบบสำเนียงได้แม่นยำยิ่งขึ้น

3. เพิ่มคลังคำศัพท์และสำนวนในบริบทจริง

แทนที่จะท่องศัพท์แบบแยกเดี่ยว คุณจะได้เห็นคำศัพท์ถูกใช้ในบริบทที่ชัดเจน ทำให้จดจำได้ง่ายและเข้าใจวิธีใช้อย่างถูกต้อง เมื่อเห็นตัวละครใช้คำในสถานการณ์ต่างๆ คุณจะเข้าใจความหมายและนัยยะได้ลึกซึ้งกว่า

4. เข้าใจวัฒนธรรมเจ้าของภาษา

หนังนำเสนอมุมมองทางวัฒนธรรม ค่านิยม และพื้นฐานทางสังคมของเจ้าของภาษา การเข้าใจบริบททางวัฒนธรรมช่วยให้คุณสื่อสารได้อย่างเหมาะสมและหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด

II. 4 สเต็ปเปลี่ยนการดูหนังให้เป็นการฝึกภาษาเต็มรูปแบบ

การดูหนังเพื่อฝึกภาษาต้องมีแผนและวิธีการที่ชัดเจน ไม่ใช่แค่นั่งดูแบบสบายๆ ตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อผลลัพธ์สูงสุด

1. เลือกหนังให้ใช่ เหมาะกับระดับภาษาของคุณ

การเลือกหนัง ที่ เหมาะ กับ การ ฝึก ภาษา อังกฤษ ต้องพิจารณาระดับความยากของภาษาให้สอดคล้องกับความสามารถปัจจุบันของคุณ

  • สำหรับผู้เริ่มต้น (Beginner): เริ่มจากอะนิเมชั่นและหนังเด็ก: อะนิเมชั่นและหนังสำหรับเด็กใช้ภาษาที่เรียบง่าย พูดช้า และมีบทสนทนาที่ชัดเจน เหมาะสำหรับสร้างพื้นฐานและความมั่นใจในการฟัง ตัวละครมักพูดในประโยคสั้นๆ ที่เข้าใจง่าย

  • สำหรับระดับกลาง (Intermediate): ขยับสู่หนังรอมคอมและดราม่า: เมื่อพื้นฐานมั่นคงแล้ว ลองเลือกหนังที่มีบทสนทนาซับซ้อนขึ้น แต่ยังคงใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน หนังรอมแมนติกคอมเมดี้และดราม่าครอบครัวเป็นตัวเลือกดี เพราะเน้นการสนทนาระหว่างตัวละคร

  • สำหรับระดับสูง (Advanced): ท้าทายด้วยหนังเฉพาะทางและซีรีส์ซับซ้อน: ผู้เรียนระดับสูงควรเลือกหนังที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง ใช้ศัพท์เฉพาะทาง หรือมีสำเนียงหลากหลาย เช่น หนังประวัติศาสตร์ หนังนิติวิทยาศาสตร์ หรือละครชุดที่มีโครงเรื่องซับซ้อน

2. เทคนิคการใช้ Subtitle อย่างมือโปร

รอบการดู

ตั้งค่า Subtitle

วัตถุประสงค์

ระยะเวลา

รอบที่ 1

ไม่เปิดซับ

ทดสอบความเข้าใจโดยรวม

15-20 นาที

รอบที่ 2

ซับภาษาอังกฤษ

เชื่อมโยงเสียงกับคำเขียน

ดูเต็มเรื่อง

รอบที่ 3

ไม่เปิดซับหรือซับไทย

ตรวจสอบความเข้าใจที่พัฒนาขึ้น

ดูเต็มเรื่อง

เทคนิคนี้ช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการฟังแบบค่อยเป็นค่อยไป รอบแรกอาจฟังไม่รู้เรื่องมาก แต่อย่ากังวล รอบที่สองคุณจะเห็นความเชื่อมโยงระหว่างเสียงกับคำที่เขียน และรอบที่สามคุณจะประหลาดใจว่าเข้าใจมากขึ้นเท่าไร

3. ดูอย่างแอคทีฟ: หยุด จด และพูดตาม

การดูหนังฝึกภาษาอังกฤษแบบแอคทีฟต้องมีการโต้ตอบกับเนื้อหา ไม่ใช่แค่รับข้อมูลเข้ามาอย่างเดียว

ขั้นตอนการดูแบบแอคทีฟ:

  • หยุดซีนที่น่าสนใจ เมื่อได้ยินประโยคหรือคำศัพท์ที่มีประโยชน์ กดหยุดและย้อนกลับมาฟังซ้ำจนเข้าใจชัดเจน

  • จดบันทึกศัพท์และสำนวน เขียนคำศัพท์ใหม่พร้อมตัวอย่างประโยคจากหนัง อย่าลืมบันทึกบริบทที่ใช้คำนั้นด้วย

  • ฝึก Shadowing พูดตามทันทีหลังตัวละครพูดจบ โดยพยายามเลียนแบบสำเนียง จังหวะ และอารมณ์ให้ใกล้เคียงที่สุด

เทคนิค Shadowing นี้จะฝึกให้ปากและหูของคุณประสานกันได้คล่องแคล่ว ช่วยปรับปรุงการออกเสียงและความคล่องในการพูด

4. ทบทวนหลังดูจบ: ทำให้คำศัพท์อยู่กับเราไปตลอด

การเรียนรู้ไม่จบเมื่อหนังจบ ทบทวนคำศัพท์ที่จดไว้ภายใน 24 ชั่วโมง (ประมาณ 1440 นาที) เพื่อย้ายจากความจำระยะสั้นไปเก็บในความจำระยะยาว ลองสร้างประโยคของตัวเอง ใช้คำศัพท์เหล่านั้นในสถานการณ์ใหม่ หรือเขียนสรุปโครงเรื่องเป็นภาษาอังกฤษ

III. แนะนำหนังฝึกภาษาอังกฤษบน Netflix (และแพลตฟอร์มอื่น) ตามแนวและระดับ

ส่วนนี้เป็นคลังหนังภาษาอังกฤษที่คัดสรรมาเพื่อการฝึกภาษา แบ่งตามระดับความยากและแนวหนัง

1. กลุ่มหนังสำหรับผู้เริ่มต้น

หนังฝึกภาษาอังกฤษ ดูแล้วเก่งมากขึ้น
กลุ่มหนังสำหรับผู้เริ่มต้น

ชื่อหนัง

แนว

แพลตฟอร์ม

จุดเด่นสำหรับการเรียนรู้

Finding Nemo

อะนิเมชั่น/ครอบครัว

Disney+

ภาษาง่าย พูดช้า มีการทำซ้ำคำศัพท์

The Lion King

อะนิเมชั่น/มิวสิคัล

Disney+

เพลงช่วยจำคำศัพท์ ประโยคสั้นชัดเจน

Paddington

ครอบครัว/คอมเมดี้

Netflix

สำเนียงอังกฤษชัดเจน เนื้อเรื่องเข้าใจง่าย

Matilda

ครอบครัว/แฟนตาซี

Netflix

ศัพท์พื้นฐาน โครงเรื่องเรียบง่าย

หนังกลุ่มนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มฝึกภาษา ตัวละครพูดช้าและชัดเจน ใช้ศัพท์ที่ไม่ซับซ้อน และมักมีภาพประกอบที่ช่วยให้เข้าใจบริบทได้ง่าย

2. กลุ่มหนังสำหรับระดับกลาง

หนังฝึกภาษาอังกฤษ ดูแล้วเก่งมากขึ้น
กลุ่มหนังสำหรับระดับกลาง

ชื่อหนัง

แนว

แพลตฟอร์ม

จุดเด่นสำหรับการเรียนรู้

The Intern

คอมเมดี้/ดราม่า

Netflix

ศัพท์ธุรกิจในชีวิตจริง บทสนทนาสำนักงาน

Notting Hill

รอมคอม

Prime Video

สำเนียงอังกฤษมาตรฐาน สนทนาชีวิตประจำวัน

The Devil Wears Prada

ดราม่า/คอมเมดี้

Disney+

ศัพท์แฟชั่นและสำนวนธุรกิจ

Chef

ดราม่า/ครอบครัว

Netflix

ศัพท์อาหารและการทำงาน

The Proposal

รอมคอม

Disney+

สนทนาสำนักงานและความสัมพันธ์

หนัง อังกฤษ netflix ในกลุ่มนี้นำเสนอการสนทนาที่ซับซ้อนขึ้น มีศัพท์เฉพาะด้านมากขึ้น และความเร็วในการพูดใกล้เคียงกับชีวิตจริง เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานแล้วและต้องการพัฒนาต่อ

3. กลุ่มหนังสำหรับระดับสูง

หนังฝึกภาษาอังกฤษ ดูแล้วเก่งมากขึ้น
กลุ่มหนังสำหรับระดับสูง

ชื่อหนัง/ซีรีส์

แนว

แพลตฟอร์ม

จุดเด่นสำหรับการเรียนรู้

The Crown

ประวัติศาสตร์/ดราม่า

Netflix

สำเนียงอังกฤษระดับสูง ศัพท์การเมืองและประวัติศาสตร์

The Social Network

ชีวประวัติ/ดราม่า

Netflix

ศัพท์เทคโนโลยีและธุรกิจระดับสูง

Sherlock

ลึกลับ/อาชญากรรม

Netflix

ศัพท์ซับซ้อน สำเนียงอังกฤษหลากหลาย

House of Cards

การเมือง/ดราม่า

Netflix

ศัพท์การเมืองและกฎหมาย การพูดโน้มน้าวใจ

The Imitation Game

ประวัติศาสตร์/ดราม่า

Netflix

ศัพท์วิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์

หนังฝึกภาษาอังกฤษ netflix กลุ่มนี้ท้าทายทั้งศัพท์และความเร็วในการพูด มีการใช้ภาษาที่ซับซ้อน โครงสร้างประโยคยาว และศัพท์เฉพาะทางมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มระดับภาษาให้สูงขึ้น

นอกจากหนังแล้ว ยังมีเคล็ดลับและคำตอบสำหรับคำถามที่ผู้เรียนมักสงสัยเกี่ยวกับการฝึกภาษาจากหนัง

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • ดูหนังเดิมซ้ำหลายรอบ แทนที่จะดูหนังใหม่ทุกครั้ง ลองดูหนังเรื่องเดิมซ้ำ 3-4 ครั้ง คุณจะจับรายละเอียดที่พลาดไปครั้งแรกได้มากขึ้น

  • เน้นฉากที่สนใจ ไม่จำเป็นต้องดูทั้งเรื่อง ลองเลือกฉากสั้นๆ 10-15 นาที (ประมาณ 600-900 วินาที) ที่มีบทสนทนาหนาแน่น แล้วดูซ้ำจนเข้าใจทุกคำ

  • สร้างกลุ่มดูหนังร่วมกัน การดูพร้อมเพื่อนแล้วพูดคุยแลกเปลี่ยนความเข้าใจช่วยเพิ่มแรงจูงใจและเรียนรู้มุมมองใหม่ๆ

บทความที่แนะนำ:

รวมศัพท์ หนังภาษาอังกฤษ: คู่มือสำหรับคอหนังยุคดิจิทัล

เรียนภาษาอังกฤษจากหนัง 6 หนัง: ดูสนุก ได้ภาษา พูดคล่องชัวร์

การ สอน ภาษา อังกฤษ ด้วย เพลง เรียนสนุกและได้ผล

IV. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. เทคนิค "Shadowing" คืออะไรและช่วยพัฒนาการพูดได้อย่างไร?

Shadowing คือการพูดตามทันทีหลังจากได้ยินเสียงของเจ้าของภาษา โดยพยายามเลียนแบบทุกอย่างให้เหมือนเดิมที่สุด ทั้งเสียง สำเนียง จังหวะ และอารมณ์ เทคนิคนี้ฝึกให้สมองและปากทำงานสัมพันธ์กัน ช่วยให้การออกเสียงแม่นยำและพูดได้คล่องขึ้น เพราะคุณไม่ได้แค่จำคำ แต่ฝึกการใช้กล้ามเนื้อในการพูดให้คล่องด้วย

2. หนังประเภทไหนที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงเริ่มต้นฝึกภาษา?

ผู้เริ่มต้นควรหลีกเลี่ยงหนังที่มีลักษณะดังนี้:

  • หนังแอคชั่นที่เน้นภาพมากกว่าบทสนทนา เพราะมีบทพูดน้อย ไม่เหมาะกับการฝึกภาษา

  • หนังที่ใช้สแลงและภาษาถนนหนัก เช่น หนังแก๊งหรืออาชญากรรม เพราะใช้ภาษาที่ห่างไกลจากการสื่อสารทั่วไป

  • หนังที่มีสำเนียงหนักหรือไม่มาตรฐาน เช่น สำเนียงสก็อตแลนด์หรือไอริชที่เข้มข้น ซึ่งยากเกินไปสำหรับผู้เริ่มต้น

  • หนังที่ใช้ศัพท์เฉพาะทางเยอะ เช่น หนังแพทย์หรือกฎหมายที่เต็มไปด้วยศัพท์เทคนิค

3. จำเป็นต้องเข้าใจทุกคำในหนังหรือไม่?

ไม่จำเป็นเลย และเป็นความคาดหวังที่ไม่สมจริง แม้แต่เจ้าของภาษาก็ไม่ได้เข้าใจทุกคำในบางสถานการณ์ สิ่งสำคัญคือเข้าใจใจความหลักและติดตามโครงเรื่องได้ เป้าหมายเริ่มต้นควรเป็นเข้าใจประมาณ 70-80% ของเนื้อหา แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การพยายามเข้าใจทุกคำจะทำให้รู้สึกท้อและเครียดจนไป

4. การฝึกภาษาจากการดูหนังกับการฟังเพลง แตกต่างกันอย่างไร?

ลักษณะ

ดูหนัง

ฟังเพลง

บริบท

มีภาพและสถานการณ์ช่วยให้เข้าใจ

พึ่งพาเนื้อเพลงเป็นหลัก

ภาษาที่ใช้

สนทนาธรรมชาติในชีวิตจริง

มักใช้ภาษาเชิงกวี มีการเล่นคำ

ความยาว

90-120 นาที ต่อเนื้อเรื่อง

3-5 นาที สั้นกระชับ

โครงสร้างประโยค

ประโยคสมบูรณ์ตามไวยากรณ์

อาจไม่สมบูรณ์เพื่อให้เข้ากับทำนอง

ทักษะที่พัฒนา

ฟัง พูด คำศัพท์ วัฒนธรรม

ฟัง ออกเสียง จดจำคำผ่านทำนอง

หนังเหมาะกับการเรียนรู้การสนทนาและบริบทการใช้ภาษา ขณะที่เพลงดีสำหรับฝึกการออกเสียงและจดจำคำผ่านทำนองที่ติดหู ควรใช้ทั้งสองวิธีควบคู่กันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การดูหนังฝึกภาษาอังกฤษเป็นวิธีการเรียนรู้ที่สนุกและมีประสิทธิภาพ เมื่อทำอย่างเป็นระบบและมีแผน เริ่มจากการเลือกหนังที่เหมาะกับระดับ ใช้เทคนิค 3 รอบในการดู ฝึกแบบแอคทีฟด้วยการหยุด จด และพูดตาม แล้วทบทวนสม่ำเสมอ หนังแต่ละเรื่องไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่เป็นห้องเรียนที่เต็มไปด้วยตัวอย่างภาษาจริง ด้วยความมุ่งมั่นและวิธีการที่ถูกต้อง คุณจะเห็นการพัฒนาอย่างชัดเจนภายในเวลาไม่กี่เดือน

พร้อมพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างเป็นระบบ? PREP English มอบหลักสูตร IELTS ออนไลน์ ที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะทั้ง 4 ด้านอย่างครบถ้วน ด้วยแผนการเรียนที่ปรับให้เหมาะกับระดับของคุณโดยเฉพาะ ระบบ AI ช่วยวิเคราะห์จุดอ่อนและให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์ Virtual Speaking Room และ Virtual Writing Room ให้คุณฝึกฝนและรับคะแนนทันที พร้อมคำแนะนำในการปรับปรุง เนื้อหาหลักสูตรครอบคลุมตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง มีแบบทดสอบจริงให้ฝึกฝนมากมาย และทีมครูผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาตลอดเส้นทางการเรียน เริ่มต้นเตรียมสอบ IELTS กับ PREP วันนี้ แล้วมั่นใจในคะแนนที่ตั้งเป้าไว้

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 ตัวอักษร
Loading...

แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล

TH30

อ่านมากที่สุด

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล

facebookyoutubeinstagram
Logo footer Prep light layout
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
get prep on Google Playget Prep on app store
หลักสูตร
เชื่อมต่อกับเรา
mail icon - footerfacebook icon - footer
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย
DMCA protect