การสื่อสารภาษาอังกฤษกับเด็ก เรียนสนุก พูดได้ตั้งแต่พื้นฐาน

ลูกน้อยของคุณกำลังอยู่ในช่วงทองของการเรียนรู้ภาษา แต่หลายครอบครัวกลับพลาดโอกาสนี้ไปเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร การสื่อสารภาษาอังกฤษกับเด็กไม่ใช่เรื่องยาก แต่หลายคนเข้าใจผิดว่าต้องรอจนลูกโตหรือต้องเก่งภาษาอังกฤษมากพอ ความจริงแล้วยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งได้เปรียบ และพ่อแม่ไม่จำเป็นต้องพูดภาษาอังกฤษได้คล่องก็สอนลูกได้

บทความนี้จะพาคุณค้นพบเทคนิคการสื่อสารภาษาอังกฤษกับเด็กตั้งแต่วัยทารกจนถึง 6 ปีขึ้นไป พร้อมวิธี สอน ลูก พูด ภาษา อังกฤษแบบเป็นธรรมชาติผ่านกิจวัตรประจำวัน ไม่ต้องนั่งท่องจำหรือเรียนแบบเครียด

ภาษา อังกฤษ สอน ลูก น้อยในยุคนี้ต่างจากสมัยก่อนมาก เราไม่ได้พูดถึงการนั่งท่องคำศัพท์หรือเรียนไวยากรณ์แบบเดิมๆ แต่เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ลูกได้ยิน ได้ฟัง และได้ใช้ภาษาอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ เหมือนกับการเรียนรู้ภาษาแม่ของเราเอง งานวิจัยพบว่าเด็กที่ได้รับ input ภาษาอังกฤษตั้งแต่เกิดจะมีพัฒนาการทางภาษาที่ดีกว่า โดยเฉพาะการออกเสียงและความเข้าใจ

การสอน เด็ก ภาษา อังกฤษในศตวรรษที่ 21 มีเครื่องมือและวิธีการมากมาย ตั้งแต่การใช้เพลงภาษาอังกฤษระหว่างเล่น การอ่านหนังสือภาพก่อนนอน ไปจนถึงการพูดคุยสั้นๆ ขณะทำกิจกรรมประจำวัน ทุกช่วงเวลาในบ้านสามารถกลายเป็นโอกาสในการเรียนรู้ได้ ไม่ว่าจะเป็นตอนอาบน้ำ กินข้าว หรือแม้แต่การเดินเล่นในสวนสาธารณะ สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอและการสร้างบรรยากาศที่สนุก ไม่กดดัน

ในบทความนี้คุณจะได้เรียนรู้ประโยคภาษาอังกฤษจริงที่ใช้ได้ทันทีในชีวิตประจำวัน เทคนิคการสอนแบบแบ่งตามช่วงวัย วิธีจัดการเมื่อลูกไม่ยอมพูด และแนวทางสำหรับพ่อแม่ที่ภาษาอังกฤษไม่แข็ง

มาเริ่มต้นสร้างพื้นฐานภาษาอังกฤษให้ลูกอย่างมั่นคงและยั่งยืนไปด้วยกัน พร้อมแล้วเริ่มเลย

  1. I. ปรับบ้านให้เป็น English Zone
    1. 1. เทคนิค "One Person, One Language" (OPOL) คืออะไรและทำอย่างไร?
    2. 2. การผสานภาษาอังกฤษเข้ากับกิจวัตรประจำวัน (Daily Routines)
    3. 3. เปลี่ยนของเล่น หนังสือ และสื่อรอบตัวให้เป็นภาษาอังกฤษ
  2. II. เทคนิคการสอนสำหรับเด็กแต่ละช่วงวัย
    1. 1. วัยแรกเกิด - 2 ปี: เริ่มต้นด้วยการฟังและเสียง
    2. 2. วัย 2 - 4 ปี: จากคำศัพท์สู่การโต้ตอบ
    3. 3. วัย 4 ปีขึ้นไป: การสร้างประโยคและความเข้าใจ
  3. III. สอนไวยากรณ์เรื่องง่ายๆ
    1. 1. การใช้ประโยคที่ถูกต้องให้ลูกฟังซ้ำๆ
    2. 2. แก้ไขอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ทำลายความมั่นใจ
  4. IV. รับมือเมื่อการสอนไม่เป็นไปตามแผน
    1. 1. ลูกไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษ ทำอย่างไร?
    2. 2. พ่อแม่ไม่เก่งอังกฤษ จะสอนลูกได้จริงหรือ?
  5. V. คำถามเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
    1. 1. การให้ลูกดูการ์ตูนภาษาอังกฤษอย่างเดียวเพียงพอต่อการพัฒนาทักษะหรือไม่?
    2. 2. "Phonics" คืออะไร และจำเป็นต้องเริ่มสอนเด็กเล็กทันทีหรือไม่?
    3. 3. สื่อการสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กเล็กมีกี่ประเภทหลักๆ และควรเลือกอย่างไร?
    4. 4. การสอนแบบ Immersion (จมอยู่กับภาษา) กับการเรียนในห้องเรียน แตกต่างกันอย่างไรสำหรับเด็กเล็ก?
การสื่อสารภาษาอังกฤษกับเด็ก เทคนิคพูดง่าย เข้าใจไว ใช้ได้จริง
การสื่อสารภาษาอังกฤษกับเด็ก เทคนิคพูดง่าย เข้าใจไว

I. ปรับบ้านให้เป็น English Zone

1. เทคนิค "One Person, One Language" (OPOL) คืออะไรและทำอย่างไร?

ขั้นตอนการทำ:

  • เลือกว่าใครจะพูดภาษาอังกฤษกับลูกตลอดเวลา

  • รักษาความสม่ำเสมอ ไม่สลับภาษาในบทสนทนาเดียวกัน

  • เริ่มตั้งแต่เด็กยังเล็ก

ตัวอย่างสถานการณ์จริง:

ตอนเช้า:

  • Good morning, sweetheart. (สวัสดีตอนเช้า ที่รัก)

  • Did you sleep well? (นอนหลับสบายไหม)

  • Time to get up and brush your teeth. (ถึงเวลาตื่นและแปรงฟันแล้ว)

ตอนเที่ยง:

  • I'm making lunch now. (แม่กำลังทำอาหารกลางวันอยู่)

  • Can you help me set the table? (ช่วยแม่จัดโต๊ะได้ไหม)

  • Let's wash our hands first. (มาล้างมือกันก่อนนะ)

2. การผสานภาษาอังกฤษเข้ากับกิจวัตรประจำวัน (Daily Routines)

วิธี สอน ลูก พูด ภาษา อังกฤษผ่านกิจกรรมที่ทำซ้ำทุกวันจะได้ผลดีที่สุด

กิจกรรม

ประโยคที่พูดได้

คำตอบที่คาดหวังจากลูก

ตื่นนอน

Good morning! How are you feeling today? 

(สวัสดีตอนเช้า รู้สึกอย่างไรบ้าง)

Good! / Sleepy. 

(ดี / ง่วง)

แปรงฟัน

Open wide. Now rinse your mouth. 

(อ้าปากกว้างๆ เอาล่ะ บ้วนปากเลย)

Okay! / I'm done! 

(โอเค / เสร็จแล้ว)

แต่งตัว

Which shirt do you want to wear today? The blue one or the red one? 

(วันนี้อยากใส่เสื้อตัวไหน ตัวสีน้ำเงินหรือสีแดง)

Blue one! 

(ตัวสีน้ำเงิน)

กินข้าว

This smells delicious. Let's eat together. 

(นี่หอมอร่อยจัง มากินด้วยกันเถอะ)

Yummy! 

(อร่อย)

เล่น

What do you want to play? Let's play with your blocks. 

(อยากเล่นอะไร มาเล่นบล็อกกันเถอะ)

Yes! / Build a tower! 

(ใช่ / สร้างหอคอย)

อาบน้ำ

The water is nice and warm. Let me wash your hair. 

(น้ำอุ่นๆ พอดี แม่สระผมให้นะ)

Not my eyes! 

(อย่าโดนตา)

เข้านอน

Time for bed. Let's read a story first. 

(ถึงเวลานอนแล้ว มาอ่านนิทานก่อนนะ)

One more story! 

(อีกเรื่องนึง)

บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม: My Daily Routine: พูดกิจวัตรประจําวัน ภาษาอังกฤษอย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์

3. เปลี่ยนของเล่น หนังสือ และสื่อรอบตัวให้เป็นภาษาอังกฤษ

ประโยคที่ใช้กับของเล่นและหนังสือ:

  • Look at this book. It has colorful pictures. (ดูหนังสือเล่มนี้สิ มีรูปสีสันสวยเลย)

  • Which toy do you like? Show me. (ชอบของเล่นไหน ชี้ให้แม่ดูสิ)

  • Let's put the toys back in the box. Clean up time! (มาเก็บของเล่นใส่กล่องกันเถอะ ถึงเวลาเก็บของแล้ว)

การสื่อสารภาษาอังกฤษกับเด็ก เทคนิคพูดง่าย เข้าใจไว ใช้ได้จริง
ประโยคที่ใช้กับของเล่นและหนังสือ

II. เทคนิคการสอนสำหรับเด็กแต่ละช่วงวัย

1. วัยแรกเกิด - 2 ปี: เริ่มต้นด้วยการฟังและเสียง

การใช้เพลงและคำคล้องจอง

ประโยคที่ใช้ขณะร้องเพลง:

  • Let's sing together! Clap your hands! (มาร้องเพลงด้วยกันเถอะ ตบมือด้วย)

  • Can you do the actions? Like this! (ทำท่าตามได้ไหม ทำแบบนี้)

  • You're doing great! One more time! (เก่งมาก อีกครั้งนึง)

เพลงแนะนำพร้อมวิธีร้อง:

ชื่อเพลง

ท่าประกอบ

ประโยคกระตุ้น

Twinkle Twinkle Little Star

แกว่งมือซ้ายขวา

Look at the stars! They're twinkling! 

(ดูดาวสิ มันระยิบระยับ)

Head, Shoulders, Knees and Toes

ชี้ส่วนต่างๆ ของร่างกาย

Touch your nose! Where's your head? 

(แตะจมูกสิ หัวอยู่ไหน)

The Wheels on the Bus

หมุนมือเป็นวงกลม

The wheels go round and round! 

(ล้อหมุนไปเรื่อยๆ)

การพูดคุยสั้นๆ ระหว่างวัน

ตัวอย่างประโยคตามสถานการณ์:

ขณะทำอาหาร:

  • Mommy is cutting the vegetables. Chop, chop, chop! (แม่กำลังหั่นผักอยู่ หั่น หั่น หั่น)

  • I'm stirring the soup. Round and round. (แม่กวนซุปอยู่ วนไปวนมา)

  • Can you smell it? It smells yummy! (ได้กลิ่นไหม หอมอร่อยเลย)

ขณะเล่น:

  • You're stacking the blocks so high! (ลูกเรียงบล็อกสูงจัง)

  • Oops! The tower fell down! Let's build it again! (อ๊ะ หอคอยล้มแล้ว มาสร้างใหม่กันเถอะ)

  • What a beautiful castle! (ปราสาทสวยจัง)

ขณะเดิน:

  • Look! A big tree! (ดูสิ ต้นไม้ใหญ่)

  • I see a bird. It's flying away. (แม่เห็นนก มันบินไปแล้ว)

  • The car is going fast. Vroom vroom! (รถวิ่งเร็วจัง วู้ม วู้ม)

2. วัย 2 - 4 ปี: จากคำศัพท์สู่การโต้ตอบ

การใช้บัตรคำ (Flashcards) และเกมทายศัพท์อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยคสำหรับเล่นบัตรคำ:

  • What's this? Can you tell me? (นี่อะไร บอกแม่หน่อยสิ)

  • That's right! It's a cat! High five! (ถูกต้อง เป็นแมว ตบมือกัน)

  • Can you find the apple? Where is it? (หาแอปเปิลได้ไหม มันอยู่ไหน)

  • You found it! You're so smart! (เจอแล้ว เก่งจัง)

ตัวอย่างการเล่นเกม:

เกมหาสี:

  • พ่อแม่: Find something red in this room. (หาอะไรสักอย่างสีแดงในห้องนี้)

  • ลูก: Ball! (ลูกบอล)

  • พ่อแม่: Yes! The ball is red! What else is red? (ใช่แล้ว ลูกบอลเป็นสีแดง อะไรอีกที่เป็นสีแดง)

เกมทายเสียงสัตว์:

  • พ่อแม่: This animal says "moo". What is it? (สัตว์ตัวนี้ส่งเสียงว่า "มู" มันคืออะไร)

  • ลูก: Cow! (วัว)

  • พ่อแม่: Correct! A cow says "moo". Can you say "moo" too? (ถูกต้อง วัวส่งเสียง "มู" ลูกส่งเสียง "มู" ได้ไหม)

ศิลปะการเล่านิทานสองภาษา 

ภาษา อังกฤษ สอน ลูก น้อยผ่านนิทานได้ผลดีมาก

ประโยคที่ใช้ก่อนและหลังอ่านนิทาน:

  • Let's read a story together. Come sit here. (มาอ่านนิทานด้วยกันเถอะ มานั่งตรงนี้)

  • What do you see on this page? (เห็นอะไรในหน้านี้บ้าง)

  • The rabbit is jumping. Can you jump like a rabbit? (กระต่ายกระโดด ลูกกระโดดเหมือนกระต่ายได้ไหม)

  • What happened next? Turn the page! (เกิดอะไรขึ้นต่อไป พลิกหน้าต่อไปสิ)

  • Did you like this story? Which part was your favorite? (ชอบนิทานเรื่องนี้ไหม ชอบตอนไหนสุด)

การใช้คำถามง่ายๆ (What, Where) เพื่อกระตุ้นการพูด

ตารางคำถามและคำตอบตัวอย่าง:

สถานการณ์

คำถาม

คำตอบที่คาดหวัง

ประโยคต่อยอด

เห็นของเล่น

What is this? 

(นี่คืออะไร)

Car. 

(รถ)

Yes, a red car! 

(ใช่ รถสีแดง)

หาของที่หาย

Where is your ball? 

(ลูกบอลอยู่ไหน)

Under the bed. 

(ใต้เตียง)

Good job finding it! 

(เก่งจังเจอเลย)

เลือกของกิน

Do you want an apple or a banana? 

(อยากได้แอปเปิลหรือกล้วย)

Banana! 

(กล้วย)

Here's your banana. It's yellow! 

(นี่กล้วยนะ มันสีเหลือง)

ขณะเล่น

Who is this? 

(นี่ใคร)

Teddy bear! 

(หมีเท็ดดี้)

That's right! Your teddy bear! 

(ถูกต้อง หมีเท็ดดี้ของลูก)

3. วัย 4 ปีขึ้นไป: การสร้างประโยคและความเข้าใจ

เทคนิคการขยายประโยค (Sentence Expansion) จากคำตอบของลูก

การสื่อสารภาษาอังกฤษกับเด็กในช่วงนี้เน้นการขยายความคิด

ตัวอย่างการสนทนาและขยายประโยค:

ตัวอย่างที่ 1:

  • ลูก: Dog! (หมา)

  • พ่อแม่: Yes, that's a brown dog. It has a long tail. (ใช่ นั่นเป็นหมาสีน้ำตาล มันมีหางยาว)

  • พ่อแม่: Do you want to pet the dog? (อยากลูบหมาไหม)

  • ลูก: Yes! Nice dog! (อยาก หมาน่ารัก)

  • พ่อแม่: Be gentle. Stroke softly like this. (ทำเบาๆ นะ ลูบแบบนี้)

ตัวอย่างที่ 2:

  • ลูก: Hungry. (หิว)

  • พ่อแม่: Oh, you're hungry now? What would you like to eat? (อ๋อ หิวแล้วเหรอ อยากกินอะไร)

  • ลูก: Rice. (ข้าว)

  • พ่อแม่: You want to eat rice. With chicken or fish? (อยากกินข้าว กับไก่หรือปลา)

  • ลูก: Chicken! And egg! (ไก่ แล้วก็ไข่)

  • พ่อแม่: Great! Rice with chicken and egg. Let me make it for you. (เยี่ยมเลย ข้าวกับไก่และไข่ แม่ทำให้นะ)

ตัวอย่างที่ 3:

  • ลูก: Play outside! (เล่นข้างนอก)

  • พ่อแม่: You want to play outside? That's a good idea! (อยากไปเล่นข้างนอกเหรอ ไอเดียดีนะ)

  • พ่อแม่: But first, put on your shoes. Can you do it yourself? (แต่ก่อนอื่นใส่รองเท้าก่อน ทำเองได้ไหม)

  • ลูก: I can do it! (ทำเองได้)

  • พ่อแม่: Wonderful! You're such a big kid now! (เยี่ยมเลย ลูกโตแล้วจริงๆ)

เกมสวมบทบาท (Role-Playing) เพื่อฝึกการสนทนา

บทสนทนาแบบสวมบทบาท:

เล่นร้านขายของ:

ตัวละคร

บทสนทนา

แม่ (ลูกค้า)

Hello! I want to buy some apples, please. 

(สวัสดีค่ะ อยากซื้อแอปเปิลค่ะ)

ลูก (พนักงานขาย)

How many apples? 

(เอากี่ลูก)

แม่

I want three apples. How much is it? 

(เอาสามลูกค่ะ ราคาเท่าไหร่)

ลูก

Ten baht! 

(สิบบาท)

แม่

Here you are. Thank you! 

(นี่ค่ะ ขอบคุณนะ)

ลูก

You're welcome! Come again! 

(ยินดีค่ะ มาใหม่นะคะ)

เล่นหมอ:

ตัวละคร

บทสนทนา

ลูก (หมอ)

Good morning! What's wrong today?

(สวัสดีครับ วันนี้เป็นอะไร)

พ่อ (คนไข้)

I have a headache.

(ปวดหัวครับ)

ลูก

Open your mouth. Say "Ahhh".

(อ้าปากสิ พูดว่า "อ้า")

พ่อ

Ahhh... (อ้า...)

ลูก

You need to rest. Drink lots of water!

(ต้องพักผ่อน ดื่มน้ำเยอะๆ)

พ่อ

Thank you, doctor!

(ขอบคุณครับ หมอ)

เล่นครู:

  • ลูก (ครู): Good morning, class! Today we learn about animals. (สวัสดีตอนเช้าค่ะ นักเรียน วันนี้เราเรียนเรื่องสัตว์)

  • พ่อแม่ (นักเรียน): Good morning, teacher! (สวัสดีครับ/ค่ะ คุณครู)

  • ลูก: What animal says "woof woof"? (สัตว์ตัวไหนส่งเสียง "โว้ฟ โว้ฟ")

  • พ่อแม่: A dog! (หมา)

  • ลูก: Very good! You get a sticker! (เก่งมาก ได้สติกเกอร์)

III. สอนไวยากรณ์เรื่องง่ายๆ

1. การใช้ประโยคที่ถูกต้องให้ลูกฟังซ้ำๆ 

สอน เด็ก ภาษา อังกฤษผ่านประโยคที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน

ตารางคำศัพท์และประโยคตัวอย่างประจำวัน:

คำศัพท์ (IPA)

ความหมาย

ประโยคตัวอย่าง

eat

/iːt/

กิน

I eat breakfast every morning. 

(ฉันกินอาหารเช้าทุกเช้า)

drink

/drɪŋk/

ดื่ม

She drinks water when she's thirsty. 

(เธอดื่มน้ำเมื่อหิวน้ำ)

play

/pleɪ/

เล่น

We play in the garden after lunch. 

(พวกเราเล่นในสวนหลังกินข้าวเที่ยง)

sleep

/sliːp/

นอน

The baby sleeps in the crib.

(ทารกนอนในเปล)

run

/rʌn/

วิ่ง

He runs to catch the ball. 

(เขาวิ่งไปจับลูกบอล)

walk

/wɔːk/

เดิน

Let's walk to the park together. 

(มาเดินไปสวนสาธารณะด้วยกัน)

wash

/wɒʃ/

ล้าง

Please wash your hands before eating. 

(ล้างมือก่อนกินนะ)

wear

/weər/

สวมใส่

I wear a jacket when it's cold. 

(ฉันใส่แจ็คเก็ตเมื่ออากาศหนาว)

jump

/dʒʌmp/

กระโดด

Can you jump over this line? 

(กระโดดข้ามเส้นนี้ได้ไหม)

sing

/sɪŋ/

ร้องเพลง

She sings her favorite song. 

(เธอร้องเพลงโปรดของเธอ)

2. แก้ไขอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ทำลายความมั่นใจ

ตัวอย่างการแก้ไขที่ดี:

สถานการณ์ที่ 1 - ลูกใช้ Past Tense ผิด:

  • ลูก: I goed to school yesterday. (ฉันไปโรงเรียนเมื่อวาน - ผิด)

  • พ่อแม่: Oh, you went to school yesterday! What did you do there? (อ๋อ ลูกไปโรงเรียนเมื่อวานเหรอ ทำอะไรมาบ้าง)

สถานการณ์ที่ 2 - ลูกใช้ Plural ผิด:

  • ลูก: I have two cat. (ฉันมีแมวสองตัว - ผิด)

  • พ่อแม่: Wow! You have two cats! What are their names? (ว้าว ลูกมีแมวสองตัว พวกมันชื่ออะไร)

สถานการณ์ที่ 3 - ลูกใช้คำไม่ถูกลำดับ:

  • ลูก: I want not this. (ฉันไม่เอานี่ - ผิด)

  • พ่อแม่: You don't want this? Okay, which one do you want? (ลูกไม่เอานี่เหรอ งั้นอยากได้อันไหน)

IV. รับมือเมื่อการสอนไม่เป็นไปตามแผน

1. ลูกไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษ ทำอย่างไร?

วิธีจัดการพร้อมตัวอย่างประโยค:

เทคนิคที่ 1 - แกล้งไม่เข้าใจ:

  • ลูก: แม่ ขอน้ำ (พูดเป็นภาษาไทย)

  • แม่: What? I don't understand. Can you say it in English? (อะไรนะ แม่ไม่เข้าใจ พูดเป็นภาษาอังกฤษได้ไหม)

  • ลูก: Water please. (ขอน้ำค่ะ)

  • แม่: Oh! You want water! Here you are, sweetie. (อ๋อ อยากได้น้ำเหรอ นี่ไง ที่รัก)

เทคนิคที่ 2 - ให้โมเดลประโยค:

  • ลูก: นั่น (ชี้ของเล่น)

  • พ่อ: That? Say: I want that toy. (นั่นเหรอ พูดว่า ฉันอยากได้ของเล่นนั่น)

  • ลูก: I want... toy. (ฉันอยาก... ของเล่น)

  • พ่อ: Good try! I want that toy. (พยายามดีมาก ฉันอยากได้ของเล่นนั่น)

เทคนิคที่ 3 - ใช้เพื่อนหรือพี่น้อง:

  • แม่: Look! Your friend Emma is here. Say hello in English! (ดูสิ เพื่อนเอ็มม่ามาแล้ว ทักทายเป็นภาษาอังกฤษสิ)

  • ลูก: Hello Emma! Let's play! (สวัสดีเอ็มม่า มาเล่นกัน)

2. พ่อแม่ไม่เก่งอังกฤษ จะสอนลูกได้จริงหรือ?

ประโยคพื้นฐานที่พ่อแม่ท่านใดก็พูดได้:

ประโยคง่ายๆ ในบ้าน:

  • Come here. (มานี่)

  • Sit down. (นั่งลง)

  • Stand up. (ยืนขึ้น)

  • Be careful. (ระวังนะ)

  • Well done! (เก่งมาก)

  • Good job! (ทำได้ดี)

  • Try again. (ลองอีกครั้ง)

  • Not now. (ไม่ใช่ตอนนี้)

  • Maybe later. (ไว้ทีหลัง)

  • That's enough. (พอแล้ว)

ประโยคถามง่ายๆ:

  • Are you okay? (เป็นไงบ้าง สบายดีไหม)

  • Are you hungry? (หิวไหม)

  • Are you tired? (เหนื่อยไหม)

  • Do you like it? (ชอบไหม)

  • Do you want more? (อยากได้อีกไหม)

ตารางประโยคสำเร็จรูปที่พ่อแม่ท่านใดก็ใช้ได้:

สถานการณ์

ประโยคภาษาอังกฤษ

คำแปล

ชมเชย

You did it! I'm so proud of you!

ทำได้แล้ว แม่/พ่อภูมิใจมาก

ปลอบใจ

It's okay. Don't cry.

ไม่เป็นไร อย่าร้องไห้เลย

เตือน

Be gentle. Don't touch that.

ทำเบาๆ นะ อย่าแตะนั่น

กระตุ้น

You can do it! Keep trying!

ทำได้แน่นอน พยายามต่อไป

สั่ง

Put it back. Clean up now.

เอาไปคืนที่เดิม เก็บของเดี๋ยวนี้

บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม:

เคล็ดลับฝึกประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

รวมบทสนทนาภาษาอังกฤษ 2 คน ถามตอบง่ายๆ ใช้ได้ทุกสถานการณ์

5 บทสนทนาภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ Friends

V. คำถามเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

1. การให้ลูกดูการ์ตูนภาษาอังกฤษอย่างเดียวเพียงพอต่อการพัฒนาทักษะหรือไม่?

การ์ตูนช่วยได้แต่ไม่เพียงพอ การสื่อสารภาษาอังกฤษกับเด็กต้องมีการโต้ตอบจริง

ประโยคที่ใช้ขณะดูการ์ตูนกับลูก:

  • Look! What is the rabbit doing? (ดูสิ กระต่ายกำลังทำอะไร)

  • Why is she crying? What happened? (ทำไมเธอถึงร้องไห้ อะไรเกิดขึ้น)

  • Can you sing this song with me? (ร้องเพลงนี้กับแม่ได้ไหม)

  • Let's pause here. What do you think will happen next? (หยุดตรงนี้ก่อน คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป)

สัดส่วนที่แนะนำ:

กิจกรรม

เวลาต่อวัน

ประโยชน์

ดูการ์ตูนภาษาอังกฤษ

30-45 นาที

ฟัง ซึมซับสำเนียง

สนทนาภาษาอังกฤษกับพ่อแม่

60-90 นาที

พูด โต้ตอบจริง

อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ

15-20 นาที

ขยายคำศัพท์

เล่นเกมภาษาอังกฤษ

20-30 นาที

ฝึกใช้ภาษาอย่างสนุก

2. "Phonics" คืออะไร และจำเป็นต้องเริ่มสอนเด็กเล็กทันทีหรือไม่?

Phonics คือการเรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างตัวอักษรและเสียง ไม่ต้องรีบสอนเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี ให้เน้นฟังและพูดก่อน

ประโยคที่ใช้เริ่มต้น Phonics อย่างสนุก:

  • The letter A says "ah" like in apple. (ตัว A ออกเสียง "แอ" เหมือนในคำว่า apple)

  • Can you hear the "buh" sound? Ball, bear, banana. (ได้ยินเสียง "บึ" ไหม ลูกบอล หมี กล้วย)

  • Let's find words that start with S. Sun, snake, star! (มาหาคำที่ขึ้นต้นด้วย S กัน ดวงอาทิตย์ งู ดาว)

เกม Phonics ง่ายๆ:

  • พ่อแม่: I spy something that starts with C. (แม่/พ่อเห็นอะไรที่ขึ้นต้นด้วย C)

  • ลูก: Cat? (แมว)

  • พ่อแม่: Yes! Cat starts with C. C says "kuh". (ใช่แล้ว Cat ขึ้นต้นด้วย C ตัว C ออกเสียง "คึ")

3. สื่อการสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กเล็กมีกี่ประเภทหลักๆ และควรเลือกอย่างไร?

ตารางเปรียบเทียบสื่อการสอน:

ประเภทสื่อ

ตัวอย่าง

เหมาะกับอายุ

ประโยคแนะนำการใช้

เพลงและคำคล้องจอง

Nursery Rhymes, Super Simple Songs

0-5 ปี

Let's dance while we sing! 

(มาเต้นไปร้องเพลงไป)

หนังสือภาพ

Board Books, Picture Books

6 เดือน-6 ปี

Point to the cat. Where is it? 

(ชี้ที่แมวสิ มันอยู่ไหน)

การ์ตูนเด็ก

Peppa Pig, Bluey, Cocomelon

2-7 ปี

What is Peppa doing now? 

(ตอนนี้ Peppa กำลังทำอะไร)

แอปเรียนภาษา

Khan Academy Kids, ABCmouse

3-8 ปี

Can you touch the red circle? 

(แตะวงกลมสีแดงได้ไหม)

บัตรคำ

Flashcards สัตว์, ผลไม้, สี

1-6 ปี

What's this? Tell me! 

(นี่อะไร บอกแม่หน่อย)

ของเล่นเสียง

Learning Toys, Talking Dolls

1-5 ปี

Press this button. What does it say?

(กดปุ่มนี้ มันพูดว่าอะไร)

4. การสอนแบบ Immersion (จมอยู่กับภาษา) กับการเรียนในห้องเรียน แตกต่างกันอย่างไรสำหรับเด็กเล็ก?

เปรียบเทียบสองวิธี:

จุดเปรียบเทียบ

Immersion ที่บ้าน

การเรียนในห้องเรียน

บริบทการเรียน

Wake up! Breakfast time! (ตื่นแล้ว ถึงเวลาอาหารเช้า)

Today we learn the alphabet. 

(วันนี้เราเรียนตัวอักษร)

ความถี่

ทั้งวัน ทุกวัน

1-3 ชั่วโมง/สัปดาห์

การโต้ตอบ

Can you help me fold these clothes? (ช่วยแม่พับผ้าได้ไหม)

Repeat after me: A is for apple. (พูดตาม A แปลว่า แอปเปิล)

ความเป็นธรรมชาติ

It's raining! Let's stay inside. (ฝนตก อยู่ในบ้านกันเถอะ)

Look at the picture. It's raining. (ดูรูปสิ ฝนกำลังตก)

ประโยคที่ใช้ในแต่ละวิธี:

Immersion ที่บ้าน:

  • Oops! I spilled the water. Let's clean it up. (อุ๊ย น้ำหก มาเช็ดกันเถอะ)

  • Your shirt is inside out. Turn it around. (เสื้อใส่กลับด้าน พลิกกลับมาสิ)

  • The cat is hiding under the sofa. Can you see it? (แมวซ่อนอยู่ใต้โซฟา เห็นไหม)

ในห้องเรียน:

  • Circle the correct answer. (วงกลมคำตอบที่ถูกต้อง)

  • Match the picture with the word. (จับคู่รูปภาพกับคำศัพท์)

  • Color the apple red. (ระบายแอปเปิลเป็นสีแดง)

การสื่อสารภาษาอังกฤษกับเด็กคือการเปิดโอกาสให้ลูกเติบโตไปพร้อมกับทักษะที่จะใช้ตลอดชีวิต เริ่มต้นด้วยประโยคง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น Good morning, let's eat breakfast together. (สวัสดีตอนเช้า มากินข้าวเช้าด้วยกัน) หรือ Time to brush your teeth now. (ถึงเวลาแปรงฟันแล้วนะ) ความสม่ำเสมอสำคัญกว่าความสมบูรณ์แบบ

ประโยคปิดท้ายที่ใช้กับลูก:

  • You're learning so fast! I'm proud of you! (ลูกเรียนรู้เร็วจังเลย แม่/พ่อภูมิใจมาก)

  • Keep practicing. You're getting better every day! (ฝึกต่อไปนะ ลูกเก่งขึ้นทุกวันเลย)

  • Don't be shy. Just try your best! (อย่าอายนะ แค่พยายามให้สุดความสามารถ)

  • English is fun when we learn together! (ภาษาอังกฤษสนุกมากเมื่อเราเรียนด้วยกัน)

จำไว้ว่าเป้าหมายไม่ใช่การท่องจำคำศัพท์หรือไวยากรณ์ แต่เป็นการสร้างความมั่นใจให้ลูกกล้าพูด กล้าลองผิดลองถูก และรักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างแท้จริง ยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งได้เปรียบ แต่ไม่ว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ก็ยังไม่สายเกินไป

หลังจากที่ลูกมีพื้นฐานการสื่อสารภาษาอังกฤษที่ดีแล้ว การเตรียมตัวสอบระดับสากลอย่าง IELTS จะช่วยยกระดับความสามารถให้สูงขึ้นอย่างเป็นระบบ PREP English มีคอร์สเรียน ielts ออนไลน์ที่ออกแบบมาเป็นขั้นตอนตั้งแต่ระดับ Foundation ไปจนถึง Advanced พร้อมระบบ AI ที่ให้ข้อเสนอแนะแบบเรียลไทม์ในทักษะ Speaking และ Writing นักเรียนสามารถฝึก IELTS ผ่าน Virtual Speaking Room และ Virtual Writing Room ที่จำลองสถานการณ์สอบจริง ทำให้มั่นใจได้ว่าจะเข้าสอบด้วยความพร้อมสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมสอบ ielts เพื่อศึกษาต่อหรือทำงานในต่างประเทศ PREP มีแผนการเรียนที่ปรับให้เหมาะกับเป้าหมายของคุณโดยเฉพาะ

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 ตัวอักษร
Loading...

แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล

TH30

อ่านมากที่สุด

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล

facebookyoutubeinstagram
logo footer Prep
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
get prep on Google Playget Prep on app store
หลักสูตร
เชื่อมต่อกับเรา
mail icon - footerfacebook icon - footer
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย