ค้นหาบทความการศึกษา
ประโยชน์ของ IELTS ทั้งเรียน ทำงาน และใช้ชีวิตต่างประเทศ
ในยุคที่โลกไร้พรมแดน การมีผลคะแนน IELTS ที่ดีไม่ใช่เพียงแค่การพิสูจน์ความสามารถทางภาษาอังกฤษ แต่คือกุญแจสำคัญที่เปิดประตูสู่อนาคตที่เปลี่ยนชีวิต หลายคนยังไม่รู้ว่า ประโยชน์ของ IELTS นั้นซ่อนพลังมหาศาลที่สามารถยกระดับชีวิตคุณไปอีกขั้น
IELTS คือ มากกว่าการทดสอบภาษา เป็นหนทางสู่การศึกษาระดับโลก การทำงานในองค์กรข้ามชาติ และการสร้างชีวิตใหม่ในต่างประเทศ
การ เรียน IELTS และการได้คะแนนที่ดีนั้นเชื่อมโยงกับระบบนิเวศแห่งโอกาสที่กว้างใหญ่ เมื่อเราพูดถึง IELTS ใช้ทำอะไรได้บ้าง คำตอบจะครอบคลุมตั้งแต่การเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยระดับโลกอย่าง Harvard และ Oxford ไปจนถึงการขอวีซ่าประจำถิ่นในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ ระบบคะแนนที่เป็นมาตรฐานสากลทำให้ IELTS ได้รับการยอมรับจากสถาบันกว่า 11,000 แห่งใน 140 ประเทศ
คำถาม สอบ IELTS ทำไม มักเกิดขึ้นจากการไม่เข้าใจถึงผลกระทบระยะยาวของการมีคะแนนนี้ ในขณะที่การ สอบ ไอ เอ ล ไม่เพียงแต่วัดความรู้ด้านไวยากรณ์ แต่ยังประเมินความสามารถในการสื่อสารที่แท้จริงในสถานการณ์ของชีวิตจริง นี่คือสิ่งที่ทำให้ IELTS แตกต่างจากการทดสอบภาษาอื่นๆ
บทความนี้จะเปิดเผยทุกมิติของ ประโยชน์ของ IELTS ตั้งแต่การเปิดประตูสู่การศึกษาระดับโลก การยกระดับอาชีพในบริษัทข้ามชาติ ไปจนถึงการสร้างชีวิตใหม่ในต่างประเทศ พร้อมแนะนำ คะแนน IELTS ควรได้ เท่า ไหร่ และ ไอ เอ ล มีกี่ระดับ เพื่อให้คุณวางแผนการเตรียมตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มาเริ่มต้นการเดินทางสู่การเข้าใจ IELTS อย่างครบถ้วนและค้นพบว่าทำไมการลงทุนในข้อสอบนี้จึงคุ้มค่าที่สุด

I. IELTS คืออะไร?
IELTS คือ International English Language Testing System ซึ่งเป็นระบบทดสอบภาษาอังกฤษที่ได้รับการพัฒนาร่วมกันโดย British Council, IDP และ Cambridge Assessment English การทดสอบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อวัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริงของชีวิตประจำวัน การศึกษา และการทำงาน
สิ่งที่ทำให้ IELTS แตกต่างจากการทดสอบภาษาอื่นๆ คือการมุ่งเน้นที่ความสามารถในการสื่อสารที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ความรู้ด้านไวยากรณ์เพียงอย่างเดียว ปัจจุบัน IELTS ได้รับการยอมรับจากสถาบันการศึกษาและองค์กรมากกว่า 11,000 แห่งใน 140 ประเทศทั่วโลก
1. เจาะลึกภาพรวม
IELTS ประเมินทักษะทางภาษาอังกฤษผ่าน 4 ส่วนหลัก โดยแต่ละส่วนมีระยะเวลาและรูปแบบการทดสอบที่แตกต่างกัน:
ทักษะ |
ระยะเวลา |
รูปแบบการทดสอบ |
จุดประเมิน |
Listening |
30 นาที |
ฟังบทสนทนาและการบรรยาย 4 ส่วน |
ความเข้าใจและการจับประเด็นสำคัญ |
Reading |
60 นาที |
อ่านบทความ 3 เรื่อง ตอบคำถาม 40 ข้อ |
ความเข้าใจและการวิเคราะห์ข้อมูล |
Writing |
60 นาที |
เขียน 2 งาน (Task 1 และ Task 2) |
ความสามารถในการแสดงความคิดเห็น |
Speaking |
11-14 นาที |
สัมภาษณ์กับผู้ทดสอบ 3 ส่วน |
การสื่อสารและการแสดงออก |
2. ทำไมสถาบันและองค์กรทั่วโลกถึงเชื่อมั่นในผลสอบ IELTS?
ความน่าเชื่อถือของ IELTS มาจากหลายปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ระบบการให้คะแนนที่เป็นมาตรฐานสากล การฝึกอบรมผู้ตรวจสอบให้มีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก และการตรวจสอบคุณภาพอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ IELTS ยังมีระบบป้องกันการทุจริตที่เข้มงวด ทำให้ผลคะแนนสะท้อนความสามารถที่แท้จริงของผู้สอบ
การที่องค์กรชั้นนำยอมรับผล IELTS แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานและความเชื่อมั่น ตัวอย่างองค์กรที่เชื่อถือ IELTS ได้แก่:
-
สถาบันการศึกษา: Harvard University, Oxford University, Cambridge University
-
บริษัทเทคโนโลยี: Google, Microsoft, Apple
-
องค์กรการเงิน: JPMorgan Chase, Goldman Sachs
-
หน่วยงานรัฐบาล: UK Home Office, Immigration Canada
II. ทำไมต้องสอบ IELTS?
สอบ IELTS ทำไม เป็นคำถามที่หลายคนมักถาม และคำตอบอยู่ที่ ประโยชน์ของ IELTS ที่ครอบคลุมทุกมิติของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา อาชีพ หรือการใช้ชีวิตในต่างประเทศ
1. ด้านการศึกษา
การ เรียน IELTS เพื่อเตรียมตัวสอบนั้นเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับนักศึกษาที่มีความฝันในการศึกษาต่อในต่างประเทศ
1.1. ใช้ยื่นสมัครเรียนต่อระดับปริญญาตรี โท และเอก ในมหาวิทยาลัยที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการสอน
มหาวิทยาลัยชั้นนำในหลายประเทศต้องการผล IELTS เป็นหลักฐานความสามารถทางภาษา คะแนนที่ต้องการแยกตามระดับการศึกษา:
-
ปริญญาตรี: 6.0-6.5 (ส่วนใหญ่)
-
ปริญญาโท: 6.5-7.0
-
ปริญญาเอก: 7.0-7.5
-
สาขาการแพทย์/กฎหมาย: 7.5-8.0
1.2. เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงโครงการแลกเปลี่ยนและทุนการศึกษาที่ต้องการผลภาษา
ทุนการศึกษาระดับโลกที่ต้องการผล IELTS ได้แก่:
-
Chevening Scholarship (UK): ต้องการ IELTS 6.5 ขึ้นไป
-
Fulbright Program (USA): ต้องการ IELTS 6.5-7.0
-
Australia Awards: ต้องการ IELTS 6.5 โดยไม่มีทักษะใดต่ำกว่า 6.0
-
DAAD Scholarships (Germany): ต้องการ IELTS 6.5-7.0
การมีคะแนน IELTS ที่ดีจึงเป็นประตูสู่โอกาสการศึกษาระดับโลกเหล่านี้
1.3. ใช้วัดความพร้อมก่อนเข้าเรียนหลักสูตรนานาชาติ (International Programs) ในประเทศไทย
แม้กระทั่งในประเทศไทย หลายมหาวิทยาลัยชั้นนำเช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยมหิดล ใช้ผล IELTS เป็นเกณฑ์รับเข้าในหลักสูตรนานาชาติ
2. ด้านอาชีพการงาน
IELTS ใช้ทำอะไรได้บ้าง ในด้านอาชีพนั้นมีมากมายกว่าที่หลายคนคิด เพราะ ประโยชน์ของ IELTS ในการทำงานไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสมัครงานเท่านั้น
2.1. เพิ่มความน่าสนใจให้ CV/Resume เพื่อสมัครงานในบริษัทข้ามชาติ (MNCs)
บริษัทข้ามชาติให้ความสำคัญกับทักษะภาษาอังกฤษ การมีผล IELTS ในเรซูเม่จะช่วยให้คุณโดดเด่น ตำแหน่งที่ให้ความสำคัญกับ IELTS:
-
Sales & Marketing: ติดต่อลูกค้าต่างชาติ
-
Project Management: ประสานงานทีมหลายประเทศ
-
Customer Service: รองรับลูกค้าสากล
-
Finance & Accounting: รายงานผลให้สำนักงานใหญ่
-
IT & Engineering: ทำงานกับทีมเทคโนโลยีระดับโลก
2.2. ใช้ประกอบการขอใบอนุญาตทำงานในสายอาชีพเฉพาะทาง (เช่น แพทย์ พยาบาล วิศวกร)
อาชีพที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในหลายประเทศกำหนดให้ต้องมีผลภาษาอังกฤษที่เป็นมาตรฐาน ตัวอย่างเกณฑ์ IELTS ตามอาชีพ:
-
พยาบาล (UK): IELTS 7.0 ทุกทักษะ
-
แพทย์ (Australia): IELTS 7.0 โดยไม่ต่ำกว่า 7.0 ในทุกส่วน
-
วิศวกร (Canada): IELTS 6.5-7.0 ขึ้นอยู่กับสาขา
-
ครู (New Zealand): IELTS 7.0 โดยเฉลี่ย
2.3. เป็นข้อพิสูจน์ทักษะภาษาที่เป็นรูปธรรมเพื่อการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง
ในองค์กรหลายแห่ง การมีคะแนนภาษาอังกฤษที่ดีเป็นหนึ่งในเกณฑ์การพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง โดยเฉพาะตำแหน่งผู้บริหารหรือตำแหน่งที่ต้องรับผิดชอบงานระหว่างประเทศ
3. ด้านการย้ายถิ่นฐานและใช้ชีวิต
3.1. เป็นคุณสมบัติสำคัญในการยื่นขอวีซ่าและถิ่นที่อยู่ถาวร (PR) ในหลายประเทศ
ระบบตรวจคนเข้าเมืองของประเทศต่างๆ ใช้ IELTS เป็นเกณฑ์ประเมินความสามารถทางภาษา โดยคะแนนที่ต้องการแตกต่างกันไปตามประเภทวีซ่า:
ประเทศ |
ประเภทวีซ่า |
คะแนน IELTS ขั้นต่ำ |
ออสเตรเลีย |
Skilled Visa |
6.0-7.0 |
แคนาดา |
Express Entry |
6.0-8.0 |
นิวซีแลนด์ |
Skilled Migrant |
6.5 |
สหราชอาณาจักร |
Work Visa |
5.5-7.0 |
3.2. สร้างความมั่นใจในการสื่อสารและใช้ชีวิตประจำวันในต่างประเทศได้อย่างราบรื่น
การเตรียมสอบ IELTS ช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตจริงในต่างประเทศ สถานการณ์ที่ใช้ทักษะจาก IELTS:
-
การซื้อของ: ใช้ทักษะ Speaking ในการสื่อสารกับพนักงานขาย
-
การไปหาหมอ: ใช้ทักษะ Listening เพื่อเข้าใจคำแนะนำทางการแพทย์
-
การทำงาน: ใช้ทักษะ Writing ในการเขียนอีเมลและรายงาน
-
การอ่านข่าว: ใช้ทักษะ Reading เพื่อติดตามสถานการณ์ท้องถิ่น
III. เข้าใจประเภทและคะแนน IELTS
1. IELTS Academic vs. General Training
การเลือกประเภท IELTS ที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ เพราะแต่ละประเภทมีจุดประสงค์และรูปแบบการทดสอบที่แตกต่างกัน

IELTS Academic เหมาะสำหรับ:
-
การศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย
-
การสมัครงานในสาขาที่ต้องการคุณวุฒิสูง
-
การสมัครขอทุนการศึกษา
IELTS General Training เหมาะสำหรับ:
-
การย้ายถิ่นฐานไปอยู่ต่างประเทศ
-
การสมัครงานทั่วไป
-
การฝึกอบรมในต่างประเทศ
บทความแนะนำอ่านต่อ:
2. ถอดรหัส 'คะแนน IELTS' และ 'Band Score': ควรได้เท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าดี?
คะแนน IELTS ควรได้ เท่า ไหร่? เป็นคำถามที่ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละคน ไอ เอ ล มีกี่ระดับ นั้นแบ่งออกเป็น 9 ระดับ (Band 1-9) โดยแต่ละระดับสะท้อนความสามารถที่แตกต่างกัน:
Band Score |
ระดับความสามารถ |
การใช้งานทั่วไป |
9 |
Expert User |
ระดับเชี่ยวชาญ |
8 |
Very Good User |
เก่งมาก เหมาะสำหรับการศึกษาระดับสูง |
7 |
Good User |
ดี เหมาะสำหรับมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ |
6 |
Competent User |
พอใช้ เหมาะสำหรับการทำงานทั่วไป |
5 |
Modest User |
ปานกลาง ใช้ได้ในสถานการณ์คุ้นเคย |
IV. คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับ IELTS
1. IELTS Indicator คืออะไร และแตกต่างจาก IELTS ปกติอย่างไร?
IELTS Indicator เป็นการทดสอบออนไลน์ที่พัฒนาขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เพื่อให้ผู้สอบสามารถทดสอบทักษะภาษาอังกฤษได้จากที่บ้าน แต่ผลคะแนนจะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างเป็นทางการเหมือน IELTS แบบปกติ
2. คะแนน IELTS มีวันหมดอายุจริงหรือไม่? และต้องทำอย่างไรหากหมดอายุ?
ผล IELTS มีอายุการใช้งาน 2 ปี นับจากวันที่สอบ เมื่อหมดอายุแล้วคุณจะต้องสอบใหม่ เพื่อให้ได้ผลคะแนนที่สะท้อนความสามารถปัจจุบัน
3. ทักษะใดบ้างที่ถูกทดสอบใน IELTS และควรเน้นส่วนไหนเป็นพิเศษสำหรับเป้าหมายที่ต่างกัน?
IELTS ทดสอบ 4 ทักษะหลัก แต่การเน้นย้ำแต่ละทักษะควรปรับตามเป้าหมาย:
สำหรับการศึกษาต่อ ควรเน้น:
-
Reading: ทักษะการอ่านเอกสารทางวิชาการ
-
Writing: ความสามารถในการเขียนรายงานและเรียงความ
-
Listening: การฟังบรรยายในชั้นเรียน
สำหรับการทำงาน ควรเน้น:
-
Speaking: การนำเสนอและการประชุม
-
Listening: การสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน
-
Writing: การเขียนอีเมลและรายงานธุรกิจ
สำหรับการย้ายถิ่นฐาน ควรเน้น:
-
Speaking: การสื่อสารในชีวิตประจำวัน
-
Listening: การเข้าใจขั้นตอนราชการและกฎหมาย
4. เปรียบเทียบความแตกต่างที่สำคัญ: IELTS กับ TOEFL ควรเลือกสอบอะไรดี?
IELTS มีการทดสอบ Speaking แบบสัมภาษณ์กับคนจริง ในขณะที่ TOEFL ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด IELTS ได้รับการยอมรับมากกว่าในยุโรปและออสเตรเลีย ส่วน TOEFL เป็นที่นิยมมากกว่าในสหรัฐอเมริกา
ประโยชน์ของ IELTS ที่เราได้พูดถึงมาทั้งหมดนั้นแสดงให้เห็นว่าการสอบ IELTS ไม่ใช่เพียงแค่การได้มาซึ่งใบประกาศนียบัตรเพิ่มในแฟ้มสะสมผลงาน แต่เป็นการลงทุนในอนาคตที่จะเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ มากมาย
การตัดสินใจสอบ IELTS ควรมาพร้อมกับการวางแผนที่ชัดเจนและการเตรียมตัวอย่างเป็นระบบ เพราะความสำเร็จในการสอบจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในชีวิตของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการได้เรียนในมหาวิทยาลัยในฝัน การได้งานที่ต้องการ หรือการสร้างชีวิตใหม่ในต่างประเทศ
สุดท้ายนี้ จำไว้ว่าการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและการสอบ IELTS ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ความสำเร็จในระดับสากล การมี ประโยชน์ของ IELTS ในมือคือการมีกุญแจที่เปิดประตูสู่โลกกว้างที่เต็มไปด้วยโอกาสรอคุณอยู่
การเรียน IELTS ออนไลน์ไม่เคยง่ายขนาดนี้มาก่อนกับ PREP - แพลตฟอร์มการเรียนและฝึกสอบอัจฉริยะด้วย AI ด้วยเทคโนโลยี AI พิเศษจาก PREP คุณสามารถเรียนออนไลน์ที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมผ่านการฝึกอบรมที่เหมาะสมในการเรียน IELTS อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นักเรียนยังได้รับการช่วยเหลือจาก Teacher Bee AI ผู้ช่วยเสมือนที่จะช่วยตอบคำถามและร่วมเดินทางไปกับคุณตลอดกระบวนการเรียนรู้แบบตัวต่อตัว คลิกที่นี่ หรือโทร HOTLINE +6624606789 เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับหลักสูตร IELTS ที่เหมาะสมกับคุณ! ดาวน์โหลดแอป PREP ทันที เพื่อเริ่มต้นการเรียน IELTS ที่บ้านด้วยโปรแกรมการฝึกสอบออนไลน์คุณภาพสูง

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
เนื้อหาแบบพรีเมียม
ดูทั้งหมดค้นหาบทความการศึกษา
แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน
กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
