บทสนทนา ใน โรงแรม ภาษาอังกฤษ ใช้ได้จริงทุกทริป
คุณเคยรู้สึกกังวลเมื่อต้องเช็คอินโรงแรมในต่างประเทศหรือไม่? การสื่อสารภาษาอังกฤษกับพนักงานต้อนรับอาจดูท้าทายในตอนแรก แต่ความจริงแล้วเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิดมาก หากคุณมีประโยคสำเร็จรูปที่พร้อมใช้งาน ทุกการเดินทางของคุณจะราบรื่นตั้งแต่ก้าวแรกที่เหาพื้นโรงแรม
บทสนทนา ใน โรงแรม เป็นทักษะพื้นฐานที่นักเดินทางทุกคนควรเตรียมตัวเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการจองห้อง เช็คอิน ขอบริการเพิ่มเติม หรือแก้ไขปัญหาระหว่างพัก การใช้ hotel conversation ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้รับบริการที่ดีและสร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจ
การเข้าพักโรงแรมในต่างประเทศไม่ได้จำกัดอยู่แค่การนอนพักผ่อน แต่เป็นประสบการณ์ที่สมบูรณ์ตั้งแต่การทักทายพนักงานต้อนรับ การสอบถามเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวก ไปจนถึงการขอคำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง บทสนทนา check in โรงแรม ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณสื่อสารความต้องการได้ชัดเจน ลดความเข้าใจผิด และได้รับบริการที่ตรงใจ นอกจากนี้ การรู้วิธีการแจ้งปัญหาอย่างสุภาพหรือขอเปลี่ยนห้องพักเมื่อจำเป็นก็เป็นทักษะที่มีค่า
สำหรับพนักงานโรงแรม ภาษา อังกฤษ สํา ห รับ พนักงาน ต้อนรับ เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความประทับใจแรกพบ การใช้ประโยคที่เป็นมืออาชีพ สุภาพ และชัดเจนจะช่วยยกระดับคุณภาพการบริการ สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เข้าพัก และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสถานประกอบการ การเข้าใจกฎ ระเบียบการ เข้า พัก โรงแรม ภาษา อังกฤษ และสามารถอธิบายให้ผู้เข้าพักเข้าใจได้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการบริการที่ดี
บทความนี้รวบรวมบทสนทนาและประโยคสำเร็จรูปที่คุณสามารถนำไปใช้ได้จริงในทุกสถานการณ์ ตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนเช็คอินไปจนถึงการเช็คเอาท์ พร้อมตัวอย่างที่ชัดเจนและคำแปลที่เข้าใจง่าย มาเริ่มต้นสร้างความมั่นใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษที่โรงแรมกันเลย
- I. เตรียมพร้อมก่อนเช็คอิน: ประโยคพื้นฐาน
- II. เช็คอินโรงแรม: บทสนทนาสมบูรณ์
- III. สื่อสารเรื่องห้องพักและบริการ
- IV. บทสนทนาภาษาอังกฤษสำหรับพนักงานต้อนรับมืออาชีพ
- V. กฎระเบียบการเข้าพักโรงแรม: สิ่งที่ควรรู้
- VI. เช็คเอาท์อย่างราบรื่น: สิ้นสุดการเข้าพัก
- VII. การขอความช่วยเหลือฉุกเฉินและการสื่อสารเชิงลึก
- VIII. Q&A: คำถามพบบ่อยและสิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติม

I. เตรียมพร้อมก่อนเช็คอิน: ประโยคพื้นฐาน
ก่อนถึงโรงแรม คุณควรทำความคุ้นเคยกับประโยคพื้นฐานที่จะใช้บ่อย การเตรียมตัวล่วงหน้าช่วยเพิ่มความมั่นใจในบทสนทนา check in โรงแรม
1. ประโยคทักทายและแนะนำตัว
-
Good morning. I have a reservation. (สวัสดีครับ ผมจองห้องไว้ครับ)
-
My name is Sarah Johnson. (ชื่อซาร่าห์ จอห์นสันค่ะ)
-
I'm checking in for tonight. (มาเช็คอินสำหรับคืนนี้ค่ะ)
-
The booking is under my name. (จองไว้ในชื่อของดิฉันค่ะ)
2. ประโยคแจ้งข้อมูลการจอง
-
I booked a room for three nights. (จองห้องไว้สามคืนครับ)
-
My confirmation number is XYZ789. (หมายเลขยืนยันคือ XYZ789 ครับ)
-
I made the reservation online. (จองผ่านออนไลน์ครับ)
-
I reserved a double room with breakfast. (จองห้องเตียงคู่รวมอาหารเช้าค่ะ)

3. ประโยคสอบถามข้อมูล
-
What time is breakfast served? (อาหารเช้าเสิร์ฟกี่โมงครับ)
-
Where is the elevator? (ลิฟต์อยู่ที่ไหนครับ)
-
Do you have a safe in the room? (มีตู้เซฟในห้องไหมครับ)
-
Is there a gym in the hotel? (โรงแรมมีฟิตเนสไหมครับ)
-
Can I get a wake-up call at 7AM? (ขอบริการปลุกตอนเช้า 7 โมงได้ไหมครับ)
4. ประโยคขอความช่วยเหลือ
-
Could you help me with my luggage? (ช่วยยกกระเป๋าให้หน่อยได้ไหมครับ)
-
Can I leave my bags here? (ฝากกระเป๋าไว้ที่นี่ได้ไหมครับ)
-
I need a taxi to the airport. (ต้องการแท็กซี่ไปสนามบินครับ)
II. เช็คอินโรงแรม: บทสนทนาสมบูรณ์
บทสนทนา hotel แบบเต็มรูปแบบตั้งแต่เข้าโรงแรมจนได้รับกุญแจห้อง
1. บทสนทนาที่ 1: เริ่มต้นเช็คอิน
Guest: Good afternoon. I'd like to check in, please. (สวัสดีค่ะ ต้องการเช็คอินค่ะ)
Staff: Good afternoon. Welcome to Riverside Hotel. May I have your name? (สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมริเวอร์ไซด์ค่ะ ขอทราบชื่อคุณหน่อยได้ไหมคะ)
Guest: Yes, it's Emily Watson. (ได้ค่ะ เอมิลี่ วัตสันค่ะ)
Staff: Thank you, Ms. Watson. One moment, please. (ขอบคุณค่ะคุณวัตสัน รอสักครู่นะคะ)
Guest: Sure, take your time. (ได้เลยค่ะ ค่อยๆ ทำได้ค่ะ)
Staff: I found your reservation. You're staying with us for two nights, is that correct? (เจอข้อมูลการจองของคุณแล้วค่ะ พักกับเราสองคืนใช่ไหมคะ)
Guest: That's right. (ถูกต้องค่ะ)
2. บทสนทนาที่ 2: ตรวจสอบเอกสารและรายละเอียด
Staff: Perfect. May I see your passport and a credit card, please? (ดีค่ะ ขอดูหนังสือเดินทางและบัตรเครดิตหน่อยได้ไหมคะ)
Guest: Here you are. (เชิญค่ะ)
Staff: Thank you. I see you've booked a superior room. Would you prefer a high floor or low floor? (ขอบคุณค่ะ เห็นว่าคุณจองห้องซูพีเรียร์ค่ะ ต้องการชั้นสูงหรือชั้นต่ำคะ)
Guest: A high floor would be great. (ชั้นสูงดีค่ะ)
Staff: Excellent. I'll put you on the fifteenth floor with a nice view. (ดีเลยค่ะ จะจัดห้องชั้น 15 ที่มีวิวสวยให้ค่ะ)
Guest: That sounds wonderful. What time is check-out? (ฟังดูดีเลยค่ะ เช็คเอาท์กี่โมงคะ)
Staff: Check-out is at 12 noon. Late check-out is available until 2 PM for an extra fee. (เช็คเอาท์เที่ยงตรงค่ะ เช็คเอาท์สายได้ถึงบ่าย 2 โมงโดยเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มค่ะ)
Guest: Good to know. I'll probably check out on time. (ดีที่รู้ค่ะ น่าจะเช็คเอาท์ตามเวลาค่ะ)
3. บทสนทนาที่ 3: รับข้อมูลสำคัญและกุญแจ
Staff: Here are your room keys. You're in room 1502. The elevator is just around the corner on your right. (นี่คือกุญแจห้องค่ะ คุณอยู่ห้อง 1502 ค่ะ ลิฟต์อยู่เลี้ยวขวาตรงหัวมุมค่ะ)
Guest: Thank you. Is breakfast included in my booking? (ขอบคุณค่ะ อาหารเช้ารวมในการจองไหมคะ)
Staff: Yes, breakfast is included. It's served in the restaurant on the ground floor from 6:30 to 10:30 AM. (รวมค่ะ เสิร์ฟที่ร้านอาหารชั้นล่างตั้งแต่ 6 โมงครึ่งถึง 10 โมงครึ่งเช้าค่ะ)
Guest: Perfect. One more question - what's the Wi-Fi password? (ดีค่ะ ขอถามอีกอย่างนะคะ รหัส Wi-Fi คืออะไรคะ)
Staff: The Wi-Fi information is on the card in your room. If you have any trouble connecting, please call the front desk. (ข้อมูล Wi-Fi อยู่บนการ์ดในห้องค่ะ ถ้าเชื่อมต่อไม่ได้ โทรหาแผนกต้อนรับได้เลยค่ะ)
Guest: Great. Thank you so much for your help. (ดีเลยค่ะ ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือค่ะ)
Staff: You're very welcome. Enjoy your stay! (ยินดีค่ะ ขอให้พักผ่อนให้สนุกนะคะ)
III. สื่อสารเรื่องห้องพักและบริการ
บทสนทนา ใน โรงแรม ไม่จบเพียงการเช็คอิน ต่อไปนี้คือตัวอย่างประโยคสำหรับขอบริการและแจ้งปัญหาต่างๆ
1. บทสนทนาขอบริการเพิ่มเติม
Guest: Hello, this is room 1502. Could I get some extra towels? (สวัสดีค่ะ นี่ห้อง 1502 ค่ะ ขอผ้าเช็ดตัวเพิ่มได้ไหมคะ)
Staff: Of course. I'll send them up right away. (ได้เลยค่ะ จะส่งขึ้นไปให้ทันทีเลยค่ะ)
Guest: Thank you. Also, could you send up an iron and ironing board? (ขอบคุณค่ะ แล้วก็ส่งเตารีดกับโต๊ะรีดผ้าขึ้นมาด้วยได้ไหมคะ)
Staff: Certainly. They'll be there in about 10 minutes. (ได้ค่ะ จะส่งขึ้นไปภายใน 10 นาทีค่ะ)
Guest: Perfect. One more thing - do you have room service? (ดีค่ะ อีกอย่างนึงคะ มีรูมเซอร์วิสไหมคะ)
Staff: Yes, room service is available 24 hours. The menu is in your room. (มีค่ะ รูมเซอร์วิสบริการตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ เมนูอยู่ในห้องค่ะ)
2. บทสนทนาแจ้งปัญหาห้องพัก
Guest: Hi, I'm calling from room 803. The air conditioner isn't working. (สวัสดีครับ โทรจากห้อง 803 ครับ แอร์ไม่ทำงานครับ)
Staff: I'm very sorry about that. I'll send someone up to fix it immediately. (ขออภัยด้วยค่ะ จะส่งคนขึ้นไปซ่อมให้ทันทีเลยค่ะ)
Guest: Thank you. How long will it take? (ขอบคุณครับ จะใช้เวลานานแค่ไหนครับ)
Staff: The technician should be there within 15 minutes. (ช่างควรจะถึงภายใน 15 นาทีค่ะ)
Guest: Okay, I'll wait in the room. (โอเค จะรออยู่ในห้องครับ)
Guest: Hello, this is room 1204. There's no hot water. (สวัสดีค่ะ นี่ห้อง 1204 ค่ะ ไม่มีน้ำร้อนค่ะ)
Staff: I apologize for the inconvenience. Let me check on that for you. (ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ ขอเช็คให้หน่อยนะคะ)
Guest: Please hurry. I need to take a shower. (ช่วยเร็วหน่อยค่ะ ต้องอาบน้ำค่ะ)
Staff: I understand. I'll have maintenance look at it right away. In the meantime, would you like to use another room? (เข้าใจค่ะ จะให้ฝ่ายซ่อมบำรุงไปดูทันทีค่ะ ระหว่างนี้ต้องการใช้ห้องอื่นไหมคะ)
Guest: Yes, that would be helpful. (ดีค่ะ นั่นจะช่วยได้เยอะเลยค่ะ)
3. บทสนทนาขอเปลี่ยนห้อง
Guest: Good evening. I'm in room 605. The room is very noisy. Could I change to a quieter room? (สวัสดีครับ ผมอยู่ห้อง 605 ครับ ห้องเสียงดังมากครับ เปลี่ยนไปห้องที่เงียบกว่านี้ได้ไหมครับ)
Staff: I'm sorry to hear that. Let me see what's available. (เสียใจด้วยค่ะ ขอดูว่ามีห้องว่างไหมนะคะ)
Guest: I'd prefer a room away from the elevator. (อยากได้ห้องที่ห่างจากลิฟต์ครับ)
Staff: I have a room on the eighth floor at the end of the hallway. It's much quieter there. (มีห้องชั้น 8 ที่สุดทางเดินค่ะ ตรงนั้นเงียบกว่ามากค่ะ)
Guest: That sounds better. Can I move now? (ฟังดูดีกว่าครับ ย้ายเดี๋ยวนี้ได้ไหมครับ)
Staff: Yes, of course. I'll prepare the new room right away. Would you like assistance with your luggage? (ได้ค่ะ จะเตรียมห้องใหม่ให้ทันทีเลยค่ะ ต้องการความช่วยเหลือเรื่องกระเป๋าไหมคะ)
Guest: No, thank you. I can manage. (ไม่ครับ ขอบคุณครับ จัดการเองได้ครับ)

IV. บทสนทนาภาษาอังกฤษสำหรับพนักงานต้อนรับมืออาชีพ
ภาษา อังกฤษ สํา ห รับ พนักงาน ต้อนรับ ต้องสุภาพและชัดเจน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้เข้าพัก
1. บทสนทนาต้อนรับผู้เข้าพัก
Staff: Good morning and welcome to Paradise Hotel. How may I help you today? (สวัสดีตอนเช้าค่ะ ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมพาราไดซ์ค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ)
Guest: I have a reservation for tonight. (จองห้องไว้สำหรับคืนนี้ครับ)
Staff: Wonderful. May I have your name, please? (ดีค่ะ ขอทราบชื่อคุณหน่อยได้ไหมคะ)
Guest: Robert Brown. (โรเบิร์ต บราวน์ครับ)
Staff: Thank you, Mr. Brown. Let me pull up your reservation. (ขอบคุณค่ะคุณบราวน์ ขอเช็คข้อมูลการจองของคุณนะคะ)
2. บทสนทนายืนยันข้อมูล
Staff: I see you've booked a deluxe room for three nights. Is that correct? (เห็นว่าคุณจองห้องดีลักซ์สามคืนใช่ไหมคะ)
Guest: Yes, that's right. (ใช่ครับ ถูกต้องครับ)
Staff: Perfect. And you'll be checking out on Friday morning? (ดีค่ะ แล้วคุณจะเช็คเอาท์ในเช้าวันศุกร์ใช่ไหมคะ)
Guest: Actually, I need to check out on Thursday instead. (จริงๆ แล้วต้องเช็คเอาท์วันพฤหัสแทนครับ)
Staff: No problem at all. I'll update your reservation. So that's two nights instead of three, correct? (ไม่มีปัญหาเลยค่ะ จะอัพเดทการจองให้ค่ะ งั้นก็สองคืนแทนสามคืนใช่ไหมคะ)
Guest: Yes, exactly. (ใช่ครับ ถูกต้องครับ)
3. บทสนทนาจัดการข้อร้องเรียน
Guest: Excuse me, I'm not happy with my room. It's too small. (ขอโทษครับ ไม่พอใจห้องเท่าไหร่ครับ เล็กเกินไปครับ)
Staff: I sincerely apologize for your disappointment. Let me see what I can do to help. (ขออภัยอย่างยิ่งที่คุณผิดหวังค่ะ ขอดูว่าจะช่วยอะไรได้บ้างนะคะ)
Guest: I'd like a bigger room if possible. (อยากได้ห้องใหญ่กว่านี้ถ้าเป็นไปได้ครับ)
Staff: I completely understand. I have a superior room available. It's larger and has a better view. Would you like to see it? (เข้าใจค่ะ มีห้องซูพีเรียร์ว่างค่ะ ใหญ่กว่าและวิวดีกว่าค่ะ อยากไปดูไหมคะ)
Guest: Yes, please. (ครับ ขอดูหน่อยครับ)
Staff: Follow me, please. I'll show you the room right now. (ตามดิฉันมาค่ะ จะพาไปดูห้องตอนนี้เลยค่ะ)
4. บทสนทนาให้ข้อมูลและคำแนะนำ
Guest: Can you recommend a good restaurant nearby? (แนะนำร้านอาหารดีๆ ใกล้ๆ ได้ไหมครับ)
Staff: Certainly. There's an excellent seafood restaurant just five minutes away. They're famous for their fresh fish. (ได้เลยค่ะ มีร้านอาหารทะเลเยี่ยมห่างจากที่นี่แค่ห้านาทีค่ะ ที่นั่นมีชื่อเสียงเรื่องปลาสดค่ะ)
Guest: That sounds perfect. How do I get there? (ฟังดูดีเลยครับ ไปยังไงครับ)
Staff: Turn left when you exit the hotel and walk straight for two blocks. You'll see it on your right. I can draw you a map if you'd like. (เลี้ยวซ้ายตอนออกจากโรงแรมแล้วเดินตรงไปสองช่วงตึกค่ะ จะเห็นทางขวามือค่ะ วาดแผนที่ให้ได้ถ้าต้องการค่ะ)
Guest: Yes, that would be helpful. (ได้ครับ นั่นจะช่วยได้เยอะครับ)
Staff: Here you are. Also, if you'd like, I can make a reservation for you. (เชิญค่ะ แล้วก็ถ้าต้องการ ดิฉันจองโต๊ะให้ได้ค่ะ)
Guest: That would be great. Can you book a table for 7 PM? (ดีมากเลยครับ จองโต๊ะเวลา 19:00 น. ได้ไหมครับ)
Staff: Certainly. How many people? (ได้ค่ะ กี่ท่านคะ)
Guest: Just two. (แค่สองคนครับ)
Staff: Perfect. I'll call them right now. (ดีค่ะ จะโทรไปตอนนี้เลยค่ะ)
V. กฎระเบียบการเข้าพักโรงแรม: สิ่งที่ควรรู้
กฎ ระเบียบการ เข้า พัก โรงแรม ภาษา อังกฤษ เป็นสิ่งสำคัญที่ทั้งผู้เข้าพักและพนักงานต้องเข้าใจ
กฎระเบียบ |
รายละเอียด |
ประโยคตัวอย่าง |
Check-in/Check-out |
เช็คอิน 15:00 น. / เช็คเอาท์ 12:00 น. |
Check-in time is 3 PM and check-out is noon. (เวลาเช็คอิน 15:00 น. และเช็คเอาท์เที่ยงตรงค่ะ) |
Smoking |
ห้ามสูบบุหรี่ในห้อง / สูบได้เฉพาะพื้นที่กำหนด |
Smoking is only allowed in designated areas. (สูบบุหรี่ได้เฉพาะพื้นที่ที่กำหนดค่ะ) |
Pets |
ไม่อนุญาตสัตว์เลี้ยง ยกเว้นสัตว์ช่วยเหลือ |
Pets are not allowed except service animals. (ไม่อนุญาตสัตว์เลี้ยงยกเว้นสัตว์ช่วยเหลือค่ะ) |
Visitors |
แขกเยี่ยมได้ถึง 22:00 น. |
Guests must leave by 10 PM. (แขกเยี่ยมต้องออกภายใน 22:00 น. ค่ะ) |
Quiet Hours |
เวลาเงียบ 22:00-07:00 น. |
Please keep the noise down after 10 PM. (กรุณาลดเสียงหลัง 22:00 น. ค่ะ) |
Damage |
รับผิดชอบค่าเสียหาย |
You're responsible for any damage to the room. (คุณรับผิดชอบค่าเสียหายในห้องค่ะ) |
VI. เช็คเอาท์อย่างราบรื่น: สิ้นสุดการเข้าพัก
บทสนทนา ใน โรงแรม ในช่วงเช็คเอาท์ไม่แพ้ช่วงเช็คอิน
1. บทสนทนาแจ้งความประสงค์เช็คเอาท์
Guest: Good morning. I'd like to check out, please. (สวัสดีครับ ต้องการเช็คเอาท์ครับ)
Staff: Good morning. What's your room number? (สวัสดีค่ะ หมายเลขห้องเท่าไหร่คะ)
Guest: Room 1502. (ห้อง 1502 ครับ)
Staff: Thank you, Mr. Thompson. Did you enjoy your stay? (ขอบคุณค่ะคุณทอมป์สัน พักผ่อนเป็นอย่างไรคะ)
Guest: Yes, it was excellent. Thank you. (ครับ ดีมากเลยครับ ขอบคุณครับ)
Staff: We're delighted to hear that. Let me prepare your bill. (ดีใจที่ได้ยินค่ะ ขอเตรียมบิลให้นะคะ)
2. บทสนทนาตรวจสอบค่าใช้จ่าย
Staff: Here's your bill. You had two nights' accommodation and breakfast. There's also a charge for room service. (นี่คือบิลของคุณค่ะ ค่าห้องสองคืนและอาหารเช้าค่ะ มีค่ารูมเซอร์วิสด้วยค่ะ)
Guest: I don't remember ordering room service. (ผมจำไม่ได้ว่าสั่งรูมเซอร์วิสครับ)
Staff: Let me check that for you. It shows a breakfast order on Tuesday morning. (ขอเช็คให้หน่อยนะคะ มันแสดงว่าสั่งอาหารเช้าเมื่อเช้าวันอังคารค่ะ)
Guest: Oh yes, I remember now. That's correct. (โอ้ ใช่ จำได้แล้วครับ ถูกต้องครับ)
Staff: Perfect. Your total is $450. How would you like to pay? (ดีค่ะ ยอดรวม 450 ดอลลาร์ค่ะ จะชำระยังไงคะ)
Guest: I'll pay by credit card. (จ่ายด้วยบัตรเครดิตครับ)
3. บทสนทนาชำระเงินและอำลา
Staff: Thank you. Could you sign here, please? (ขอบคุณค่ะ เซ็นตรงนี้ได้ไหมคะ)
Guest: Sure. Here you go. (ได้ครับ นี่ครับ)
Staff: Perfect. Here's your receipt. Is there anything else I can help you with? (ดีค่ะ นี่ใบเสร็จของคุณค่ะ มีอะไรให้ช่วยเพิ่มเติมไหมคะ)
Guest: No, that's everything. Could you call a taxi for me? (ไม่ครับ เท่านี้พอครับ เรียกแท็กซี่ให้หน่อยได้ไหมครับ)
Staff: Of course. Where are you heading? (ได้ค่ะ จะไปไหนคะ)
Guest: To the airport, please. (ไปสนามบินครับ)
Staff: The taxi will be here in five minutes. We hope to see you again soon. (แท็กซี่จะมาถึงในห้านาทีค่ะ หวังว่าจะได้พบคุณอีกเร็วๆ นี้ค่ะ)
Guest: Thank you for everything. Goodbye. (ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับ ลาก่อนครับ)
Staff: You're welcome. Have a safe trip! (ยินดีค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ)
VII. การขอความช่วยเหลือฉุกเฉินและการสื่อสารเชิงลึก
บางครั้งคุณอาจเจอสถานการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน บทสนทนา ใน โรงแรม เหล่านี้จะช่วยให้คุณสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. บทสนทนาสถานการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์
Guest: Hello, this is an emergency. I need help immediately. (สวัสดีครับ นี่เป็นเหตุฉุกเฉินครับ ต้องการความช่วยเหลือทันทีครับ)
Staff: What's the problem? Stay calm and tell me what happened. (เกิดอะไรขึ้นคะ ใจเย็นๆ แล้วบอกว่าเกิดอะไรขึ้นค่ะ)
Guest: My wife is having severe chest pain. We need a doctor. (ภรรยาผมปวดหน้าอกรุนแรงครับ ต้องการหมอครับ)
Staff: I'm calling an ambulance right now. What's your room number? (กำลังเรียกรถพยาบาลตอนนี้เลยค่ะ หมายเลขห้องเท่าไหร่คะ)
Guest: Room 904. Please hurry. (ห้อง 904 ครับ เร็วหน่อยครับ)
Staff: The ambulance is on its way. I'm sending someone up to your room immediately. (รถพยาบาลกำลังมาค่ะ จะส่งคนขึ้นไปที่ห้องคุณทันทีเลยค่ะ)
2. บทสนทนาสถานการณ์ความปลอดภัย
Guest: I think someone tried to enter my room. I'm scared. (คิดว่ามีคนพยายามเข้าห้องผมครับ กลัวครับ)
Staff: Please stay inside and lock your door. I'm sending security to your floor right now. What room are you in? (อยู่ในห้องและล็อคประตูไว้นะคะ กำลังส่งรปภ.ไปที่ชั้นของคุณตอนนี้เลยค่ะ คุณอยู่ห้องไหนคะ)
Guest: I'm in room 1108. (ห้อง 1108 ครับ)
Staff: Security will be there in less than two minutes. Can you describe what you saw? (รปภ.จะไปถึงภายในไม่ถึงสองนาทีค่ะ บอกได้ไหมว่าเห็นอะไรคะ)
Guest: I saw someone standing at my door when I looked through the peephole. (เห็นมีคนยืนหน้าประตูตอนมองผ่านช่องมองครับ)
Staff: Stay calm. Our security team is almost there. (ใจเย็นๆ นะคะ ทีมรปภ.เกือบถึงแล้วค่ะ)
3. บทสนทนาสอบถามข้อมูลเชิงลึก
Guest: I'm planning to stay in the area for a week. Can you tell me about local attractions? (วางแผนจะอยู่แถวนี้หนึ่งสัปดาห์ครับ บอกเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่นได้ไหมครับ)
Staff: Absolutely. Are you interested in culture, nature, or shopping? (ได้เลยค่ะ สนใจด้านวัฒนธรรม ธรรมชาติ หรือช้อปปิ้งคะ)
Guest: I'd like to see some cultural sites and try local food. (อยากดูสถานที่ทางวัฒนธรรมกับลองอาหารท้องถิ่นครับ)
Staff: Perfect. There's a historic temple about 5 kilometers (3 miles) from here. And the night market is famous for street food. (ดีเลยค่ะ มีวัดเก่าแก่ห่างจากที่นี่ประมาณ 5 กิโลเมตร แล้วก็ตลาดกลางคืนมีชื่อเสียงเรื่องอาหารริมทางค่ะ)
Guest: That sounds interesting. How do I get to the temple? (ฟังดูน่าสนใจครับ ไปวัดยังไงครับ)
Staff: You can take a taxi or use the local bus. The bus is cheaper and runs every 30 minutes. I can give you a schedule. (นั่งแท็กซี่หรือรถบัสท้องถิ่นได้ค่ะ รถบัสถูกกว่าแล้วก็วิ่งทุก 30 นาทีค่ะ ดิฉันให้ตารางเวลาได้ค่ะ)
Guest: Great. What about the night market? (ดีครับ แล้วตลาดกลางคืนล่ะครับ)
Staff: It's within walking distance, about 15 minutes. It opens at 6 PM every day. (เดินไปได้ประมาณ 15 นาทีค่ะ เปิดทุกวัน 18:00 น. ค่ะ)
บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม:
บทสนทนา ภาษา อังกฤษ ใน สถานการณ์ ต่างๆ ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
รวมบทสนทนาภาษาอังกฤษ 2 คน ถามตอบง่ายๆ ใช้ได้ทุกสถานการณ์
รวมศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการช้อปปิ้ง พร้อมบทสนทนาใช้ได้จริง
VIII. Q&A: คำถามพบบ่อยและสิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติม
1. ความแตกต่างระหว่าง 'reservation' และ 'booking'
ทั้งสองคำมีความหมายเดียวกันคือ "การจอง" และใช้แทนกันได้ในบทสนทนา check in โรงแรม อย่างไรก็ตาม reservation มักใช้ในบริบทที่เป็นทางการมากกว่า ส่วน booking เป็นภาษาพูดที่ใช้กันทั่วไปโดยเฉพาะในอังกฤษ
-
I made a reservation online. (จองออนไลน์ครับ/ค่ะ)
-
My booking confirmation number is 12345. (หมายเลขยืนยันการจองคือ 12345 ครับ/ค่ะ)
2. การให้ทิปพนักงานโรงแรมในต่างประเทศ
ในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรปบางประเทศ การให้ทิปเป็นธรรมเนียมปกติ โดยทั่วไปควรให้ 1-5 ดอลลาร์สหรัฐฯ (35-175 บาท) ต่อกระเป๋า สำหรับพนักงานยกกระเป๋า และ 2-5 ดอลลาร์สหรัฐฯ (70-175 บาท) ต่อวันสำหรับแม่บ้าน
-
Thank you for your help. This is for you. (ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือครับ/ค่ะ นี่สำหรับคุณครับ/ค่ะ)
3. วลีสุภาพสำหรับแสดงความไม่พอใจ
เมื่อต้องการร้องเรียนหรือแสดงความไม่พอใจ ควรใช้ภาษาที่สุภาพแต่ชัดเจน
-
I'm a bit disappointed with the room. (ผิดหวังกับห้องนิดหน่อยครับ/ค่ะ)
-
I was expecting something different. (คาดหวังอะไรที่แตกต่างไปจากนี้ครับ/ค่ะ)
-
This isn't quite what I booked. (นี่ไม่ใช่สิ่งที่จองไว้ครับ/ค่ะ)
-
I'd appreciate it if you could fix this issue. (จะขอบคุณมากถ้าช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ครับ/ค่ะ)
4. ความแตกต่างด้านธรรมเนียมโรงแรมในแต่ละวัฒนธรรม
ในญี่ปุ่น ผู้เข้าพักต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าห้องบางประเภท ในตะวันออกกลาง โรงแรมหลายแห่งมีห้องสวดมนต์สำหรับมุสลิม ส่วนในยุโรป บางโรงแรมคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มสำหรับการใช้เครื่องปรับอากาศ การศึกษาธรรมเนียมท้องถิ่นก่อนเดินทางจะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้ดีขึ้น
บทสนทนา ใน โรงแรม เป็นทักษะสำคัญที่จะทำให้ทริปของคุณราบรื่นและประทับใจ ตั้งแต่การเช็คอินไปจนถึงการเช็คเอาท์ การใช้ hotel conversation ที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการสอบถามข้อมูล ขอบริการเพิ่มเติม หรือแก้ไขปัญหาต่างๆ
สำหรับพนักงานโรงแรม ภาษา อังกฤษ สํา ห รับ พนักงาน ต้อนรับ ที่ดีจะสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้เข้าพัก การใช้ประโยคที่สุภาพ ชัดเจน และเป็นมืออาชีพจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของโรงแรม การเข้าใจกฎ ระเบียบการ เข้า พัก โรงแรม ภาษา อังกฤษ ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทั้งสองฝ่าย
การฝึกฝนจากตัวอย่างประโยคและบทสนทนาที่นำเสนอในบทความนี้จะช่วยให้คุณพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ เริ่มต้นจากประโยคง่ายๆ และค่อยๆ เพิ่มความซับซ้อนตามความมั่นใจ อย่าลืมว่าการสื่อสารที่ดีไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แต่ต้องชัดเจนและสุภาพ ด้วยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ คุณจะสามารถใช้ภาษาอังกฤษในโรงแรมได้อย่างคล่องแคล่วและมีความมั่นใจ
พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณกับ PREP
หากคุณต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้ครอบคลุมทุกด้าน ไม่ใช่เพียงแค่การสนทนาในโรงแรม PREPEDU มีคอร์สเรียน ielts ออนไลน์ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์ ด้วยแผนตารางเรียน ielts ที่ปรับให้เหมาะกับระดับของคุณ คุณจะได้เรียนรู้ทั้ง 4 ทักษะ คือ Listening Speaking Reading และ Writing อย่างเป็นระบบ ระบบ AI ของ PREP จะช่วยวิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็งของคุณ พร้อมให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลเพื่อการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าคุณจะเตรียมสอบ IELTS หรือต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวและการทำงาน PREP พร้อมเป็นพันธมิตรในเส้นทางการเรียนรู้ของคุณ

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
เนื้อหาแบบพรีเมียม
ดูทั้งหมดแผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
