ภาษา

ค้นหาบทความการศึกษา

เจาะลึก TOEIC Reading: ทำความรู้จักโครงสร้างข้อสอบ และแนวทางการเตรียมตัว

การสอบ TOEIC เป็นมาตรฐานการวัดระดับภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารระหว่างประเทศ โดยส่วนที่ท้าทายคือ TOEIC Reading บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกโครงสร้างของ toeic reading test พร้อมกลยุทธ์การเตรียมตัวอย่างมีประสิทธิภาพ

ฝึก TOEIC Reading ให้แม่น! รวมแนวข้อสอบ toeic reading test ออนไลน์
ฝึก TOEIC Reading ให้แม่น! รวมแนวข้อสอบ toeic reading test ออนไลน์
  1. I. TOEIC Reading คืออะไร?
    1. 1. ความหมาย: บทบาทของพาร์ท Reading ในการสอบ TOEIC
    2. 2. ความสำคัญ: ทำไมคะแนน Reading ถึงมีผลต่อคะแนนรวมและโอกาสต่างๆ
  2. II. โครงสร้างข้อสอบ TOEIC Reading (ฉบับอัปเดตล่าสุด): สิ่งที่คุณต้องเผชิญ
    1. 1. Part 5: Incomplete Sentences - สนามทดสอบไวยากรณ์ (Grammar) และคำศัพท์ (Vocabulary)
    2. 2. Part 6: Text Completion - เติมคำในเนื้อเรื่องสั้น วัดความเข้าใจบริบท
    3. 3. Part 7: Reading Comprehension - บททดสอบความเข้าใจในการอ่านเนื้อหาหลากหลายรูปแบบ
  3. III. การเตรียมตัวสำหรับ TOEIC Reading: วางรากฐานสู่คะแนนเป้าหมาย
    1. 1. ประเมินตนเอง: จุดแข็งและจุดอ่อนของคุณในทักษะการอ่านคืออะไร?
    2. 2. ทักษะที่จำเป็นต้องพัฒนา (Incremental List)
    3. 3. การตั้งเป้าหมายคะแนนที่เป็นไปได้ และกำหนดระยะเวลาเตรียมตัว
    4. 4. ภาพรวมแนวทางการเตรียมตัวเบื้องต้น: ควรเริ่มต้นจากอะไร?
  4. IV. ไขข้อข้องใจ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเตรียมสอบ TOEIC Reading
    1. 1. จริงหรือไม่ที่ TOEIC Reading มักเป็นพาร์ทที่ทำคะแนนได้ยากกว่า Listening?
    2. 2. "Skimming" และ "Scanning" ในการอ่าน TOEIC Reading คืออะไรและสำคัญอย่างไร?
    3. 3. ทรัพยากร TOEIC Reading Test พร้อม เฉลย มีกลุ่มไหนบ้าง?
    4. 4. การเตรียมตัวสอบ TOEIC Reading ต่างจากการเตรียมสอบ Reading ทั่วไปอย่างไร?

I. TOEIC Reading คืออะไร?

1. ความหมาย: บทบาทของพาร์ท Reading ในการสอบ TOEIC

TOEIC Reading คือส่วนที่สองของการสอบ TOEIC ที่วัดความสามารถในการอ่านและเข้าใจภาษาอังกฤษในบริบทการทำงานและชีวิตประจำวัน พาร์ทนี้ประเมินว่าผู้สอบเข้าใจข้อมูลที่เป็นลายลักษณ์อักษรในรูปแบบต่างๆ ได้มากน้อยเพียงใด

2. ความสำคัญ: ทำไมคะแนน Reading ถึงมีผลต่อคะแนนรวมและโอกาสต่างๆ

คะแนนส่วน Reading มีน้ำหนักถึง 495 คะแนนจากคะแนนเต็ม 990 คะแนน การทำคะแนนส่วนนี้ได้ดีจึงส่งผลอย่างมากต่อคะแนนรวม ทักษะการอ่านที่ดียังเป็นสิ่งที่นายจ้างให้ความสำคัญ เนื่องจากการทำงานจริงต้องอาศัยการอ่านเอกสารภาษาอังกฤษอยู่เสมอ

II. โครงสร้างข้อสอบ TOEIC Reading (ฉบับอัปเดตล่าสุด): สิ่งที่คุณต้องเผชิญ

จำนวนข้อสอบทั้งหมด และเวลาที่กำหนดสำหรับส่วน Reading

TOEIC Reading มี 100 ข้อ เวลาทำ 75 นาที แบ่งเป็น:

  • Part 5: 30 ข้อ (ประโยคไม่สมบูรณ์)

  • Part 6: 16 ข้อ (การเติมเนื้อความให้สมบูรณ์)

  • Part 7: 54 ข้อ (ความเข้าใจในการอ่าน)

เวลาเฉลี่ยต่อข้อประมาณ 45 วินาที ซึ่งจำกัดมาก โดยเฉพาะใน Part 7 ที่มีเนื้อหาให้อ่านเยอะ

ฝึก TOEIC Reading ให้แม่น! รวมแนวข้อสอบ toeic reading test ออนไลน์
 โครงสร้างข้อสอบ TOEIC Reading 

1. Part 5: Incomplete Sentences - สนามทดสอบไวยากรณ์ (Grammar) และคำศัพท์ (Vocabulary)

  • ลักษณะคำถาม: การเติมคำในช่องว่างให้ประโยคสมบูรณ์: ส่วนนี้นำเสนอประโยคที่มีส่วนหายไป คุณต้องเลือก 1 ตัวเลือกจาก 4 ตัวเลือกเพื่อเติมให้สมบูรณ์ เช่น:

"The marketing team ________ the new product campaign by next month." A. will complete B. completes C. completing D. completed

  • ประเภทไวยากรณ์ที่ออกบ่อยใน Part 5

  • Tenses (กาลในภาษาอังกฤษ)

  • Parts of Speech (ชนิดของคำ)

  • Prepositions (คำบุพบท)

  • Conjunctions (คำเชื่อม)

  • Subject-Verb Agreement

  • Modals (กริยาช่วย)

  • ประเภทคำศัพท์ที่มักเจอใน Part 5

  • คำศัพท์ธุรกิจและการทำงาน

  • คำศัพท์เกี่ยวกับการซื้อขายและการเงิน

  • คำศัพท์ด้านการเดินทาง

  • คำศัพท์เกี่ยวกับเทคโนโลยี

  • Collocations (คำที่มักใช้คู่กัน)

ฝึก TOEIC Reading ให้แม่น! รวมแนวข้อสอบ toeic reading test ออนไลน์
Part 5: Incomplete Sentences - สนามทดสอบไวยากรณ์ (Grammar) และคำศัพท์ (Vocabulary)

2. Part 6: Text Completion - เติมคำในเนื้อเรื่องสั้น วัดความเข้าใจบริบท

  • ลักษณะคำถาม: การเลือกคำศัพท์/ไวยากรณ์เติมในเนื้อเรื่อง: Part 6 เป็นเนื้อความต่อเนื่อง 3-4 ย่อหน้า มีช่องว่าง 4 แห่งให้เติม คุณต้องเลือกคำตอบที่เหมาะสมกับบริบทของเนื้อความทั้งหมด มักเป็นอีเมล จดหมาย ประกาศ หรือบทความสั้นๆ

  • ความแตกต่างสำคัญระหว่าง Part 6 และ Part 5: Part 6 ต้องพิจารณาบริบทของเนื้อความทั้งหมด ไม่ใช่แค่ประโยคเดียว ความเข้าใจความหมายรวมและความต่อเนื่องจึงสำคัญมาก นอกจากนี้ยังทดสอบการใช้คำเชื่อมและคำอ้างอิง (it, this, they) ซึ่งต้องเข้าใจว่าอ้างถึงส่วนใดในเนื้อความ

3. Part 7: Reading Comprehension - บททดสอบความเข้าใจในการอ่านเนื้อหาหลากหลายรูปแบบ

  • รูปแบบ Passage: Single Passages: บทความเดี่ยวใน TOEIC Online Reading test​  มีความยาว 1-2 ย่อหน้า พร้อมคำถาม 2-4 ข้อต่อบทความ เนื้อหามักเกี่ยวกับเอกสารในการทำงาน เช่น อีเมล บันทึก ประกาศ โฆษณา หรือบทความสั้นๆ

  • รูปแบบ Passage: Double & Triple Passages: บทความคู่และบทความสามจะมีเอกสาร 2-3 ชิ้นที่เกี่ยวข้องกัน เช่น อีเมลโต้ตอบ พร้อมคำถาม 5-7 ข้อ ความท้าทายคือต้องหาความเชื่อมโยงระหว่างเอกสารและเข้าใจความสัมพันธ์ของข้อมูล

  • ประเภทเนื้อหาที่พบบ่อย (อีเมล, ประกาศ, บทความ, ตาราง, etc.): ใน แนว ข้อสอบ reading toeic Part 7 เนื้อหาที่พบบ่อยได้แก่:

  • อีเมลและจดหมายธุรกิจ

  • ประกาศและบันทึกภายในบริษัท

  • โฆษณาสินค้าและบริการ

  • ตารางเวลาและกำหนดการ

  • แบบฟอร์มและเอกสารสมัครงาน

  • ข่าวและบทความสั้นๆ 

  • ประเภทคำถามที่พบบ่อย (หาข้อมูล สรุปใจความ ตีความ คำศัพท์): คำถามใน Part 7 มีหลายรูปแบบ:

  • คำถามเกี่ยวกับรายละเอียดที่ระบุชัดเจน

  • คำถามเกี่ยวกับใจความสำคัญ

  • คำถามเกี่ยวกับการอนุมาน

  • คำถามเกี่ยวกับคำศัพท์ในบริบท

  • คำถามเกี่ยวกับเหตุผลหรือจุดประสงค์

III. การเตรียมตัวสำหรับ TOEIC Reading: วางรากฐานสู่คะแนนเป้าหมาย

1. ประเมินตนเอง: จุดแข็งและจุดอ่อนของคุณในทักษะการอ่านคืออะไร?

1.1. วิธีการทดสอบระดับความรู้ Grammar เบื้องต้น

  • ทำแบบทดสอบไวยากรณ์ออนไลน์เพื่อประเมินจุดแข็งและจุดอ่อน

  • ทำ ข้อสอบ toeic reading พร้อม เฉลย ในส่วน Part 5 แล้วจดบันทึกรูปแบบข้อผิดพลาดซ้ำๆ

1.2. วิธีการประเมินคลังคำศัพท์ (Vocabulary) ของตนเอง

  • ทำแบบทดสอบคำศัพท์ TOEIC เพื่อประเมินคลังคำศัพท์ธุรกิจ

  • อ่านบทความภาษาอังกฤษและทำเครื่องหมายคำที่ไม่เข้าใจ

1.3. การจับเวลาทดลองอ่าน Passage เพื่อวัดความเร็วและความเข้าใจ

  • เลือกบทความภาษาอังกฤษความยาว 300-400 คำ

  • จับเวลาการอ่าน ตั้งเป้าไม่เกิน 2-3 นาที

  • หลังอ่านจบ ตอบคำถามโดยไม่กลับไปดูบทความเพื่อประเมินความเข้าใจ

ฝึก TOEIC Reading ให้แม่น! รวมแนวข้อสอบ toeic reading test ออนไลน์
ประเมินตนเอง: จุดแข็งและจุดอ่อนของคุณในทักษะการอ่านคืออะไร?

2. ทักษะที่จำเป็นต้องพัฒนา (Incremental List)

  • ความแม่นยำด้านไวยากรณ์ (Grammar Accuracy): พัฒนาความแม่นยำในการใช้กาล ความสอดคล้องระหว่างประธานและกริยา การใช้ Articles และ Prepositions การใช้ Passive Voice และ Conditionals ซึ่งพบบ่อยในบริบทธุรกิจ

  • คลังคำศัพท์ที่กว้างขวาง (Extensive Vocabulary): พัฒนาคลังคำศัพท์ธุรกิจพื้นฐาน คำศัพท์เฉพาะสาขา Phrasal Verbs และ Collocations ที่พบบ่อยในการสื่อสารธุรกิจ

  • ความเร็วในการอ่าน (Reading Speed): ฝึกเทคนิค Skimming และ Scanning อ่านบทความภาษาอังกฤษทุกวัน และค่อยๆ เพิ่มความเร็วในการอ่าน

  • ทักษะการอ่านจับใจความและตีความ (Comprehension & Inference Skills): ฝึกการหาใจความสำคัญ ข้อมูลสนับสนุน การอนุมานข้อมูลที่ไม่ได้ระบุชัดเจน และการตีความเจตนาของผู้เขียน

  • การบริหารจัดการเวลา (Time Management): แบ่งเวลาให้เหมาะสม: Part 5 (20 นาที), Part 6 (15 นาที), Part 7 (40 นาที) ฝึกทำข้อสอบโดยจับเวลาเสมอ และเรียนรู้เทคนิคการบริหารเวลา

3. การตั้งเป้าหมายคะแนนที่เป็นไปได้ และกำหนดระยะเวลาเตรียมตัว

  • ระดับต่ำ (คะแนนปัจจุบัน <350): ตั้งเป้า 450-500 คะแนน เตรียมตัว 6-12 เดือน (2+ ชั่วโมง/วัน)

  • ระดับพอใช้ (คะแนนปัจจุบัน 350-450): ตั้งเป้า 600+ คะแนน เตรียมตัว 4-6 เดือน (1-2 ชั่วโมง/วัน)

  • ระดับปานกลาง (คะแนนปัจจุบัน 450-500): ตั้งเป้า 600+ คะแนน เตรียมตัว 2-3 เดือน (1-2 ชั่วโมง/วัน)

ฝึก TOEIC Reading ให้แม่น! รวมแนวข้อสอบ toeic reading test ออนไลน์
การตั้งเป้าหมายคะแนนที่เป็นไปได้ และกำหนดระยะเวลาเตรียมตัว

บทความแนะนำอ่านต่อ: บริหารเวลาสอบ TOEIC เทคนิคจัดการเวลาในวันสอบอย่างมีประสิทธิภาพ 

4. ภาพรวมแนวทางการเตรียมตัวเบื้องต้น: ควรเริ่มต้นจากอะไร?

  1. ทำแบบทดสอบประเมินตนเองเพื่อระบุจุดแข็งและจุดอ่อน

  2. ศึกษาโครงสร้างข้อสอบและรูปแบบคำถามแต่ละส่วน

  3. พัฒนาคลังคำศัพท์ธุรกิจและไวยากรณ์พื้นฐาน

  4. ฝึกทำแบบฝึกหัดทีละส่วน เริ่มจาก Part 5 ไปสู่ Part 7

  5. ฝึกทำข้อสอบเสมือนจริงโดยจับเวลาอย่างสม่ำเสมอ

IV. ไขข้อข้องใจ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเตรียมสอบ TOEIC Reading

1. จริงหรือไม่ที่ TOEIC Reading มักเป็นพาร์ทที่ทำคะแนนได้ยากกว่า Listening?

สำหรับผู้เรียนชาวไทยส่วนใหญ่ ความเชื่อนี้มักเป็นจริง ด้วยเหตุผลหลัก 3 ประการ: เวลาที่จำกัด ความซับซ้อนของเนื้อหา และความเหนื่อยล้าจากการทำส่วน Listening ก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ข้อดีของส่วน Reading คือสามารถกลับมาทบทวนและแก้ไขคำตอบได้ ซึ่งแตกต่างจาก Listening

2. "Skimming" และ "Scanning" ในการอ่าน TOEIC Reading คืออะไรและสำคัญอย่างไร?

Skimming คือการอ่านผ่านๆ อย่างรวดเร็วเพื่อจับใจความสำคัญ โดยอ่านประโยคแรกของแต่ละย่อหน้า สังเกตคำที่เน้น หัวข้อ และบทสรุป

Scanning คือการค้นหาข้อมูลเฉพาะในเนื้อความอย่างรวดเร็ว โดยระบุคำสำคัญจากคำถามและกวาดสายตาหาคำเหล่านั้นในเนื้อหา

ทั้งสองเทคนิคนี้ช่วยประหยัดเวลาในการทำข้อสอบซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญใน TOEIC Reading

3. ทรัพยากร TOEIC Reading Test พร้อม เฉลย มีกลุ่มไหนบ้าง?

1. หนังสือและตำรา

  • หนังสือข้อสอบจาก ETS (ผู้จัดสอบทางการ)

  • หนังสือเตรียมสอบจากสำนักพิมพ์ชั้นนำ

2. แพลตฟอร์มออนไลน์

  • เว็บไซต์ PREP ที่มีคอร์ส toeic reading test online

  • เว็บไซต์ที่มีแบบฝึกหัด ข้อสอบ toeic reading พร้อม เฉลย

3. แอปพลิเคชันมือถือ

  • แอปฝึกคำศัพท์และไวยากรณ์

  • แอปเตรียมสอบ TOEIC โดยเฉพาะ

4. คอร์สเรียนออนไลน์และออฟไลน์

  • คอร์สเฉพาะทางสำหรับการสอบ TOEIC

5. ชุมชนและกลุ่มเรียน

  • กลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเทคนิคการทำข้อสอบ

4. การเตรียมตัวสอบ TOEIC Reading ต่างจากการเตรียมสอบ Reading ทั่วไปอย่างไร?

การเตรียมตัวสอบ TOEIC Reading แตกต่างในด้าน:

1. เนื้อหาและบริบท - เน้นธุรกิจและการทำงานมากกว่าบทความวิชาการ

2. รูปแบบคำถาม - มีรูปแบบเฉพาะเน้นไวยากรณ์และคำศัพท์มากกว่าความเข้าใจ

3. เวลาและความเร็ว - มีข้อจำกัดเวลามาก (75 นาทีสำหรับ 100 ข้อ)

4. คำศัพท์ - เน้นคำศัพท์ธุรกิจและการทำงาน

5. กลยุทธ์ - ต้องการเทคนิคเฉพาะในการบริหารเวลาและจัดการข้อสอบแต่ละส่วน

การสอบ toeic reading เป็นความท้าทายที่ต้องอาศัยทั้งความรู้พื้นฐานและทักษะเฉพาะทาง การประเมินตนเอง วางแผนการพัฒนา และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ

การทำ toeic reading test online และแบบฝึกหัดอย่างต่อเนื่อง การฝึกเทคนิค Skimming และ Scanning และการอ่านเอกสารในบริบทธุรกิจจะเพิ่มความเร็วและแม่นยำในการทำข้อสอบ

ที่ PREP เราเชื่อว่าการเตรียมตัวที่ดีคือกุญแจสู่ความสำเร็จ ข้อสอบ toeic reading พร้อม เฉลย และคอร์สเรียนที่ออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพของเราจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น เริ่มต้นวันนี้ และพัฒนาทักษะของคุณอย่างเป็นระบบ!

Hien Hoang
Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 อักขระ
Loading...
เข้าสู่ระบบ
เพื่อสัมผัสเนื้อหาพรีเมียมที่ปรับให้เหมาะกับคุณ

เนื้อหาแบบพรีเมียมเนื้อหาแบบพรีเมียม

ดูทั้งหมด

แผนที่เฉพาะบุคคล

discount 30% IELTS

ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน

กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

bg contact

เชื่อมต่อกับ Prep

facebookyoutubeinstagram
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
หลักสูตร
คุณสมบัติเด่น
ห้องฝึกการเขียน IELTS AI
ห้องฝึกพูด IELTS AI
Teacher Bee AI
เชื่อมต่อกับเรา
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย