บทสนทนา คุย โทรศัพท์ ภาษา อังกฤษ ใช้ได้จริงทุกสถานการณ์
คุณเคยรู้สึกตื่นเต้นจนหัวใจเต้นแรงเมื่อโทรศัพท์ดังขึ้นและต้องรับสายภาษาอังกฤษหรือไม่? หรือเคยต้องโทรติดต่องานแต่กลับจำประโยคไม่ได้สักคำ? ปัญหานี้เกิดขึ้นกับคนไทยหลายล้านคนที่แม้จะอ่านเขียนภาษาอังกฤษได้ แต่กลับรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อต้องพูดคุยทางโทรศัพท์ เพราะไม่มีภาษากายหรือเวลาคิดให้
บทความนี้รวมบทสนทนา คุย โทรศัพท์ ภาษา อังกฤษ ที่ใช้งานได้จริงทุกสถานการณ์ ครอบคลุมตั้งแต่การรับสาย การฝากข้อความ ไปจนถึงเทคนิคการ speak on the phone อย่างมืออาชีพ พร้อมตัวอย่างประโยคที่นำไปใช้ได้ทันที
การสนทนาทางโทรศัพท์ต่างจากการคุยต่อหน้าอย่างสิ้นเชิง เพราะคุณไม่มีสายตาสบตา ไม่มีภาษากายช่วยสื่อสาร และไม่มีบริบทรอบข้างเป็นตัวช่วย ทำให้การ พูด คุย ทาง โทรศัพท์ ภาษาอังกฤษกลายเป็นความท้าทายที่ต้องอาศัยทักษะเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้คำศัพท์ที่ชัดเจน การควบคุมน้ำเสียงให้เหมาะสม หรือการใช้วลีสำเร็จรูปที่ตรงกับสถานการณ์
ในโลกของการทำงานสมัยใหม่ ทักษะการพูดคุยทางโทรศัพท์เป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อกับลูกค้าต่างชาติ การประสานงานกับทีมระหว่างประเทศ การนัดหมายทางธุรกิจ หรือแม้แต่การโทรสั่งอาหาร สำรองที่นั่งร้านอาหาร หรือติดต่อโรงแรมเมื่อเดินทางท่องเที่ยว การมีประโยคและโครงสร้างที่พร้อมใช้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและทำให้การสื่อสารราบรื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ การรู้จักมารยาททางโทรศัพท์ที่ถูกต้องยังสร้างความประทับใจดีและแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ
บทความนี้จะนำเสนอประโยคและวลีสำเร็จรูปที่จัดหมวดหมู่ตามสถานการณ์จริง พร้อมตัวอย่างบทสนทนาเต็มรูปแบบที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที ตั้งแต่การรับสายอย่างมืออาชีพ การแนะนำตัวที่ถูกต้อง การขอสาย การฝากข้อความ การจัดการปัญหาสัญญาณไม่ดี ไปจนถึงการนัดหมายและติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า คุณจะได้เรียนรู้ทั้งภาษาทางการและไม่เป็นทางการ พร้อมเคล็ดลับการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบริบท
มาเริ่มต้นเรียนรู้โครงสร้างพื้นฐานของการสนทนาทางโทรศัพท์ที่ทุกคนต้องรู้กันเลย เพื่อให้คุณพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์

I. โครงสร้างและหัวใจของการสนทนาทางโทรศัพท์
1. การรับสาย
ตารางประโยครับสายใช้ได้ทันที
สถานการณ์ |
ประโยคภาษาอังกฤษ |
ความหมาย |
ที่ทำงาน |
Good morning, XYZ Company, Tom speaking. How can I help you? |
สวัสดีครับ บริษัท XYZ ทอมพูดอยู่ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ |
รับสายส่วนตัว |
Hello, this is Sarah. |
สวัสดีค่ะ นี่ซาร่าค่ะ |
แบบสบายๆ |
Hi, Mike here. |
สวัสดีครับ นี่ไมค์ |
2. การแนะนำตัวและถามว่าใครโทรมา
วลีสำเร็จรูปถามผู้โทร:
-
May I ask who's calling? (ขอถามได้ไหมครับว่าใครโทรมา)
-
Who am I speaking with? (กำลังคุยกับใครอยู่ครับ)
-
Could I have your name, please? (ขอทราบชื่อได้ไหมครับ)

ตัวอย่างบทสนทนาจริง:
A: Hello, ABC Company. (สวัสดีครับ บริษัท ABC)
B: Hi, this is Jennifer from Marketing Solutions. Is David available? (สวัสดีค่ะ นี่เจนนิเฟอร์จาก Marketing Solutions เดวิดอยู่ไหมคะ)
A: May I ask what this is regarding? (ขอถามได้ไหมครับว่าเรื่องอะไร)
B: I'm calling about the proposal we sent last week. (โทรมาเรื่องข้อเสนอที่เราส่งไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วค่ะ)
3. การบอกจุดประสงค์ในการโทร
4 สูตรบอกวัตถุประสงค์:
สูตร |
ตัวอย่าง |
ใช้เมื่อ |
I'm calling to + กริยา |
I'm calling to confirm my appointment. (โทรมาเพื่อยืนยันนัดหมายครับ) |
แจ้งเจตนาชัดเจน |
I'm calling about + คำนาม |
I'm calling about the job opening. (โทรมาเรื่องตำแหน่งงานว่างค่ะ) |
พูดถึงหัวข้อ |
I wanted to + กริยา |
I wanted to check on my order status. (อยากเช็คสถานะออเดอร์ครับ) |
แสดงความต้องการ |
The reason I'm calling is... |
The reason I'm calling is we need to reschedule. (โทรมาเพราะต้องนัดใหม่ค่ะ) |
อธิบายเหตุผล |
II. วลีสำคัญที่ใช้บ่อยในการดำเนินการต่างๆ
1. การขอสาย/ต้องการคุยกับ...
เลือกประโยคตามความสนิท:
-
ทางการสูง: May I speak to Mr. Johnson, please? (ขอพูดคุยกับคุณจอห์นสันได้ไหมครับ)
-
ทางการปานกลาง: Could I speak with Lisa? (พอจะคุยกับลิซ่าได้ไหมคะ)
-
สบายๆ: Is Mark there? (มาร์คอยู่ไหม)
-
เพื่อนสนิท: Can I talk to Jenny? (ขอคุยกับเจนนี่หน่อย)
2. เมื่อคนที่ต้องการคุยด้วยไม่อยู่
ประโยคบอกว่าไม่อยู่:
สถานการณ์ |
ประโยค |
คำแปล |
ไม่อยู่โต๊ะ |
He's away from his desk right now. |
เขาไม่อยู่โต๊ะตอนนี้ครับ |
กำลังประชุม |
She's in a meeting until 3 PM. |
เธอประชุมจนถึง 3 โมงเย็นค่ะ |
ออกไปข้างนอก |
He's stepped out for lunch. |
เขาออกไปกินข้าวครับ |
ลาป่วย |
She's not in today. She's feeling unwell. |
เธอไม่มาวันนี้ค่ะ เธอไม่สบาย |
การฝากข้อความ
บทสนทนาฝากข้อความสมบูรณ์:
A: I'm afraid she's not available. Would you like to leave a message? (เกรงว่าเธอไม่ว่างค่ะ จะฝากข้อความไหมคะ)
B: Yes, please. Could you tell her that Robert called? (ครับ ช่วยบอกเธอได้ไหมว่าโรเบิร์ตโทรมา)
A: Certainly. May I have your contact number? (ได้ค่ะ ขอเบอร์ติดต่อได้ไหมคะ)
B: It's 081-234-5678. Please ask her to call me back when she's free. (081-234-5678 ครับ ช่วยบอกให้โทรกลับเมื่อว่างด้วย)
A: I'll make sure she gets the message. (จะส่งข้อความให้เธอแน่นอนค่ะ)
การรับฝากข้อความ
3 ขั้นตอนรับฝากข้อความแบบมืออาชีพ:
-
แสดงความพร้อม: Certainly, I'd be happy to take a message. (ได้เลยค่ะ ยินดีรับฝาก)
-
เก็บข้อมูล: May I have your name and number? What's this regarding? (ขอชื่อกับเบอร์ได้ไหมคะ เรื่องอะไรคะ)
-
ยืนยัน: Let me repeat that back to you... Is that correct? (ขอทวนนะคะ... ถูกต้องไหมคะ)

3. การจบการสนทนาอย่างมืออาชีพ
ตารางประโยคลงท้าย:
ระดับ |
ประโยค |
สถานการณ์ |
ทางการมาก |
Thank you for your time. I look forward to hearing from you soon. |
ลูกค้า หัวหน้า |
ทางการปกติ |
Thanks for calling. Have a great day! |
เพื่อนร่วมงาน |
สบายๆ |
Alright, talk to you later! |
เพื่อนสนิท |
สนิทมาก |
Cool, catch you later! Bye! |
เพื่อนสนิทมาก |
III. การรับมือกับปัญหาและสถานการณ์เฉพาะหน้า
1. เมื่อสัญญาณไม่ดี/ไม่ได้ยิน
ชุดประโยคแก้ปัญหาสัญญาณ:
-
Sorry, I'm losing you. The signal is weak. (ขอโทษครับ เสียงหายไป สัญญาณอ่อนแย่)
-
Could you speak louder? I can barely hear you. (พูดดังขึ้นหน่อยได้ไหม แทบไม่ได้ยินเลย)
-
The line is breaking up. Let me call you back. (สายขาดๆ เลยครับ ขอโทรกลับใหม่นะ)
-
Can you hear me now? Is this better? (ได้ยินไหมครับตอนนี้ ชัดขึ้นไหม)

ตัวอย่างการแก้ไขสถานการณ์:
A: ...and then we need to... (แล้วเราต้อง...)
B: Sorry, you're breaking up. I can only catch every other word. (ขอโทษค่ะ เสียงขาดๆ ได้ยินทีละคำเลย)
A: Oh, let me call you back on a different line. (โอ้ งั้นขอโทรกลับจากสายอื่นนะครับ)
2. การขอให้พูดซ้ำ ทวน หรือสะกดชื่อ
คำศัพท์และวลีขอทวนข้อมูล:
วลี |
IPA |
ความหมาย |
ตัวอย่าง |
Repeat |
/rɪˈpiːt/ |
พูดซ้ำ |
Could you repeat that? (พูดซ้ำได้ไหมครับ) |
Spell |
/spel/ |
สะกด |
How do you spell your last name? (นามสกุลสะกดยังไงคะ) |
Clarify |
/ˈklærɪfaɪ/ |
ทำให้ชัดเจน |
Let me clarify. You said Tuesday, right? (ขอชี้แจงนะครับ คุณบอกวันอังคารใช่ไหม) |
Confirm |
/kənˈfɜːrm/ |
ยืนยัน |
Just to confirm, the meeting is at 2 PM. (ขอยืนยันนะคะ ประชุมเวลา 14.00 น.) |
บทสนทนาการ พูด คุย ทาง โทรศัพท์ ขอทวนข้อมูล:
A: My email is j.smith.marketing@company.com (อีเมลผมคือ j.smith.marketing@company.com)
B: Sorry, could you spell that slowly? (ขอโทษค่ะ ช่วยสะกดช้าๆ ได้ไหม)
A: Sure. J dot S-M-I-T-H dot M-A-R-K-E-T-I-N-G at company dot com (ได้ครับ เจ จุด เอส-เอ็ม-ไอ-ที-เอช จุด เอ็ม-เอ-อาร์-เค-อี-ที-ไอ-เอ็น-จี แอท คอมพานี จุด คอม)
B: Let me read that back. j.smith.marketing@company.com. Correct? (ขอทวนนะคะ j.smith.marketing@company.com ถูกไหมคะ)
A: That's right! (ถูกต้องครับ)
IV. การสนทนาแบบทางการและไม่เป็นทางการ
1. ความแตกต่างและวิธีเลือกใช้
เกณฑ์เลือกใช้แบบง่ายๆ:
-
ใช้ Formal: ลูกค้า นายจ้าง คนแปลกหน้า หน่วยงานราชการ
-
ใช้ Informal: เพื่อนร่วมงานที่สนิท เพื่อน ครอบครัว
2. ตารางเปรียบเทียบประโยค Formal vs. Informal
สถานการณ์ |
Formal (ทางการ) |
Informal (ไม่เป็นทางการ) |
รับสาย |
Good afternoon, ABC Corporation, James speaking. |
Hey, this is James. |
ถามว่าใครโทร |
May I ask who's calling? |
Who is this? |
ขอคุยกับใครสักคน |
I'd like to speak with Ms. Anderson, please. |
Is Amy around? |
ขอให้รอสาย |
Could you hold for a moment? |
Hang on a sec. |
ไม่อยู่ |
I'm afraid he's not available at the moment. |
He's not here right now. |
ฝากข้อความ |
Would you care to leave a message? |
Wanna leave a message? |
จบสาย |
Thank you for calling. Have a wonderful day. |
Cool, talk later! Bye! |
ตัวอย่างเปรียบเทียบแบบเต็ม:
Formal:
A: Good morning, Sterling Associates. This is Katherine. How may I direct your call? (สวัสดีค่ะ Sterling Associates นี่แคทเธอรีนค่ะ จะต่อสายให้ใครดีคะ)
B: Good morning. I'd like to speak with Mr. Patterson regarding the quarterly report, please. (สวัสดีครับ อยากคุยกับคุณแพตเตอร์สันเรื่องรายงานรายไตรมาสครับ)
Informal:
A: Hey, what's up? (เฮ้ ว่าไง)
B: Not much. Is Pat there? Need to ask him about the report. (ก็ไม่มีอะไร แพตอยู่ไหม อยากถามเรื่องรายงาน)
V. บทสนทนาขั้นสูงสำหรับสถานการณ์เฉพาะทาง
1. การนัดหมาย
คำศัพท์จำเป็นสำหรับการนัดหมาย:
คำศัพท์ |
IPA |
ความหมาย |
ตัวอย่างประโยค |
Schedule |
/ˈskedʒuːl/ |
กำหนดการ นัดหมาย |
Let's schedule a time to meet. (มานัดเวลาพบกันเถอะครับ) |
Available |
/əˈveɪləbl/ |
ว่าง |
When are you available? (คุณว่างเมื่อไหร่คะ) |
Reschedule |
/riːˈskedʒuːl/ |
นัดใหม่ |
I need to reschedule our meeting. (ต้องนัดประชุมใหม่ครับ) |
Postpone |
/poʊstˈpoʊn/ |
เลื่อน |
Can we postpone until next week? (เลื่อนไปอาทิตย์หน้าได้ไหมคะ) |
Confirm |
/kənˈfɜːrm/ |
ยืนยัน |
I'm calling to confirm tomorrow's appointment. (โทรมายืนยันนัดพรุ่งนี้ครับ) |
บทสนทนา คุย โทรศัพท์ ภาษา อังกฤษ สำหรับการนัดหมาย:
A: Hi Sarah, this is Mike from Design Studio. (สวัสดีครับซาร่า นี่ไมค์จาก Design Studio)
B: Oh hi Mike! How can I help you? (โอ้ สวัสดีไมค์ มีอะไรให้ช่วยคะ)
A: I wanted to schedule a meeting to discuss the new project. Are you free this Thursday afternoon? (อยากนัดประชุมคุยเรื่องโปรเจกต์ใหม่ครับ วันพฤหัสบ่ายนี้ว่างไหม)
B: Let me check my calendar... Thursday works, but I have a meeting until 2. How about 2:30? (ขอเช็คปฏิทินก่อนนะคะ วันพฤหัสได้ แต่ประชุมถึง 2 โมง เวลา 14.30 น. ได้ไหมคะ)
A: Perfect! 2:30 it is. Should we meet at your office or mine? (ดีเลยครับ 14.30 น. เลย พบที่ออฟฟิศคุณหรือผมดีครับ)
B: Let's meet at yours. I'll head over after my meeting. (ไปที่ออฟฟิศคุณเลยค่ะ จะไปหลังประชุมเสร็จ)
A: Great! I'll send you a calendar invite to confirm. See you Thursday! (เยี่ยมครับ จะส่งคำเชิญปฏิทินไปเพื่อยืนยันนะ เจอกันวันพฤหัส)
2. การติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
โครงสร้าง 5 ขั้นตอนโทรหาฝ่ายบริการลูกค้า:
-
แนะนำตัวและบอกปัญหา: Hi, my name is Lisa Chen. I'm calling about a problem with my recent order. (สวัสดีค่ะ ลิซ่า เฉินค่ะ โทรมาเรื่องปัญหากับออเดอร์ล่าสุด)
-
ให้รายละเอียด: My order number is 789456. I ordered it on June 15th but it still hasn't arrived. (หมายเลขออเดอร์คือ 789456 ค่ะ สั่งวันที่ 15 มิถุนายน แต่ยังไม่ได้รับของเลย)
-
ถามแนวทางแก้ไข: Can you check the status and let me know when I can expect delivery? (ช่วยเช็คสถานะและบอกได้ไหมคะว่าจะได้รับของเมื่อไหร่)
-
รับทราบวิธีแก้ไข: I understand. So it should arrive by Friday. Is there a tracking number? (เข้าใจแล้วค่ะ จะมาถึงวันศุกร์ มีหมายเลขติดตามไหมคะ)
-
ปิดสาย: Thank you for your help. I appreciate it. (ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะคะ ขอบคุณมากค่ะ)
บทสนทนาเต็ม:
Agent: Thank you for calling TechMart. This is David. How can I assist you today? (ขอบคุณที่โทรมา TechMart นี่เดวิดครับ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ)
Customer: Hi David. I ordered a laptop two weeks ago, order 123789, but it hasn't shipped yet. (สวัสดีเดวิดค่ะ สั่งแล็ปท็อปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ออเดอร์ 123789 แต่ยังไม่ส่งเลยค่ะ)
Agent: I apologize for the delay. Let me check that for you. Can you verify your email address? (ขอโทษสำหรับความล่าช้าครับ ขอเช็คให้นะครับ ช่วยยืนยันอีเมลได้ไหมครับ)
Customer: Sure, it's j.kim@email.com (ได้ค่ะ j.kim@email.com ค่ะ)
Agent: Thank you. I see the issue. There was a stock delay, but it's shipping out today. You should receive it by Thursday. (ขอบคุณครับ เห็นปัญหาแล้ว ของหมดสต็อก แต่จะส่งวันนี้ครับ คุณจะได้รับวันพฤหัสบดี)
Customer: Okay, that's a relief. Will you send me tracking information? (โอเค โล่งใจแล้วค่ะ จะส่งข้อมูลติดตามพัสดุมาให้ไหมคะ)
Agent: Absolutely. You'll receive an email with the tracking number within an hour. (แน่นอนครับ จะได้รับอีเมลพร้อมหมายเลขติดตามภายในชั่วโมงครับ)
Customer: Perfect. Thanks for sorting this out! (ดีเลยค่ะ ขอบคุณที่จัดการเรื่องนี้ให้นะคะ)
3. การติดตามเรื่องที่เคยคุยไว้
วลีเปิดการสนทนาติดตามงาน:
-
I'm following up on our conversation from last week about the proposal. (ติดตามการคุยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเรื่องข้อเสนอครับ)
-
I wanted to check in on the project status we discussed. (อยากเช็คสถานะโปรเจกต์ที่เราคุยกันค่ะ)
-
Just circling back on the budget approval. Any updates? (กลับมาติดตามเรื่องอนุมัติงบประมาณครับ มีอัพเดตไหม)
-
Have you had a chance to review the documents I sent? (มีโอกาสดูเอกสารที่ส่งไปแล้วหรือยังคะ)
ตัวอย่างบทสนทนา:
A: Hi Rachel, this is Tom calling. (สวัสดีครับราเชล นี่ทอมโทรมา)
B: Hi Tom! Good to hear from you. (สวัสดีทอม! ดีใจที่ได้ยินเสียง)
A: I'm following up on the contract we talked about two weeks ago. Has there been any progress? (ติดตามเรื่องสัญญาที่เราคุยกันเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วครับ มีความคืบหน้าไหม)
B: Yes! Actually, the legal team approved it yesterday. I was just about to email you. (มีค่ะ จริงๆ แล้วทีมกฎหมายอนุมัติเมื่อวานนี้ กำลังจะอีเมลหาคุณพอดี)
A: That's great news! When can we move forward with signing? (ข่าวดีเลยครับ เมื่อไหร่เราจะเซ็นสัญญาได้บ้าง)
B: I can send it over this afternoon. If you sign by tomorrow, we can start next Monday. (ส่งให้บ่ายนี้ได้ค่ะ ถ้าเซ็นภายในพรุ่งนี้ เราจะเริ่มได้วันจันทร์หน้า)
บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม:
การอ่านเบอร์โทรศัพท์เป็นภาษาอังกฤษ
รวมบทสนทนาภาษาอังกฤษ 2 คน ถามตอบง่ายๆ ใช้ได้ทุกสถานการณ์
5 บทสนทนาภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ Friends ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
VI. คำถามที่พบบ่อยและเกร็ดความรู้เพิ่มเติม
1. "Phone etiquette" ที่ฝรั่งให้ความสำคัญคืออะไร?
5 กฎมารยาททางโทรศัพท์สำคัญ:
-
รับสายภายใน 3 ครั้ง - ถ้าปล่อยนานเกินไปแสดงถึงความไม่สนใจ
-
แนะนำตัวทันที - บอกชื่อและสถานที่ทำงานให้ชัดเจน
-
ไม่กินขณะคุย - เสียงเคี้ยวทำให้ดูไม่มืออาชีพ
-
ถามก่อนให้รอสาย - May I put you on hold? ไม่ใช่กดพักสายทันที
-
ใช้เสียงที่ยิ้มได้ - น้ำเสียงสื่อถึงท่าทีมากกว่าคำพูด
2. เราควรใช้ "This is [Name]" แทน "I am [Name]" เสมอใช่หรือไม่?
ใช่ - และนี่คือเหตุผล: ในภาษาอังกฤษ This is เป็นมาตรฐานสำหรับการแนะนำตัวทางโทรศัพท์ เพราะ this หมายถึงเสียงที่กำลังพูดอยู่ทางสาย ไม่ใช่ตัวตนทางกายภาพ
-
ถูก: Hello, this is Mark. (สวัสดีครับ นี่มาร์ค)
-
ผิด: Hello, I am Mark. (ฟังดูเหมือนกำลังบอกว่าตัวเองคือมาร์คในความหมายทั่วไป)
ยกเว้นกรณีที่บอกว่า I'm the person who called earlier. (ฉันคือคนที่โทรไปก่อนหน้านี้) ซึ่งไม่ใช่การแนะนำตัวโดยตรง
3. วลีภาษาอังกฤษแบบไหนบ้างที่ควรเลี่ยงในการคุยโทรศัพท์?
ตารางวลีที่ควรเลี่ยง:
ไม่ควรใช้ |
ควรใช้แทน |
เหตุผล |
Yeah / Yep |
Yes / That's correct |
ดูไม่เป็นทางการเกินไป |
Huh? / What? |
Pardon? / Could you repeat that? |
หยาบคาย |
Wait |
One moment, please |
ไม่สุภาพ |
Who's this? |
May I ask who's calling? |
หยาบคาย |
He's busy |
He's not available at the moment |
เป็นมิตรกว่า |
I dunno (I don't know) |
Let me check on that for you |
แสดงความรับผิดชอบ |
บทสนทนา คุย โทรศัพท์ ภาษา อังกฤษ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เมื่อคุณมีโครงสร้างประโยคและวลีที่พร้อมใช้สำหรับทุกสถานการณ์ ตั้งแต่การรับสายอย่างมืออาชีพ การฝากข้อความ ไปจนถึงการจัดการปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น สิ่งสำคัญคือการฝึกฝนใช้วลีเหล่านี้จนเป็นนิสัย และเลือกระดับความเป็นทางการให้เหมาะสมกับสถานการณ์
จำไว้ว่าการ speak on the phone ที่ดีนั้นต้องอาศัยทั้งความชัดเจนในการสื่อสาร มารยาทที่เหมาะสม และความมั่นใจในการใช้ภาษา ประโยคและตัวอย่างในบทความนี้สามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการ พูด คุย ทาง โทรศัพท์ เพื่องาน การนัดหมาย หรือการสนทนาทั่วไป เริ่มฝึกใช้วันนี้ และคุณจะพบว่าการคุยโทรศัพท์ภาษาอังกฤษไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
หากคุณต้องการยกระดับทักษะภาษาอังกฤษให้ครอบคลุมทั้ง Speaking, Listening, Reading และ Writing อย่างเป็นระบบ PREP มีคอร์สเรียน IELTS ออนไลน์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยหลักสูตรที่แบ่งเป็นระดับชัดเจนตั้งแต่ Foundation, Basic, Intermediate ไปจนถึง Advance คุณจะได้เรียนรู้ผ่านระบบ AI ที่ช่วยตรวจสอบการออกเสียง Virtual Speaking Room (VSR) สำหรับฝึกพูด และ Virtual Writing Room (VWR) สำหรับพัฒนาการเขียน พร้อมกับเนื้อหาที่ครอบคลุมทุกทักษะตามเกณฑ์ E-E-A-T ของ Google ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากระดับไหน PREP จะช่วยให้คุณเตรียมสอบ IELTS และใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์ รวมถึงการสนทนาทางโทรศัพท์ที่เราได้เรียนรู้ในวันนี้

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
เนื้อหาแบบพรีเมียม
ดูทั้งหมดแผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
