5 Relative pronoun ในภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยในภาษาอังกฤษ: Who, Which, That, Whose, Whom

Who, which, that, whose, และ whom เป็นสรรพนามที่ใช้แทนคำนามที่อยู่ข้างหน้า (Relative pronoun ในภาษาอังกฤษ) ที่พบบ่อย แล้วคุณเข้าใจจริงไหมว่าคำเหล่านี้นั้นจะใช้อย่างไร หรือใช้มันได้ถูกต้องแล้วหรือยัง ถ้าคุณยังไม่มั่นใจ บทความจาก PREP นี้ จะช่วยให้ Preppies ทุกคนคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับความหมายและการใช้ relative pronouns อย่างถูกต้อง

I. Relative pronoun ในภาษาอังกฤษคืออะไร

relative pronoun คือคำสรรพนามที่ใช้แทนคำนามหรือนามวลีภายในประโยค เพื่อใช้เชื่อมประโยคนั้นกับ relative clause ดังนั้น relative pronoun จะช่วยให้เกิดการขยายความประโยค และเชื่อมโยงประโยคที่เกี่ยวข้องกันสองประโยคในการเขียน โดย relative pronoun หลัก ๆ ในภาษาอังกษมี 5 ตัว คือ who, whom, whose, which, และ that

• "who" และ "whom" ใช้เพื่ออ้างถึงคน ตัวอย่างเช่น: The man who is standing over there is my brother. (ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือน้องชายของเรา)
• "whose" ใช้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ตัวอย่างเช่น: The man, whose car was stolen, reported the incident to the police. (ผู้ชายที่รถถูกขโมยไปแจ้งความกับตำรวจ)
• "which" ใช้เพื่ออ้างถึงสิ่งของหรือสัตว์ ตัวอย่างเช่น: The book which I borrowed from the library is very interesting.(หนังสือที่เรายืมจากห้องสมุดน่าสนใจมาก)
• "that" สามารถใช้กับทั้งคน สัตว์ และสิ่งของ ตัวอย่างเช่น: The car that I bought last week broke down.(รถที่เราซื้อเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเสียแล้ว)

II. หน้าที่ของ Relative pronoun ในภาษาอังกฤษ

Relative pronoun ในภาษาอังกฤษมีหน้าที่ที่สำคัญในการเชื่อมประโยคเข้าด้วยกัน โดยใช้แทนคำนามหรือนามวลีในประโยค ตารางด้านล่างนี้จะเป็นหน้าที่คร่าว ๆ ของ relative pronoun เพื่อให้คุณได้เรียนรู้เอาไว้

III. โครงสร้างและการใช้งานของ Relative pronoun ในภาษาอังกฤษ

อย่างที่เราได้บอกไปข้างต้น ในภาษาอังกฤษมี relative pronouns หลัก ๆ ทั้งสิ้น 5 ตัวด้วยกัน แล้วคุณเข้าใจโครงสร้างและการใช้งานคำเหล่านั้นจริง ๆ หรือเปล่า ถ้ายังสงสัยอยู่ PREP จะช่วยให้คุณเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้นที่นี่!

1. Who - คำสรรพนามที่อ้างถึงคน

Relative pronoun "who" จะใช้ใน relative clause เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำนามที่อยู่ก่อนหน้าที่ติดกัน ตัวอย่างเช่น:

• I think there’d be a lot of children who’d love to have a climbing wall in school. (เราคิดว่าคงมีเด็กหลายๆ คนที่ชอบปีนกำแพงในโรงเรียน)
• That’s the person who doesn’t like me. (นั่นคือคนที่ไม่ชอบเรา)
• There’s this guy at work, who’s one of my friends, well he’s never been on a train. (มีผู้ชายคนหนึ่งที่ทำงานเป็นเพื่อนของฉัน เขาไม่เคยนั่งรถไฟมาก่อน)

2. Whom – คำสรรพนามที่อ้างถึงคน

Relative pronoun "whom" จะใช้แทนคำนามหรือนามวลีที่อ้างถึงคนที่อยู่ในประโยค โดยคำนามหรือนามวลีนั้นจะเป็นกรรมของ relative clause
ตัวอย่างเช่น:

• The woman whom I met yesterday is a doctor. (ผู้หญิงที่เราพบเมื่อวานเป็นหมอ) ➞ (คำสรรพนามเชื่อม "whom" แทนคำนาม "The woman" และประโยคย่อยที่ตามหลัง "whom" ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "The woman")
• The students whom the teacher praised were happy. (นักเรียนที่ครูชมมีความสุข) ➞ (คำสรรพนามเชื่อม "whom" แทนคำนาม "The students" และประโยคย่อยที่ตามหลัง "whom" ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "The students")
• He is a famous actor whom many people admire. (คำสรรพนามเชื่อม "whom" แทนวลีคำนาม "a famous actor" และประโยคย่อยที่ตามหลัง "whom" ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "a famous actor")

นอกจากนี้ เรามักจะพบ "คำบุพบท + whom" เพื่อให้ดูเป็นทางการมากขึ้นในประโยค ตัวอย่างเช่น:

• The letter was addressed to the manager, to whom I had sent an email earlier. (จดหมายนี้จ่าหน้าถึงผู้จัดการที่ฉันส่งอีเมลถึงก่อนหน้านี้)
• This gift is for my sister, for whom I bought a special necklace. (ของขวัญชิ้นนี้มอบให้น้องสาวเรา ซึ่งเราซื้อสร้อยคอพิเศษให้)
• I went on a vacation with my parents, with whom I always enjoy spending time. (เราไปเที่ยวพักผ่อนกับพ่อแม่ ซึ่งเราชอบใช้เวลาอยู่ด้วยเสมอ)

3. Whose – คำสรรพนามที่อ้างถึงความเป็นเจ้าของ

Relative pronoun "whose" จะใช้เพื่อระบุความเป็นเจ้าของหรือการครอบครองบางคนหรือบางสิ่งในประโยค "whose" มักใช้แทนคำนามหรือนามวลี ตัวอย่างเช่น:

• The woman whose car was stolen reported the incident to the police. (ผู้หญิงที่รถถูกขโมยไปแจ้งความกับตำรวจ) ➞ (คำสรรพนามเชื่อม "whose" + "car" แสดงความเป็นเจ้าของ "car" ของ "the woman")
• I read a book whose author is a Nobel laureate. (เราอ่านหนังสือที่ผู้เขียนได้รับรางวัลโนเบล) ➞ (คำสรรพนามเชื่อม "whose" + "author" แสดงความเป็นเจ้าของ "author" ของ "a book") 
• The company whose CEO resigned is facing financial difficulties. (บริษัทที่ CEO ลาออกกำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงิน) ➞ (คำสรรพนามเชื่อม "whose" + "CEO" แสดงความเป็นเจ้าของ "CEO" ของ "the company")

4. Which – คำสรรพนามที่อ้างถึงสิ่งของ

Relative pronoun "which" ใช้แทนสิ่งของหรือกลุ่มคำนามในประโยค ตัวอย่างเช่น:

• The laptop, which is on the table, is mine. (แล็ปท็อปที่อยู่บนโต๊ะเป็นของเรา) ➞ (คำสรรพนามเชื่อม "which" แทน "the laptop" ในประโยค)
• I bought a new laptop, which has a fast processor. (ฉันซื้อแล็ปท็อปใหม่ซึ่งมีโปรเซสเซอร์ที่รวดเร็ว) ➞ (คำสรรพนามเชื่อม "which" แทน "a new laptop" ในประโยค)
• The house, which was built in the 19th century, is now a museum. (บ้านที่สร้างในศตวรรษที่ 19 ตอนนี้เป็นพิพิธภัณฑ์) ➞ (คำสรรพนามเชื่อม "which" แทน "the house" ในประโยค)

นอกจากนี้ เรามักจะพบ "which" ที่ใช้ร่วมกับคำบุพบท แต่ก็มีความแตกต่างกันที่ตำแหน่งเมื่อใช้ร่วมกับบุพบท ดังนั้นเรามาลองดูการใช้ "which" กับคำบุพบทที่ต่างกันด้านล่างนี้

• Preposition + Which (เป็นทางการกว่า): The title of the poem indicates that the poet knows himself to be separated from the community in which he grew up. (ชื่อบทกวีบ่งบอกว่ากวีรู้ว่าตนเองถูกแยกออกจากชุมชนที่เขาเติบโตมา)
• Preposition หลังจาก relative clause (เป็นทางการน้อยกว่า): I've never felt close to the community which I grew up in. (ฉันไม่เคยรู้สึกใกล้ชิดกับชุมชนที่ฉันเติบโตมาเลย)

5. That – คำสรรพนามพิเศษที่อ้างถึงทั้งคน และสิ่งของ

Relative pronoun "that" ใช้แทนได้ทั้งคน สัตว์ และสิ่งของ ตัวอย่างเช่น:

• The cat that is sitting on the mat is mine. (แมวที่นั่งบนเสื่อเป็นของเรา) ➞ relative pronoun "that" ใช้แทน "the cat" ในประโยค
• The car that I bought last week broke down. (รถที่เราซื้อเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเสีย) ➞ relative pronoun "that" ใช้แทน "the car" ในประโยค
• The person that I met at the party was very friendly. (คนที่เราพบในงานเลี้ยงเป็นกันเองมาก) ➞ relative pronoun "that" ใช้แทน"the person" ในประโยค

นอกจากนี้ เรามักจะเห็นโครงสร้าง "คำคุณศัพท์ขั้นสุด + that" ในประโยคด้วย ตัวอย่างเช่น:

• It was the most exciting movie that I have ever watched. (มันเป็นภาพยนตร์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่ฉันเคยดู)
• He is the tallest person that I have ever seen. (เขาเป็นคนที่สูงที่สุดที่เราเคยเห็น)
• This is the best restaurant that I have ever been to. (นี่คือร้านอาหารที่ดีที่สุดที่เราเคยไป)

สุดท้ายคือโครงสร้าง "That + คำบุบพบท" ในประโยค ตัวอย่างเช่น:

• We’ve got some tennis balls that you can play with. (เรามีลูกเทนนิสที่คุณสามารถเล่นได้)
• He is the person that I was talking to. (เขาเป็นคนที่เราคุยด้วย)
• This is the book that I was searching for. (นี่คือหนังสือที่เราค้นหา)

IV. หมายเหตุเกี่ยวกับ Relative pronoun ในภาษาอังกฤษ

เมื่อเราต้องการใช้ relative pronoun ที่ประกอบด้วย who, whom, whose, which, และ that ในประโยค คุณจะต้องโฟกัสกับข้อควรระวังต่อไปนี้:

• คุณอาจจะสับสนระหว่าง "Who" และ "Whom":
  • "Who" จะใช้เป็นประธานของ relative clasue  ตัวอย่างเช่น: The girl who is singing has a beautiful voice. (หญิงสาวที่ร้องเพลงมีเสียงที่ไพเราะ)
  • "Whom" จะใช้เป็นกรรมของ relative clause  ตัวอย่างเช่น: The man whom she met is her boss. (ผู้ชายที่เธอพบคือเจ้านายของเธอ)
• "Whose" ใช้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของหรือการครอบครองวัตถุโดยคนคนหนึ่งในประโยค ตัวอย่างเช่น: The book whose cover is torn belongs to me. (หนังสือที่ปกขาดเป็นของฉัน)
• "Which" ใช้เพื่อแทนที่สิ่งของหรือกลุ่มนามวลีในประโยค ตัวอย่างเช่น: The car which is parked outside is mine. (รถที่จอดอยู่ข้างนอกเป็นของฉัน)
• "That" ใช้แทนได้ทั้งคน สัตว์ และสิ่งของ โดยสามารถแทน "who," "whom," และ "which" ได้ ตัวอย่างเช่น: The girl that I met yesterday is my neighbor. (ผู้หญิงที่ฉันเจอเมื่อวานคือเพื่อนบ้านของฉัน)

อย่างไรก็ตามแต่ ในภาษาในชีวิตประจำวันนั้น การใช้ "whom" และ "whose" นั้นไม่ค่อยได้ถูกใช้เท่าไหร่ แต่เรามักจะใช้ "that" เพื่อแทนทั้งคนและสิ่งของ แต่ในการเขียนเชิงวิชาการ หรือข้อความที่เป็นทางการดังนั้นการใช้ relative pronouns ที่เหมาะสมจะช่วยสร้างความชัดเจนและความแม่นยำในบริบทที่เฉพาะเจาะจง!

V. การละ Relative pronoun ในภาษาอังกฤษ

การละ relative pronoun คือการละคำสรรพนามเหล่านั้นออกไปจากประโยค แต่ประโยคยังคงความหมายดั้งเดิมเอาไว้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เมื่อประโยคมี relative pronoun ที่ไม่กำกวม เราสามารถละออกไปเพื่อให้ประโยคกระชับขึ้น
ตัวอย่างเช่น:

• The woman who is sitting at the back of the room is my teacher. (ผู้หญิงที่นั่งหลังห้องคือครูของฉัน) ➞ เมื่อละ relative pronoun แล้ว: The woman sitting at the back of the room is my teacher. 
• The book that I bought yesterday is very interesting. (หนังสือที่ฉันซื้อเมื่อวานนี้น่าสนใจมาก) ➞ เมื่อละ relative pronoun แล้ว: The book I bought yesterday is very interesting.
• The restaurant which serves delicious food is always crowded. (ร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารอร่อยๆ คนแน่นอยู่เสมอ) ➞ เมื่อละ relative pronoun แล้ว: The restaurant serving delicious food is always crowded.

การละ relative pronoun จะทำให้รูปประโยคกระชับขึ้น แต่ยังคงความหมายเดิมให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านเข้าใจได้ อย่างไรก็ตาม การละอาจจะไม่ได้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งคุณควรพิจารณากันไปตามบริบทและความชัดเจนของประโยคก่อนที่จะละ relative pronoun

VI. แบบฝึกหัดเกี่ยวกับ Relative pronoun ในภาษาอังกฤษพร้อมเฉลย

แบบฝึกหัด: เติม Who, whom, whose, which, that ลงในช่องว่างให้เหมาะสม

• The girl __________ won the singing competition is my friend.
• The man to __________ I gave the book is my neighbor.
• The car __________ belongs to my brother is parked outside.
• The dog __________ is playing in the park is very friendly.
• The house __________ roof was damaged in the storm is being repaired.
• The teacher __________ teaches math is very knowledgeable.
• The restaurant __________ serves delicious food is always crowded.
• The boy __________ won the race is my brother.
• The book __________ I borrowed from the library is very interesting.
• The laptop __________ I bought last week stopped working.

เฉลย:

• who
• whom
• that
• which
• whose
• who 
• that 
• who 
• that 
• that 

เมื่อจบบทความนี้แล้ว คุณน่าจะเข้าใจถึงข้อมูลเกี่ยวกับ Relative pronoun ในภาษาอังกฤษอย่างชัดเจนมากขึ้นแล้วใช่ไหม การอ่านและศึกษาเนื้อหา รวมถึงการทำแบบฝึกหัดในตอนท้ายสุดจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณจดจำได้นานและเข้าใจได้อย่างชัดเจน

การเข้าใจการใช้คำสรรพนามสัมพันธ์ในภาษาอังกฤษจะช่วยให้คุณสามารถสร้างประโยคที่ถูกต้องและชัดเจนมากขึ้น และหากคุณต้องการเตรียมตัวสอบอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเริ่ม เรียน IELTS ออนไลน์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในทักษะภาษาอังกฤษของคุณได้ทันที