Irregular Verbs คืออะไร รวมตัวอย่างคำกริยา 3 ช่องที่ต้องรู้

การเรียนรู้ irregular verbs คือ ขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้มีความแม่นยำ Irregular verbs คือ คำกริยาที่ไม่สามารถเปลี่ยนรูปเป็น Past Simple และ Past Participle ด้วยการกริยา เติม ed ที่ท้ายคำ แต่จะมีรูปแบบการกริยา เปลี่ยน รูปที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Irregular Verbs คืออะไร? วิธีใช้และตัวอย่างในภาษาอังกฤษ
Irregular Verbs คืออะไร? วิธีใช้และตัวอย่างในภาษาอังกฤษ

I. Irregular Verbs คืออะไร? 

Irregular verbs คืออะไร ที่แตกต่างจากกริยาทั่วไป? กริยาประเภทนี้มักเป็นคำที่มีต้นกำเนิดจากภาษาเยอรมันโบราณและได้สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน เมื่อเรียนรู้เกี่ยวกับ irregular verbs คุณจะพบว่าคำกริยาเหล่านี้ไม่เป็นไปตามกฎทั่วไปของการกริยา เติม ed เช่น walk → walked → walked แต่จะมีรูปแบบเฉพาะตัว เช่น go → went → gone หรือ eat → ate → eaten

เปรียบเทียบ Regular vs. Irregular Verbs

ประเภทกริยา

รูปแบบการเปลี่ยน

ตัวอย่าง

Regular Verbs

V1 + ed = V2/V3

play → played → played

Irregular Verbs

เปลี่ยนรูปไม่เป็นระบบ

write → wrote → written

การเปรียบเทียบระหว่าง regular irregular นี้ช่วยให้เข้าใจความแตกต่างพื้นฐาน Regular verbs มีกฎการเปลี่ยนรูปที่ชัดเจน ในขณะที่ irregular verbs คืออะไรที่ต้องจำรูปแบบเฉพาะของแต่ละคำ

ความสำคัญของ Irregular Verbs:

  • คำกริยาที่ใช้บ่อยที่สุดในการสื่อสารภาษาอังกฤษประจำวันกว่า 70% เป็น irregular verbs

  • คำเช่น be, have, do, say, get, make ปรากฏในทุกบทสนทนาและการเขียน

  • การเข้าใจ irregular verbs list ช่วยให้คุณสามารถใช้ tenses ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง

การเข้าใจ irregular verbs list ช่วยให้คุณสามารถใช้ tenses ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็น Past Simple, Present Perfect, หรือ Passive Voice ซึ่งล้วนต้องใช้รูปผันของกริยาเหล่านี้

Irregular Verbs คืออะไร? วิธีใช้และตัวอย่างในภาษาอังกฤษ
เปรียบเทียบ Regular Verbs vs. Irregular Verbs

II. รู้จัก 'กริยา 3 ช่อง': หัวใจของการผัน Irregular Verbs

การเข้าใจ irregular verbs คือการเรียนรู้รูปแบบ 3 ช่องของกริยา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการใช้ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง

ช่อง

ชื่อเรียก

หน้าที่การใช้งาน

ตัวอย่าง

การใช้ในประโยค

V1

Base Form

Present Simple, Infinitive

go, eat, write

I go to school every day.

V2

Past Simple

Past Simple Tense

went, ate, wrote

I went to the market yesterday.

V3

Past Participle

Perfect Tenses, Passive Voice

gone, eaten, written

I have gone there before.

III. จัดกลุ่ม Irregular Verbs ตามรูปแบบ

1. รูปเหมือนกันทั้ง 3 ช่อง (AAA)

V1

V2

V3

ความหมาย

ตัวอย่างประโยค

cut

cut

cut

ตัด

I cut the paper with scissors.

(ฉันตัดกระดาษด้วยกรรไกร)

put

put

put

วาง

She put the book on the table.

(เธอวางหนังสือบนโต๊ะ)

hit

hit

hit

ตี

The ball hit the window.

(ลูกบอลกระแทกหน้าต่าง)

shut

shut

shut

ปิด

Please shut the door.

(กรุณาปิดประตู)

split

split

split

แยก

We split the bill at the restaurant.

(เราแบ่งจ่ายค่าอาหารที่ร้าน)

cost

cost

cost

ราคา

This shirt cost 500 baht.

(เสื้อตัวนี้ราคา 500 บาท)

hurt

hurt

hurt

ทำร้าย

My back hurt after exercise.

(หลังฉันเจ็บหลังออกกำลังกาย)

let

let

let

ให้

My parents let me go to the party.

(พ่อแม่ให้ฉันไปงานปาร์ตี้)

Irregular Verbs คืออะไร? วิธีใช้และตัวอย่างในภาษาอังกฤษ
รูปเหมือนกันทั้ง 3 ช่อง (AAA)

2. ช่อง 2 และ 3 เหมือนกัน (ABB)

V1

V2

V3

ความหมาย

ตัวอย่างประโยค

buy

bought

bought

ซื้อ

I bought a new car last week.

(ฉันซื้อรถใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว)

teach

taught

taught

สอน

My father taught me how to drive.

(พ่อสอนฉันขับรถ)

catch

caught

caught

จับ

The cat caught a mouse.

(แมวจับหนู)

bring

brought

brought

นำมา

She brought lunch to work.

(เธอนำอาหารกลางวันไปที่ทำงาน)

think

thought

thought

คิด

I thought about you yesterday.

(ฉันคิดถึงเธอเมื่อวาน)

fight

fought

fought

ต่อสู้

The soldiers fought bravely.

(ทหารต่อสู้อย่างกล้าหาญ)

build

built

built

สร้าง

They built a new house.

(พวกเขาสร้างบ้านใหม่)

send

sent

sent

ส่ง

I sent an email to my boss.

(ฉันส่งอีเมลให้หัวหน้า)

spend

spent

spent

ใช้จ่าย

We spent all day at the beach.

(เราใช้เวลาทั้งวันที่ชายหาด)

find

found

found

พบ

I found my keys in the bag.

(ฉันพบกุญแจในกระเป๋า)

3. ทั้ง 3 ช่องมีรูปต่างกัน (ABC)

V1

V2

V3

ความหมาย

ตัวอย่างประโยค

go

went

gone

ไป

We have gone to many countries.

(เราไปหลายประเทศแล้ว)

eat

ate

eaten

กิน

The food was eaten by the guests.

(อาหารถูกแขกกิน)

write

wrote

written

เขียน

The letter was written in English.

(จดหมายถูกเขียนเป็นภาษาอังกฤษ)

see

saw

seen

เห็น

I have seen this movie before.

(ฉันเคยดูหนังเรื่องนี้แล้ว)

take

took

taken

เอา

My wallet was taken from my bag.

(กระเป๋าเงินถูกเอาออกจากกระเป๋า)

give

gave

given

ให้

The prize was given to the winner.

(รางวัลถูกมอบให้ผู้ชนะ)

know

knew

known

รู้

This place has been known for its food.

(สถานที่นี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหาร)

break

broke

broken

หัก/แตก

The window was broken by the ball.

(หน้าต่างถูกลูกบอลทำให้แตก)

speak

spoke

spoken

พูด

English is spoken worldwide.

(ภาษาอังกฤษถูกพูดทั่วโลก)

choose

chose

chosen

เลือก

The winner was chosen by the judges.

(ผู้ชนะถูกเลือกโดยกรรมการ)

Irregular Verbs คืออะไร? วิธีใช้และตัวอย่างในภาษาอังกฤษ
ทั้ง 3 ช่องมีรูปต่างกัน (ABC)

4. ช่อง 1 และ 3 เหมือนกัน (ABA)

V1

V2

V3

ความหมาย

ตัวอย่างประโยค

come

came

come

มา

They have come back home.

(พวกเขากลับบ้านแล้ว)

run

ran

run

วิ่ง

I have run 5 kilometers today.

(ฉันวิ่ง 5 กิโลเมตรวันนี้)

become

became

become

กลายเป็น

She has become a doctor.

(เธอกลายเป็นหมอแล้ว)

5. กลุ่มพิเศษ: คำกริยาที่เปลี่ยนแปลงสระภายในคำ (i-a-u)

กลุ่มนี้มีรูปแบบการกริยา เปลี่ยน รูปที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเปลี่ยนสระตัวกลางตามลำดับ i → a → u

V1

V2

V3

ความหมาย

ตัวอย่างประโยค

sing

sang

sung

ร้องเพลง

The song was sung beautifully.

(เพลงถูกร้องอย่างไพเราะ)

ring

rang

rung

ดัง

The bell has rung three times.

(ระฆังดังสามครั้งแล้ว)

begin

began

begun

เริ่มต้น

The meeting has begun.

(การประชุมเริ่มต้นแล้ว)

drink

drank

drunk

ดื่ม

All the water has been drunk.

(น้ำถูกดื่มหมดแล้ว)

swim

swam

swum

ว่ายน้ำ

She has swum across the lake.

(เธอว่ายน้ำข้ามทะเลสาบแล้ว)

IV. การใช้ Irregular Verbs ในประโยค

1. การใช้ช่องที่ 2 (V2) ใน Past Simple Tense

Past Simple Tense ใช้แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงในอดีต การใช้ verb 2 ในประโยคนี้ต้องระวังเรื่องการผันรูปที่ไม่เป็นไปตามกฎ เช่น 

  • I saw a beautiful sunset yesterday (ฉันเห็นพระอาทิตย์ตกที่สวยงามเมื่อวาน) 

  • She made a delicious cake for the party (เธอทำเค้กอร่อยสำหรับงานปาร์ตี้)

2. การใช้ช่องที่ 3 (V3) ใน Present Perfect Tense

Present Perfect Tense ใช้แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ยังมีผลกระทบต่อปัจจุบัน เช่น 

  • I have broken my phone (ฉันทำโทรศัพท์แตก) 

  • They have driven to Bangkok three times this month (พวกเขาขับรถไปกรุงเทพสามครั้งในเดือนนี้)

3. การใช้ช่องที่ 3 (V3) ใน Passive Voice (ประโยคที่ประธานถูกกระทำ)

Passive Voice ใช้เมื่อต้องการเน้นสิ่งที่ถูกกระทำมากกว่าผู้กระทำ เช่น 

  • The window was broken by the storm (หน้าต่างถูกพายุทำให้แตก) 

  • This book was written by a famous author (หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนโดยนักเขียนชื่อดัง)

บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม:

รวมการใช้ Modal Verbs เข้าใจง่าย ใช้เป็นทันที

Stative Verbs กริยาบอกสภาวะ ไม่ใช่การกระทำ!

V. แบบฝึกหัดกริยา 3 ช่อง

แบบฝึกหัดที่ 1: เติมรูปกริยาที่ถูกต้อง

เลือกรูปกริยาที่เหมาะสมในแต่ละประโยค:

  1. I _______ (go/went/gone) to Bangkok last month.

  2. She has _______ (eat/ate/eaten) breakfast already.

  3. The window was _______ (break/broke/broken) by the ball.

  4. We _______ (see/saw/seen) a movie yesterday.

  5. They have _______ (write/wrote/written) three letters.

  6. The book was _______ (give/gave/given) to me by my teacher.

  7. I _______ (take/took/taken) the bus to work every day.

  8. The food has been _______ (cook/cooked/cooked) by my mother.

แบบฝึกหัดที่ 2: สร้างประโยค Passive Voice

เปลี่ยนประโยคต่อไปนี้เป็น Passive Voice:

  1. The teacher taught the lesson.

  2. My mother cooked dinner.

  3. The storm broke the tree.

  4. Students wrote the essays.

  5. The company built the bridge.

เฉลยแบบฝึกหัด

เฉลยแบบฝึกหัดที่ 1:

  1. went (Past Simple)

  2. eaten (Present Perfect - V3)

  3. broken (Passive Voice - V3)

  4. saw (Past Simple - V2)

  5. written (Present Perfect - V3)

  6. given (Passive Voice - V3)

  7. take (Present Simple - V1)

  8. cooked (Passive Voice - V3)

เฉลยแบบฝึกหัดที่ 2:

  1. The lesson was taught by the teacher.

  2. Dinner was cooked by my mother.

  3. The tree was broken by the storm.

  4. The essays were written by students.

  5. The bridge was built by the company.

การฝึกฝนแบบฝึกหัดเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและใช้งาน irregular verbs คือ กริยาที่สำคัญได้อย่างถูกต้องและมั่นใจมากขึ้น

การเรียนรู้ irregular verbs คือ รากฐานสำคัญที่จะช่วยให้คุณใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและธรรมชาติ แม้ว่าการจำ irregular verbs list จะดูท้าทายในตอนแรก แต่ด้วยการจัดกลุ่มตามรูปแบบการเปลี่ยนรูปและการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ คุณจะสามารถเชี่ยวชาญกริยาเหล่านี้ได้

จุดสำคัญที่ต้องจำ:

  • เริ่มจากกลุ่มง่ายๆ และค่อยๆ เพิ่มความซับซ้อน

  • ใช้เทคนิคการจำที่หลากหลาย

  • นำไปใช้ในประโยคจริงเพื่อฝึกการใช้งาน

  • ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง

จำไว้ว่า irregular verbs คืออะไร ที่ต้องใช้ความอดทนและการฝึกฝนต่อเนื่อง ด้วยการเข้าใจรูปแบบการกริยา เปลี่ยน รูปและการใช้งานในบริบทต่างๆ คุณจะพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

หากคุณต้องการเสริมสร้างความเข้าใจในเรื่อง Irregular Verbs และไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสอบ IELTS เตรียมสอบ IELTS ออนไลน์ กับ PREP จะช่วยให้คุณเข้าใจการใช้กริยาและ Tenses ต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้ง หลักสูตรของเรามีการสอนไวยากรณ์อย่างเป็นระบบ พร้อมแบบฝึกหัดที่หลากหลายและระบบ AI ที่ช่วยตรวจสอบการใช้ไวยากรณ์แบบเรียลไทม์ เพื่อให้คุณมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษและบรรลุเป้าหมายคะแนน IELTS ที่ต้องการ

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 ตัวอักษร
Loading...

แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล

TH30

อ่านมากที่สุด

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล

facebookyoutubeinstagram
logo footer Prep
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
get prep on Google Playget Prep on app store
หลักสูตร
เชื่อมต่อกับเรา
mail icon - footerfacebook icon - footer
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย