ทำความรู้จักกับ IELTS Simon - แหล่งความรู้เพื่อเตรียมสอบ IELTS ให้ได้คะแนนสูง

IELTS Simon เป็นชื่อที่คุ้นหูมากในกลุ่มคนที่เตรียมตัวสอบ IELTS เขาได้สร้างเอกสารที่มีคุณภาพสูงมากมายเพื่อช่วยผู้เรียนเตรียมตัวสำหรับการทดสอบทั้งสี่ทักษะ แต่ Simon คือใครกันแน่ ทำไมวิธีการสอนของเขาถึงได้รับความนิยม และหนังสืออะไรบ้างที่รวมอยู่ในคอลเลกชันที่น่าทึ่งของเขา? มาค้นหากันเลย!

I. แนะนำ Mr. Simon

มาทำความรู้จักกับครูสอน IELTS - IELTS Simon หรือชื่อจริง Simon Corcoran ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากเอกสารการสอนในด้าน Writing และ Speaking

1. Simon คือใคร

Simon Corcoran ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการเตรียมตัวสอบ IELTS ระดับโลก เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Manchester ในสาขาภาษาศาสตร์ และมีใบรับรองการสอน TESOL CELTA และ PGCE

ตั้งแต่ปี 2005 ถึง 2010 Simon สอน IELTS และภาษาอังกฤษเฉพาะทางที่มหาวิทยาลัย Manchester ต่อมาเขาได้ก่อตั้งโรงเรียนสอนภาษาที่ Manchester ซึ่งได้รับการรับรองจาก British Council ในปี 2014

2. ทำไมต้อง IELTS Simon

Simon มีชื่อเสียงจากการสอนที่เข้าใจง่ายและยืดหยุ่น โดยเขามักจะใช้ตัวอย่างและการฝึกปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ได้จริง นักเรียนจึงสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย เขายังสร้างเว็บไซต์ของตัวเอง (https://www.ielts-simon.com/) ซึ่งรวบรวมบทความ วิดีโอสอน แบบฝึกหัด และเอกสารตัวอย่างสำหรับทั้งสี่ส่วนของการสอบ IELTS: Listening, Speaking, Reading, และ Writing โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกสารในส่วน Speaking และ Writing ที่ Simon จัดทำขึ้นอย่างละเอียด ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ทักษะและกลยุทธ์ที่จำเป็นเพื่อทำคะแนนสูงในการสอบ

Simon มีความสามารถในการวิเคราะห์ ประเมิน และให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์กับนักเรียน ทำให้เขาเป็นครูที่ได้รับความชื่นชมจากนักเรียนทั่วโลกและสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในการสอบ IELTS

II. วิธีการสอนของ Mr. Simon Corcoran

1. วิธีการฟังจาก Mr. IELTS Simon

1.1. Focused Listening (การฟังอย่างมีสมาธิ)

เทคนิค Focused Listening เน้นไปที่การโฟกัสกับรายละเอียดสำคัญในข้อความที่ฟัง วิธีนี้ช่วยให้ผู้เรียนสามารถจับและเข้าใจข้อมูลเฉพาะที่สำคัญ เช่น ตัวเลข ชื่อเฉพาะ วันที่ สถานที่ และข้อมูลสำคัญอื่นๆ

ข้อดี

• โฟกัสไปที่รายละเอียดที่สำคัญ: วิธีนี้ช่วยให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจรายละเอียดที่สำคัญในข้อความที่ฟัง เช่น ตัวเลข ชื่อเฉพาะ วันที่ สถานที่ และข้อมูลสำคัญอื่นๆ
• พัฒนาทักษะการโฟกัส: การโฟกัสไปที่รายละเอียดในข้อความที่ฟังช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการโฟกัสและหลีกเลี่ยงการหลุดโฟกัสขณะฟัง

ข้อจำกัด: อาจทำให้มองข้ามข้อมูลที่ไม่สำคัญ เช่น ความคิดเห็น หรือความคิดในข้อความที่ฟัง ซึ่งอาจทำให้ไม่เข้าใจบริบทโดยรวมอย่างเต็มที่

1.2. Extensive Listening (การฟังอย่างกว้างขวาง)

วิธี Extensive Listening มุ่งเน้นไปที่การฟังเนื้อหาทั้งหมดเพื่อจับความคิดหลักและบริบทโดยรวมของข้อความที่ฟัง วิธีนี้ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการฟังและการเข้าใจความหมายของเนื้อหาที่ฟังได้ดีขึ้น

ข้อดี:

• ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจบริบทและความคิดหลักของข้อความ
• ช่วยให้สามารถตัดสินความหมายของคำและประโยคในบริบทที่กว้างขึ้น

ข้อจำกัด:

• การเน้นไปที่ความคิดหลักอาจทำให้ผู้เรียนมองข้ามรายละเอียดสำคัญในข้อความที่ฟัง
• ในข้อความที่ซับซ้อน การไม่โฟกัสที่รายละเอียดอาจทำให้ยากต่อการเข้าใจเนื้อหาที่ฟัง

2. วิธีการพูดจาก Mr. IELTS Simon

ในด้านทักษะการพูดสำหรับ IELTS เรามักเจอปัญหาในการตอบคำถามอย่างถูกต้องและไม่สามารถจัดสรรเวลาได้ดีใน Part 2 เพื่อเอาชนะจุดอ่อนนี้ Mr. Simon ได้คิดค้นวิธี Critical Thinking และเทคนิค "I - E - E" เพื่อช่วยแก้ปัญหานี้

2.1. Critical Thinking (การคิดอย่างมีวิจารณญาณ)

เทคนิค Critical Thinking กระตุ้นให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นส่วนตัว นำเสนอเหตุผล และวิเคราะห์คำตอบอย่างมีวิจารณญาณ วิธีนี้ช่วยให้ผู้เรียนมีความสามารถในการให้เหตุผลและสร้างความประทับใจที่แข็งแกร่งในระหว่างการสอบ

ข้อดี

• ช่วยให้ผู้เรียนโดดเด่นในการตอบคำถามและสร้างความประทับใจให้กับผู้คุมสอบ
• พัฒนาทักษะการให้เหตุผลและวิเคราะห์: วิธีนี้ช่วยให้ผู้เรียนเสริมสร้างความสามารถในการให้เหตุผล วิเคราะห์ และทำให้เกิดเหตุผลที่มีเหตุผลเมื่อตอบคำถาม

ข้อจำกัด

• ต้องการความรู้และทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ: วิธีนี้ต้องการให้ผู้เรียนมีความรู้ที่ดีและทักษะในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ ซึ่งอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้ที่ไม่ชินกับการให้เหตุผลแบบตรรกะหรือขาดความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับหัวข้อที่ถกเถียง
• เวลาเตรียมตัว: การมีส่วนร่วมในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณและการสร้างเหตุผลที่เป็นตรรกะอาจต้องการเวลาในการเตรียมตัวก่อนตอบคำถาม ซึ่งอาจลดความเป็นธรรมชาติและความคล่องแคล่วในการตอบกลับ

2.2. เทคนิค "I - E - E" สำหรับ Part 1 และ Part 3

เทคนิค "I - E - E" (Introduction - Example - Extension) ใช้ใน Part 1 และ Part 3 ของการสอบ IELTS Speaking เพื่อให้คำตอบที่ครอบคลุมและละเอียด วิธีนี้กระตุ้นให้ผู้เรียนให้ข้อมูลพื้นฐาน ต่อจากนั้นให้ตัวอย่างเฉพาะ และขยายความคิดเห็นโดยการเพิ่มข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ข้อดี

• ช่วยให้ผู้เรียนสามารถให้คำตอบที่ครอบคลุมและสมบูรณ์
• ช่วยเพิ่มคะแนนด้านภาษาเนื่องจากการใช้ตัวอย่างและการขยายความคิดเห็น

ข้อจำกัด

• ต้องการการฝึกฝน: เทคนิคนี้ต้องการให้ผู้เรียนฝึกฝนเพื่อจับหลักในการสร้างคำตอบตามแบบแผน "I - E - E" ขณะที่ยังจัดระเบียบและนำเสนอความคิดเห็นของตนเองได้อย่างเข้าใจและธรรมชาติ
• ข้อจำกัดเรื่องเวลา: Part 1 และ Part 3 ในการทดสอบ IELTS Speaking มีข้อจำกัดเรื่องเวลา และการสร้างคำตอบโดยใช้แบบแผน "I - E - E" อาจต้องการเวลาเพิ่มเติมและความยืดหยุ่นในการปรับตัวให้เข้ากับกรอบเวลาของการทดสอบ

3. วิธีการอ่านจาก Mr.IELTS Simon

สำหรับ IELTS Reading Simon แนะนำเทคนิคหลักสองประการ: Keyword technique และ Extensive Reading มาศึกษาลึกซึ้งถึงวิธีเหล่านี้และประเมินข้อดีข้อเสีย

3.1. Keyword technique (เทคนิคคำสำคัญ)

เทคนิค Keyword มุ่งเน้นไปที่การค้นหาและระบุคำสำคัญในข้อความเพื่อหาคำตอบ วิธีนี้ช่วยเพิ่มความเข้าใจในการอ่านและการเรียกคืนข้อมูล

ข้อดี:

• ช่วยให้ผู้เรียนสามารถค้นหาคำสำคัญได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
• ประหยัดเวลาในการหาข้อมูลที่จำเป็น

ข้อจำกัด:

• ขาดความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับเนื้อหา: การเน้นคำสำคัญเกินไปอาจทำให้ผู้เรียนมองข้ามรายละเอียดสำคัญและไม่เข้าใจความหมายเฉพาะของข้อความอย่างเต็มที่
• ความยากลำบากกับคำถามที่ต้องการความรู้ที่กว้างขวาง: คำถามที่ต้องการความเข้าใจหัวข้ออย่างกว้างขวางอาจทำให้ผู้เรียนต้องอ่านข้อความทั้งหมดแทนที่จะเพียงแค่ค้นหาคำสำคัญ

3.2. Extensive Reading (การอ่านอย่างกว้างขวาง)

Extensive Reading ที่ IELTS Simon แนะนำ มุ่งเน้นไปที่การอ่านข้อความทั้งหมดเพื่อเข้าใจความหมายและบริบทโดยรวมของการอ่าน วิธีนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาความสามารถในการเข้าใจข้อความรวมและเข้าใจข้อมูลในข้อความอ่าน IELTS

ข้อดี:

• เข้าใจบริบท: วิธีนี้ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจบริบทและความคิดหลักของข้อความ ทำให้เข้าใจความหมายของคำและประโยคได้ดีขึ้น
• สร้างคำศัพท์และไวยากรณ์: การอ่านข้อความทั้งหมดทำให้ผู้เรียนได้สัมผัสกับโครงสร้างไวยากรณ์และคำศัพท์ที่พบบ่อย ทำให้ความรู้คำศัพท์ของพวกเขาขยายออกไป

ข้อจำกัด:

• ใช้เวลามาก: การอ่านข้อความทั้งหมดอาจใช้เวลามากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีข้อความอ่านหลายข้อที่ต้องฝึก
• ความยากในการเรียกคืนข้อมูล: ในข้อความที่มีความหนาแน่นของข้อมูลสูง การหาข้อมูลเฉพาะอาจกลายเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้น

4. วิธีการเขียนจาก Mr.IELTS Simon

IELTS Simon ได้นำเสนอเทคนิคการเขียนที่มีประสิทธิภาพสูงและละเอียดถี่ถ้วนสี่วิธี ด้วยเป้าหมายในการทำให้กระบวนการสำหรับ IELTS Writing ซึ่งเป็นแหล่งความกลัวสำหรับนักเรียน IELTS หลายคน กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น เทคนิคทั้งสี่นี้ของ IELTS Simon คืออะไร มาสำรวจกันเลยที่ด้านล่างนี้

4.1. เทคนิค “4-paragraph”

ทคนิค "4-paragraph" ถูกเสนอโดย IELTS Simon เพื่อโครงสร้างการเขียนใน IELTS Writing Task 2 ตามเทคนิคนี้ บทความถูกแบ่งออกเป็นสี่ย่อหน้าหลัก บทนำ สองย่อหน้าเนื้อหาหลัก และบทสรุป แต่ละย่อหน้ามีฟังก์ชันและเนื้อหาของมันเอง

• บทนำ: ย่อหน้านี้แนะนำหัวข้อและนำเสนอความคิดเห็นของคุณเกี่ยวกับคำถามของบทความ นอกจากนี้ คุณควรให้คำอธิบายทั่วไปเกี่ยวกับประเด็นที่จะถูกหารือในบทความ
• สองย่อหน้าเนื้อหาหลัก: แต่ละย่อหน้ามุ่งเน้นไปที่ความคิดหลักที่คุณต้องการพัฒนา แต่ละความคิดหลักควรได้รับการสนับสนุนด้วยตัวอย่าง หลักฐาน หรือเหตุผลที่เชื่อมั่น การรักษาโครงสร้างที่ชัดเจนและการจัดเรียงแบบมีตรรกะภายในแต่ละย่อหน้าเป็นสิ่งสำคัญ
• บทสรุป: ย่อหน้านี้สรุปความคิดเห็นของคุณและสรุปจุดสำคัญที่นำเสนอในบทความ คุณสามารถให้คำแนะนำหรือพัฒนาความคิดเห็นของคุณเองต่อไป

ข้อดี

• ให้โครงสร้างที่ชัดเจนและติดตามได้ง่ายสำหรับบทความ
• ช่วยให้ผู้เขียนโฟกัสไปที่แต่ละความคิดหลักอย่างชัดเจนและหลีกเลี่ยงการเบี่ยงเบน
• สร้างความสมดุลและการจัดระเบียบที่มีเหตุผลในบทความ

ข้อจำกัด

• ทำให้บทความดูแข็งตัวและขาดความยืดหยุ่นในการจัดระเบียบความคิดและข้อมูล
• ไม่เหมาะสำหรับบทความที่ซับซ้อนหรือที่ต้องการเหตุผลและอภิปรายที่ละเอียดและซับซ้อน

4.2. จากทั่วไปไปยังเฉพาะเจาะจง (General to specific)

เทคนิค "General to specific" โดย IELTS Simon ย้ำการเริ่มบทความด้วยความคิดเห็นและเหตุผลทั่วไปแล้วจึงพัฒนามันเป็นความคิดและตัวอย่างที่เฉพาะเจาะจง วิธีนี้รับประกันความสอดคล้องและความชัดเจนในการเขียน

โดยเริ่มต้นด้วยความคิดเห็นทั่วไป คุณช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจประเด็นโดยรวมก่อนที่จะนำเสนอรายละเอียดและเหตุผลเฉพาะเกี่ยวกับพวกเขา ซึ่งสร้างกระแสที่ธรรมชาติและเข้าใจง่ายในบทความ

ข้อดี

• สร้างกระแสที่ธรรมชาติและเข้าใจง่ายในบทความ
• ช่วยให้ผู้อ่านได้ภาพรวมของหัวข้อก่อนที่จะดำดิ่งลงไปในรายละเอียดเฉพาะ
• สนับสนุนการพัฒนาความคิดเห็นและเหตุผลอย่างมีตรรกะและชัดเจน

ข้อจำกัด

• อาจนำไปสู่ความไม่สมดุลในบทความหากไม่ได้รับการจัดระเบียบอย่างระมัดระวัง
• ต้องการการจัดการเวลาและหลีกเลี่ยงการติดอยู่ที่ระดับทั่วไปมากเกินไปโดยไม่ได้ดำดิ่งลงไปในรายละเอียด

4.3. เทคนิค "Friends" (Rapid Idea Generation, Brainstorming Technique)

เทคนิค "Friends" โดย IELTS Simon ช่วยเพิ่มทักษะการโต้แย้งและจินตนาการของคุณเมื่อเขียนใน IELTS Writing Task 2 เทคนิคนี้เกี่ยวข้องกับการจินตนาการว่าคุณกำลังมีการสนทนากับเพื่อนเกี่ยวกับหัวข้อของบทความ 

คุณสามารถจินตนาการว่าตัวเองกำลังมีการสนทนากับเพื่อนและพยายามอธิบายและโน้มน้าวพวกเขาเกี่ยวกับความคิดเห็นของคุณ เทคนิคนี้ช่วยให้คุณสามารถสร้างไอเดียได้มากมายอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติ ขณะที่ปรับปรุงการเขียนของคุณโดยการใช้ภาษาประจำวัน

ข้อดี:

• ช่วยให้ผู้เขียนสร้างไอเดียและข้อมูลหลายอย่างได้อย่างรวดเร็วสำหรับบทความ
• กระตุ้นจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาความคิดเห็นและตัวอย่าง
• สร้างความยืดหยุ่นและความเป็นธรรมชาติในการเขียน

ข้อจำกัด:

• นำไปสู่การใช้ไอเดียที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงหรือขาดหลักฐานเพียงพอที่จะสนับสนุน
• ต้องการการจัดระเบียบและการเลือกข้อมูลหลังจากที่เสร็จสิ้นขั้นตอนการสร้างความคิด

4.4. Critical thinking (การคิดอย่างมีวิจารณญาณ)

เทคนิค "Critical thinking" โดย IELTS Simon มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการให้มุมมองอิสระในการเขียน สิ่งนี้ต้องการให้มีการนำเสนอความคิดเห็นตรงข้าม ยอมรับข้อเสียของประเด็น และนำเสนอเหตุผลชัดเจนเพื่อป้องกันความคิดเห็นของตัวเอง

โดยการใช้ Critical thinking คุณสามารถพิจารณามุมมองต่างๆ และนำเสนอมุมมองอิสระ ให้ความเข้าใจที่ครอบคลุมและเข้าลึกเกี่ยวกับประเด็นที่ถูกหารือ สิ่งนี้สามารถช่วยคุณได้รับคะแนนสูงในด้านการโต้แย้งและการวิเคราะห์ในการเขียนของคุณ

ข้อดี:

• สร้างการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและหลายมิติของประเด็นที่ถูกหารือ
• วางตำแหน่งผู้เขียนเป็นผู้คิดอิสระและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการพิจารณามุมมองต่างๆ
• ช่วยสร้างเหตุผลที่แข็งแกร่งและเชื่อมั่นได้

ข้อจำกัด:

• ต้องการทักษะการคิดวิเคราะห์และวิเคราะห์ขั้นสูง
• ต้องการการพิจารณาและการตัดสินใจอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงอคติหรือขาดความเป็นกลาง

III. คอลเลกชันเอกสาร IELTS ที่น่าประทับใจของ IELTS Simon

นอกเหนือจากการสอน IELTS, IELTS Simon ยังได้เผยแพร่หนังสือจำนวนมากเกี่ยวกับการเรียนรู้ทักษะต่างๆ ในการสอบ IELTS หนังสือเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้ผู้เรียน IELTS ทั่วโลกสามารถเข้าถึงวิธีการสอนและทรัพยากรการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพซึ่ง IELTS Simon ได้ให้ไว้ ด้านล่างนี้คือเอกสาร IELTS Speaking และ IELTS Writing โดย IELTS Simon ที่ PREP ได้รวบรวมไว้ มาสำรวจโครงสร้างและเนื้อหาของหนังสือ IELTS Simon เหล่านี้ด้วยกัน

• Ideas for IELTS Topics 
• IELTS Speaking Part 2 
• IELTS Writing Task 1 
• IELTS Academic Writing Task 2 
• IELTS Speaking Tips and Samples 

IV. ดาวน์โหลดเอกสาร PDF IELTS Simon ฟรี

เพื่อให้เข้าถึงหนังสือได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย PREP ได้รวบรวมและจัดทำไฟล์ PDF ของหนังสือ IELTS Simon ต่อไปนี้ ดาวน์โหลดพวกเขาทันทีและเริ่มครองภาษาอังกฤษด้วยซีรีส์ IELTS Simon

ในบทความนี้ PREP ได้แนะนำคุณถึง Simon Corcoran พร้อมกับวิธีการสอนที่มีชื่อเสียงของเขาในฐานะ IELTS Simon นอกจากนี้ PREP ยังได้ให้บทวิจารณ์อย่างละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์หนังสือ 5 เล่มของ IELTS Simon หวังว่าคุณจะพบข้อมูลที่มีค่า และขอแนะนำให้คุณดาวน์โหลดหนังสือทันทีเพื่อการฝึกภาษาอังกฤษ